USB:บทที่ 35 อนาคต

“ ถ้าอย่างนั้น….ก็ได้” กัวเมิ่งหานคิดสักพัก แล้วตอบตกลง

เมื่อได้ยินคำตอบของกัวเมิ่งหาน จากนั้นกัวเหลียงก็พาโจวหรูหรานกลับบ้าน แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไป

เขาขยิบตาให้ฮวงเฟิงอย่างชัดเจน โดยต้องการย้ำเตือนให้เขา คว้าโอกาสนี้เอาไว้

“ ไปกันเถอะ” ฮวงเฟิงกล่าวกับกัวเมิ่งหาน จากนั้นเริ่มขยับฝีเท้า

“อืม.” กัวเมิ่งหานตอบรับเบา ๆ

ภายในรถ ฮวงเฟิงและกัวเมิ่งหาน นั่งอยู่ที่เบาะหลัง กัวเมิ่งหานหันมองไปที่ฮวงเฟิง และถามขึ้นว่า “จริงสิ! พี่ฮวง

ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่า คุณทำงานอะไรน่ะ?” หลังจากกัวเมิ่งหานเอ่ยถามฮวงเฟิงออกไป เธอก็มีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น

“ ฉันเป็นแค่รปภ. ตัวเล็ก ๆ ” ฮวงเฟิงกล่าวเรียบ ๆ เพราะตอนนี้เขาอารมณ์ดี และไม่มีความรู้สึกที่ว่า ตนเองนั้นด้อยกว่าคนอื่น นอกจากนี้ เงินเดือนปัจจุบันของเขาก็ไม่เลว

อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงได้เห็นท่าทีของการดูถูก บนใบหน้าของคนขับรถ ผ่านกระจกมองหลัง หลังจากที่เขาตอบ

เขาเดาว่า คำพูดที่คนขับรถกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ก็คือ ‘คางคกอยากกินเนื้อหงส์’ อย่างไรก็ตาม กัวเมิ่งหานเป็นคนน่ารักมากและแม้ว่าฮวงเฟิงจะเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย แต่เขาก็เป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวเล็ก ๆ

เขาจะคู่ควรกับ คนสวยๆ อย่าง กัวเมิ่งหาน ได้อย่างไร?

ฮวงเฟิงไม่สนใจเรื่องนี้ คนขับรถ เขาเป็นเพียง คนที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องให้เขา หงุดหงิดกับอีกฝ่าย

“พนักงานรักษาความปลอดภัยเหรอ..พี่ฮวง? ถ้าพี่อยากจะเปลี่ยนงาน พี่สามารถมาสมัครกับบริษัท ของเราได้นะ”

กัวเมิ่งหาน บอกว่า ตัวเธอนั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ในการจัดหางาน และมีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น แน่นอนว่าเธอไม่ มีตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่จะรับสมัคร ถ้าหากเจ้านายไม่ยินยอม

“ ตอนนี้ฉันยังไม่มีแผน ที่จะเปลี่ยนงานเลย ฉันรู้สึกว่างานปัจจุบันที่ฉันทำอยู่นั้น ค่อนข้างดี” ฮวงเฟิงกล่าวสิ่งนี้ออกมา

จากก้นบึ้งของหัวใจ ตอนนี้งานนี้เป็นงานง่าย ๆ และค่าจ้างก็สูงกว่า เมื่อก่อนด้วย แม้ว่าแนวโน้มการพัฒนาของบริษัท

ที่กัวเมิ่งหานและคนอื่น ๆ อยู่นั้น ดีกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่เงินเดือน ก็ไม่แน่ว่าจะดี นอกจากนี้

ตอนนี้งานที่ทำอยู่นั้นง่ายมาก และไม่มีความกดดันอะไรเลย

สำหรับโอกาสในการหางานทำที่ดี ๆ หลังจากได้รับกล่องจักรวาลมาแล้ว ฮวงเฟิงไม่คิดว่า เขาจะต้องเป็น พนักงานรักษาความปลอดภัยตัวเล็ก ๆ ไปตลอดชีวิต

“ เป็นอย่างนี้นี่เอง” กัวเมิ่งหานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แน่นอนว่าเธอไม่รู้เรื่องกล่องจักรวาล ในความคิดของเธอ

ฮวงเฟิงเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ในอนาคตเขาจะมีตำแหน่งที่สำคัญๆ อะไรได้ หากว่าเป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย? อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงดูเหมือนจะไม่ “ทะเยอทะยาน” มากเกินไป และไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนงานใหม่

เขาไม่ยอมเปลี่ยนงาน แล้วทำไมฉันต้องผิดหวังด้วยล่ะ? ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่า สิ่งนี้เป็นปัญหาของฮวงเฟิงเท่านั้น

ทำไมเธอถึงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้?

“ พี่ฮวง เขาเป็นเพื่อนที่ดี ฉันก็แค่เป็นห่วงเพื่อนเท่านั้น” กัวเมิ่งหานคิดในใจ

พวกเขานั่งอยู่บนรถ ประมาณสิบนาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึง “เรดบัด การ์เด้น” ซึ่งเป็นที่พักของกัวเมิ่งหาน

จากข้อมูลของกัวเมิ่งหาน คนที่มาพักที่นี่ล้วนแต่เป็นพนักงานออฟฟิท ที่ทำงานอยู่ใกล้ ๆ บริษัท ดังนั้นสภาพแวดล้อมภายในจึงไม่เลวร้าย และพวกเขาก็ไม่ได้มายุ่มย่ามกับคนอื่น แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่อพาร์ตเมนต์ระดับชั้นเยี่ยม แต่ก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ฮวงเฟิงยังตระหนักได้ว่า “เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป” ที่เขาเคยทำงานที่นี่ อยู่ไม่ไกลเกินไป ถ้าเขาสามารถเช่าบ้านที่นี่ได้ด้วยเงินที่มีอยู่นั้น ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

“ ลาก่อน พี่ฮวง” เห็นได้ชัดว่า เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะชวนฮวงเฟิงขึ้นไป ตอนนี้มันดึกแล้ว และเธอก็อยู่ตัวคนเดียว

ดังนั้นจึงไม่เหมาะสมที่เธอจะชวน ฮวงเฟิงขึ้นไป

“ลาก่อน!” ฮวงเฟิง ตอบรับ เขาไม่ต้องการหาข้ออ้างที่จะขึ้นไปบนห้องของกัวเมิ่งหาน

หลังจากนั้น ฮวงเฟิง ก็เดินกลับ ไปในรถแท็กซี่

“น้องชาย คนสวยเพิ่งขอให้คุณทำงานที่บริษัทเดียวกันกับเธอ ทำไมคุณไม่ยอมล่ะ? ผู้หญิงคนนี้มีความประทับใจ

ในตัวคุณ และต้องการใกล้ชิดกับคุณมากขึ้น “หลังจากขึ้นมาบนรถ คนขับรถ ได้ริเริ่มเพื่อคุย กับ ฮวงเฟิง

เพราะคนขับรถ ส่วนใหญ่มักจะหาเรื่องคุยกับผู้โดยสาร

“ พี่ใหญ่ คุณคิดผิดแล้วล่ะ เราเพิ่งเจอกันคืนนี้เอง มันจะมีอะไรให้ประทับใจล่ะ?” ฮวงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ประสบการณ์หลายปีของฉันบอกว่า แม้ว่าคุณจะไม่มีฐานะที่ดี แต่ผู้หญิงคนนั้น ก็มีความประทับใจในตัวคุณ

ถ้าคุณไม่ตามจีบเธอ หรือไม่กระตือรือร้น คุณก็จะกลายเป็นรปภ ตลอดชีวิต ‘ฉันแน่ใจว่า….เธอจะต้องผิดหวังมาก ”

คนขับรถพูดขึ้น

ฮวงเฟิงพูดไม่ออก ทำไมคำพูดเหล่านั้น ถึงฟังดูไม่ค่อยจะดีเท่าไร เมื่อเขาได้ยินตกลงแล้ว คนขับรถกำลังชมเขา หรือ

ดูถูกเขากันแน่?

“ น้องชาย ฉันจะบอกให้ว่า เรื่องนี้ แม้ว่าคุณจะมีฐานะที่ดีกว่าตอนนี้ไม่ได้ ตราบใดที่คุณเต็มใจขยันทำงาน

มันก็ยังมีความหวัง ถ้าคุณไม่ขยันทำงาน แม้ว่าผู้หญิงคนนั้น มีความประทับใจในตัวคุณ เธอก็จะไม่ทนอยู่กับคุณ ”

คนขับพูดต่อ เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกงานของฮวงเฟิง ที่เป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย

“พี่ใหญ่ ขอบคุณสำหรับคำเตือน ฉันจะลองคิดดู บางทีผมอาจเปลี่ยนใจพรุ่งนี้เลย” เพื่อที่จะหยุดคนขับไม่ให้พูดมาก

ฮวงเฟิงจึงรับคำของเขา

“ถูกต้องในฐานะผู้ชาย เราควรต่อสู้เพื่อมัน ความหมายของการใช้ชีวิต มันคือสิ่งนี้แหละ” แบบนี้

แม้แต่ครอบครัวของผู้หญิงคนนั้น ก็จะไม่สบายใจ ที่จะมอบลูกสาวให้คุณไป… ใช่ไหม? “คนขับรถพูด

แม้ว่าคนขับรถคนนี้ จะเดาความสัมพันธ์ระหว่าง ฮวงเฟิงและ กัวเมิ่งหานผิด และยังคงพูดพล่ามยืดเยื้อ แต่ฮวงเฟิงก็

เห็นด้วยกับคำพูดของเขา ถ้าผู้ชายไม่ขวนขวายและไม่ขยัน ครอบครัวหญิงสาว ก็จะไม่สบายใจที่จะยกลูกสาวให้กับพวกเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกัวเมิ่งหาน แต่ใครจะไปรู้เรื่องในอนาคต?

ไม่ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ หรือไปนัดดูตัวกับผู้หญิงคนอื่น ๆ แน่นอนว่าคนเหล่านั้น ต้องถามเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน ลองคิดดูว่า ถ้าเจอคำถามว่า ทำงานที่ไหน? คุณมีรายได้เท่าไหร่? มีบ้านหรือรถยนต์แล้วหรือยัง?

คุณจะตอบเธอว่าอย่างไร?

ดังนั้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฮวงเฟิงรู้สึกว่า ตนเองค่อนข้างช้ามาก ที่บ้านเกิดของเขา คนที่อายุเท่ากันกับเขา

ก็น่าจะหมักซีอิ๊วไว้ จนสามารถเอาออกมากินได้ ในช่วงที่ลูกๆ เข้ามหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว

ถึงแม้ว่า จะยังไม่แต่งงาน แต่ทุกคนก็น่าจะมีแฟนสาวและแต่งงานกัน ตอนช่วงอายุเท่านี้กันทั้งนั้น

พ่อแม่ของเขา ต่างก็กระตุ้นเขาเช่นกัน และที่บ้านของเขาก็กังวลในเรื่องที่ฮวงเฟิงยังไม่มีครอบครัว

เมื่อนึกถึงเรื่องนั้น จิตใจของฮวงเฟิง ก็ครุ่นคิดไปถึง ซูหยูโม่และ กัวเมิ่งหาน ซึ่งทั้งสองคนนั้นเป็นคนสวย อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองคน เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา และยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองคนก็มีดีมาก บุคลิกและเหมาะที่จะเป็นแฟนหรือภรรยาของเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงเงื่อนไขต่างๆ ฮวงเฟิงก็รู้สึกว่า พวกเขาน่าจะเข้ากันไม่ได้เนื่องจากแตกต่างกันเกินไป