การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 386
บทที่ 386 – เป็นเพราะสงคราม
หลังจากที่พวกเขาผ่านเข้าเมืองไปได้.. ชายที่เป็นเหมือนผู้นำคนนั้นก็พาเด็กผู้หญิงคนนั้นไปทิ้งไว้ที่แถวสลัม
นี่เป็นเพราะว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อที่จะได้เข้าเมือง นี่เป็นเพียงทางเลือกเดียวที่เขาสามารถทำได้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น
เขาก็ไม่สามารถทิ้งเด็กผู้หญิงคนนี้ ให้กลายเป็นทาสไปได้ อย่างไรซะเขาก็รู้จักกับแม่ของเด็กคนนี้.. ถึงจะไม่ได้สนิทกันมาก
แต่พวกเขาก็เคยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เคยพูดคุยสังสรรค์กัน.. พ่อแม่ของเธอเองก็ไม่ใช่คนไม่ดี.. ไม่สิต้องบอกว่าเป็นคนดีด้วยซ้ำ
พวกเขาไม่เคยสอนให้ลูกตัวเองทำร้ายคนอื่นเลย แต่ว่าน่าเสียดายที่พวกเผ่ามนุษย์มันเห็นแก่ตัว.. มันฆ่าพ่อแม่ของเธออย่างโหดร้าย
พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตในการรุกรานชายแดนของดินแดนปีศาจของพวกเผ่ามนุษย์.. มันฆ่าไม่เว้นแม้แต่เด็กหรือคนแก่
คนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ ชายแดนเรียกได้ว่าตายกันจนแทบหมด ไม่เพียงแค่นั้นใครที่หนีรอดจากการโจมตี พวกมันจะจับกลับไปเป็นเชลยศึก
ใช้งานเยี่ยงทาสจนตายไปในที่สุด นั่นแหละคือความโหดร้ายในยุคนี้.. แต่พ่อและแม่ของเด็กคนนี้ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ
ทำให้จิตใจของเธอแทบแตกสลาย.. แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนใจดีแบบนั้น แรกเริ่มเดิมทีบรรทัดฐานความดีชั่วของเผ่าปีศาจก็ไม่เหมือนมนุษย์อยู่แล้ว
เพราะว่าขอแค่ตัวเองรอด ทุกอย่างก็ดีหมด… ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเองก็เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ถูกทิ้งไว้ในตรอกเล็กๆ
เธอยืนนิ่งก้มมองพื้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เธอเห็นทุกอย่าง.. เห็นตอนที่แม่ตัวเองถูกฆ่า… เห็นพ่อตัวเองที่โกรธมากพยายามจะล้างแค้นให้แม่
แต่ถึงแม้ร่างกายพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะสามารถต่อกรกับนักรบที่แท้จริงได้
ท้ายที่สุดพ่อของเธอเองก็ถูกตัดหัวต่อหน้าต่อตาของเธอ.. พี่ชายของเธอพยายามจะพาเธอหลบหนีออกมา..
แต่ก็ถูกฆ่า.. สุดท้ายแล้วจึงเหลือเพียงแค่เธอที่รอดมาได้.. ภาพในวันนี้ยังคงลอยวกไปวนมาอยู่ในหัวของเธอซ้ำไปซ้ำมา
ภาพเสียงหัวเราะของมนุษย์ที่ชั่วร้าย.. ภาพเลือดสีแดงของบิดาและมารดาที่อาบไปทั่วพื้นดิน
“ท่านพ่อ.. ท่านแม่.. ท่านพี่…”
ปากเธอพึมพำด้วยความเจ็บปวด..
เธอมีชื่อว่า เนล เนลเป็นเผ่าซัคคิวบัส แม้จะบอกว่าเป็นซัคคิวบัสก็เป็นเพียงสายเลือดอ่อนๆ เท่านั้น
ทำให้เนลไม่ได้มีพลังที่สุดยอดอะไรขนาดนั้นด้วย กลับกันเพราะเป็นซัคคิวบัสความแข็งแกร่งทางกายภาพจึงต่ำกว่าปีศาจทั่วไปอยู่มากพอสมควร
เพราะสิ่งที่ซัคคิวบัสถนัดคือพลังที่เกี่ยวข้องกับความฝันต่างหาก.. เนลเข่าทรุดลงและเอาหลังพิงกำแพงที่อยู่ด้านหลัง
เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตา เธออายุเพียงสิบกว่าขวบเท่านั้นการที่ได้มาเห็นครอบครัวตัวเองถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา
ไม่ใช่สิ่งที่เด็กทั่วไปจะสามารถแบกรับไหว เพราะว่าทุกอย่างมันหายไปแล้ว ครอบครัวที่แสนสงบสุข
ท่านพ่อที่คอยเล่นด้วยและหยอกล้อด้วย จนบางครั้งท่านแม่ถึงกับออกปากบ่นว่าอย่าเล่นกับเธอรุนแรงเกินไป
พี่ชายที่ชอบแบ่งขนมของตัวเองให้เธอครึ่งหนึ่งประจำ พี่ชายที่ปกป้องเธอจากเด็กผู้ชายที่มาตามรังควาน…
ทุกอย่างมันสลายหายไปพร้อมกับรอยยิ้มของพวกมนุษย์.. มนุษย์ที่ฆ่าแม้แต่คนธรรมดา.. มันยังดูถูกว่าปีศาจสมควรตาย.. สมควรตาย..
“พวกแกนั่นแหละที่สมควรตาย!!!”
ปากของเนลตะโกนออกมาด้วยความโกรธ มือสองข้างกำแน่นจนแทบจิกเข้าไปในผิวหนังของตัวเอง..
“ท่านพ่อไม่เคยทำร้ายพวกแก ท่านแม่ไม่เคยทำร้ายใคร แม้แต่ท่านพี่ที่พยายามจะปกป้องข้า.. เขายังถูกพวกแกฆ่า!”
“ครอบครัวข้าผิดอะไร ครอบครัวข้าผิดอะไร!!”
เสียงตะโกนของเธอนั้นแรงมาก แรงกว่าที่คอเด็กเล็กของเธอจะรับไหวด้วยซ้ำ.. มันจึงเป็นเสียงที่แหบพร่าและดูทรมานอย่างยิ่ง
สำหรับมนุษย์แล้ว คำว่า ‘ปีศาจ’ คงเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายที่เป็นลูกสมุนของจอมมารซาตานที่ทำชั่ว
แต่ทางฝั่งปีศาจเองคำว่า ‘มนุษย์’ ก็คงไม่ต่างไปจากคำว่า ‘ปีศาจ’ ที่มนุษย์เรียกพวกเขาเท่าไหร่
มนุษย์มันเห็นแก่ตัว มนุษย์มันจะตะโกนด่าทอทุกสิ่งทุกอย่างว่าชั่วร้ายหากตัวเองถูกกระทำ คนของพวกมันถูกฆ่า
แต่เมื่อมันฆ่าปีศาจ พวกมันก็จะถูกมองว่าเป็นดั่งฮีโร่.. ทั้งๆ ที่คนที่มันฆ่าไปเป็นแค่พลเรือนธรรมดา…
ท่านพ่อกับท่านแม่ของเธอน่ะไม่เคยทำร้ายมนุษย์ ไม่สิ.. ท่านแม่น่ะเป็นคนที่ใจดีและเธอก็อยากให้สงครามยุติลงด้วยซ้ำ
อยากจะลองเป็นเพื่อนกับมนุษย์ อยากรู้จักมนุษย์ให้มากขึ้น.. แต่พวกมันไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย.. พวกมันฆ่าและฆ่า.. แล้วก็ฆ่า
เพื่อที่จะกลายเป็นวีรบุรุษ มันฆ่าเด็กเพื่อที่จะกลายเป็นยอดนักรบ มันฆ่าคนแก่เพื่อกลายเป็นผู้ดีสูงส่งควรค่าแก่การจดจำ
“ทำไม.. ทำไม!!ทำไมกันล่ะ!”
…ไม่ได้จะบอกว่าเนลน่าสงสารที่สุดบนโลกใบนี้.. เพราะคนแบบเธอมีมากกว่าที่จะนับด้วยนิ้วเปล่า
ไม่ใช่แค่ปีศาจ มนุษย์หรือกึ่งมนุษย์เองก็มีคนที่เจอแบบนี้เช่นกัน เผ่าอื่นที่รุกรานมาฆ่าชีวิตพวกเขาที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงคราม
สุดท้ายเด็กเหล่านี้ที่เจอแบบนั้น พวกเขาก็จะจงเกลียดจงชังศัตรู.. จงเกลียดจงชังผู้ที่พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากตัวเอง
คำถามที่ว่า ทำไม พวกเราทำอะไรผิด..
ใช่ มันไม่มีใครผิด.. ที่ผิดคือสงครามต่างหาก สงครามนั้นสร้างความขัดแย้ง สงครามนั้นสร้างความเจ็บปวด
ปละขณะเดียวกันสงครามก็สร้างวีรบุรุษ.. วีรบุรุษเพื่อตัวเองหรือเพื่อผู้อื่นนั่นก็ไม่เกี่ยว.. เพราะสุดท้ายแล้ว.. สุดท้ายแล้วคนที่เป็นแบบเนลก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วมันจึงกลายเป็นความแค้น.. แค้นที่อยากจะล้างแค้น.. ความโกรธ ความเกลียดชัง…
และมีความรู้สึกที่อยากจะล้างแค้น และพอล้างแค้นก็ตะสร้างคนที่เจอแบบตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง. อีกครั้งและอีกครั้ง
ตราบใดที่สงครามไม่หยุดลง วังวน วัฏจักรที่น่าขยะแขยงเหล่านี้ก็ยังจะคงหมุนวนต่อไปราวกับลูกโซ่ที่ไม่มีวันจบวันสิ้น
วันนี้เนลร้องไห้.. วันนี้เนลเสียใจ…
และเธอตั้งคำถามว่าทำไม..
เมื่อมีทำไมจึงก่อเกิดเป็นความแค้น…. แต่ทว่า.. เนลก็พลันได้พบความจริงบางสิ่งบางอย่าง.. เธอที่อายุเพียงสิบขวบนั้นก็ได้เจอกับบางสิ่งบางอย่าง
“จะมาร้องอะไรอยู่แถวนี้วะ รำคาญเว้ย!”
ชายคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับเตะเท้าใส่ร่างของเนลจนกระเด็นไปตามพื้นกลิ้งอยู่หลายตลบ..
“ชิ.. เด็กกำพร้าเรอะ ไสหัวไปไกลๆ .. อย่ามาร้องโวยวายอยู่แถวนี้ ก่อนที่ความอดทนของข้าจะหมด”
ดวงตาของเนลเงยขึ้นมองไปยังอีกฝ่าย.. ใช่ คนคนนี้คือปีศาจ.. แต่สีหน้าของมันเองก็ไม่ต่างจากมนุษย์ที่เธอเกลียดเลย
ไม่สิ.. เมื่อเธอลองมองย้อนกลับไป ไม่ว่าจะคนที่พาเธออพยพมาที่นี่ เอาเธอมาทิ้งหรือมีแม้แต่ความคิดที่อยากจะขายเธอให้กับทาส
สายตาคนเหล่านั้นที่เคยสนิทสนมกับท่านพ่อและท่านแม่ของเธอ สายตาที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ… กลับตอนนี้
สายตานั้นของพวกเขาไม่เคยมองมาที่ตัวเธอเลย… ใช่.. มันไม่ใช่แค่มนุษย์หรอก ไม่ใช่แค่พวกนั้นหรอก…
“ห๊า มองหน้าแบบนั้นแกอยากตายหรือไงวะ!”
ชายคนนั้นเลิกคิ้วด้วยความหงุดหงิด ซึ่งอันที่จริงเมื่อครู่เขากำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำงาน เสียงร้องของเนลทำเอาเขาสะดุ้งจนงานพังหมด
พอเห็นสายตาที่ไม่สำนึกผิด สายตาที่มองมาเหมือนกับว่าตัวเองเข้าใจทุกอย่างดีมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
มันเดินมาหาเนลด้วยท่าทางที่น่ากลัว.. ยื่นมือมากำลังจะจับถึงตัวของเนลนั้นเอง…
“ทำร้ายเด็กมันไม่ดีนะ”
คนสองคนก็ปรากฏขึ้น คนหนึ่งยื่นมือมาจับเอามือของชายคนนั้นเอาไว้แน่น ส่วนอีกคนเป็นคนพูด สองคนนี้สวมฮูดเหมือนกัน แต่เป็นฮู้ดสีขาวสะอาด
อันที่จริงมองดูแล้วยังไงก็เป็นคนใหญ่คนโตจากที่ไหนสักแห่ง…
“เหอะ บอกให้มันอย่ามาใกล้แถวนี้อีกนะ”
ชายคนนั้นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มือที่ถูกจับเอาไว้แน่นๆ ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าหากขัดขืนแขนตัวเองจะถูกบดขยี้ทันที
เขาบ่นออกมาแบบนั้นพร้อมกับดึงแขนออกจากมืออีกฝ่าย แน่นอนว่าเธอก็ปล่อยมือเช่นกัน.. พอชายคนนั้นกลับเข้าไปในบ้านคนที่จับมือชายคนนั้นก็พูดขึ้น
“ท่านพี่.. เราไม่มีเวลามาชักช้าอยู่แบบนี้แล้วนะ.. อีกอย่างนี่ก็ปีกว่าแล้วสิ่งที่พวกเราต้องทำยังไม่คืบหน้าสักอย่างเลยนะ”
“ข้าเข้าใจแล้วน่า..”
คนที่เป็นพี่ก็ตอบกลับอย่างไม่คิดมากเท่าไหร่ นั่นทำให้คนน้องถอนหายใจออกมา ดูจากเสียงแล้วพวกเธอน่าจะเป็นผู้หญิงกันทั้งคู่..
คนเป็นพี่หันลงไปมองเนล สายตาของเธอกับเนลประสานกันก่อนที่.. ผู้หญิงที่เป็นพี่จะก้มลงไปแล้วก็พูดขึ้น..
“ทุกอย่าง … ทุกความเสียใจที่เจ้ามี.. มันเป็นเพราะสงครามต่างหาก ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนมีทั้งดีและแย่เต็มไปหมด….”
“แต่ที่มีเพียงความแย่แสดงออกมาในตอนนี้มันเป็นเพราะ.. มีสงคราม.. ตราบใดที่ยังมีสงครามทุกคนก็จะเต็มไปด้วยความเครียดและเร่งรีบทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”
“ข้าจะไม่บอกให้เจ้าเลิกโกรธเลิกแค้น.. แต่.. สงครามนี่.. ข้าจะหยุดมันเอง.. เพราะงั้นเจ้าก็อย่ายอมแพ้ในการมีชีวิตรอดละ”
เสียงอันอ่อนโยนนั้นสิ้นสุดลง.. เธอก็จากไป ตลอดหนึ่งปีที่เธอเดินทางในแดนปีศาจ เธอเข้าใจเผ่าปีศาจมากขึ้น เข้าใจว่ามีเด็กที่เหมือนเด็กคนนี้อยู่เยอะจนนับไม่หมด…
ดังนั้นเป้าหมายในใจของเธอยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ …
เนลได้แต่จ้องมองแผ่นหลังของคนสองคนที่จากไปอย่างเงียบๆ .. ปากเธอเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ก็ไม่สามารถเปล่งออกไปได้.. เธอก้มหน้าลง… คำพูดของเธอคนนั้นวนอยู่ในหัวของเนล ซ้ำไปซ้ำมา…