กําเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์ เล่มที่ 4 บทที่ 24 เริ่มเจรจา
เล่มที่ 4 บทที่ 24 เริ่มเจรจา
ฟูววว
ไอควันสีขาวค่อยๆกระจายออกจากเตาหลอมยาอย่างช้าๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรฟังกระจายไปทั่วบริเวณ ภายในมิติพิเศษหยางอี้ยังคงจมจ่อมอยู่กับการปรับแต่งยาหัวใจคลื่นสมุทร ผ่านไปสิบวันภายในมิติสุดท้ายชายหนุ่มก็สามารถกลั่นยาหัวใจคลื่นสมุทรที่มีความบริสุทธิ์ระดับ 6 ออกมาได้
“ด้วยเวลาแค่นี้คงเป็นเรื่องยากที่จะปรับแต่งให้มีคุณสมบัติเหนือกว่าอีกสองเจ้า”
ท้ายที่สุดคุณสมบัติในการฟื้นฟูของยาหัวใจคลื่นสมุทรก็ทําได้เพียงอยู่ในระดับเดียวกับเม็ดยาของตําหนักหมื่นโอสถและจวนเย่าเน่าเท่านั้นแต่ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้หอโอสถสามารถลุกขึ้นผงาดได้ในครั้งนี้ ด้วยการที่ผสานรวมคุณสมบัติทั้งสองไว้ในยาเม็ดเดียวแม้ว่าในแง่ของราคาหนึ่งเม็ดจะแพงกว่ายาของทั้งสอง เจ้าแต่หากวัดที่คุณสมบัติของยาแล้วการซื้อยาหัวใจคลื่นสมุทรเม็ดเดียวจะเทียบได้กับซื้อยาทั้งสองเม็ดของตําหนักหมื่นโอสถและจวนเย่าเฉ่า!
“เป็นที่แน่นอนว่าขั้นตอนแรกจะประสบความสําเร็จแน่นอนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาว่าหอหมื่นโอสถจะยินยอมให้เราเข้าควบคุมได้มากน้อยแค่ไหน”
ท้ายที่สุดหยางอี้จึงออกจากมิติพิเศษ ซึ่งเป็นเวลารุ่งสางของวันที่สองภายนอก พร้อมกับยาหัวใจคลื่นสมุทรสามเม็ด แสงตะวันเริ่มขึ้นเหนือขอบฟ้าชายหนุ่มจัดเตรียมทุกอย่างอีกครั้งและออกจากห้องพักทันทีที่ออกมาข่งยีจางก็ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“ยจางไปกัน”
“ขอรับนายน้อย”
ทั้งสองมุ่งหน้าออกจากโรงเตี้ยมตรงไปยังตึกของหอโอสถระยะทางนั้นไม่ห่างจากกันมากนักหยางอี้ใช้เวลาหนึ่งเค่อก็มาถึงในยามเช้าเช่นนี้ด้านนอกของโหโอสถยังคงคึกคักไปด้วยผู้คนไม่น้อย จากการพิจารณาแล้วหยางอี้คาดว่าสิ่งที่คอยค้ําจุนหอโอสถให้ยืนอยู่ได้นั้นคงจะเป็นสาขาที่เมืองถังแห่งนี้
แน่นอนว่าหอโอสถไม่มีความสามารถพอที่จะต่อสู้ด้านการค้ากับสองเจ้ายักษ์ใหญ่ในเมืองหลวงได้ ต่อรู้ว่าผู้คนในเมืองหลวงนมั่งคั่งพอที่จะใช้จ่ายออกไปเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด ผิดกับเมืองถึงที่คนส่วนมากนั้นเป็นระดับกลางและยินยอมจ่ายออกไปเพียงเพื่อ ความจําเป็นเท่านั้น
ด้วยความรวดเร็วข่งจางเดินนําหยางอี้ไปยังชายที่เขาเคยมาพ บก่อนหน้านี้ดูเหมือนอีกฝ่ายจะได้รับคําสั่งไว้ก่อนแล้วจึงรีบเชิญทั้งสองคนไปยังห้องรับรองทันที
“เรียนนายท่านทั้งสอง ผู้จัดการนั้นจะกลับมาถึงในอีกหนึ่งชั่วยามเขาสั่งไว้ว่าเมื่อพวกท่านมาก่อนเวลาขอให้รั้งอยู่ก่อนและฝากข้อความขออภัยไว้ด้วยขอรับ”
“เช่นนั้นข้าจะรออยู่ที่นี่ เจ้าไปทําหน้าที่ของเจ้าเถิด หากมีอะไรข้าจะเรียกเจ้าเอง”
“หากนายท่านต้องการอะไรโปรดเรียกใช้อย่าได้เกรงใจ ข้าขอตัวก่อน”
หลังจากชายคนนั้นจากไปหยางอี้กับข่งจางจึงปรึกษาหารือกันอีกครั้งด้วยตลอด 5 วันที่มาถึง 3 วันนั้นหยางอี้ฝึกซ้อมอยู่ในป่าและให้ข่งจางเข้ามาในเมืองถังพร้อมกับหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อเจรจาธุรกิจ ส่วนอีก 2 วันที่ผ่านมาหยางอี้ก็มุ่งมั่นอยู่กับการปรับ แต่งยาดังนั้นจึงยังไม่มีเวลามากนักที่จะสอบถามถึงสิ่งต่างๆในเมื่องถัง
แม้ว่าหยางอี้จะรับรู้สถานการณ์ในเมืองหลวงอย่างชัดเจนจากเล่ยอี้แล้วแต่ที่สําคัญนั้นจุดเริ่มต้นของเขาอยู่ที่เมืองถัง เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่เกิดผิดพลาดหยางอี้จําเป็นต้องจัดการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วยามชายคนเดิมก็เข้ามาอีกครั้งพร้อมกับเชิญหยางอี้และข่งจางให้ตามขึ้นไปชั้นบนของตึก
“นายท่าน ผู้ดูและท่านผู้นํารออยู่ด้านในแล้วขอรับ”
หยางอี้พยักหน้ารับก่อนที่ข่งยีจางจะเดินนําเข้าไปโดยมีเขาตามหลังภายในห้องเพียงถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบๆ ด้านในสุดเป็นโต๊ะทํางานที่เต็มไปด้วยเอกสาร ด้านข้างนั้นเป็นโต๊ะประชุมขนาดกลางที่เอาไว้หารือสิ่งต่างๆภายในหอโอสถแห่งนี้
ที่หัวโต๊ะเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างคมเข้มส่วนทางซ้ายของเขานั้นข่งยีจางจําได้ว่าเป็นผู้ดูแลที่เคยติดต่อไว้ก่อนหน้านี้
“หอโอสถยินดีต้อนรับ ต้องขออภัยที่ทําให้ต้องรอ การเดินทางไปกลับเมืองหลวงด้วยความเร็วของข้าจึงใช้เวลาไปพอสมควร”
“เรื่องนั้นอย่าได้ใส่ใจ เจ้าคงจะเป็นผู้นําของหอโอสถ?”
ข่งยีจางพูดขึ้นมาพร้อมกับโบกมือรับคําผู้ดูแลอย่างไม่ใส่ใจนักแล้วถามไปยังชายวัยกลางคน
“เป็นเช่นนั้น ข้าคือเหลียนเต่า ผู้นําคนปัจจุบันของหอโอสถส่วนท่านคือผู้อาวุโสี่จาง? แล้วน้องชายท่านนั้นคือ?”
“ข้ามีนามว่าหยางอี้ เป็นเกียรติที่ได้พบกับผู้นําเหลียนเต่า”
หยางอี้ป้องมือขึ้นพร้อมกับกล่าวออกมา
“ฮ่าๆ น้องชายหยางอี้อย่าได้สุภาพ เชิญท่านทั้งสองนั่งลงก่อน”
เหลียนเต่ากล่าวออกมาพร้อมกับเชิญให้ทั้งสองนั่งลง จากที่ผู้ดูแลรายงานดูเหมือนว่าหยางอี้จะเป็นคนที่ผู้อาวุโสยีจางเรียกว่านายน้อย ดังนั้นเด็กคนนี้สมควรเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง? แต่การปรุงยาระดับสามด้วยอายุเช่นนี้ออกจะเป็นเรื่องยากเกินไป เหลียนเต่า คาดเดาว่าหยางอี้เป็นเพียงนายน้อยของกลุ่มคนเบื้องหลังและมาเพื่อเจรจาแทนเท่านั้น
“ข้าได้ยินว่าพวกท่านต้องการเจรจาธุรกิจกับหอโอสถ? ในเมื่อวันนี้อยู่พร้อมหน้าแล้วก็เข้าเรื่องกันเถิด”
เหลียนเต่ากล่าวออกมาเพื่อเข้าเรื่องในทันที เขาเองก็มิได้มีเวลามากนักเพราะอีกไม่กี่วันจะถึงคราววิกฤตของหอโอสถ การที่เขาหายตัวไปสองวันนั้นจะสร้างความวุ่นวายให้กับสาขาใหญ่ไม่น้อยหากการเจรจาครั้งนี้ล้มเหลวเหลียนเต่าเองก็หมดหนทางที่จะประคองไว้เช่นกัน
“ผู้นําเหลียนดูเหมือนท่านค่อนข้างรีบร้อน? เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับงานจัดแสดงโอสถในอีกไม่กี่วันข้างหน้า?”
คําพูดของหยางอี้ทําให้เหลียนเต่าถึงกับชะงักไปเล็กน้อยสายตาของเขาหรี่ลงอย่างจริงจัง ดูเหมือนเจ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่เล่นๆเสียแล้วไม่แปลกใจที่เขาได้รับมอบหมายในการเจรจาครั้งนี้
“ฮ่าๆ ดูเหมือนน้องหยางจะมีข้อมูลของเราเป็นอย่างดี?เช่นนั้นข้าก็หวังว่าน้องชายจะสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับเราได้”
หยางอี้เพียงยิ้มออกมาไม่ได้ใส่ใจกับถ้อยคําของเหลียนเต่าเขานําขวดยาที่บรรจุเม็ดยาสามเม็ดออกมาพร้อมกับวางลงบนโต๊ะ
“ท่านจะประหลาดใจหรือไม่ ขอให้ดูด้วยตนเองเถิดโอสถชนิดนี้มีชื่อว่าหัวใจคลื่นสมุทร”
พร้อมกับคําพูดหยางอี้เลื่อนขวดหยกไปยังด้านหน้าของเหลียนเต่าทันทีชายวัยกลางคนนั้นค่อนข้างสนใจไม่น้อยเขารีบหยิบขวดยาออกขึ้นมาพร้อมกับเปิดออกทันที
ฟูวววว
กลิ่นหอมของสมุนไพรพลันฟุ้งกระจายไปทั่วห้องพร้อมกับหัวใจของเหลียนเต่าที่เต้นส้นอย่างรวดเร็ว เขาเองก็นับได้ว่าเป็นนักปรุงยาในระดับสูงถึงแม้ว่าไม่อาจเทียบได้กับคู่ค้าทั้งสองแต่แค่เพียงการแยกแยะนั้นไม่ใช่ปัญหา เมื่อหยิบเม็ดยาออกมาสัมผัสที่ได้รับนั่นคือความเข้มข้นของตัวยาและกลิ่นหอมที่บริสุทธิ์
“ยาระดับ 3? ความบริสุทธิ์ระดับ 6?”
ด้วยน้ําเสียงอันสั่นเทา เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองต่อให้เป็นนักปรุงยาของตําหนักหมื่นโอสถและจวนเย่าเน่าก็ยังยากที่ จะสามารถกลั่นยาที่มีความบริสุทธิ์มากกว่าระดับ 5! และไม่ต้องกล่าวว่ายาเม็ดนี้คือยาระดับ 3
“ใช่แล้ว มันคือยาระดับ 3 หัวใจคลื่นสมุทร! และด้วยความบริสุทธิ์ระดับ 6 ทําให้มันมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูพลังปราณและร่างกายในระดับเดียวกับคู่แข่งของท่านทั้งสองเจ้า!”
จุกขวดหยกในมือของเหลียนเต่าร่วงลงสู่พื้น แม้หยางอี้จะกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงเฉื่อยชาแต่มันก็มากพอที่จะทําให้หัวใจของเหลียนเต่าเดือดพล่านเลือดลมสูบฉีดจนใบหน้าแดงก่ํา
MANGA DISCUSSION