กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์! (reincarnated into hum…

EP.53 ชายชรา

เวลาก็ผ่านมาปีนึงแล้วที่ผมได้เข้ามาอยู่ที่ Avrion Academy

และนั่นก็หมายความว่าครอสแบสิคก็ใกล้จะจบลงและในที่สุด

พวกเราก็จะได้เลื่อนชั้นเป็นนักเรียนปีสอง เหล่านักเรียนทุกคน

ยังต้องเรียนคลาสของสายตัวเองและผมก็ยังต้องเรียน

คลาสมังกรอัศวินอีกด้วย

คลาสมังกรอัศวินไม่ได้เป็นแบบที่ผมหวังไว้ พวกเขาได้

เชิญอาจาร์ยมาจาก Roland Acadmy และพยายาม

ที่จะสอนเราเรื่องการใช้เวทมนตร์ แต่มันก็ไม่สําเร็จ

 

พวกเขาพยายามผลักดันให้เราใช้พลังภายในที่มี

เพื่อที่หวังว่าจะมีอะไรออกมาบ้าง

พวกเราพยายามที่จะลองสิ่งแปลกใหม่ในทุกวัน

ยิ่งฝึกไปเท่าไหร่ยิ่งดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไร

เพราะไม่ว่าอะไรจะพวกเราจะทํามันออกมาได้ดี

แค่ไหนอาจารย์ก็ดูจะไม่พอใจกับสิ่งที่พวกเรา

 

ทําออกมา

เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายปีก็ถึงเวลาของฤดูหนาวได้มาถึงพร้อม

กับหิมะที่ปกคลุมตามตึกอย่างแน่นหนา ไม่ใช่นักเรียน

ทุกคนที่จะจบปีนี้ไปพร้อมกับเพื่อนๆเพราะบางคนผ่าน

มันไม่ไม่ได้เพราะความขี้เกียจหรือความสามารถไม่ถึง

ในขณะที่บางส่วนก็ทําผิดกฎจนต้องโดนไล่ออก

ส่วนมากเรื่องที่ผมรู้ใน Avrion Academy จากไคล์เสมอ

ดูเหมือนว่าตอนนี้ไคล์จะเข้ามาเป็นสมาชิกคนที่แปดใน

ห้องพักของเราเพราะเขาใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่บ่อยมาก

เขายังเป็นคนเดิมปกติที่คอยเอาข่าวจากภายนอกมา

 

มาอัพเดตด้วยความเร็วเสมอ

 

มีข่าวลือที่ในหมู่นักเรียนว่ามี The Dark Guild แทรกซึม

อยู่ใน Avrion Academy และอัศวินบางคนกําลังทํางาน

เป็นสายให้พวกพวกอยู่โดยอ้างว่าเหล่าอัศวินกลุ่มนี้

หลงทางในสนามรบแต่ความจริงไปทํางานให้กับพวกนั้น

 

และตอนนี้พวกโรคเงาระบาดก็ได้เบาลงบ้างแล้ว

แน่นอนว่าข้อมูลนี้ไม่ได้บอกให้นักเรียนรู้โดยตรงแต่

เพียงรู้ผ่านข่าวลือเท่านั้นจึงทําให้มันยากที่จะยืนยัน

ว่านี่คือเรื่องจริงหรือไม่จริง แต่ที่สังเกตุได้คือมีการ

เรียกประชุมของมาสเตอร์อัศวินมากขึ้นและจะดู

เหมือนว่าเหล่าอัศวินในเมืองก็ลดน้อยลงด้วย

เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายของผมก็เริ่มที่ใหญ่ขึ้น

 

เล็กน้อยและทักษะการใช้ดาบของผมก็พัฒนา

ขึ้นแล้วเช่นกัน ตอนนี้ร่างกายผมมีขนาดเท่าๆกับ

แกรี่แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับแฮรี่แล้วนั้นผมรู้ดี

ว่ายังไงผมก็ไม่มีทางที่จะชนะเขาได้

สิ่งนั้นทําให้ผมคิดสามข้อที่จะฝึกฝนความแข็งแกร่งของตัวเอง

เรียนรู้ที่จะใช้kiในร่างกายและการใช้ดาบให้ชํานาญมากขึ้น

เพื่อปลดล็อคพลังมังกรของผมหรือการออกไล่ล่าคริสตรัล

จากสัตว์ร้าย

อย่างแรกคือการหาอาจารย์สักคนที่พร้อมจะสอนผม

หรือรอจกว่าให้โรงเรียนเป็นฝ่ายสอนผมเอง อย่าง

 

ที่สองผมยังไม่รู้ว่าผมจะปลดล็อคพลังมังกรของตัวเอง

ได้ยังไงงั้นก็ข้ามไปข้อสามคงจะง่ายที่สุด เพราะเมื่อ

ขึ้นปีสองแล้วผมก็มีโอกาสที่จะเข้าไปไล่ล่าคริสตรัล

 

ในป่าใกล้ๆผม

การขึ้นไปนั่งพักผ่อนบนดาดฟ้ากลายเป็นกิจวัตรประจําวันผม

ที่ต้องทําหลังจากจบคลาสส่วนคนอื่นๆหลังจบคลาสก็จะจับวงนั่งคุย

ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Avrion Academy พวกเขาเองก็คงจะชิน

ที่ผมมังจะแยกตัวออกมาจากทุกคน

ในขณะที่ผมกําลังมองไปรอบๆเมือง มีบางอย่างข้างล่าง

ที่สะดุดตาผมนั่นคือชายชราคนนึงที่กําลังเดินบนถนน

อัศวินที่เกษียรแล้วได้รับอนุญาติให้อยู่ในเมืองนี้ต่อได้ดังนั้น

การที่จะเห็นก็ไม่แปลกอะไรเมืองนี้ปลอดภัยมากเป็นเพราะ

มีเพียงแค่อัศวินเท่านั้นที่จะอาศัยอยู่ในนี้ได้

เปอร์เซ็นการจะเกิดอันตรายก็ดูจะเป็นไปได้ยาก

แต่สิ่งที่สะดุดตาผมก็คือสิ่งที่อยู่ด้านหลังชายชราผู้นั้น

 

คือคนที่คนที่เดินตามเขามา ผมได้จับตาดูต่อไปอีกสักพัก

จากที่สังเกตุพอจะบอกได้ว่าเมืองนี้ก็ไม่ได้ปลอดภัยแบบที่

ผมคิดยังไงมนุษย์ก็คือมนุษย์อยู่ดีพวกเราทําเรื่องเลว

ร้ายต่อกันอย่างไม่มีเหตุผล

ผมไม่อยากจะรู้หรือเข้าไปยุ่งอะไรมากกว่านี้เพราะนั่น

ไม่ใช่เรื่องของผมแต่ผมเองก็แอบดังฟังสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ผมตัดสินใจที่จะเปิดดวงตามังกรเพื่อที่จะเห็นหลายๆสี่

ชัดเจนมากขึ้น

ผมเกลียดเวลาที่รางสังหรณ์ของผมเป็นจริงเสมอ

แสงสะท้อนที่ออกมาจากผู้ชายทั้งสีคนนั้นช่างเป็น

 

สีที่ปนกันไปหมด มีทั้งแสงสีเหลืองที่ปนมากับสีม่วง

นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมเห็นแสงสีม่วง ครั้งแรกที่เห็น

คือแสงที่สะท้อนออกมาจากพ่อและอีกครั้งคือตอนที่

เห็นแสงมาจากราชาหมีโคอาล่า นี่มีเพียงความหมาย

เดียวเท่านั้นคือโรคเงาร้ายระบาด!

หลังจากที่เกิดเรื่องเลวร้ายกับพ่อผมพวกเขาเหล่านี้

ก็กลายเป็นศัตรูของผมโดยอัตโนมัติมีบางอย่างที่

 

ผมจะต้องถามเขาให้มันแน่ชัด

ผมรีบปืนลงไปข้างล่างโดยใช้หินเป็นแท่นยึดต่ายลงไป

ด้านล่าง ผมตัดสินใจที่จะอยู่บนหลังคาบ้านของบ้าน

แห่งนึง จึงทําให้มองลงไปข้างล่างชัดขึ้นผมรีบที่จะเดิน

ไปหาจุดที่มองชายชราได้ชัดเจนที่สุด

ในที่สุดผมก็มาอยู่ในมุมที่มองเห็นชัดเจน ยังคงเป็น

ชายสี่คนกลุ่มเดิมที่ยังเดินตามเขาอยู่ ราวกับว่าพวกเขา

กําลังรอช่วงเวลาและสถานที่ๆเหมาะสมในการโจมตี

และทันใดนั้นชายชราก็ได้ทําในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด

เขาได้ตัดสินใจเดินไปตามซอกซอยระหว่างบ้าน

 

สองหลังที่ไม่มีแม้แต่ผู้คนอยู่ในนั้น ราวกับว่า

เปิดโอกาสให้ชายทั้งสี่คนได้ใช้โอกาสนี้ที่จะโจม

ที่เขาได้

ในระหว่างที่เขากําลังเดินเข้าไปในซอยนั้น ผมก็ใช้

จังหวะนี้ในการเดินตามเขาจากบนหลังคาเหมือนกัน

เมื่อเขาเดินเข้ามาในซอนสักพักก็ไม่คนสองคนที่รอ

เขาอยู่ สองคนนั้นกั้นทางไม่ให้ชายชราเดินต่อไปได้

 

จนชายชราต้องหันหน้าไปอีกทางแต่ก็พบว่าโดน

ดักไว้หมดแล้วทุกทาง

“คุณจะมากับเราจริงหรอ” เขาถามชายชราคนนั้น

ชายชรามองไปที่กลุ่มคนที่ยืนอยู่รอบๆเขา

 

“ฉันคิดว่าข่าวลือที่พูดกันว่าเหล่า The Dark Guild

แทรกซึมอยู่ในเมืองนี้”

หลังจากจบประโยคนั้นก็ทําให้รู้ว่าสิ่งที่ผมคิด

นั่นผิดไปหมดไม่รู้ว่าพวกเขาคือ The Dark guild?

ผมสับสนไปหมด แต่ที่แน่ๆคือพวกคนเราเหล่านี้

ติดเชื้อโรคระบาดกันหมดและพอจะเป็นไปได้ไหม

ที่ The Dark guild มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคนี้หรือ

เป็นเพียงแค่ชายชราก็เข้าใจผิดไปเหมือนกัน

ชายหนุ่มหนึ่งในนั้นหัวเราะออกมา

“ทุกคนไม่รู้อะไรสะแล้ว ว่าThe dark guild จะเข้ามา

ยึดเมือง Avrion ในเร็วๆนี้แล้วก็จะไม่มีใครมาหยุด

มันได้ด้วย”

“ต่อสู้ด้วยหนึ่งต่อสี่เนี่ยนะ มันยากที่จะเอาชนะได้

แต่ฉันไม่ยอมแพ้หลอก”

เสียงของชายชราดูมั่นใจกับสิ่งที่เขาพูดแต่แสง

สะท้อนที่ออกมาจากผู้ชายสี่คนนั้นช่างดูแข็งแกร่ง

เหลือเกิน ด้วยสถานการณตอนนี้เขาไม่มีอาวุธ

ในมือ แต่อย่างน้อยเขาก็คงจัดการได้สักสองคน

ถึงผมจะไม่มั่นใจในตัวเองว่าผมจะสามารถ

จัดการได้แต่ผมค่อนข้างมั่นใจในสกิลของ

อัศวินสายดําที่ผมสามารถหายตัวได้เมื่ออยู่

ในสถาณการ์ณที่อันตราย สิ่งที่สําคัญที่สุด

ในตอนนี้คือผมต้องไม่ให้ทุกคนรู้ว่าผมเป็นใคร

ผมรีบถอดสายดําออกและมัดครึ่งเพื่อให้มัน

อยู่ในรูปคล้ายๆผ้าผันคอ

ผมคล้องผ้าพันคอสีดําที่ดัดแปรงมาจากเข็มขัดและ

หยิบหมวกฮทที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาใส่

ผมตัดสินใจกระโดดลงมาข้างๆชายชราคนนั้นพร้อมพูดว่า

“แล้วถ้าเป็นสองคนต่อสี่คนละ?”