กบฏหัวใจ - ตอนที่ 1 ความสัมพันธ์ของเรา
ทันทีที่ตานอวี๋เวยล้างจานเสร็จ เธอเดินมายังห้องรับแขกเพื่อหยิบกระดาษชำระและเช็ดหยดน้ำบนมือของเธอ จากนั้นเธอก็รับสายโทรศัพท์จากเพื่อนรัก
"เวยเวย ฉันจะกลับประเทศจีนแล้ว! ในที่สุดคดีหย่าของฉันก็ได้รับชัยชนะ!" น้ำเสียงของจิ่งชือฟังดูร่าเริง
ทางด้านตานอวี๋เวยชะงักไปเล็กน้อย เวลาผ่านไปสักพัก เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไรดี
จากนั้นเสียงของจิ่งชือดังขึ้นจากปลายสายอีกครั้งว่า "เวยเวย เธอพูดถูก คนเรามีสิทธิ์ที่จะไล่ล่าตามหาความสุข คนที่ฉันรักคือเจ๋อเฉิง ฉันไม่ควรที่จะปล่อยให้เขาหลุดมือไปอีก!"
ตานอวี๋เวยตอบรับว่า 'อืม' และเธอพบว่าน้ำเสียงตอบรับของเธอนั้นค่อนข้างแหบแห้งเล็กน้อย
"ฉันจะรีบจัดการเรื่องทางนี้ให้เร็วที่สุด อย่างมากก็ประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้วเดี๋ยวฉันก็จะกลับไป เวยเวย เมื่อถึงเวลานั้นแล้วเจอกัน!" จิ่งชือกล่าวจบ เธอก็ตัดสายโทรศัพท์ไป ทางด้านตานอวี๋เวยยังคงยืนโทรศัพท์อยู่เช่นนั้น เสียงตู๊ดตู๊ดของปลายสายยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอ
ร่างสูงโปร่งก้าวออกมาจากห้องนอน เมื่อเห็นตานอวี๋เวยยืนถือโทรศัพท์อยู่เช่นนั้นจึงถามขึ้นว่า "เป็นอะไรไป?"
ตานอวี๋เวยหันกลับไปมอง
ลู่เจ๋อเฉิงอาจจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขาสวมชุดนอนสีน้ำเงินเข้มและใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกอยู่ บริเวณคอเสื้อของชุดนอนนั้นเปิดกว้างเผยให้เห็นกล้ามอกที่แข็งแกร่ง รูปร่างที่สูงโปร่ง เป็นอะไรที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก
"ไม่มีอะไร" ตานอวี๋เวยเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าและกล่าวอย่างธรรมชาติว่า "จิ่งชือบอกว่าเธอกำลังจะกลับมาแล้ว"
ขณะที่เธอโน้มตัวเก็บโทรศัพท์ ตานอวี๋เวยชำเลืองมองไปทางด้านลู่เจ๋อเฉิง เธอเห็นว่าเพราะคำพูดของเธอทำให้ลู่เจ๋อเฉิงเช็ดผมช้าลงเล็กน้อย แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงเย็นชาอยู่เช่นเดิม
"อืม" ราวกับว่าเหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อลู่เจ๋อเฉิง เขายังคงเช็ดหยดน้ำที่เกาะบนผมสีดำสนิทของเขา "เตรียมน้ำเอาไว้ให้คุณแล้ว ไปอาบน้ำเถอะ"
ตานอวี๋เวยสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ เธอก้มศีรษะลงและตอบรับ
หลังจากจัดห้องรับแขกเสร็จเรียบร้อย ตานอวี๋เวยเดินกลับไปที่ห้อง เธอหยิบชุดนอนและตรงเข้าไปยังห้องอาบน้ำ ในอ่างอาบน้ำเธอนั่งกอดเข่าตัวเอง เธอนั่งอยู่เช่นนั้นเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง เมื่อน้ำเริ่มเย็น เธอจึงลุกขึ้นและหยิบผ้าขนหนูมาซับน้ำบนร่างกายของเธอ
ขณะที่เธอเดินออกจากห้องน้ำ ไฟภายในห้องนอนก็ดับลงหมดแล้ว เหลือเพียงโคมไฟเล็กๆบนโต๊ะข้างเตียง แสงสีเหลืองนวลที่มองแล้วให้ความอบอุ่น
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาลู่เจ๋อเฉิงยุ่งอยู่กับคดีใหญ่สองคดีจนไม่ได้รับการพักผ่อน ไม่ง่ายเลยที่การพิจารณาคดีจะสิ้นสุดลง เขาเองก็เพิ่งจะมีเวลาและได้กลับมา ดังนั้นในช่วงสองสามวันนี้เขาจึงเข้านอนเร็วกว่าปกติ
ตานอวี๋เวยค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปเบาๆ เธอยกผ้าห่มขึ้นและเคลื่อนตัวเข้าไปด้านในผ้าห่ม ทันทีที่ร่างกายสัมผัสกับเตียง มือขนาดใหญ่ก็เอื้อมมาคว้าร่างกายของเธอและดึงร่างของเธอเข้าไปไว้ในอ้อมแขน น้ำเสียงที่เกียจคร้านเผยให้เห็นถึงอาการง่วงนอนกล่าวว่า "นอนกันเถอะ"
ตานอวี๋เวยไม่ได้กล่าวอะไรต่อ เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเชื่อฟัง
หลังจากนั้นไม่นาน มีเสียงลมหายใจที่เป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่เหนือศีรษะของเธอ เธอขยับศีรษะออก เงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่คางของลู่เจ๋อเฉิงจรดสันจมูกของเขา เพียงแค่ได้มองดูก็รู้สึกตกอยู่ในภวังค์
เธอใช้นิ้วลากตามรูปร่างริมฝีปากของชายตรงหน้า ภายในใจของเธอรู้สึกขื่นขม
สี่ปี เธอคอยดูแลเขามาตลอดสี่ปี อยู่ข้างกายเขาตลอดสี่ปีและนอนกับเขามาเป็นเวลาสี่ปี
ความสัมพันธ์ที่มีกันและกัน ไม่ใช่แฟน แต่เป็นเหมือนคู่นอนเสียมากกว่า
ในที่สาธารณะลู่เจ๋อเฉิงไม่เคยยอมรับในความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอเองก็กลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาจะถูกเปิดเผย
ที่จริงแล้ว ลู่เจ๋อเฉิงก็คือแฟนเก่าของจิ่งชือ…
เรื่องทั้งหมดนี้ จะจบลงอย่างสมบูรณ์เพราะการกลับมาของจิ่งชือหรือไม่?
เธอรู้สึกสับสนและกระวนกระวายใจ
…..
เช้าตรู่วันถัดมา ตานอวี๋เวยตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้า หลังจากที่ปลุกลู่เจ๋อเฉิงแล้วเธอก็เริ่มเก็บของของตัวเองในคอนโด ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน และแม้แต่เส้นผมที่ร่วงหล่น
หลังจากที่ตานอวี๋เวยลากกระเป๋าเดินทางออกมา ลู่เจ๋อเฉิงก็แสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เขาขมวดคิ้วจ้องมองเธอ "ทำอะไร ทำไมมองคุณทำแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนว่าจะย้ายออกไปจากผมอย่างไรอย่างนั้น?"
"เปล่า…" ตานอวี๋เวยเก็บของลงในกระเป๋าอย่างต่อเนื่อง เธอพยายามปรับเสียงให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
"คุณก็รู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงที่คึกคัก ร้านของพวกเราก็อยู่ในทำเลทอง บางครั้งฉันก็ยุ่งมากเกี่ยวกับโปรโมชั่นการขาย ไม่สะดวกที่จะกลับมาทุกวัน ฉันไปอยู่ที่นั่นสักพัก รอให้เสร็จธุระเดี๋ยวก็กลับมา ไม่นานหรอก"