การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 116
นิยาย การกลับมาของฮีโร่ ตอนที่ 116 ควอนจางฮยอกกลืนน้ําลายลงคอหลังจากได้ยินคําซักถามของซูฮยอน สํานักงานใหญ่ผู้ตื่นขึ้นป่าวประกาศชัดเจนห้ามใช้ยาเสพติดเบลนดิ้งบนโลกชั้นที่ 31 ขั้นเด็ดขาด แต่คําป่าวประกาศก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า วิธีการดังกล่าวไม่อาจยับยั้งยาเสพติดได้พ่อค้ายาเสพติดสาละวนขายยาให้ผู้เสพต่อเนื่องอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อไม่ได้ผลทางสํานักงานจึงมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ ท้ายที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถสกัดกั้นช่องทางยาเสพติดได้อยู่ดี นั่นจึงกลายเป็นเหตุผลทําไมคว็อนจางฮยอกจึงไม่ใส่ใจและไม่คิดว่าเบลนดั้งเป็นอันตราย แต่สถานการณ์ให้ปัจจุบันเปลี่ยนไป
แล้ว… “ไม่เพียงแต่นายจะติดการเสพ เบลน ดิ่ง ขึ้นสมองนายยังพัวพันขายของต้องห้ามให้กับตัวแทนจําหน่ายของเปโตรอีก..” ซูฮยอนมองหน้าคว็อนจางฮยอก เขาก้มตัวลงแล้วหยิบเบลดดิ้นจากพื้นขึ้นมาอย่างระมัดระวังและพูดต่อ “ตามกฎที่ออกมาล่าสุด ฉันสามารถทําโทษนายที่นี่ได้เลย” ความหนาวเย็นแล่นพล่านไปทั่วร่างกายของคว็อนจางฮยอก สํานักงานไม่มีทางยุ่มย่ามเรื่องบนชั้น ที่ 31 แน่นอน แต่กับคนตรงหน้ามันต่างออกไปซูฮยอนเป็นผู้ตื่นขึ้นมากความ สามารถและปัจจุบันเขายังอยู่บนชั้นที่ มิหนําซ้ําซูฮยอนยังรู้ด้วยว่าควอนจ างฮยอกเป็นใครมาจากไหน เพราะซูฮ ยอนทราบดีในประเทศเกาหลีใต้ มีพลเมืองชื่อควอนจางฮยอกอาศัยอยู่ในเมืองอันยังถ้าซูฮยอนส่งเรื่องให้ทาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขามีหวังโดนจับแหงๆ สถานการณ์ตอนนี้ควอนจางฮยอกติดอยู่ในกับดักอย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างมืด แปดด้าน ไร้หนทางหนี “คือว่า…”ควอนจางฮยอกพูดตะกุกตะกักพลางทําทางท่าน่าเห็นใจ “ให้ความร่วมมือกับฉันก็พอ” ซูฮยอนยิ้มย่องผ่องใส แต่ในทางกลับกันควอนจางฮยอกน้ําตานองหน้า หลังจากทั้งคู่เข้ามาในโรงเหล้าคว์อนจางฮยอกกระดกเบียร์ไม่หยุด เขารู้ สึกว่าปากของตัวเองแห้งผากอวัยวะภายในร่างกายแสบร้อน ซูฮยอนพูดขณะสายตามองดูอีกฝ่ายนั่งเคาะขวดเบียร์ “ไม่ต้องเกร็ง” “ขะ…เข้าใจแล้ว” ร่องรอยของความวิตกกังวลมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าฉายขึ้นบนใบหน้าคอนจางฮยอกดูเหมือนอีกฝ่ายจะกลัวซูฮยอนตราหน้าว่าตัวเขาเป็นผู้กระทําผิด “เอาล่ะ สรุปเรื่องที่นายเล่ามาและการ จับต้นชนปลายของฉัน”ซูฮยอนพยายามเรียบเรียงเนื้อหา ควอนจางฮยอกนั่งหลังตรงและนึก ย้อนกลับไปถึงคําพูดเมื่อครู่ที่เล่าให้ซูฮยอนฟัง “นายเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวถูกต้องไหม?” “ถูกต้อง” “นายไม่เกี่ยวข้องกับเปโตรโดยตรง หน้าที่ของนายคือนําของไปส่งมอบให้กับลูกค้าหลังจากทํางานเสร็จเรียบร้อย นายจะได้รับส่วนแบ่งเบลนดิ้งเป็นค่าตอบแทนสินะ” “ประมาณนั้น” “หมายความว่ามีผู้ตื่นขึ้นจํานวนหนึ่งได้เสพเบลนดิ้งฟรีๆทั้งๆที่ตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับเปโตรเหมือนนายด้วย?” “นายพูดถูก และพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับเปโตรอย่างลึกซึ้งเลยสักคน” “อืม…” “ฉันพูดด้วยความสัตย์จริงฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเบื้องลึกจริงๆนะ” “ไม่ว่านายจะเกี่ยวข้องหรือเปล่าไม่ใช่ประเด็นสําคัญพอมาคิดดูดีๆฉันควรส่งตัวนายให้ทางสํานักงานดีไหม?” “อย่านะ ฉันสํานึกผิดแล้ว” ซูฮยอนเมินเฉยต่อกิริยาควอนจางฮยอกเขาใช้นิ้วมือเคาะโต๊ะเป็นจังหวะพลางส่งเสียงอึมงํา <<ทําไมคนอย่างเปโตรถึงยอมลดตัว ลงมาสุงสิงกับชายแหลกเหลวพรรค์นี้ด้วยหนอ?>> สําหรับเปโตรชั้นที่ 31 เขาเป็นเหมือ นพระเจ้าจะดลบันดาลอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาดังนั้นเขาไม่มีทางลดตัวไปพบหน้าคนอ่อนหัดที่สามารถไต่มาถึงชั้นที่ 31 โดยเลือกความยากระดับที่ 1 เป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน “เอ่อคือว่า…จะเป็นอะไรไหม หากฉันอยากถามว่าเบลนดิ้งมันผิดปกติตรงไหน”ควอนจางฮยอกถาม “นายเป็นคนเสพเองกับตัวยังไม่รู้อีกเหรอ?” “เอ๊ะ? เรื่องอะไรกัน?” “เฮ้อช่วยไม่ได้จะอธิบายให้ฟังก็แล้วกันเมื่อไม่นานมานี้เบลนดิ้ง เริ่มแทรก ซึมบนแผ่นดินสหราชอาณาจักรไม่ใช่แค่สหราชอาณาจักรเท่านั้น ประเทศทั่วโลกก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน”ซูฮยอน เงื้อมือออกไปหยิบเบลนดิ้งที่คว็อนจางฮยอกแบกไว้ออกมาและกล่าวต่อ“เบลนดิ้งทั้งหมดถูกลักลอบนําออกจากที่นี่โดยใช้คะแนนความสําเร็จเป็นสกุลเงินซื้อขายสาเหตุที่ยาเสพติดไปโผล่บน แผ่นดินสหราชอาณาจักรได้นั้นเพราะใบสินทรัพย์ต่างมิติ สิ่งของที่หลุดออก ไปจากที่นี่ ไปจบอยู่บนฝ่ามือผู้มั่งคั่งในโลกชั้นที่ 31 อาจมองว่าเป็นแค่หญ้าธรรมดาแต่สําหรับพวกเขา…” “พวกเขาคงคิดประมาณว่าตัวเองกํา ลังได้เสพสุขสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ตื่นขึ้นเท่านั้นใช่ไหม?” “นายก็ฉลาดเหมือนกันนินึกว่าโง่จนกู้ ไม่กลับเสียอีก”ซูฮยอนผงกหัว “สําหรับพวกเขาสิ่งเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับใช้เงินซื้อสิทธิพิเศษ เพื่อให้ตัวเองลิ้มลองความรู้สึกเลิศล้ําเหมือนผู้ตื่นขึ้น สักครั้งในชีวิตส่วนยาเสพติดเป็นเพียงของแถมแต่ปัญหาที่แท้จริงของการ ลักลอบนําของออกมาขายโลกภายนอกคือการสูญเสียคะแนนความสําเร็จไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง” ใบสินทรัพย์ต่างมิติ หนึ่งใบมีค่าใช้ จ่ายอยู่ที่ 50,000 คะแนน
สําหรับซูฮยอนในปัจจุบันราคาใบส นทรัพย์ต่างมิติเป็นเรื่องขี้ประจิ๋วแต่สําหรับผู้ตื่นขึ้นที่พึ่งไปถึงชั้นที่ 31 ถือว่าเป็นคะแนนความสําเร็จที่มีมูลค่ามหาศาล จํานวนคะแนนความสําเร็จที่เสียไปกับ การลักลอบขนเบลนดิ้ง ออกมาสู่โลกภายนอกมีมูลค่าสูงถึงพันล้าน… “ที่สําคัญที่สุดมีผู้ตื่นขึ้นจํานวนมากนัก หลักอยู่บนชั้นที่ 31 ถาวร เพราะเบลนดิ่งโดยเฉพาะซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นประเด็นที่ปล่อยทิ้งคาราคาซังไม่ได้แม่ในตอนนี้จํานวนผู้ตื่นขึ้นที่ตัดสินใจอยู่บนชั้นที่ 31 จะมีไม่เยอะมากแต่การดํารงอยู่ของเบลนดิ้งในอนาค ตอันใกล้เบลนดิ้งจะกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นผลสุดท้ายจํานวนผู้ตื่นขึ้นที่ตัดสินใจอาศัยอยู่บนชั้นที่ 31 จะค่อยๆเพิ่มขึ้น ในปีพ.ศ. 2021 มีผู้ตื่นขึ้นอัตราส่วน 1 ต่อ 10 ตัดสินใจเลือกอยู่บนชั้นที่ 31 อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปในอนาคต จาก 1 ต่อ 10 เปลี่ยนเป็น 5 ต่อ 10 พวกเขาหันหน้าหนีโลกแห่งความจริง และเลือกใช้ชีวิตอยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบเพื่อใช้เวลาเสพยาอย่างเต็มที่ หากไม่มียาเสพติดตัวนี้ผู้ตื่นขึ้นคงไม่ตัดสินใจปักหลักอยู่บนชั้นที่ 31 และคะแนนความสําเร็จหลายพันล้านคงไม่สูญเปล่าไปกับเรื่องไร้สาระการคงอยู่ของเบลนดิ้งอธิบายอีกนัยหนึ่งคือมันเป็ นอุปสรรคชิ้นใหญ่ต่อมนุษย์ชาติ ที่สําคัญที่สุด…… <<เปโตร ไอ้เจ้าบ้านั่นเป็นตัวปัญหา อย่างแท้จริง>> เบลนดิ้ง แปรรูปมาจากหญ้าชนิดหนึ่ง ซึ่งพบเจอได้ทั่วไปบนชั้นที่ 31 ทว่าเปโตรใช้ข้อได้เปรียบนั้นเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเขาสร้างเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ขึ้นจนปัจจุบันการใช้เบลนดิ้ง เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ นอกจากเปโตรจะทําเบลนดิ้งไว้เสพเองแล้วเขายังแจกจ่ายและขายให้กับลูกค้าที่สนใจเพื่อสนองต้องการของตนเองและเงินตรา สายตาซูฮยอนเปลี่ยนไปจ้องมองเบลนดิ้งที่ห่อด้วยผ้าสีขาววางกองไว้อยู่บนโต๊ะ เขาทําท่าครุ่นคิดอะไรสักอย่างก่อนพูดขึ้น “ของกลางพวกนี้ ฉันจะยึดเอาไว้” “เอ๊ะ?” “ เอ๊ะ” ของนายหมายความว่าไงหา?นายคิดว่าฉันจะยอมอะลุ่มอล่วย ให้นาย เสพสุขกับยาพวกนี้ต่อไปงั้นเหรอ” “หากนายยึดของไปฉันก็แย่สิ” “อย่ากังวลฉันมีงานอย่างอื่นให้นาย ทํา”ซูฮยอนมีความคิดดีๆเด้งขึ้นมาในหัว เขาหยิบของกลางขึ้นมาหนึ่งห่อแล้วส่งให้คว็อนจางฮยอก “จากนี้ไป ฉันอยากให้นายช่วยโฆษณาชื่อของฉันให้หน่อย” ซูฮยอนยิ้มมุมปากและมองไปยังดวงตาของควอนจางฮยอกที่กําลังสั่นกลัว เปโตร ราชาผู้ปกครองโลกชั้นที่ 31
ไม่สิ ต้องบอกว่าเขาใช้ชีวิตเยี่ยงขัตติยมานะถึงจะเหมาะสมกว่า เงินสาวงามยาเสพติดและลูกน้องที่บูชาเขาประดุจพระเจ้า การใช้ชีวิตเฉกเช่นเขาเป็นความฝันของใครหลายๆคน
ภายในที่พักซึ่งตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในเมืองเปโตรนอนเอนหลังอยู่แถวสวนหญ้าหน้าบ้านและจุดไฟก่อนหยิบเบลนดิ้งเอาไปอังไฟเมื่อควันสีขาวลอยฟังออกมาเขาสูบควันสีขาวเข้าไปเต็มปอด ไม่นานการมองเห็นก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองอ่อนโลกทั้งใบเหมือนตกอยู่ในความฝันนุ่มละมุนราวกับว่าตัวเขาปล่อยใจให้ไหลไปตามเกลียวคลื่นแห่งความมึนเมาอย่างเพลิดเพลิน “ฟู…” เขากลั่นควันเอาไว้ในปอดสักพักสัมผัสรสชาติของมันแล้วพ่นออกมาจาก ปาก เปโตรค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งแวดล้อมทุกอย่างกลายเป็นสีเหลืองทั้งหมดด้านหลังของเขามีชายร่างบึกบินเปลือยท่อนบน ผมสีเหลืองนัยน์ตาสีเหลืองนอนหงายท้องอยู่บนพื้น เปโตรหยิบเบลนดิ้งม้วนสําเร็จรูปขึ้นมาโบกสะบัดใกล้ดวงตาและบ่นพึมพํา “น่าเสียดายที่ฤทธิ์ของมันอ่อนไปหน่อย” ร่างกายของเขาเริ่มมีการต่อต้านเบลนติ้งมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปฤทธิ์ยาจึงมีผลกระทบต่อเขาน้อยลงเรื่อยๆแม้อาการกระสันยายังคงอยู่แต่ความรู้สึกพึงพอใจหลังจากสูบยาไม่เหมือนกับในอดีต อีกต่อไป เปโตรรีบผุดลุกจากที่นั่งเพราะมีแขกหน้าใหม่วิ่งปร์อเข้ามาหา “มีอะไร?”เขาถามพลางยกมือถอดแว่นกันแดดออก แขกที่มาใหม่เป็นเพื่อนคนสนิทของ เขาซึ่งคบหากันมาเนิ่นนาน ชื่อ ลุกค์ อีกฝ่ายมองดูเปโตรหยิบเบลนดิ้งม้วนใหม่ขึ้นมาและปริปากซักถาม “พักหลังๆนายชักจะใช้พวกมันบ่อยเกินไปแล้วนะรู้ตัวไหม?” “ใครสนกันล่ะยาตัวนี้หาง่ายจะตาย” “เบลนดิ้งออกฤทธิ์โดยการดูดกลืนพลังงานในร่างกายของผู้ใช้ หากนายยังเอาแต่สูบมันไป…” “พอซักที มาถึงก็รู้จี้จุกจิกฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าจะปักหลักอยู่ที่นี่ไม่ขึ้นไปชั้นถัดไปต่อให้พลังงานหายหมดก็ช่างหัวมันสิ” เปโตรเขม็งมองลุกค์ด้วยสายตาเดือดดาล การบ่นกระปอดกระแปดใช้ไม่ได้ผลกับเปโตรมาตั้งแต่แรกถ้าการบ่นของลุกค์ใช้ได้ผลจริงๆป่านนี้เปโตรคงหันหลังให้ยาได้นานแล้ว ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากเปโตรลองใช้เบลนดิ้งเขาก็ถอนตัวไม่ขึ้น ลุกค์ถอยหายใจอย่างเอือมระอาและตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “2-3 วันที่ผ่านมามีคนขโมยเบลนดิ้งที่จัดเตรียมไว้ส่งออกนายได้ยินข่าวหรือยัง?” “ได้ยินสิ อย่าให้รู้นะว่าเป็นใครจะกระทืบให้ตายเลยคอยดู” เปโตรเปล่งเสียงกรนมาทางจมูกอย่างเกรี้ยวกราด แค่หนึ่งคําพูดของเขาสามรถปล กระดมผู้ตื่นขึ้นในชั้นที่ 31 ได้อย่างน้อย1000 คนแต่กลับมีไอ้ปัญหาอ่อนไม่รู้จักหัวนอนปลายตีนกล้ากระตุกหนวดเสือโดยการขโมยเบลนดิ้งของเขาไปอย่างไม่เกรงกลัวแถมยังทําโจ่งแจ้งภายในอาณาเขตของเขาอีก.. “ตัวแทนจําหน่ายหน้าใหม่ของเราผู้ตื่นขึ้นชาวเกาหลีชื่อควอนจางฮยอกมาหาฉันเป็นการส่วนตัวเขานําข้อมูลสําคัญมาบอก”
“ข้อมูลอะไร?” “เขาบอกว่า รู้ว่าใครเป็นคนร้ายขโมยเบลนดิ้งไปจากพวกเรา” “จริงเหรอ? ไอ้ลูกกะหรี่นั่นเป็นใคร?” “คิมซูฮยอน ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ประจําเกาหลีใต้ ขณะกําลังฟังคํารายงานจากลุกค์เปโตรสวมใส่เสื้อเชิ้ตเรียบง่าย แว่นกันแดดเหน็บเก็บไว้บนหัว เพราะฤทธิ์ยาเบลนดิ้งส่งผลกระทบต่อระบบประสาททําให้เขามีอาการมึนเมาจนกระทั่งเมื่อครู่ร่างกายของเขาอ่อนเปลี้ยไปอย่างกะทันหันเพราะได้รับฟังเรื่องที่น่าใจหายต่อให้คนใกล้ตาย หาก ได้ยิน ยังต้องฝืนกระเด้งตัวขึ้นมารับฟัง “นายบอกว่าใครนะ”เปโตรถาม “หูของนายยังปกติดีอยู่ไหม? ตั้งใจฟังให้ดีๆ ฉันบอกว่าคนร้ายตัวจริงก็คือคิมซูอยอนตอนนี้เขาอยู่บนชั้นที่ 31” “ไม่ใช่เรื่องนั้นฉันแค่แคลงใจทําไมไอ้เวรถึงหยุดอยู่ที่นี่ปกติเขาต้องพากเพียรปีนป่ายหอคอยอย่างไม่หยุดพักไม่ใช่เหรอไง” “ใครจะไปรู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจซูฮยอนให้ความสนใจเบลนดิ้ง ซึ่งอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเรา “พ่อมันถอะ…” เปโตรเคยได้ยินข่าวมาว่าซูฮยอนไต่มาถึงชั้นที่ 31 แต่เขาไม่ได้สนใจมันมากขนาดนั้น เมื่อไม่นานนี้มีผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S คนหนี้งมาถึงชั้นที่ 31 ด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่ได้หยุดพัก เขาเลือกท้าทายการทดสอบ ต่อไปทันที โดยไม่สนใจว่าสภาพแวดล้อมบนโลกชั้นที่ 31 จะเป็นยังไง แต่ไอ้เวรนี่เสือกเลือกหยุดพักอยู่ชั้นที่ 31 “เขาให้ความสนใจเบลนดิ้งแสดงว่าเขาคงรับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของเจ้าสิ่งนั้นแล้วสินะ”เปโตรถาม “น่าจะใช่” “ไอ้ชั่วนั่น แสร้งวางท่าเป็นอัศวินประกายแสงแต่สุดท้ายพฤติกรรมของมันก็ไม่ต่างอะไรกับหัวขโมย” ซูฮยอนกล้าแย่งชิงเบลนดิ้งอย่างโจ่งแจ้งหมายความว่าอีกฝ่ายพยายามเชิดของและไม่ยอมจ่ายเงินค่าสินค้า “พวกเราจะทําอะไรต่อ? สอดแนมเขาเงียบๆ หรือส่งคนไปเจรจากับเขาโดยเสนอเบลนดิ้งจํานวนหนึ่งให้?”ลุกค์ถาม “นายบ้าไปแล้วหรือไง?” คําแนะนําของลุกค์ทําให้การแสดงออกของเปโตรดูน่าเกลียด “ในเมื่อมันกล้ามากระตุกหนวดของฉันฉันจะเล่นกับมันด้วย” “พวกเขาบอกฉันเท่านี้” ควอนจางฮยอกรีบมาแจ้งข่าวจากคนระดับสูงให้ซูฮยอนรับทราบ คําสั่งที่ ออกมาใหม่ล่าสุดคือใครก็ตามหากพบเห็นซูฮยอนต้องจับตาดูอีกฝ่ายเอาไว้อย่าให้คลาดสายตารอจนกว่าพรรคพวกคนอื่นๆจะตามมาสมทบ.. “พวกเขาต้องการให้นายจับตาดูฉันไว้งั้นเหรอ?” ซูฮยอนถามกลับ “ใช่ เหมือนพวกเขากําลังตามล่าตัวนายอยู่คุณชายซูฮยอน” ควอนจางฮยอกเป็นแค่คนสํามะเลเทเมาเขาทํางานให้เปโตรเพราะต้องการเบลนดิ้งเท่านั้น แต่คําสั่งที่ออกมาใหม่เปโตรต้องการให้คนในองค์กรจับตาดูซูฮยอนเอาไว้เนี่ยนะมันเป็นคําสั่งเฉดหัวให้ไปตายชักๆ แน่นอนว่าการตายของลูกกะโล่ คนระ ดับสูงคงไม่สนใจใยดี “อย่างนี้นี่เอง พวกเขาอยากได้ตัวฉันจ ริงๆด้วย”ซูฮยอนบ่นพึมพําและยิ้มกริ่มภายใต้รอยยิ้มมีเลศนัยบางอย่างแฝงไว้ เมื่อควอนจางฮยอกเห็นรอยยิ้มของ ซูฮยอน เขารู้สึกใจคอไม่ดีแปลกๆเนื้อตัวเริ่มเย็นเฉียบ “คุณชายวางจะทําอะไรต่อไป?” “นายช่วยคาบข่าวไปบอกพวกเขาห น่อย” “บอกว่าอะไร? “นายไปแจ้งข่าวให้พวกเขาทราบ ฉัน จะนั่งรออยู่ตรงนี้ พอพวกเขาทราบเดี๋ยวพวกเขาก็มาหาฉันเองแหละ”
ทั้ง 2 คนนั่งพูดคุยกันอยู่ในโรงเหล้า นอกจากอาหารเรียบง่ายและชาล้างคอจนถึงตอนนี้พวกเขาไม่ได้สั่งเมนูใหม่ เพิ่มเลย ขนาดพวกเขานั่งแช่กันอยู่นานมากก็ไม่มีใครสนใจ “นายบ้าไปแล้วหรือไง? คิดปะทะกับ พวกเขาซึ่งๆหน้า โดยไร้แผนการเนี่ยนะ?” “จะกังวลอะไร หากฉันพลาดตายขึ้น มา สุดท้ายมันก็เป็นผลดีกับนายไม่ใช่เหรอ?” “เอ๊ะ?” “เรื่องของนาย ไม่ว่าจะเรื่องการเป็นตัว แทนขายเบลนดิ้งหรืออาศัยอยู่ในเมืองอันยังฉันไม่เคยพูดให้ใครฟังเลยแม้แต่ คนเดียว” หัวสมองของคว็อนจางฮยอกหมุน ประมวลผลคําพูดของซูฮยอน ในกรณีนี้หมายความว่า… “ถ้าฉันตกตาย เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับ นายจะหายวับไปกับอากาศ ไม่ล่วงรู้ไปถึงหูผู้อื่น” นี่คือฉากจบที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง สําหรับคว็อนจางฮยอก สมมุติเหตุการณ์ลงเอยอย่างที่ว่าจริงๆเขาก็สามารถใช้ชีวิ ตอยู่ในชั้นที่ 31 ได้อย่างสบายใจพร้อมเสพสุข เบลนดิ้ง ได้ตามต้องการ “ในเมื่อเข้าใจก็รีบไปได้แล้ว หากพลาดโอกาสนี้ นายคงต้องใช้สมองคิดให้หนักขึ้นเพื่อหาฆ่าฉันให้ได้” “รับทราบครับ คุณชาย” ทันทีที่ซูฮยอนพูดจบควอนจางฮยอกผลักเก้าอี้ไปข้างหลังและลุกขึ้นยืนก่อนวิ่งพรวดออกไปจากโรงเหล้าอย่างเร่งเรีบและมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่เขาคิดไว้ในใจ แม้ควอนจางฮยอกจะมาถึงชั้นที่ 31 โดยเลือกความยากระดับที่ 1 แต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ตื่นขึ้นคนหนึ่งดังนั้นความเร็ว ของเขาจึงเร็วกว่าคนปกติ ซูฮยอนใช้หลังพิงเก้าอี้และเพลิดเพลินไปกับรสชาติของชาด้วยท่าทางผ่อนคลาย <<ฉันอยากรู้จัง พวกเขาจะมาหาฉันตอนไหนกันนะ?>> สิบนาที ยี่สิบนาทีคงไม่พอสําหรับเตรียมการ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเปโตรต้องใช้เวลาสักพักในการเรียกรวมพลผู้ตื่นขึ้นจํานวนมากเพื่อต่อกรกับผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S อย่างไรก็ตามการเรียกรวมพลไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแม้จะเป็นตัวเปโตรก็ตาม ซูฮยอนหวังลึกๆในใจอยากให้เปโตรเลือกวิธีเจรจามากกว่าหากเป็นเช่นนั้นมันสามารถย่นระยะทางที่ห่างไกลให้สั้นลงและการเผชิญหน้าระหว่างเขากับเปโตรจะได้เร็วขึ้น แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเลือกทางไหนก็ไม่สําคัญสําหรับเขา <<ไม่ช้าก็เร็ว ฉันก็ต้องเจอหน้าอีกฝ่ายอยู่ดี>> ซูฮยอนไม่จําเป็นต้องขยับร่างกายให้เปลืองเรี่ยวแรงเขามีหน้าที่แค่นั่งคอยอย่างอดทนและรอให้แขกเดินมาหาด้วยตนเอง หลังจากควอนจางฮยอกวิ่งออกไปได้ไม่นานมีผู้ตื่นขึ้นจํานวนหลายร้อยคนรวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อนแออัดอยู่บริเวณด้านนอกโรงเหล้าซึ่งด้านในซูฮยอนกําลังนั่งจิบชารออย่างสําราญใจ
นิยาย การกลับมาของฮีโร่
ตอนที่ 116
ควอนจางฮยอกกลืนน้ําลายลงคอหลังจากได้ยินคําซักถามของซูฮยอน
สํานักงานใหญ่ผู้ตื่นขึ้นป่าวประกาศชัดเจนห้ามใช้ยาเสพติดเบลนดิ้งบนโลกชั้นที่ 31 ขั้นเด็ดขาด
แต่คําป่าวประกาศก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า วิธีการดังกล่าวไม่อาจยับยั้งยาเสพติดได้พ่อค้ายาเสพติดสาละวนขายยาให้ผู้เสพต่อเนื่องอย่างไม่เกรงกลัว
เมื่อไม่ได้ผลทางสํานักงานจึงมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ ท้ายที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถสกัดกั้นช่องทางยาเสพติดได้อยู่ดี
นั่นจึงกลายเป็นเหตุผลทําไมคว็อนจางฮยอกจึงไม่ใส่ใจและไม่คิดว่าเบลนดั้งเป็นอันตราย
แต่สถานการณ์ให้ปัจจุบันเปลี่ยนไป
แล้ว…
“ไม่เพียงแต่นายจะติดการเสพ เบลน ดิ่ง ขึ้นสมองนายยังพัวพันขายของต้องห้ามให้กับตัวแทนจําหน่ายของเปโตรอีก..” ซูฮยอนมองหน้าคว็อนจางฮยอก
เขาก้มตัวลงแล้วหยิบเบลดดิ้นจากพื้นขึ้นมาอย่างระมัดระวังและพูดต่อ
“ตามกฎที่ออกมาล่าสุด ฉันสามารถทําโทษนายที่นี่ได้เลย”
ความหนาวเย็นแล่นพล่านไปทั่วร่างกายของคว็อนจางฮยอก
สํานักงานไม่มีทางยุ่มย่ามเรื่องบนชั้น ที่ 31 แน่นอน แต่กับคนตรงหน้ามันต่างออกไปซูฮยอนเป็นผู้ตื่นขึ้นมากความ สามารถและปัจจุบันเขายังอยู่บนชั้นที่
มิหนําซ้ําซูฮยอนยังรู้ด้วยว่าควอนจ างฮยอกเป็นใครมาจากไหน เพราะซูฮ ยอนทราบดีในประเทศเกาหลีใต้ มีพลเมืองชื่อควอนจางฮยอกอาศัยอยู่ในเมืองอันยังถ้าซูฮยอนส่งเรื่องให้ทาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขามีหวังโดนจับแหงๆ
สถานการณ์ตอนนี้ควอนจางฮยอกติดอยู่ในกับดักอย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างมืด แปดด้าน ไร้หนทางหนี
“คือว่า…”ควอนจางฮยอกพูดตะกุกตะกักพลางทําทางท่าน่าเห็นใจ
“ให้ความร่วมมือกับฉันก็พอ”
ซูฮยอนยิ้มย่องผ่องใส แต่ในทางกลับกันควอนจางฮยอกน้ําตานองหน้า
หลังจากทั้งคู่เข้ามาในโรงเหล้าคว์อนจางฮยอกกระดกเบียร์ไม่หยุด เขารู้ สึกว่าปากของตัวเองแห้งผากอวัยวะภายในร่างกายแสบร้อน
ซูฮยอนพูดขณะสายตามองดูอีกฝ่ายนั่งเคาะขวดเบียร์ “ไม่ต้องเกร็ง”
“ขะ…เข้าใจแล้ว”
ร่องรอยของความวิตกกังวลมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าฉายขึ้นบนใบหน้าคอนจางฮยอกดูเหมือนอีกฝ่ายจะกลัวซูฮยอนตราหน้าว่าตัวเขาเป็นผู้กระทําผิด
“เอาล่ะ สรุปเรื่องที่นายเล่ามาและการ จับต้นชนปลายของฉัน”ซูฮยอนพยายามเรียบเรียงเนื้อหา
ควอนจางฮยอกนั่งหลังตรงและนึก ย้อนกลับไปถึงคําพูดเมื่อครู่ที่เล่าให้ซูฮยอนฟัง
“นายเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวถูกต้องไหม?”
“ถูกต้อง”
“นายไม่เกี่ยวข้องกับเปโตรโดยตรง หน้าที่ของนายคือนําของไปส่งมอบให้กับลูกค้าหลังจากทํางานเสร็จเรียบร้อย นายจะได้รับส่วนแบ่งเบลนดิ้งเป็นค่าตอบแทนสินะ”
“ประมาณนั้น”
“หมายความว่ามีผู้ตื่นขึ้นจํานวนหนึ่งได้เสพเบลนดิ้งฟรีๆทั้งๆที่ตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับเปโตรเหมือนนายด้วย?”
“นายพูดถูก และพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับเปโตรอย่างลึกซึ้งเลยสักคน”
“อืม…”
“ฉันพูดด้วยความสัตย์จริงฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเบื้องลึกจริงๆนะ”
“ไม่ว่านายจะเกี่ยวข้องหรือเปล่าไม่ใช่ประเด็นสําคัญพอมาคิดดูดีๆฉันควรส่งตัวนายให้ทางสํานักงานดีไหม?”
“อย่านะ ฉันสํานึกผิดแล้ว”
ซูฮยอนเมินเฉยต่อกิริยาควอนจางฮยอกเขาใช้นิ้วมือเคาะโต๊ะเป็นจังหวะพลางส่งเสียงอึมงํา
<<ทําไมคนอย่างเปโตรถึงยอมลดตัว ลงมาสุงสิงกับชายแหลกเหลวพรรค์นี้ด้วยหนอ?>>
สําหรับเปโตรชั้นที่ 31 เขาเป็นเหมือ นพระเจ้าจะดลบันดาลอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาดังนั้นเขาไม่มีทางลดตัวไปพบหน้าคนอ่อนหัดที่สามารถไต่มาถึงชั้นที่ 31 โดยเลือกความยากระดับที่ 1 เป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน
“เอ่อคือว่า…จะเป็นอะไรไหม หากฉันอยากถามว่าเบลนดิ้งมันผิดปกติตรงไหน”ควอนจางฮยอกถาม
“นายเป็นคนเสพเองกับตัวยังไม่รู้อีกเหรอ?”
“เอ๊ะ? เรื่องอะไรกัน?”
“เฮ้อช่วยไม่ได้จะอธิบายให้ฟังก็แล้วกันเมื่อไม่นานมานี้เบลนดิ้ง เริ่มแทรก ซึมบนแผ่นดินสหราชอาณาจักรไม่ใช่แค่สหราชอาณาจักรเท่านั้น ประเทศทั่วโลกก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน”ซูฮยอน เงื้อมือออกไปหยิบเบลนดิ้งที่คว็อนจางฮยอกแบกไว้ออกมาและกล่าวต่อ“เบลนดิ้งทั้งหมดถูกลักลอบนําออกจากที่นี่โดยใช้คะแนนความสําเร็จเป็นสกุลเงินซื้อขายสาเหตุที่ยาเสพติดไปโผล่บน แผ่นดินสหราชอาณาจักรได้นั้นเพราะใบสินทรัพย์ต่างมิติ สิ่งของที่หลุดออก ไปจากที่นี่ ไปจบอยู่บนฝ่ามือผู้มั่งคั่งในโลกชั้นที่ 31 อาจมองว่าเป็นแค่หญ้าธรรมดาแต่สําหรับพวกเขา…”
“พวกเขาคงคิดประมาณว่าตัวเองกํา ลังได้เสพสุขสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ตื่นขึ้นเท่านั้นใช่ไหม?”
“นายก็ฉลาดเหมือนกันนินึกว่าโง่จนกู้ ไม่กลับเสียอีก”ซูฮยอนผงกหัว
“สําหรับพวกเขาสิ่งเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับใช้เงินซื้อสิทธิพิเศษ เพื่อให้ตัวเองลิ้มลองความรู้สึกเลิศล้ําเหมือนผู้ตื่นขึ้น สักครั้งในชีวิตส่วนยาเสพติดเป็นเพียงของแถมแต่ปัญหาที่แท้จริงของการ ลักลอบนําของออกมาขายโลกภายนอกคือการสูญเสียคะแนนความสําเร็จไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
ใบสินทรัพย์ต่างมิติ หนึ่งใบมีค่าใช้ จ่ายอยู่ที่ 50,000 คะแนน
สําหรับซูฮยอนในปัจจุบันราคาใบส นทรัพย์ต่างมิติเป็นเรื่องขี้ประจิ๋วแต่สําหรับผู้ตื่นขึ้นที่พึ่งไปถึงชั้นที่ 31 ถือว่าเป็นคะแนนความสําเร็จที่มีมูลค่ามหาศาล
จํานวนคะแนนความสําเร็จที่เสียไปกับ การลักลอบขนเบลนดิ้ง ออกมาสู่โลกภายนอกมีมูลค่าสูงถึงพันล้าน…
“ที่สําคัญที่สุดมีผู้ตื่นขึ้นจํานวนมากนัก หลักอยู่บนชั้นที่ 31 ถาวร เพราะเบลนดิ่งโดยเฉพาะซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นประเด็นที่ปล่อยทิ้งคาราคาซังไม่ได้แม่ในตอนนี้จํานวนผู้ตื่นขึ้นที่ตัดสินใจอยู่บนชั้นที่ 31 จะมีไม่เยอะมากแต่การดํารงอยู่ของเบลนดิ้งในอนาค ตอันใกล้เบลนดิ้งจะกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นผลสุดท้ายจํานวนผู้ตื่นขึ้นที่ตัดสินใจอาศัยอยู่บนชั้นที่ 31 จะค่อยๆเพิ่มขึ้น
ในปีพ.ศ. 2021 มีผู้ตื่นขึ้นอัตราส่วน 1 ต่อ 10 ตัดสินใจเลือกอยู่บนชั้นที่ 31
อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปในอนาคต จาก 1 ต่อ 10 เปลี่ยนเป็น 5 ต่อ 10
พวกเขาหันหน้าหนีโลกแห่งความจริง และเลือกใช้ชีวิตอยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบเพื่อใช้เวลาเสพยาอย่างเต็มที่
หากไม่มียาเสพติดตัวนี้ผู้ตื่นขึ้นคงไม่ตัดสินใจปักหลักอยู่บนชั้นที่ 31 และคะแนนความสําเร็จหลายพันล้านคงไม่สูญเปล่าไปกับเรื่องไร้สาระการคงอยู่ของเบลนดิ้งอธิบายอีกนัยหนึ่งคือมันเป็ นอุปสรรคชิ้นใหญ่ต่อมนุษย์ชาติ
ที่สําคัญที่สุด……
<<เปโตร ไอ้เจ้าบ้านั่นเป็นตัวปัญหา อย่างแท้จริง>>
เบลนดิ้ง แปรรูปมาจากหญ้าชนิดหนึ่ง ซึ่งพบเจอได้ทั่วไปบนชั้นที่ 31 ทว่าเปโตรใช้ข้อได้เปรียบนั้นเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเขาสร้างเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ขึ้นจนปัจจุบันการใช้เบลนดิ้ง เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ
นอกจากเปโตรจะทําเบลนดิ้งไว้เสพเองแล้วเขายังแจกจ่ายและขายให้กับลูกค้าที่สนใจเพื่อสนองต้องการของตนเองและเงินตรา
สายตาซูฮยอนเปลี่ยนไปจ้องมองเบลนดิ้งที่ห่อด้วยผ้าสีขาววางกองไว้อยู่บนโต๊ะ
เขาทําท่าครุ่นคิดอะไรสักอย่างก่อนพูดขึ้น
“ของกลางพวกนี้ ฉันจะยึดเอาไว้”
“เอ๊ะ?”
“ เอ๊ะ” ของนายหมายความว่าไงหา?นายคิดว่าฉันจะยอมอะลุ่มอล่วย ให้นาย เสพสุขกับยาพวกนี้ต่อไปงั้นเหรอ”
“หากนายยึดของไปฉันก็แย่สิ”
“อย่ากังวลฉันมีงานอย่างอื่นให้นาย ทํา”ซูฮยอนมีความคิดดีๆเด้งขึ้นมาในหัว
เขาหยิบของกลางขึ้นมาหนึ่งห่อแล้วส่งให้คว็อนจางฮยอก
“จากนี้ไป ฉันอยากให้นายช่วยโฆษณาชื่อของฉันให้หน่อย”
ซูฮยอนยิ้มมุมปากและมองไปยังดวงตาของควอนจางฮยอกที่กําลังสั่นกลัว
เปโตร ราชาผู้ปกครองโลกชั้นที่ 31
ไม่สิ ต้องบอกว่าเขาใช้ชีวิตเยี่ยงขัตติยมานะถึงจะเหมาะสมกว่า เงินสาวงามยาเสพติดและลูกน้องที่บูชาเขาประดุจพระเจ้า
การใช้ชีวิตเฉกเช่นเขาเป็นความฝันของใครหลายๆคน
ภายในที่พักซึ่งตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในเมืองเปโตรนอนเอนหลังอยู่แถวสวนหญ้าหน้าบ้านและจุดไฟก่อนหยิบเบลนดิ้งเอาไปอังไฟเมื่อควันสีขาวลอยฟังออกมาเขาสูบควันสีขาวเข้าไปเต็มปอด
ไม่นานการมองเห็นก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองอ่อนโลกทั้งใบเหมือนตกอยู่ในความฝันนุ่มละมุนราวกับว่าตัวเขาปล่อยใจให้ไหลไปตามเกลียวคลื่นแห่งความมึนเมาอย่างเพลิดเพลิน
“ฟู…”
เขากลั่นควันเอาไว้ในปอดสักพักสัมผัสรสชาติของมันแล้วพ่นออกมาจาก ปาก
เปโตรค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งแวดล้อมทุกอย่างกลายเป็นสีเหลืองทั้งหมดด้านหลังของเขามีชายร่างบึกบินเปลือยท่อนบน ผมสีเหลืองนัยน์ตาสีเหลืองนอนหงายท้องอยู่บนพื้น
เปโตรหยิบเบลนดิ้งม้วนสําเร็จรูปขึ้นมาโบกสะบัดใกล้ดวงตาและบ่นพึมพํา
“น่าเสียดายที่ฤทธิ์ของมันอ่อนไปหน่อย”
ร่างกายของเขาเริ่มมีการต่อต้านเบลนติ้งมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปฤทธิ์ยาจึงมีผลกระทบต่อเขาน้อยลงเรื่อยๆแม้อาการกระสันยายังคงอยู่แต่ความรู้สึกพึงพอใจหลังจากสูบยาไม่เหมือนกับในอดีต อีกต่อไป
เปโตรรีบผุดลุกจากที่นั่งเพราะมีแขกหน้าใหม่วิ่งปร์อเข้ามาหา
“มีอะไร?”เขาถามพลางยกมือถอดแว่นกันแดดออก
แขกที่มาใหม่เป็นเพื่อนคนสนิทของ เขาซึ่งคบหากันมาเนิ่นนาน ชื่อ ลุกค์
อีกฝ่ายมองดูเปโตรหยิบเบลนดิ้งม้วนใหม่ขึ้นมาและปริปากซักถาม “พักหลังๆนายชักจะใช้พวกมันบ่อยเกินไปแล้วนะรู้ตัวไหม?”
“ใครสนกันล่ะยาตัวนี้หาง่ายจะตาย”
“เบลนดิ้งออกฤทธิ์โดยการดูดกลืนพลังงานในร่างกายของผู้ใช้ หากนายยังเอาแต่สูบมันไป…”
“พอซักที มาถึงก็รู้จี้จุกจิกฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าจะปักหลักอยู่ที่นี่ไม่ขึ้นไปชั้นถัดไปต่อให้พลังงานหายหมดก็ช่างหัวมันสิ”
เปโตรเขม็งมองลุกค์ด้วยสายตาเดือดดาล
การบ่นกระปอดกระแปดใช้ไม่ได้ผลกับเปโตรมาตั้งแต่แรกถ้าการบ่นของลุกค์ใช้ได้ผลจริงๆป่านนี้เปโตรคงหันหลังให้ยาได้นานแล้ว
ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากเปโตรลองใช้เบลนดิ้งเขาก็ถอนตัวไม่ขึ้น
ลุกค์ถอยหายใจอย่างเอือมระอาและตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “2-3 วันที่ผ่านมามีคนขโมยเบลนดิ้งที่จัดเตรียมไว้ส่งออกนายได้ยินข่าวหรือยัง?”
“ได้ยินสิ อย่าให้รู้นะว่าเป็นใครจะกระทืบให้ตายเลยคอยดู”
เปโตรเปล่งเสียงกรนมาทางจมูกอย่างเกรี้ยวกราด
แค่หนึ่งคําพูดของเขาสามรถปล กระดมผู้ตื่นขึ้นในชั้นที่ 31 ได้อย่างน้อย1000 คนแต่กลับมีไอ้ปัญหาอ่อนไม่รู้จักหัวนอนปลายตีนกล้ากระตุกหนวดเสือโดยการขโมยเบลนดิ้งของเขาไปอย่างไม่เกรงกลัวแถมยังทําโจ่งแจ้งภายในอาณาเขตของเขาอีก..
“ตัวแทนจําหน่ายหน้าใหม่ของเราผู้ตื่นขึ้นชาวเกาหลีชื่อควอนจางฮยอกมาหาฉันเป็นการส่วนตัวเขานําข้อมูลสําคัญมาบอก”
“ข้อมูลอะไร?”
“เขาบอกว่า รู้ว่าใครเป็นคนร้ายขโมยเบลนดิ้งไปจากพวกเรา”
“จริงเหรอ? ไอ้ลูกกะหรี่นั่นเป็นใคร?”
“คิมซูฮยอน ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ประจําเกาหลีใต้
ขณะกําลังฟังคํารายงานจากลุกค์เปโตรสวมใส่เสื้อเชิ้ตเรียบง่าย แว่นกันแดดเหน็บเก็บไว้บนหัว
เพราะฤทธิ์ยาเบลนดิ้งส่งผลกระทบต่อระบบประสาททําให้เขามีอาการมึนเมาจนกระทั่งเมื่อครู่ร่างกายของเขาอ่อนเปลี้ยไปอย่างกะทันหันเพราะได้รับฟังเรื่องที่น่าใจหายต่อให้คนใกล้ตาย หาก ได้ยิน ยังต้องฝืนกระเด้งตัวขึ้นมารับฟัง
“นายบอกว่าใครนะ”เปโตรถาม
“หูของนายยังปกติดีอยู่ไหม? ตั้งใจฟังให้ดีๆ ฉันบอกว่าคนร้ายตัวจริงก็คือคิมซูอยอนตอนนี้เขาอยู่บนชั้นที่ 31”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นฉันแค่แคลงใจทําไมไอ้เวรถึงหยุดอยู่ที่นี่ปกติเขาต้องพากเพียรปีนป่ายหอคอยอย่างไม่หยุดพักไม่ใช่เหรอไง”
“ใครจะไปรู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจซูฮยอนให้ความสนใจเบลนดิ้ง ซึ่งอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเรา
“พ่อมันถอะ…”
เปโตรเคยได้ยินข่าวมาว่าซูฮยอนไต่มาถึงชั้นที่ 31 แต่เขาไม่ได้สนใจมันมากขนาดนั้น
เมื่อไม่นานนี้มีผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S คนหนี้งมาถึงชั้นที่ 31 ด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่ได้หยุดพัก เขาเลือกท้าทายการทดสอบ ต่อไปทันที โดยไม่สนใจว่าสภาพแวดล้อมบนโลกชั้นที่ 31 จะเป็นยังไง
แต่ไอ้เวรนี่เสือกเลือกหยุดพักอยู่ชั้นที่ 31
“เขาให้ความสนใจเบลนดิ้งแสดงว่าเขาคงรับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของเจ้าสิ่งนั้นแล้วสินะ”เปโตรถาม
“น่าจะใช่”
“ไอ้ชั่วนั่น แสร้งวางท่าเป็นอัศวินประกายแสงแต่สุดท้ายพฤติกรรมของมันก็ไม่ต่างอะไรกับหัวขโมย”
ซูฮยอนกล้าแย่งชิงเบลนดิ้งอย่างโจ่งแจ้งหมายความว่าอีกฝ่ายพยายามเชิดของและไม่ยอมจ่ายเงินค่าสินค้า
“พวกเราจะทําอะไรต่อ? สอดแนมเขาเงียบๆ หรือส่งคนไปเจรจากับเขาโดยเสนอเบลนดิ้งจํานวนหนึ่งให้?”ลุกค์ถาม
“นายบ้าไปแล้วหรือไง?”
คําแนะนําของลุกค์ทําให้การแสดงออกของเปโตรดูน่าเกลียด
“ในเมื่อมันกล้ามากระตุกหนวดของฉันฉันจะเล่นกับมันด้วย”
“พวกเขาบอกฉันเท่านี้”
ควอนจางฮยอกรีบมาแจ้งข่าวจากคนระดับสูงให้ซูฮยอนรับทราบ คําสั่งที่ ออกมาใหม่ล่าสุดคือใครก็ตามหากพบเห็นซูฮยอนต้องจับตาดูอีกฝ่ายเอาไว้อย่าให้คลาดสายตารอจนกว่าพรรคพวกคนอื่นๆจะตามมาสมทบ..
“พวกเขาต้องการให้นายจับตาดูฉันไว้งั้นเหรอ?” ซูฮยอนถามกลับ
“ใช่ เหมือนพวกเขากําลังตามล่าตัวนายอยู่คุณชายซูฮยอน”
ควอนจางฮยอกเป็นแค่คนสํามะเลเทเมาเขาทํางานให้เปโตรเพราะต้องการเบลนดิ้งเท่านั้น
แต่คําสั่งที่ออกมาใหม่เปโตรต้องการให้คนในองค์กรจับตาดูซูฮยอนเอาไว้เนี่ยนะมันเป็นคําสั่งเฉดหัวให้ไปตายชักๆ
แน่นอนว่าการตายของลูกกะโล่ คนระ ดับสูงคงไม่สนใจใยดี
“อย่างนี้นี่เอง พวกเขาอยากได้ตัวฉันจ ริงๆด้วย”ซูฮยอนบ่นพึมพําและยิ้มกริ่มภายใต้รอยยิ้มมีเลศนัยบางอย่างแฝงไว้
เมื่อควอนจางฮยอกเห็นรอยยิ้มของ ซูฮยอน เขารู้สึกใจคอไม่ดีแปลกๆเนื้อตัวเริ่มเย็นเฉียบ
“คุณชายวางจะทําอะไรต่อไป?”
“นายช่วยคาบข่าวไปบอกพวกเขาห น่อย”
“บอกว่าอะไร?
“นายไปแจ้งข่าวให้พวกเขาทราบ ฉัน จะนั่งรออยู่ตรงนี้ พอพวกเขาทราบเดี๋ยวพวกเขาก็มาหาฉันเองแหละ”
ทั้ง 2 คนนั่งพูดคุยกันอยู่ในโรงเหล้า นอกจากอาหารเรียบง่ายและชาล้างคอจนถึงตอนนี้พวกเขาไม่ได้สั่งเมนูใหม่ เพิ่มเลย ขนาดพวกเขานั่งแช่กันอยู่นานมากก็ไม่มีใครสนใจ
“นายบ้าไปแล้วหรือไง? คิดปะทะกับ พวกเขาซึ่งๆหน้า โดยไร้แผนการเนี่ยนะ?”
“จะกังวลอะไร หากฉันพลาดตายขึ้น มา สุดท้ายมันก็เป็นผลดีกับนายไม่ใช่เหรอ?”
“เอ๊ะ?”
“เรื่องของนาย ไม่ว่าจะเรื่องการเป็นตัว แทนขายเบลนดิ้งหรืออาศัยอยู่ในเมืองอันยังฉันไม่เคยพูดให้ใครฟังเลยแม้แต่ คนเดียว”
หัวสมองของคว็อนจางฮยอกหมุน ประมวลผลคําพูดของซูฮยอน
ในกรณีนี้หมายความว่า…
“ถ้าฉันตกตาย เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับ นายจะหายวับไปกับอากาศ ไม่ล่วงรู้ไปถึงหูผู้อื่น”
นี่คือฉากจบที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง สําหรับคว็อนจางฮยอก สมมุติเหตุการณ์ลงเอยอย่างที่ว่าจริงๆเขาก็สามารถใช้ชีวิ ตอยู่ในชั้นที่ 31 ได้อย่างสบายใจพร้อมเสพสุข เบลนดิ้ง ได้ตามต้องการ
“ในเมื่อเข้าใจก็รีบไปได้แล้ว หากพลาดโอกาสนี้ นายคงต้องใช้สมองคิดให้หนักขึ้นเพื่อหาฆ่าฉันให้ได้”
“รับทราบครับ คุณชาย”
ทันทีที่ซูฮยอนพูดจบควอนจางฮยอกผลักเก้าอี้ไปข้างหลังและลุกขึ้นยืนก่อนวิ่งพรวดออกไปจากโรงเหล้าอย่างเร่งเรีบและมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่เขาคิดไว้ในใจ
แม้ควอนจางฮยอกจะมาถึงชั้นที่ 31 โดยเลือกความยากระดับที่ 1 แต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ตื่นขึ้นคนหนึ่งดังนั้นความเร็ว ของเขาจึงเร็วกว่าคนปกติ
ซูฮยอนใช้หลังพิงเก้าอี้และเพลิดเพลินไปกับรสชาติของชาด้วยท่าทางผ่อนคลาย
<<ฉันอยากรู้จัง พวกเขาจะมาหาฉันตอนไหนกันนะ?>>
สิบนาที ยี่สิบนาทีคงไม่พอสําหรับเตรียมการ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเปโตรต้องใช้เวลาสักพักในการเรียกรวมพลผู้ตื่นขึ้นจํานวนมากเพื่อต่อกรกับผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S อย่างไรก็ตามการเรียกรวมพลไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแม้จะเป็นตัวเปโตรก็ตาม
ซูฮยอนหวังลึกๆในใจอยากให้เปโตรเลือกวิธีเจรจามากกว่าหากเป็นเช่นนั้นมันสามารถย่นระยะทางที่ห่างไกลให้สั้นลงและการเผชิญหน้าระหว่างเขากับเปโตรจะได้เร็วขึ้น
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเลือกทางไหนก็ไม่สําคัญสําหรับเขา
<<ไม่ช้าก็เร็ว ฉันก็ต้องเจอหน้าอีกฝ่ายอยู่ดี>>
ซูฮยอนไม่จําเป็นต้องขยับร่างกายให้เปลืองเรี่ยวแรงเขามีหน้าที่แค่นั่งคอยอย่างอดทนและรอให้แขกเดินมาหาด้วยตนเอง
หลังจากควอนจางฮยอกวิ่งออกไปได้ไม่นานมีผู้ตื่นขึ้นจํานวนหลายร้อยคนรวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อนแออัดอยู่บริเวณด้านนอกโรงเหล้าซึ่งด้านในซูฮยอนกําลังนั่งจิบชารออย่างสําราญใจ