ตอนที่ 95
ซูฮยอนลูบคลําช่วงท้องน้อยมิรุขึ้นลงอย่างเบาไม้เบามือมิรุ หัวเราะคิกคักพลางเรอออกมาเสียงดังฟังชัด….
“มะ…มิรุ ทําบ้าอะไรของนาย?”
คิ้ว?
“เด็กดี มันไม่ใช่ของกิน คายออกมาเถอะ”
คิ้ว
“ว่าไงนะ? ไม่ยอมคายงั้นเหรอ!!”
ซูฮยอนเขย่าตัวมิรุขึ้นลงราวเป็นบาร์เทนเดอร์ เพื่อความหวังเล็กๆให้มิรุขย้อนหินสีฟ้าออกมา
มิรุซึ่งมักคล้อยตามคําพูดซูฮยอนเสมอ สายหัวเล็กๆของมันเชิงปฏิเสธ
ซูฮยอนถอนหายใจประกาศขอยอมแพ้ ไม่ว่าจะอ่อนวอนยังไงมิรุก็ไม่ยอมคาย คําข่มขู่ไม่เป็นผล
เขารู้สึกไมเกรนกําลังคืบคลานใกล้เข้ามา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้เขาอดไม่ได้ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก้นเบ้าลงกับพื้นเหมือนคนหมดอาลัย
คิ้ว คิ้ว!
มิรุบินกลับขึ้นไปเกาะบนหัวของซูฮยอน แขนเล็กๆของมันตบหัวอย่างสบายอารมณ์ หารู้ไม่ซูฮยอนถอนหายใจออกมาหลายเชือกเพราะการกระทําของมันแท้ๆ
ยิ่งนึกถึง เขายิ่งรู้สึกว่าอาการไมเกรนที่แย่อยู่แล้ว ดิ่งฮวบแย่ลงไปอีกขั้น..
“เฮ้อ…แล้วฉันจะอธิบายให้คิมแดโฮฟังยังไงดีล่ะเนี้ย?” ซูฮยอนบ่นพึมพํา
ซูฮยอนลุกขึ้นยืนและอดถอนหายใจออกมาอีกครั้งไม่ได้ จะว่าไปเขาไม่เคยถอนหายใจถี่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเหมือนกัน
จู่ๆซูฮยอนหวนนึกถึงสายพันธุ์ของมิรุและลักษณะพิเศษของหินสีฟ้า
“ตามธรรมชาติ หินมีสรรพคุณและแร่ธาตุหลายชนิดและมังกรอิ่ม… “ซูฮยอนไตร่ตรอง
หินสีฟ้าและมังกร ทั้ง 2 สิ่งผสมปนเปเข้ากันได้อย่างหน้าพิศวงมิรอาจต้องใจหินสีฟ้ามานานตั้งแต่แรกพบแล้วก็ได้ ไม่ใช่เพราะความสงสัยใคร่รู้
“สุดท้ายก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ช่างเถอะ ฉันคงต้องจับตาดูมิรุต่อไป”
ซูฮยอนวางมิรุกลับไปตําแหน่งบนหัวเหมือนเดิม สําหรับหินสีฟ้าก้อนนั้น ถือซะว่าเป็นของรางวัลตอบแทนที่มิรุทํางานอย่างตรากตรําก็แล้วกัน
ไม่นานซูฮยอนก็รุดหน้ากลับไปร่วมกลุ่มกับฮักจนอีกครั้งพวกเขาล้างผลาญชีวิตมอนสเตอร์ที่เหลือรอดอยู่ทั้งหมดและเริ่มเดินตามหาทางออกดันเจี้ยน
ส่วนเรื่องเกี่ยวกับหินอีเธอร์ที่กระจัดกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆของดันเจี้ยน เดี๋ยวจะมีหน่วยเก็บเกี่ยวมาขุดรวบรวมภายหลัง
“ดูจากขนาดความใหญ่ดันเจี้ยน ฉันคิดว่าคงใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนหรือเดือนครึ่ง กว่าจะขุดหินอีเธอร์ออกมาได้หมด” จอร์แดนพูด
จอร์แดนยืนหน้าประตูทางออกจากดันเจี้ยน ซึ่งตั้งอยู่ใต้หน้าผาสูงชัน เขาหมุนกายมองกลับไปมองด้านหลังดันเจี้ยนแห่งนี้มีขนาดใหญ่โตมาก จํานวนมอนสเตอร์ก็ยั้วเยี้ยเต็มไป หมด
ฉะนั้นหินอีเธอร์ย่อมมีจํานวนเยอะตามไปด้วย เขาบอกไม่ได้เหมือนกันว่ามีเยอะแค่ไหน แต่โอกาสเป็นไปได้สูง อาจมีอีเธอร์เกรดสูงสุดโผล่ออกมา…
“อ๊ะจริงสิ ส่วนแบ่งของรางวัลของกิลด์เมดอิแค็ล อย่าลืมเอามามอบให้ผมด้วย”
ซูฮยอนเกือบลืมสนิท เขารีบเล่าเหตุการณ์การเดิมพันและสัญญาเกี่ยวกับหินอีเธอร์ให้จอร์แดนฟัง
จอร์แดนผู้รับฟังเรื่องราวแสดงสีหน้าประหลาดใจและเริ่มหัวเราะขบขัน…
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายขึ้นหน้าขึ้นตาพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ มีเรื่องให้แปลกใจได้ตลอด”
“ผมก็ไม่ได้อยากได้ส่วนแบ่งมากขนาดนั้น แต่ช่วยไม่ได้ โรเบิร์ตพยายามแกว่งปากหาเท้าเอง ผมก็เลยแก้เผ็ด”
“นั้นแหละนิสัยประจําตัวของเขา โรเบิร์ตเป็นคนโลภมากแต่ไหนแต่ไร” จอร์แดนหัวเราะ
กิริยาท่าทางเหมือนจอร์แดนจะรู้จักนิสัยใจคอกิลด์มาสเตอร์เมดอิแค็ล โรเบิร์ตเป็นอย่างดี
จอร์แดนออกคําสั่งให้ผู้ตื่นขึ้นแรงค์น้อยออกไปก่อน แรงค์สูงๆค่อยทยอยตามออกไปที่หลัง
ที่ต้องทําเป็นขั้นตอน เพราะเผื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นแรงค์ต่ําจะได้ไม่เป็นภาระ
“การโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน นายคงเป็นคนที่มีผลงานโดดเด่นมากที่สุดในกลุ่ม” จอร์แดนพูด
“แน่นอนสิ” ซูฮยอนตอบ
ซูฮยอนเป็นคนลงมือสังหารบอสสูงสุดและยังสังหารมอนสเตอร์มากที่สุดในกลุ่ม คุณงามความดีที่ขาดไปไม่ได้ คือเปิดโปงแผนการทรยศหักหลังของยัยโคลอี้ และช่วยเหลือคุ้มครอง สมาชิกทีมโจมตีให้พ้นภัย
ซูฮยอนพยักหน้ายอมรับโดยไม่คํานึกถึงความถ่อมตน จอร์แดนเผยรอยยิ้ม หลังจากเห็นท่าทางทะนงตนของอีกฝ่าย
“ฉันขอยกส่วนแบ่งให้นายด้วยเหมือนกัน”
“คุณด้วยเหรอ?”
“ทําไมต้องสีหน้าเหมือนเห็นผีด้วย? ถ้าไม่ได้การช่วยเหลือจากนาย ฉันคงไปปรโลกก่อนใครเพื่อน ฉันทําตามเสียงเรียกร้องจากหัวใจ ฉันแค่อยากให้กิลด์แม็กซิมั่มตอบแทนน้ำใจนายบ้าง อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะยอมรับไหม เพราะพวกเขาก็ต้องการเงินไปประทั้งชีวิตเหมือนกัน” จอร์แดนยักไหล่และพูดต่อ
“ค่าเหนื่อยของฉัน สามารถยกให้นายได้ไม่มีปัญหายังไง ฉันก็ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินอยู่แล้ว”
สําหรับซูฮยอนผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่สําคัญและมีค่ามากที่สุดคือหินสีฟ้าของดรูอิด แต่จับต้องได้ไม่นาน หินสีฟ้ากลับพลัดพรากจากกันเสียแล้ว…
สิ่งที่จอร์แดนพูดมาเป็นความจริงที่เลี้ยงไม่พ้น หากซูฮยอนไม่อยู่ที่นั่นทุกคนร่วมทั้งจอร์แดนคงได้กลับมาเก่า ฉะนั้นการยกของรางวัลทั้งหมด เพื่อตอบแทนการช่วยชีวิตจึงคุ้มค่าทุกสตางค์…
“ผมก็ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเหมือนกัน” ซูฮยอนเอ่ย
“อย่าพร่าน้ําใจกันสิ…”
“งั้นเอางี้ ให้เมื่อนายไม่อยากได้เงิน นายอย่าให้ฉันช่วยอะไรไหม?”
“อะไรก็ได้ใช่ไหม?”
จอร์แดนฟังคําพูดของซูฮยอนแล้วอดแสดงใบหน้างงงวยออกมาไม่ได้ ยังมีอะไรดีไปกว่าหินอีเธอร์ในดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินอีกเหรอ?
ไม่นานปากซูฮยอนก็พลันเปิดขึ้นแล้วพูดให้สิ่งที่ต้องการจอร์แดนรับฟังพยักหน้าคลี่ยิ้ม
“มันไม่ควรเรียกว่าคําขอร้อง” จอร์แดนยิ้มแช่มชื่น
“ตกลง ฉันยินดีช่วย”
การโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินเก็บฉากลง กลุ่มคนงานเริ่มกระจายกําลังออกไปตามพื้นที่ส่วนต่างๆทั่วดันเจี้ยน เพื่อทําการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ทันกําหนดการ ของรา งวัลด้านในจะถูกแจกจ่ายตามผลงานที่วิดีโอบันทึกภาพได้
สื่อชั้นนําสหรัฐอเมริกาพยายามติดต่อผู้ตื่นขึ้นที่รอดชีวิตให้มาสัมภาษณ์ขาว
ข่าวที่ชาวโลกแปลกใจและหน้าตาตื่นไปกับมัน คือข่าว โคลอี้ และ กิลด์สตาร์ ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S มากฝีมือ กลับกลายเป็นตัวแทนเชิดของกิลด์ดัมพ์
“พี่ซูฮยอนเหมือนกิลด์ดัมพ์เริ่มงอกใบออกมาจากพื้นดินที่ละนิดแล้ว”ฮันจุดเอ่ยขณะดูรายการข่าวทางทีวี
หลังจากเสร็จสิ้นการโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน ฮักจนล้มตัวลงนอนลืมวันลืมคืน
เมื่อลืมตาตื่นโลกทั้งใบพล่านไปด้วยความโกลาหล ฮักจุนเปิดทีวีดูข่าวช่องหนึ่ง ซึ่งคนเกาหลีเป็นพิธีกรหลัก เนื้อหาภายในข่าว กําลังรายงานการโจมตีที่เกิดขึ้นจากกิลด์ดัมพ์ ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศเกาหลีและสหรัฐอเมริกา
“ขาวคราวเกี่ยวกับกิลด์ดัมพ์มีโผล่มากตลอดอยู่แล้ว แค่รู้กันเฉพาะวงในเท่านั้น” ซูฮยอนพูด
“ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาจากฝีมือของพี่ ป่านนี้ พวกกิลด์ดัมพ์คงเกลียดพี่เข้ากระดูกดําไปแล้วมั้ง”
“น่าจะเป็นอย่างงั้น ยังไงพวกมันก็ทําอะไรฉันไม่ได้อยู่แล้วเพราะเวลาส่วนใหญ่ฉันอาศัยอยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบนอกจากนี้เกาหลียังไม่ใช่เป้าหมายโจมตีหลักตั้งแต่ต้น”
“ถึงแม้ไม่ใช่เป้าหมายโจมตีหลัก แต่ในเกาหลีก็มีผู้ตื่นขึ้นจากกิลด์ดัมพ์ออกมาสร้างความวุ่นวายเหมือนกัน โชคดีที่กิลด์ริปเปอร์ ออกมายับยั้งเหตุการณ์ได้ทันท่วงที
กิลด์ดัมพ์ไม่ได้โจมตีแค่สหรัฐอเมริกาและเกาหลีเท่านั้น จีนสหราชอาณาจักร และ ฝรั่งเศส พลอยถูกหางเลขไปด้วย ประเทศที่โดนกิลด์ดัมพ์โจมตี ล้วนเป็นประเทศชั้นนํา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการปั้นผู้ตื่นขึ้นมากฝีมือ ที่กิลด์ดัมพ์เลือกโจมตีประเทศเหล่านี้ แสดงว่าพวกมันวางแผนประกาศศักดาความเก่งกาจของพวกมันให้ชาวโลกรับรู้
“เป็นเพราะพี่ไม่ใช่ไหม? กิลด์ริปเปอร์ถึงหยุดกิลด์ดัมพ์ทัน”
ซูฮยอนสายหน้าปฏิเสธคําพูดฮักจุน
“ไม่หรอก ฉันแค่แจ้งการเคลื่อนไหวในพวกเขาทราบเท่านั้น คนที่ลงมือจริงๆเป็นกิลด์ริปเปอร์ต่างหาก”
“มันก็คล้ายๆกันแหละ พี่รู้การเคลื่อนไหวของพวกมันได้ยังไง?”
“เพราะฉันคอยตามกลิ่นพวกมันอยู่ อีกอย่างกิลด์ริปเปอร์คอยช่วยเหลืออีกแรง จึงหาร่องรอยพวกมันได้ง่าย”
ซูฮยอนตอบกลับอย่างไม่แยแส ฮักจุนนั่งบนโซฟาสายตาจ้องการรายงานข่าวไม่กระพริบตา ไม่นานข่าวเกี่ยวกับกิลด์ดัมพ์ก็จบลง….
ฮักจุนเลิกสนใจทีวี เขาหันมาจ้องมองซูฮยอนแทน
“พี่ซูฮยอน พี่กําลังออกไปไหนเหรอ?”
ซูฮยอนสวมรองเท้าอยู่หน้าประตู โดยไม่บอกไม่กล่าว
“ฉันกะว่าจะออกไปทําธุระข้างนอกสักหน่อย”ซูฮยอนพูด
“อะไรนะครับ?”
“เดี๋ยวฉันกลับมา”
ซูฮยอนเปิดประตู รีบวิ่งผลุนผลันจากไป
“ฉันตามไป ก็เป็นได้แค่ตัวถ่วง” ฮักจนคิดในใจ
ฮักจุนเกาหัวตัวเองด้วยความรู้สึกละอายใจ ถ้าซูฮยอนต้องการความช่วยเหลือจากเขา ซูฮยอนคงเอ่ยปากชวน เหตุผลที่ซูฮยอนไม่ได้เอ่ยปากชวนเลยสักคํา หมายความว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฮักจุน ต่อให้ฮักจนติดสอยห้อยตามไปด้วย เขาคงช่วยเหลือซูฮยอนมากไม่ได้ นอกจากเป็นตัว เกะกะ…
“รู้สึกตัวเองต่ําต้อยเหลือเกิน
ระหว่างโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน ฮักจุนตระหนักดีว่า ตัวเองไร้ประโยชน์แค่ไหน ภาพที่คิดไว้กับความจริงช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
เขาเห็นความสามารถของ จอร์แดน โคลอี้ และ ซูฮยอนมากับตา เมื่อลองไปเทียบกับผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ตัวตนของเขาเล็กน้อยเหมือนมดปวด
หาได้ยากที่ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S หลายคนจะจับกลุ่มโจมตีดันเจี้ยนร่วมกัน ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น พวกเขาคงดีใจเนื้อเต้นที่ได้เห็น S มากหน้าหลายตา แต่สําหรับฮักจุนนอกจากควา มรู้สึกหมองหม่นไม่มีความรู้สึกใดแทรกเลย..
“ไม่วันใดวันหนึ่ง ฉันต้องไขว่คว้าเอาแรงค์ S มาครอบครองให้ได้”
ฮักจุนกําหมัดที่เต็มไปด้วยความปรารถนาแรงกล้าไว้ แน่น…
“ไม่รู้ว่าฮักจุนจะทําความเข้าใจการกระทําของฉันได้หรือ
ป่าว”
ซูฮยอนเดินออกมาจากบ้านพักส่วนตัวที่กิลด์เมดอิแคลเตรียมไว้ให้ มองย้อนกลับไปชมบ้านพักหรูหราตั้งทงัน ในใจของซูฮยอนรู้สึกสลดใจเล็กน้อย เพราะปล่อยฮักจุนทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียว
ตอนนี้เจ้าตัวคงกําลังตกอยู่ในช่วงอารมณ์ห่อเหี่ยวเป็นแน่..
“หวังว่าเขาคงเข้าใจเจตนาดีของฉัน”
พวกเขาได้มีโอกาสโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินแห่งแรกของโลก มันเป็นสเกลพลังที่ยิ่งใหญ่ จนเบียดดันเจี้ยนแห่งอื่นๆทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น ยิ่งไปกว่านั้นทีมโจมตียังประกอบไปด้วยผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S จํานวนมากไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน โคลอี้ แมครีเบอร์และคนสุดท้าย ซูฮยอน ที่กล่าวยกตัวอย่างมาเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ทั้งสิ้น
ยังไม่หมด ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A จาก กิลด์เมดอิแค็ลกิลด์แม็กซิมั่ม และ กิลด์สตาร์ มีความสามารถเหนือคําบรรยายบางคนถึงขนาดมีความแข็งแกร่งทัดเทียมฮักจุน
นับเป็นก้าวแรกแสนสําคัญสําหรับใครบางคนในการสัมผัสพื้นโลกกว้างใหญ่ไพศาลและทดสอบขีดจํากันของ
ตน
เป้าหมายของซูฮยอน คืออยากให้ฮักจุนได้สัมผัสกับความรู้สึกที่กล่าวมา ไม่แน่บางครั้ง การประจักษ์ว่าตัวเราเล็กราวเม็ดทรายทําอะไรตามใจปรารถนาไม่ได้ อาจกลายเป็นแรงผลักดันให้ก้าวเดินฝ่าฟันอุปสรรคต่อไป..
“ฉันจะรู้สึกชื่นใจมาก หากเขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจาก ประสบการณ์ครั้งนี้” ซูฮยอนคิด
ซูฮยอนโบกรถแท็กซี่และก้าวเข้าไปนั่ง
ริง!! ริง!! ริง!!
ขณะชมวิวทิวทัศน์ข้างทางมือถือพกติดตัวไว้ก็ร้องแจ้งเตือนเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอเป็นหมายเลขที่เขาไม่เคยบันทึกไว้ซูฮยอนกดรับสาย ไม่นานเสียงที่คุยเคย ก็ดังออกมาจากสายมือถือ เขาจึงรู้ว่าคนที่กําลังถือสายคุยด้วยเป็นใคร
“หากยากจริงๆ คนอย่างซงฮย็องกิจะโทรมาหาผู้อื่นก่อนมี เรื่องอะไรหรือป่าวครับ?”
ผู้โทรมาคือซงฮย็องกิ ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ประเทศเกาหลีและ ยังเป็นคนถ่ายทอดวิชาการเรียกดูมิรุให้กับซูฮยอนอีกด้วย
“สวัสดี มิรุสบายดีใช่ไหม เขายังน่ารักเหมือนเดินหรือป่าว”
“คุณโทรมาหาผมเพราะอยากถามพรรค์นั้นอ่ะนะ?”
“ไม่..ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ฉันอยู่ในสหรัฐอเมริกาเหมือนกันฉันไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับยัยบ้าพัคจียอน รู้อะไรไหมฉันรู้สึกจุกจิกสุดๆ รําคาญยัยนั้นจนจะบ้าตายอยู่รอมร่อพวกเรา 2 คนไม่ถูกโฉลกกันจริงๆสินะ เฮ้อ…”
ซูฮยอนไม่แปลกใจ ว่าทําไมพวกเขา 2 คนถึงมาด้วยกันก่อนเดินทางมาสหรัฐอเมริกา เขาจําได้ขึ้นใจ ว่าซงฮย็องกิเป็นหนึ่งในสมาชิกโจมตีดันเจี้ยนระดับสีเขียวในประเทศเกาหลีบางที่จียอนอาจชวนเขาลงเรือลําเดียวกัน..
“เป็นการช่วยเหลือที่คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง” ซูฮยอนคิดใน
ผู้ช่วยเหลือ 2 คนที่ซูฮยอนคาดไม่ถึง คือ จอร์แดน และซงฮย็องกิ มีพวกเขาอยู่ทําให้ซูฮยอนรู้สึกปลอดภัยเบาใจมากขึ้น
“พัคจียอนวานให้ฉันมาถามนายว่า ตอนนี้พวกเราควรทําอะไรต่อ?”
“คุณรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องทํายังไง”ซูฮยอนเอ่ยภารกิจ ที่พวกเขาต้องทําช่างง่ายแสนง่าย
“ล้างผลาญทุกสรรพสิ่ง”
“เอ่อ…”
ซงฮย็องกิยิ้มมุมปาก
“ไม่มีปัญหา ตกลงตามนั้น”
ซงฮย็องกิพูดจบก็วางสายไป
ดูเหมือนซงฮย็องกิจะโทรมาหาเพื่อยืนยันเรื่องนี้โดยเฉพาะฟังจากน้ําเสียงก่อนวางสาย เจ้าตัวราวกับกําลังยิ้มอย่างมีความสุขเกี่ยวกับแผนการ เพราะแผนการที่ซูฮยอนมอบหมายให้ ปฏิบัติได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
รถแท็กซี่วิ่งกินลมตามถนนลาดยาง สักพักก็มาถึงจุดหมายซูฮยอนหยิบเงินจ่ายค่าโดยสารและก้าวลงจากรถ จุดหมายปลายทางที่รถแท็กซี่จอด คืออาคารพาณิชย์ความสูง 3 ชั้น ในละแวกใกล้ชายหาดในแคลิฟอร์เนีย อาคารแห่งนี้เด่นตระหง่านที่สุด
จอร์แดนเล่าในฟังว่า อาคารแห่งนี้ถูกเช่าโดยบริษัทเจ้าหนึ่งซึ่งประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์ขวดน้าดื่ม
“อาคารแห่งนี้สินะ ที่เขาบอกว่าเป็นของบริษัท…”ซูฮยอนคิดในใจ
ตุบ!! ตุบ!!
ซูฮยอนถือวิสาสะเดินเข้าไปในอาคารและเดินผ่านล็อบบี้ต้อนรับ เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาถูก สภาพโกโรโกโสแถมยังเดินตัวเปล่าเล่าเปลือย ไม่มีกระเป๋าห้อยติดตัวมาด้วยสักใบ
เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล จึงรีบวิ่งปรี่ประกบซูฮยอน
“เดี๋ยวคุณครับ ไม่ทราบว่าคุณมาติดต่ออะไรครับ? นัดล่วงหน้าไว้หรือป่าวครับ?”
ซูฮยอนกลับหันหลังมองหน้าเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยสายตาประสานกันและกัน สักพักเขาจึงเปิดปากเอ่ย
“ถ้าไม่เกี่ยวข้อง ถอยไปซะ”
วุป!! วุป!!
สกิลเพลิงพิโรธลุกโชติช่วงออกมาจากอณูรูขุมขนของซูฮยอน เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยตกใจสะดุ้งเฮือก เผลอก้าวถอยหลัง
“ผะผู้ตื่นขึ้น?”
“เขาเป็นผู้ตื่นขึ้น!!”
เมื่อซูฮยอนปลดปล่อยสกิลออกมากะทันหัน เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยหน้าล็อบบี้เอิกเกริกไปหมด
ซูฮยอนเลิกสนใจพวกเขาและหันไปสังเกตสถานที่รอบๆเขารู้สึกได้ว่ามีใครบางคน กําลังแอบจับตามองอยู่ในมุมมืด…
“อืม…ฉันเหยียบย่ําเป้าหมายถูกสินะ” ซูฮยอนคิด
เขารู้สึกแคลงใจเกี่ยวกับข้อมูลสําคัญที่ได้ฟังจากปากพยานอย่าง โคลอี้ และ แมครีเบอร์ ว่าเป็นความจริง หรือเป็นเพียงกลลวงแต่พอสัมผัสได้ถึงสายตาคมกล้าจากใครบางคนเหมือนข้อมูลที่ได้จะเป็นเรื่องจริง
“ทําไมถึงยังไม่หนีอีก? อย่าบอกนะว่าพวกคุณมีความเกี่ยวพันธ์กับกิลด์ดัมพ์? หากพวกคุณมีความเกี่ยวพันธ์แม้แพ้เศษเล็บคุณไม่มีทางหนีเอื้อมมือของผมพ้น ต่อให้หนีไปสุดขอบโลกผมก็จะตามล่าพวกคุณ”
“แกมีจุดประสงค์อะไร? อย่าบอกนะว่าแกคือผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรง?”เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยนายหนึ่งถามด้วยน้ําเสียงอื้ออึง
ขณะที่กําลังถามความเป็นมาของผู้บุกรุก หูพวกทุกคนได้ยินเสียงระเบิด
บอลเปลวเพลิง 1 ลูกลอยตัวขึ้นไปบนอากาศและระเบิดแตกตัวออกมาจากกัน สะเก็ดไฟและประกายไฟวิ่งริ้วตามแรงโน้มถ่วงโลกตกสู่ภาคพื้นดิน
“ถอนรากถอนโคนกิลด์ดัมพ์ให้สิ้นซาก”
สาเหตุที่ซูฮยอนลากสังขารมาเหยียบแผ่นดินอเมริกาคือการทําลายกิลด์ดัมพ์
“นั่นคือจุดประสงค์หลักของฉัน…”
ตูม!! ตูม!! ตูม!!
“และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชนวนสงคราม”
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ความหวาดกลัวต่อความหวาดกลัว กระต่อสู้ระหว่างกิลด์ดัมพ์และซูฮยอน เริ่มแย้มม่านขึ้น
MANGA DISCUSSION