การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 256
บทที่ 256 – การผจญภัยของอันน่ากับชาร์ล็อต
อันน่าหายไปแล้ว.. ใช่.. ตั้งแต่วันนั้น.. อันน่าเธอไม่เคยปรากฏตัวออกมาหาชาร์ล็อตอีกเลย
อาจจะเป็นเพราะว่าเธอโกรธเลทิเซียหรืออะไรก็แล้วแต่ เธอก็ไม่เคยโผล่ออกมาหาชาร์ล็อตอีก ไม่ว่าชาร์ล็อตจะเรียกไปมากแค่ไหน
พยายามจะพูดไปมากแค่ไหน ที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบเท่านั้น.. ชาร์ล็อตมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด
ถึงคนนอกจะมองแบบนั้นแต่ความจริงไม่ใช่เลย.. เธอนั้นมีคนอยู่เคียงข้างเสมอ.. ตอนเด็กเธอมีเพื่อนตัวน้อยคอยอยู่ข้างกาย
พอเพื่อนเสียเธอก็ได้พบกับผู้มีพระคุณที่ไม่รู้จักชื่อของเขาด้วยซ้ำ แต่พอคนคนนั้นหายไปอันน่าก็ปรากฏตัวออกมา
ใช่ สำหรับชาร์ล็อต อันน่านั้นเป็นเหมือนเพื่อนคนสำคัญ เหมือนพี่สาวที่คอยปกป้อง เหมือนน้องสาวที่สามารถหยอกล้อได้
เหมือนครอบครัวที่มีเพียงหนึ่งเดียวของเธอเท่านั้น เธอตื่นขึ้นมาโดยไร้ซึ่งครอบครัวหรือญาติมิตร
สิ่งเดียวที่มีคือความโดดเดี่ยว ดังนั้นสำหรับเธอแล้วอันน่าสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเธอเอง..
ถึงแม้จะนิสัยเสียไปบ้าง คำพูดดูรุนแรงเกินไปหน่อย แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวร้าย เรื่องนั้นชาร์ล็อตรู้ดีที่สุด
ไม่ว่าจะมีคนที่พยายามทำร้ายเธอมากแค่ไหน อันน่าก็จะออกหน้าช่วยเธออยู่เสมอ….ถ้าจะให้พูดอันน่าคงเป็นทุกๆ อย่างสำหรับชาร์ล็อต
นอกจากนี้ทั้งสองยังเติบโตมาด้วยกันในร่างของคนคนเดียว.. แชร์ทั้งความรู้สึก ทั้งความนึกคิดสิ่งเดียวที่แยกออกมีเพียงความทรงจำ
ชาร์ล็อตไม่รู้ว่าอันน่าเจออะไรที่แตกต่างจากตนเองมาหรือเปล่า แต่สิ่งเดียวที่เธอมั่นใจคือ..
อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกปลอดภัย..
แต่สิ่งเดียวที่ชาร์ล็อตมักหงุดหงิดใจเมื่ออันน่าพูด.. นั่นคือเธอไม่เคยเชื่อใจใครเลย เธอคิดลบอยู่เสมอว่า
คนนั้นอาจจะต้องการหลอกลวงเธอ คนนี้อาจจะจับเธอไปเป็นหนูทดลอง คนนี้อาจจะรังแกเธอ
และนับแต่นั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าหาชาร์ล็อต อันน่ามักจะซัดหน้าคนเหล่านั้นจนปากแตกไปเสียจนหมด
ไม่ว่าจะเข้าหาด้วยความคิดที่ดีหรือความคิดร้ายๆ อันน่าก็ไม่ได้เก็บมาคิดเหมือนเธอรู้จักแค่ต่อยตี
ก่อนหน้าที่จะเจอกับพวกเลทิเซีย เธอตัดสินใจที่จะมาโรงเรียนแห่งนี้เพราะคิดจะตามหาผู้หญิงที่เคยช่วยพวกเธอทั้งสองคนเอาไว้
เพราะคิดว่าสถานที่ยิ่งใหญ่อย่างโรงเรียนคงจะมีคนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลกไม่น้อยเลยทีเดียว พอคิดแบบนั้นชาร์ล็อตและอันน่าก็เดินทางมา
แต่ระหว่างทางเหมือนจะเจอกับลูกขุนนางคนหนึ่งเข้า แต่แรกเดิมทีชาร์ล็อตก็เป็นคนที่สวยอยู่แล้ว หากแต่งตัวดีๆ เธอก็เป้นคนที่น่ารักคนหนึ่ง
ซึ่งเหมือนจะไปเข้าตาลูกขุนนางคนนั้น แต่ลูกขุนนางคนนั้นยังพึ่งเริ่มที่จะทักทายชาร์ล็อต แต่อันน่าก็แย่งสิทธิ์การควบคุมร่างไปแล้วก็ซัดลูกขุนนางคนนั้นจะปากแตก
แล้วเรื่องก็ลุกลามใหญ่โตจนชาร์ล็อตลำบากใจมาก เธอได้แต่ปวดหัวกับนิสัยของพี่สาวตัวน้อยของตัวเอง
แต่พอลูกชายขุนนางคนนั้นที่ถูกซัดจนปากแตกขึ้นมา ยังดีที่เขาเป็นคนดี เขาไม่เอาความใดๆ ด้วย
แต่เห็นว่าขอโดนเตะแบบนั้นอีกสักทีจะได้ไหม.. ดูเหมือนว่าอันน่าจะไปปลุกสัญชาตญาณบางอย่างให้ตื่นขึ้น
หลังจากพวกเธอจากมาไกลแล้ว ยังได้ยินข่าวแว่วๆ ว่า ชายคนนั้นไปหาขอแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลที่เป็นนักรบแล้วก็โดนต่อยตีซะเละ
แรกๆ ผู้คนก็รู้สึกสงสาร แต่เหมือนชายคนนั้นจะไม่หยุดแค่คนเดียว เขาไล่ขอแต่งงานไปทั่วและทุกคนที่ขอก็ดันเป็นผู้หญิงแก่นกันทั้งนั้น
และผลคือโดนกระทืบเละตลอด จนทำให้ผู้คนต่างตกใจกับการกระทำของชายคนนั้น เหมือนว่าที่เขาทำไปไม่ใช่เพราะเรื่องการเมือง
แต่เป็นเพราะอยากโดนตีมากกว่า..
ชาร์ล็อตที่ทราบถึงสิ่งนั้นเธอก็อกสั่นขวัญผวาอยู่ในใจ.. ทุกอย่างเป็นเพราะอันน่าทั้งหมดเลย.. ไม่คิดฝันมาก่อนว่าถ้าหากผู้คนโดนฟาดจนสลบไป
พอตื่นมาเขาจะกลายเป็นคนชื่นชอบการโดนตีไปซะอย่างนั้น ถึงชาร์ล็อตจะอ่อนต่อโลก แต่เธอก็รู้ว่าการถูกทำร้ายร่างกายไม่ใช่เรื่องน่ายินดีแน่นอน
แต่ผู้ชายคนนั้น..
แค่คิดเธอก็ตัวสั่นและหลบจากที่แห่งนี้ไปให้ไกล
“ทุกอย่างเป็นเพราะเธอนั่นแหละ อันน่า ข้าบอกแล้วนี่น่าว่าอย่าทำร้ายคนอื่นมั่วซั่วน่ะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่น่า ก็มันจะมาหาเรื่องก่อนเอง”
“คือว่านะอันน่า คนที่เข้าหาเราไม่ได้แปลว่าเขาจะมาหาเรื่องนะ”
ชาร์ล็อตไม่รู้ว่าตัวเองพูดคำนี้ไปกี่รอบแล้ว.. แต่อันน่าก็ได้แต่เบ้ปากไม่พอใจ พลางพึมพำ
“เลิกบ่นได้แล้วน่า เขาว่าบ่นเยอะไม่ดี เห็นว่าจะแก่ไวล่ะ”
“เจ้าเองก็แก่ไปพร้อมข้านั่นแหละ”
ชาร์ล็อตพูดขึ้น.. นี่แหละความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ไม่มีระยะห่างใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งสองเป็นเหมือนหนึ่งเดียวกันแต่แรก
“แต่ว่านะ.. เมื่อไหร่จะถึงโรงเรียนเนี่ย ข้าเหนื่อยแล้วนะ”
“แต่เจ้าไม่ได้เป็นคนเดินเองสักหน่อยนี่”
อันน่าบ่นว่าเหนื่อย แต่คนที่เดินทางอยู่เป็นชาร์ล็อต ทั้งสอง… ไม่สิ ตัวชาร์ล็อตเองไม่ใช่มนุษย์อยู่แล้ว
เธอคืออสูร คำนิยามมาจำกัดขอบเขตของอสูรนั้นเป็นไปไม่ได้อยุ่แล้ว อย่าทสึรุเองก็ยังฝึกวิชาหอกที่เหมือนจะไม่มีพลังเวทอะไรแต่ก็สามารถทำให้แข็งแกร่งค้ำฟ้าได้
ซึ่งชาร์ล็อตเองก็เช่นกัน..
ทั้งสองเดินทางด้วยบรรยากาศประมาณนี้.. เวลาหลายเดือนต่อมา.. พวกเธอก็มาถึงโรงเรียนเวทมนตร์ลิเบอร์
“ว้าว.. ใหญ่จังเลย…”
ชาร์ล็อตอ้าปากมองไปยังสะพานที่ทอดยาวไปถึงเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่เธอเคยเห็นมา
แต่ที่ใหญ่กว่านั้นคือสะพานที่ทอดยาวทะลุออกจากเมืองไปอีกก็ไปถึงเกาะกลางทะเลสาบ.. ขนาดมันใหญ่เว่อร์จนน่าตกใจ
เพราะมันคือโรงเรียนเวทมนตร์ลิเบอร์ มีทั้งภูเขาสูง ลำธารน้ำตก หอนาฬิกาสูงตระหง่าน ทุกอย่างดูอลังการงานสร้างยิ่งกว่าเมืองเสียอีก
กลิ่นหอมมากมายเตะจมูกของเธอ เธอจ้องมองไปทั่วพร้อมกับตาลุกประกายเพราะเห็น ก่อนที่ท้องเธอจะร้อง..
“แฮะๆ กลิ่นหอมมันยั่วยวนเกินไปตั้งหาก”
ชาร์ล็อตหาข้ออ้างอธิบายต่ออันน่า แต่อันน่าก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ.. โชคดีพวกเธอยังมีเงินจากชายประหลาดชอบถูกเตะคนนั้นทำให้พวกเธอเสวยสุขกับอาหารได้
ทั้งสองใช้เวลาท่องเที่ยวไปทั่วทั้งเมือง พร้อมกับชิมของอร่อยๆ
“อื้มมม… อร่อย”
“นี่เธอตรงนั้นน่ะ”
ในตอนนั้นเองเสียงประหลาดก็ดังขึ้น อันน่าอยากจะสลับตัวพร้อมกับตอบโต้ แต่ชาร์ล็อตถลึงตาใส่ ก่อนที่จะหันไปตามเสียง
เธอเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ เธอมีผมสีเหลืองทองประหลาดตา เพราะมันสลวยยาว เธอรูปร่างคล้ายกับเด็กอายุไล่เลี่ยกับชาร์ล็อต
แต่เพราะสีผมที่เด่นสะดุดตาแถมดวงตาที่เป็นสองสีตัดสลับกันมันดูแปลกตาอย่างยิ่งสำหรับชาร์ล็อต
“เธอเป็นใครน่ะ?”
“ฉันชื่อโรส แล้วเธอพอจะรู้หรือเปล่าว่าร้านหนังสืออยู่ตรงไหน?”
เด็กผู้หญิงคนนั้นตอบสั้นๆ ก่อนจะถามออกมา ชาร์ล็อตเองก็พึ่งมาถึงเมืองนี้เธอไม่รู้เหมือนกันหรอก.. ในขณะที่กำลังจะปฏิเสธก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ที่ไปเดินเล่นในเมืองก็เจอร้านหนังสืออยู่สองสามแห่ง
ชาร์ล็อตบอกตำแหน่งให้กับหญิงสาวคนนั้น เธอก็พยักหน้าแล้วก็เดินจากไป.. แต่ก่อนจะเดินจากไปเธอก็หยุดชะงัก
“จริงสิ.. นี่ถือเป็นคำขอบคุณแล้วกันนะ”
เธอหยิบจดหมายสีขาวอันหนึ่งให้
“มันคือ?”
“เธอจะมาเพื่อสมัครเรียนที่โรงเรียนนี้ใช่ไหมล่ะ?”
“เอ่อ.. ก็ใช่อยู่หรอก..”
“งั้นเธอก็เอาจดหมายนั่นให้ครูที่มาทดสอบเธอเลย มันคือจดหมายแนะนำตัวน่ะ เธอจะเข้าโรงเรียนนี้โดยไม่ต้องใช้งบสักเหรียญเลย”
ชาร์ล็อตที่ได้ยินแบบนั้นก็เหงื่อตก ถึงโรงเรียนนี้จะไม่ได้มีค่าเทอมที่สูงมากนักเพราะโรงเรียนรับแค่คนที่มีความสามารถก็จริง..
แต่ถึงจะบอกว่าไม่สูงแต่ก้ไม่ใช่ว่าจะไม่มี.. แต่แน่นอนว่าโรงเรียนมีระบบภารกิจอยุ่ หากทำภารกิจคำร้องขอในโรงเรียนมันสามารถหาเงินเพื่อมาจ่ายค่าเทอมได้
ดังนั้นทั้งคู่จึงไม่คิดมาก แต่อีกฝ่ายที่แค่มาถามเรื่องที่อยู่ของร้านขายหนังสือกลับให้ของสำคัญแบบนี้มา…
“รับไว้ไม่ได้หรอ—”
แต่ยังไม่ทันได้พูดเสร็จเธอก็เดินหายไปแล้ว.. ด้านหลังเธอมีเด็กผู้หญิงผมสีแดงคนหนึ่งจับชายเสื้อเธอเดินตามหลังไป..
ชาร์ล็อตได้แต่ยืนงงก่อนที่อันน่าจะพูดขึ้น
“ในเมื่อให้มาก็เก็บไว้เถอะน่า เธอจะไปเกรงใจอะไรนักหนาล่ะ”
“แต่ว่า….”
อันน่าบ่นอุบอิบอยู่สองสามคำชาร์ล็อตจึงได้ยอมฟังเก็บจดหมายลงในกระเป๋า..
“ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไงนะ?”
“นั่นคงเป็นเพราะอายุเธอนั่นแหละ”
“แบบนี้นี่เอง”
ชาร์ล็อตพยักหน้า เพราะคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอก็คงมีแต่มาสมัครเรียนเท่านั้นแหละ.. แต่เอ๊ะ นั่นหมายความว่าเด็กคนนั้นก็ด้วย
“ข้าว่า.. ข้าเอาไปคืนดีกว่าไหม..”
พอคิดได้แบบนั้นชาร์ล็อตก็ยิ่งรู้สึกลำบากใจเข้าไปใหญ่..
“ไม่ต้องหรอกน่า ดูแล้วคนพวกนั้นคงเป็นพวกลูกคุณหนูนั่นแหละ เขาไม่ได้ลำบากเรื่องเงินหรอก”
“นั่นสินะ… แถมยังดูสวยมากๆ ด้วย .. เธอเป็นองค์หญิงหรือเปล่านะ?”
ชาร์ล็อตคิดแล้วก็พึมพำ
……….
[ดราม่าอัลไลล ไม่มี๊!! มีแต่ความนุ่มฟู! – ผู้เขียน]