การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 410
บทที่ 410 – ความตายของเด็กน้อย
“แกมัน.. ราชาแวมไพร์!แกทำอะไรกับเวโรเน่?!”
ไอรีนเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายก็ตะโกนด้วยความโกรธ ราชาแวมไพร์ที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“อะไรกัน เจ้าโกรธเป็นด้วยงั้นเหรอ?”
“เอ๋ แปลกจังเลยน้า ผู้ผดุงความยุติธรรมตอนโกรธนี่แสดงสีหน้าน่ากลัวแบบนั้นออกมาด้วยนี่น่า?”
มันกล่าวถากถางไอรีน ราชาแวมไพร์ สำหรับไอรีนแล้วเจ้าหมอนี่เป็นคนที่คุยด้วยยากพอๆ กับจักรพรรดิมังกร
เพราะจากข้อมูลที่เธอสืบและค้นคว้า มันมีนิสัยค่อนข้างแปลกประหลาดเล็กน้อย เหมือนจะชอบเลือดมาก..
นั่นเป็นธรรมดาที่แวมไพร์จะชอบเลือด แต่ชอบเลือดในที่นี้คือมันชอบเห็นคนอื่นเลือดตกยางออก
เป็นโรคจิตของแท้เลยนี่ล่ะ สาเหตุที่มันไม่อยากให้สงครามยุติลงเป็นเพราะลักษณะนิสัยโรคจิตของมันนี่แหละ
เพราะหากสงครามหยุดลง การหลั่งเลือดของพวกสิ่งมีชีวิตก็จะหยุดลง สำหรับราชาแวมไพร์อย่างเขาจะอยู่ยังไงล่ะ
ดังนั้นสำหรับราชาแวมไพร์แล้ว ไอรีนก็เป็นเหมือนปรสิตที่คอยกัดกินความสุขเพียงอย่างเดียวในชีวิตเขา
พอเห็นสายตาจงเกลียดจงชังของไอรีนที่มีต่อเขา พร้อมกับพยายามจะดิ้นรนเพื่อโจมตีเขา ราชาแวมไพร์ก็ยังหัวเราะร่าสบายใจ
“เปล่าประโยชน์น่า ต่อให้เจ้าผู้กล้านั้นยังดิ้นรนจากโซ่ตรวนนี้ได้ เจ้าก็ไม่มีทางทำได้หรอก อย่าลืมสิว่าเจ้าตอนนี้ไม่มีเวทมนตร์”
มันพูดแบบนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าไอรีนก่อนจะพูดขึ้น
“เอาล่ะ ไหนๆ เจ้าก็ฟื้นแล้ว ข้าขอถามเจ้าแทนก็แล้วกัน… ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าไอ้คนที่อยู่เบื้องหลังและคอยแอบช่วยเจ้าอยู่ลับๆ นั่นเป็นใคร?”
เขาพูดแบบนั้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาพร้อมจับแทงมือเข้าไปในหน้าท้องของไอรีนที่ยังเป็นแผลเหวอะหวะอยู่
ดวงตาของไอรีนเบิกกว้างขึ้น ความเจ็บปวดเสียดทะลุไปจนถึงสมองจนทำให้เธอแทบเป็นบ้า
อันที่จริงข่าวเรื่องที่ว่ามีใครสักคนแอบช่วยเธอลับๆ ได้ถูกเปิดเผยตั้งนานแล้ว ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครแต่การคาดเดาของจักรพรรดิมังกร
คนนั้นต้องเป็นศัตรูหลักของพวกเขาอย่างแน่นอน .. ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำในยามนี้คืออย่างแรก… ต้องล่อคนที่อยู่เบื้องหลังอีกฝ่ายออกมาก่อน
แล้วก็กำตัดทิ้งซะ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขายังไม่ฆ่าพวกไอรีนทิ้งในตอนนี้ อีกทั้งจับไว้รีดเค้นข้อมูลคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นด้วยจะดีกว่า
ไอรีนจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาอาฆาตแค้น ก่อนที่เธอจะกัดฟันอดทนความเจ็บปวดพร้อมกับพูดขึ้น
“แกทำอะไรกับเวโรเน่!แล้วเนลอยู่ที่ไหน?!”
“ทำอะไรเหรอ.. นั่นสินะ ก็นังผู้กล้านี่เล่นฆ่าเผ่าข้าไปเป็นพันเป็นหมื่นแบบไม่เหลือแม้แต่กระดูกเนี่ย ข้าในฐานะราชาก็ต้องโกรธแทนลูกๆ ของข้าอยู่แล้วถูกไหม?”
มันกล่าวด้วยความชอบธรรมราวกับนี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนจะตอบ
“นั่นสินะ ข้าก็แค่ตัดแขนนางแล้วก็พอเห็นใบหน้านางย่าเกลียดไปหน่อยข้าเลยใช้มีดตัดแต่งหน้าให้สักหน่อย”
“รู้อะไรไหม ก่อนที่นังผู้กล้านี่จะสลบไปเธอร้องหาพี่สาวด้วยล่ะ เธอเป็นพี่สาวใช่ไหมล่ะ ไม่ดีเลยนะปล่อยให้น้องร้องไห้อยู่คนเดียวแบบนี้”
มันกล่าวด้วยน้ำเสียงสมเพช ก่อนจะถุยน้ำลายใส่หน้าของเวโรเน่ที่อาบไปด้วยเลือดอยู่ ไอรีนที่เห็นแบบนั้นเธอก็ตะโกนออกมา
“แก!!!ข้าจะฆ่าแก!!!”
“เฮ้ๆ ผู้ผดุงความยุติธรรมทำไมถึงพูดคำน่ากลัวแบบนั้นออกมาล่ะ ไม่ดีเอาซะเลยนะนั่นน่ะ”
มันหัวเราะกับท่าทางจงเกลียดจงชังของไอรีนพร้อมกับใช้นิ้วตัวเองแทงเข้าไปที่หัวไหล่ของไอรีนก่อนที่ความเจ็บแสบบางอย่างจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
ราวกับเม็ดเลือดทุกเม็ดกำลังถูกทำร้าย จนแม้แต่ไอรีนก็ไม่สามารถทนได้.. เธอกรีดร้องออกมาก่อนที่รูขุมขนทั่วร่างจะหลั่งเลือดออกมา
จมูก.. ดวงตา.. ปาก.. หู เลือดค่อยๆ ไหลออกมาจนดูน่ากลัวพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่แสนทรมานของไอรีน
“ฮ่าๆๆ ดีเลย เลือดเจ้านี่มัน เลือดเจ้านี่มันสวยจริงๆ เลยนะ!”
ราชาแวมไพร์ที่เห็นเลือดของไอรีนก็หัวเราะออกมาพร้อมกับยื่นปากเข้าไปเลียใบหน้าของไอรีนจนแม้แต่เธอยังรู้สึกขยะแขยง
“ข้า.. จะฆ่า..แก!!!”
ไอรีนกัดฟันจนดัง ‘กรอด’ อดทนความเจ็บปวดพร้อมกับกล่าว.. ราชาแวมไพร์ที่เห็นแบบนั้นก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“จริงสิ.. เนล คือชื่อของเด็กคนนั้นใช่ไหม เด็กคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเจ้าน่ะ..”
“แกเอาเนลไปไว้ไหน?!”
ตอนนี้ไอรีนเป็นห่วงเรื่องเนลยิ่งกว่าเรื่องของตัวเองอีก เพราะเนลยังเป็นแค่เด็กที่อายุสิบขวบจะย่างเข้าสิบเอ็ดเท่านั้น
เธอไม่มีทั้งทักษะป้องกันตัวหรืออะไรเลย สิ่งที่เธอมีนั้นมีเพียงพลังจิตอันเบาบางของเธอเท่านั้น
พอเห็นท่าทางของไอรีนที่ร้อนรน เจ้าราชาแวมไพร์ก็ประหลาดใจเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้น..
“เฮ้ยๆ .. นี่เจ้าลืมเพื่อนที่ร่วมเดินทางมากับตัวเองไปแล้วเหรอ ก็อยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ใช่หรือไงกันน่ะ?”
มันพูดแบบนั้นพร้อมกับหลบออกไปด้านข้าง ตรงข้ามกับไอรีนมีร่างของสิ่งมีชีวิต.. น่าจะใช่ ร่างของสิ่งมีชีวิตที่ตอนนี้ไม่มีหนังอยู่แล้ว
ทั่วทั้งร่างของเธอเป็นสีแดงเลือดของกล้ามเนื้อเพราะหนังถูกถลกออกไปจนหมด .. ปากของเธอถูกบังคับให้เปิดออกด้วยวิธีบางอย่าง
ภายในช่องปากไม่เหลือฟันสักซี่ เล็บมือเล็บเท้าไม่เหลือแล้ว เหลือเพียงแค่สีเลือดเพราะถูกถอนเล็บ นิ้วมือข้างขวาหักขึ้น
เหมือนกับว่าถูกหักนิ้ว เสียงของเธอถูกเปล่งออกมาตลอดเวลาดังกึกก้องอยู่แทบตลอด.. ดวงตาของเธอเบิกกว้างมองมาที่ไอรีน
ทั้งสองกันสบสายตาดวงตาไอรีนเบิกกว้าง
“เนล!เนล!!เนล!!!”
ไอรีนตะโกนออกมา เมื่อเห็นสภาพอันน่าหดหู่ของเนลเธอก็กรีดร้องออกมาพยายามจะดิ้นรนแต่ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์
“ไม่ต้องห่วงน่า ต้องโทษที่เธอเป็นปีศาจเลยตายยาก ข้าถลกหนังไปทั้งตัวแล้วยังไม่ตาย แถมปากแข็งไม่ยอมบอกอีก”
“แต่ไม่ต้องคิดมากหรอก อีกเดี๋ยวก็ตายแล้วล่ะ”
มันพูดแบบนั้นดวงตาของไอรีนแดงฉานเป็นสีเลือด
“แก!!!!!”
เธอตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งมือขวาของเธอดิ้นรนอย่างรุนแรงราวกับหมาบ้าที่ไร้สติมือทั้งสองข้างที่ถูกเหล็กครอบไว้อยู่ถูกดิ้นรนอย่างรุนแรงจนข้อมือเธอมีเลือดไหลออกมา
ความเจ็บปวดของเนลไอรีนไม่อาจจะทราบได้เลย แม้แต่ตอนนี้ ทันทีที่ดวงตาเธอสบกัน หากเป็นเนล.. เธอคงต้องสื่อสารผ่านจิตกลับมาแล้ว
แต่ตอนนี้ ตอนที่ไอรีนมองไปภายในดวงตาที่สดใสของเธอกลับมีความว่างเปล่าที่ไม่เหลือแม้แต่จิตใจ
เธอคงโดนทรมานรีดเค้นข้อมูลซ้ำแล้ว..ซ้ำเล่า ซ้ำแล้ว.. ซ้ำเล่า.. ความโกรธ ความเกลียด ความบ้าคลั่งคร่ำครวญอยู่ในอกของไอรีน
ราวกับมันตอบรับความรู้สึกของเธอ.. โลกใบนี้กำลังตอบรับความรู้สึกของเธอ.. ไอรีนเธอเป็นเด็กดี เธออยากจะทำให้โลกนี้กลับคืนสู่สันติสุข
ไม่ว่าเธอจะไม่เคยรู้จักกับความเจ็บปวดมาก่อน.. หรือไม่เคยพบความเจ็บปวด แต่เธอก็ยังพยายามจะปลอบใจคนอื่น
พยายามจะให้กำลังใจ พยายามจะเข้าใจ.. เนลเป็นแบบนั้นมาตลอด ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีมาก.. เธออยากจะช่วยเหลือคนที่ไร้หนทาง
เธอต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลก.. เพียงความรู้สึกเหล่านี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว.. ดวงตาของไอรีนเผยความบ้าคลั่ง
“แกวกก!”
มือขวาของไอรีนขาดออกจากโซ่ตรวน เลือดเธอไหลทะลักออกอย่างน่าหวาดกลัว แต่เธอใช้ข้อมือที่ขาดนั้นต่อยใส่ใบหน้าของราชาแวมไพร์
และพลังเวทที่ถูกผนึกและพลังบางอย่างของเธอก็ถูกปลุก.. พลังแห่งโลก!!ร่างของราชาแวมไพร์โดนซัดจนอัดผนัง
ไอรีนรีบวิ่งไปหาเนลที่นั่งเจ็บแสบทรมาน …
“เนล!เนล!เนล!”
เธอพยายามใช้เวทมนตร์รักษาแต่ก็ยังไม่สำเร็จราวกัวว่าจิตใจของเธอได้แตกสลายเหลือเพียงกายหยาบเท่านั้น..
ในตอนนี้สิ่วที่รอเนลอยู่มีเพียงความตาย.. ความตาย!
……….
[ย้ำว่า.. เนล อายุเพียง 10-11 ขวบเท่านั้น – ผู้เขียน]