EP45 ยุคใหม่
สถาณการ์ณในคลาสฝึกของอัศวินสายดําแตกต่างไปจากทุกวัน
ช่างน่าอึดอัดใจจนทุกคนสัมผัสถึงบรรยกาศที่แปลกๆไปได้
ไคล์เองก็พยายามที่จะหลบหน้าผมตั้งแต่วันนั้น
ส่วนมังค์กับแกรี่ก็ยังไม่คุยกันสักคําตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น
แต่ด้วยสถาณการ์ณแบบนี้ทําให้ทุกคนมีสมาธิและสนใจกับสิ่งที่ตัวเองต้องฝึกฝนมากขึ้น ไม่มีการมานั่งพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆด้วยกันอีกต่อไป ไม่มีบทสนทนาหลังการฝึกซ้อม
ทุกวันจะวนลูปเพียงแค่ ไปเข้าคลาสในตอนเช้า และเดินกลับที่พักเพียงเท่านั้น
แกรี่ก็ยังคงรักษาอันดับหนึ่งไว้ที่เขาได้ และดูเหมือนว่าตอนนี้เขาเองก็จะเห็นข้อดีของการฝึกฝนวิชาของอัศวินสายดําแล้ว
แกรี่เองก็พยายามมากขึ้นในทุกครั้งที่เรียนและเริ่มใช้เทคนิคในการต่อสู้วันระดับ
เขาใช้เวลาไม่มากนักในการจัดการคู่ต่อสู้ เขาใช้เวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีในการเอาชนะมาได้บางทีอาจจะแค่การฟันดาบไปรอบเดียวเท่านั้น
ส่วนผมเองก็ได้เรียนรู้หลายอย่างมากขึ้น ดูเหมือนว่าผมอาจจะใช้เวลาอยู่กับพวกมนุษย์มากไป จึงทําให้หัวใจอ่อนโยนขึ้นในหลายปีหลังมานี้ จนทําให้ผมไม่ได้สนใจเป้าหมายที่แท้จริงเท่าไหร่นัก แต่เหตุการ์ณในวันนั้นเป็นสิ่งที่ตอกย้ําได้ดี
ว่าที่จริงแล้วมนุษย์เป็นยังไง
หลังจากคลาสพื้นฐานและคลาสพิเศษจบลง วินฟอร์ตก็เดินเข้ามาหาพวกเราในคฤหาสด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก
“ดีใจที่ได้เจอพวกนายอีกครั้ง แต่คราวนี้คงไม่มีเวลามากพอที่จะมาคุยด้วย ฉันมาที่นี่แทนในนามผู้อาวุธโส ไคล์ เรย์ ตามฉันมา !”
“แล้วคุณไม่ต้องการพวกผมด้วยหรอ” ไคล์ถาม
“ตอนนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแค่สองคนนี้เท่านั้น”
เราทั้งคู่เดินตามวินฟอร์ตไม่ยังศูนย์กลางของ Academy
เขาเดินนําเราไปยังห้องที่อยู่บนชั้นที่สูงที่สุด ห้องถูกตกแต่งด้วยทุกสิ่งอย่างที่มีลวดลายมังกร มีโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง
และด้านท้ายของห้องก็พบว่ามีอัศวินทั้งสี่ท่านยื่นอยู่ เดลเบิร์ต บาร์นาโด มาสเตอร์เค และ มิสโรส หญิงสาวที่เป็นหัวหน้าของอัศวินสีเขียวนั่นเอง
“เชิญทั้งสองคนนั่งก่อน” วินฟอร์ตภายมือไปที่เก้าอี้
ผมกับไคล์นั่งรออย่างอดทนไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเราบ้าง เมื่อเวลาผ่านไปสักพักประตูที่เราเข้ามาก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง มีนักเรียนสามคนที่เดินเข้ามา หนึ่งในนั้นคือไอลาน และอีกสองคนที่ดูเหมือนจะเป็นฝาแฝดกัน หลังจากที่เข้ามาแล้วก็ไม่มีบทสนทนาอะไรกันเกิดขึ้นสักนิด
เมื่อมองไปรอบๆห้องมันก็อดที่จะสังเกตไม่ได้ว่าพวกเรา
ทุกคนมีสิ่งนึงที่เหมือนกัน นั่นคือผมสีแดง พวกเราทั้งห้าคน
ถูกกําหนดมาแล้วมาต้องมาที่ห้องนี้และพวกเราก็รู้มันอยู่ดี
วินฟอร์ตเดินไปที่หน้าโต๊ะพร้อมกับทําหน้าซีเรียส
นั่นคงเป็นสัญญาณว่าจะมีเรื่องสําคัญเกิดขึ้น
“ฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมนะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน พวกนายทั้งห้าคน
ถูกนําตัวมาที่นี่ก็เพราะคําทํานายเมื่อสิบห้าปีก่อน คําทํานายกล่าวไว้ว่า บ้านเมืองของเราจะปลอดภัยเพราะจะมีเด็กผมแดง เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์”
ทั้งสี่คนที่เหลือต่างพากันตกใจหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น
แต่ตัวผมเองรู้เรื่องนี้มานานมากแล้ว
แต่สิ่งที่ทําให้ผมแปลกใจก็คือพวกเขาตัดสินใจที่จะบอกพวกเรา
ผมเลือกที่จะไม่สนใจอะไรมากนักและไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มากวนใจผมมากเพราะผมเชื่อว่ายังไงพวกเขาก็พลาดแล้วแหละ
เพราะสีผมจริงๆของผมคือสีดําและตอนนี้ก็ยังมีสีดําแซมสีแดงอยู่บ้าง
วินฟอร์ตพูดต่อ “เพราะแบบนี้เราถึงต้องหาเด็กผู้ชาย
ในคําทํานายให้เจอ พวกเราส่งเหล่าอัศวินออกตามหาทั่วทุกพื้นที่ พวกเขากลับมาพร้อมกับเด็กสิบคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน”
เด็กสิบคน? เท่าที่ผมรู้มาก็มีแค่ห้าคนเท่านั้นรวมผมแล้ว
แม้ว่าในตอนนี้ที่นั่งอยู่บนโต๊ะก็มีเพียงห้าคน
“ พวกนายงงกันสินะ พวกนายทั้งห้าคนไม่ได้มีพลังเวทมนตร์เลยจะต้องอยู่ที่นี่ แต่อีกห้าคนนั้นมีพลังเวทมนตร์จึงได้อยู่ที่ Roland academy”
“งั้นหนึ่งในพวกเราก็จะต้องปกป้องโลก !”
ไคล์พูดด้วยน้ําเสียงที่ตื่นเต้น
ผมสังเกตุเห็นถึงสีหน้าของเดลเบิร์ทและโรสเปลี่ยนไปทัน
หลังจากที่ได้ยินไคล์พูด พวกเขาดูไม่พอใจนัก และดูเหมือนว่าวินฟอร์ตกําลังซ่อนอะไรบางอย่างกับพวกเราอยู่ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้บอกเรื่องคําทํานายทั้งหมดก็เป็นได้
ด้านหลังของวินฟอร์ต มีภาพจําลองของภาพอัศวินมังกรทั้งห้าฉายอยู่
“นี่คือเหตุผลว่าทําไมถึงเรียกพวกนายมาที่นี่ พวกเราต้องการที่จะสร้างตํานานเหมือนเหล่าผู้ก่อตั้งอีกครั้ง
เหมือนตอนที่เหล่าอัศวินมังกรได้ช่วยเหลือพวกเราจากโรคเงาระบาด แต่ตอนนี้ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ตกเป็นของพวกนายแล้ว”
ไคล์ลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ อย่างไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นไว้ได้
“คุณหมายความว่า…”
“ใช่แล้ว ต่อจากนี้ไปพวกนายทุกคนคืออัศวินมังกรทั้งห้าของ Avrion Academy แต่นั่นก็หมายความว่าพวกนายจะต้องพยายามให้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นทั้งคลาสปกติหรือคลาสพิเศษ และต่อจากนี้พวกนายจะได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมอีกนั่นคือ วิชา อัศวินมังกร”
ทุกคนต่างพากันพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งใหม่ที่อยู่ตรงหน้านี้ พร้อมทั้งดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติกับหน้าที่ได้รับมอบหมาย
ผมเองก็มีความสุขที่จะเรียนในสิ่งที่ผมถนัด และพวกเขาอาจจะพอให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของอัศวินมังกรอย่างที่ผมควรจะเป็น
วินฟอร์ตอธิบายให้ทุกคนฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่และ
เวลาที่เราจะนัดเจอกันเพื่อฝึกฝนกัน แต่ในขณะที่ทุกคนกําลังเดินออกไปจากห้องอย่างช้าๆ วินฟอร์ตเรียกชื่อผมอีกครั้ง พร้อมกับบอกให้นั่งรอในห้องสักพักนึ่ง
เขาเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับพูดว่า
“เรย์ มีคนมาหานาย”
ด้านหลังของวินฟอร์ตมีผู้หญิงคนนึงที่ผมจําเธอได้ดียืนอยู่
เธอยังคงดูทรงพลังอย่างที่เคยเป็นไม่เคยเปลี่ยน ผู้หญิงคนแรกที่อุ้มผมไว้ในอ้อมแขน คนๆนี้คือแม่ผมนั่นเอง
ทันใดนั้นแม่ก็เริ่มร้องไห้ทันที แต่ผมก็รู้ทันทีว่าต้องไม่ใช่น้ําตาของความดีใจหรือมีความสุขแน่ๆ
“แม่ครับ เกิดอะไรขึ้นบอกผมมา”
ในขณะที่เธอพยายามที่จะเงยหน้าขึ้นและพยายาม
ที่จะพูดออกมาบางคํา
“พ่อของเธอ…”
MANGA DISCUSSION