ZOMBIE SISTER STRATEGY- ซอมบี้สาวเจ้าแผนการ - ตอนที่ 86-87 : ซอมบี้ชื่อ ชิวลิ่ลี่
ZOMBIE SISTER STRATEGY- ซอมบี้สาวเจ้า…
บทที่ 86-87 : ซอมบี้ชื่อ ชิวลิ่ลี่
หลินเสี่ยวรู้สึกได้ว่าซอมบี้สาวที่กอดเธอไว้ขณะร้องไห้เสียงดังตัวสั่นเล็กน้อย
เธอถอนหายใจและตบไหล่ของเธอเบา ๆ
หลินเสี่ยวสามารถจินตนาการได้ว่าเธอต้องกลัวแค่ไหนเมื่อเธอตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นซอมบี้เลือดเย็น และมีครอบครัว ของเธอด้วยครอบครัวของเธอจําเธอไม่ได้อีก และไม่มีใครคอยดู แลเธอหรือเลี้ยงดูเธอมนุษย์ที่เธอพบเริ่มโจมตีเธอ ดังนั้น เธอจึง ทําได้เพียงซ่อนตัวเธออาศัยอยู่คนเดียวในโลกหลังวันสิ้นโลก ทั้ง หมดนี้อาจจะง่ายกว่าที่จะยอมรับถ้าเธอเป็นผู้ใหญ่ แต่เธอเป็นเพียงเด็กสาวเธออาจจะเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่เอาแต่ใจซึ่งต้องพึ่ง พาครอบครัวของเธอสําหรับคนเช่นนี้การอยู่คนเดียวเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะเมื่อเธอกลายเป็นซอมบี้
หลินเสี่ยวไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากซอมบี้สาวกอดเธอ ไว้แน่นเธอได้ยินเสียงซอมบี้ร้องดังข้างหู แต่มองไม่เห็นว่าเธอกําลังหลั่งน้ําตา
เธอสงสัยว่าซอมบี้จะหลั่งน้ําตาได้หรือไม่
หลินเสี่ยวรอสักพัก จากนั้นก็รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย ซอมบี้สาวร้องไห้มานานพอสมควร แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุด หลังจากเล่าประวัติครอบครัวให้หลินเสี่ยวฟังแล้ว เธอเริ่มพูดถึงวิธีการที่เธอผ่านมาได้ตลอดห้าปีที่ผ่านมา
เธอพยายามขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ แต่พวกเขาทําร้ายเธอเมื่อเห็นเธอแม้ว่าเธอจะไม่ได้วางแผนที่จะต่อสู้กลับมนุษย์เหล่านั้นไม่เคยให้โอกาสเธอในการเริ่มต้นการสื่อสาร เธอลองสองสามครั้งแต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม เมื่อมนุษย์ที่มีพลังพิเศษเหล่านี้เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นในไม่ช้าพวกเขาก็คุกคามเธอ ดังนั้น เธอจึงล้มเลิกที่จะพยายามสื่อสารกับมนุษย์หลังจากนั้น อย่างไรก็ตามเธอไม่ชอบคุยกับซอมบี้ เพราะเธอรู้สึกว่าพวกมันเป็นสัตว์
ประหลาด
นอกจากนี้ ซอมบี้ยังมีเพียงแค่สัญชาตญาณเท่านั้น ไม่มีมนุษยธรรมใด ๆ รวมถึง อัจริยะระดับสูงและคนที่มีพลังอํานาจซอมบี้สาวที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในสังคมมนุษย์รู้สึกว่าซอมบี้ระดับสูง นมีลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาดมากกว่าซอมบี้ทั่วไป
เธอทนไม่ได้ที่จะกินเนื้อมนุษย์ ขุดสมองมนุษย์ และเคี้ยวหัวใจมนุษย์เหมือนที่ซอมบี้ตัวอื่นกําลังทํา ดังนั้น เธอจึงล่าสัตว์เพื่อเลี้ยงตัวเองเธอบังคับตัวเองให้กินสัตว์ที่ล่าได้แม้ว่ามันจะรสชาติแย่ก็ตามเพราะเธอรู้สึกว่าจะตายถ้าไม่กินเนื้อสัตว์แม้ว่าเธอจะเป็ นซอมบี้ก็ตามแม้ว่าเธอจะกลายเป็นครึ่งคนครึ่งซอมบี้ แต่เธอก็ยังต้องการมีชีวิตอยู่ เหตุผลง่ายๆก็คือเธอกลัว!
เธอร้องไห้ตลอดสามนาที จากนั้นก็ปล่อยหลินเสี่ยวและก้าวถอยหลัง
หลังจากนั้น หลินเสี่ยวมองไปที่ใบหน้าของเธอและพบว่าใบหน้าของเธอแห้งสนิทโดยไม่มีน้ําตาใด ๆ แต่ดวงตาของเธอเปลี่ยนไปค่อนข้างมากดวงตาคู่นั้นเป็นเพียงแสงสีแดงจาง ๆ ก่อนหน้านี้
แต่ตอนนี้แสงสีแดงนั้นส่องสว่างมากจนดูเหมือนหลอดไฟสีแดงคู่หนึ่ง! โชคดีที่เป็นเวลากลางวันแสกๆ ดวงตาของเธอจึงไม่น่าก ลัวเท่าไหร่หลินเสียวนึกไม่ออกว่าดวงตาของเธอจะพราวขนาดไหนถ้าตอนนี้มันมืด
เมื่อเห็นว่าซอมบี้สาวสงบลงแล้ว หลินเสี่ยวหยิบแผ่นจดบันทึกและปากกาออกมาและเริ่มเขียนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเขียนเสร็จซอมบี้สาวส่งเสียงกรีดร้องอีกครั้งด้วยเสียงอันโหยหวนของเธอ
“ฉันจะติดตามเธอ! เธอจะไปไหน ไม่ว่าเธอจะไปไหน ฉันจะไปกับเธอ!” เธอพูด
หลินเสี่ยวหยุดเขียน แล้วเงยหน้าขึ้นมองซอมบี้สาวด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเธอก็แสดงโน้ตในมือของเธอ
“คุณชื่ออะไร?”
หลินเสี่ยวได้ฟังเธอร้องให้เป็นเวลาสามนาที แต่ซอมบี้สาวยังไม่ได้บอกเธอเลย
ซอมบี้หญิงสาวพึมพําตอบกลับ “ลี่ลี่ ฉันชื่อ ชิวลี่ลี่ ฉันอายุเกือบสิบหกก่อนที่ฉันจะกลายเป็นซอมบี้ ทําไมเธอไม่คุย? จะเขียนลงกระดาษทําไมไม่เหนื่อยจะเขียนเหรอ?
หลินเสี่ยวรู้สึกว่าซอมบี้ตัวนี้ที่ชื่อชิวลี่ลี่เหมือนเด็กน้อยที่มีแต่ความอยากรู้อยากเห็น
แสงสีแดงในดวงตาของเธอจางหายไป และตอนนี้ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อมองไปที่ชิวลี่ลี่ หลินเสี่ยวรู้สึกเหมือนกําลังเผชิญหน้ากับทารกวัยสามขวบ
ก่อนที่เธอจะคิดเสร็จ ชิวลี่ลี่เริ่มคํารามเพื่อถามคําถามเพิ่มเติม
ของเธอ
“อ้ากกส์ อ้ากกกส์ อ้ากกส์?”
“ฉันพยายามควบคุมเธอและซอมบี้ที่อยู่ข้างเธอ แต่ฉันพบว่าสามารถควบคุมซอมบี้ตัวนั้นได้เท่านั้น ในขณะที่เธอไม่ตอบสนองต่อพลังของฉันเลย! เธอแปลกมาก! และเธอมีพื้นที่อวกาศใช่ไหม? เมื่อกี้เธอหายตัวไปแล้วเพื่อนของเธอก็หายไป!”
หลินเสี่ยวส่ายหัว จากนั้นพยักหน้าและเขียนลงบนกระดาษว่า – “ฉันชื่อหลินเสี่ยวฉันไม่ชอบใช้เสียงเพราะฉันรู้สึกว่ามันแปลก!ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยและฉันมีอวกาศ”
“อ๊ากกส์ อ๊ากกกส์ อ๊ากกส์..”
“แต่พูดแบบนี้สะดวกกว่า! เธอกําลังมุ่งหน้าไปที่ไหน?” ชิวลี่ลี่ถามเพิ่มอีก
หลินเสี่ยวฉีกหน้าแรกของแผ่นจดบันทึก แล้วโยนมันเข้าไปในอวกาศของเธอ เพราะมันเขียนด้วยลายมือของเธอ เธอจะไม่โยนกระดาษที่มีลายมือของเธอทิ้งสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครค้นพบพวกมัน ดังนั้น เธอจึงโยนกระดาษที่ใช้แล้วลงในพื้นที่อวกาศของเธอ
หลังจากนั้นเธอก็เขียนสองคําในหน้าใหม่นั่นคือ “ภาคใต้”
“อ๊ากกส์ อ๊ากกส์!”
ฉันไปด้วย! ฉันจะไปกับเธอ! ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว…” ชิวลี่ลี่พูด
เมื่อเห็นท่าทางขอร้องในดวงตาของชิวลี่ลี่หลินเสี่ยวรู้สึกว่าเธอจะไม่ยอมรับคําตอบว่า “ไม่” เธอคาดว่าชิวลี่ลี่จะติดตามเธอไม่ว่าจะอย่างไรขณะที่เธอรู้สึกได้ว่าซอมบี้สาวตัวนี้กําลังคิดแบบนี้
เธออยากรู้ด้วยว่าทําไมชิวลี่ลี่ ถึงมาขวางทางเธอในสถานที่นี้และถ้าเช่นนั้นเธอทําสิ่งเดียวกันนี้บ่อยๆเหรอ
หลินเสี่ยวจึงเขียนลงในกระดาษว่า “เธอรู้ได้อย่างไรว่าเราจะผ่านมาที่นี่? ทําไมเธอถึงควบคุมซอมบี้จํานวนมากมาขวางทางเรา? เธอทําสิ่งนี้บ่อยหรือไม่?
“อ้ากกส์ อ๊ากกส์” ชิวลี่ลี่ส่งเสียงหอนสองสามครั้ง อย่างไรก็ตามในขณะที่หลินเสี่ยวเขียนมาตลอด จู่ๆเธอก็รู้สึกแปลก ๆ ที่คํารามแบบนั้น
ท้ายที่สุด ก่อนที่จะพบกับหลินเสี่ยว เธอจะแผดเสียงใส่ซอมบี้ตัวอื่น ๆ เพื่อส่งข้อความธรรมดาๆ เช่น “มาที่นี่” “เอาชนะ”
ด้านนั้น” หรือ ” ด้านนี้” ซึ่งมีเพียงหนึ่งหรือสองคํา แต่ตอนนี้เธอต้องการคํารามประโยคยาว ๆ ให้หลินเสี่ยวฟัง เธอคุ้นเคยกับการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วยการคํารามแต่ตอนนี้สิ่งนั่นทําให้เธอรู้สึกแปลก ๆในความเป็นจริงเธอรู้สึกแปลกมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น
ดังนั้น เธอจึงหยุดคํารามโดยไม่พูดจบ จากนั้นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วชี้ไปที่ปากกาและแผ่นจดบันทึกในมือของหลินเสี่ยว
หลินเสี่ยวยื่นปากกาและสมุดบันทึกให้เธอ เธอเข้ายึดวัตถุทั้งสองแล้วเริ่มเขียนอย่างเชื่องช้า
เธอถือปากกาด้วยมือหนึ่ง แผ่นจดบันทึกกับอีกมือ และเขียนด้วยท่าทางแปลก ๆ หลินเสี่ยวรอสักครู่ให้เธอเขียนเสร็จและแสดงสิ่งที่เธอเขียน
“ฉันรู้สึกได้ว่าเธอกําลังใกล้เข้ามา ฉันจึงส่งฝูงซอมบี้ไปหยุดเธอฉันจะหยุดซอมบี้ทั้งหมดที่มาจากที่อื่นและไล่พวกมันออกไป ถ้าเธอเป็นมนุษย์ฉันจะไม่ขวางทาง ทั้งเมืองเป็นดินแดนของฉัน
เธอหยุดหลินเสี่ยวเพราะคิดว่าเป็นซอมบี้จากถิ่นอื่น และไม่ต้องการให้เข้าไปในดินแดนของเธอ
หลินเสี่ยวจําได้แล้วว่าซอมบี้ระดับสูงส่วนใหญ่มีดินแดนของตัวเองชิวลี่ลี่ชอบเมืองนี้ เธอจึงปกป้องเมืองนี้เพื่อขับไล่ซอมบี้ทั้ง หมดจากที่อื่น ๆเธอจะไม่ทําแบบเดียวกันกับมนุษย์อาจเป็นเพราะเธอรู้ว่ามนุษย์ผู้รอดชีวิตมีฐานของตัวเองและจะไม่อยู่ในดิน แดนของเธอนาน
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่จําเป็นต้องหยุดยั้งมนุษย์ที่ผ่านพื้นที่นี้และเปิดเผยตัวเองนอกเหนือจากนี้ หลินเสี่ยวรู้สึกว่าเธอมีความกลัว ที่ไม่อาจอธิบายได้ต่อมนุษย์
“ซอมบี้กลัวมนุษย์งั้นเหรอ?” หลินเสี่ยวสงสัยโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เธอตัดสินใจปล่อยให้ชิวลี่ลี่ติดตามเธอตั้งแต่ที่เธอยืนยันชิวลี่ลี่สามารถทําหน้าที่เป็นไกด์ได้ เนื่องจากเธออาจรู้เกี่ยวกับที่ตั้งของฐานทัพในภาคใต้
จากความทรงจําของลวี่เถียนหยี หลินเสี่ยวได้เรียนรู้ว่ามีฐานสองแห่งอยู่ทางตอนใต้ แต่ไม่รู้เกี่ยวกับสถานที่เฉพาะของพวกเขาว่ามันตั้งอยู่ตรงไหน
บทที่ 87 : ชิวลี่ลี่เคลื่อนย้าย
หลินเสี่ยวกําลังเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ แต่อย่างใด สถานการณ์กลายเป็นแบบนี้
เธอเขียนบนกระดาษว่า “เธอรู้เกี่ยวกับที่ตั้งของฐานทั้งสองในภาคใต้ไหม? ฉันอยากไปที่นั่น”
ชิวลี่ลี่อ่านข้อความจากนั้นพยักหน้าและเขียนว่า “เธอกําลังมุ่งหน้าไปที่ฐานทั้งสองเหรอ? ฉันรู้ว่าฐานทั้งสองอยู่ที่ไหน แต่เธอจะไปที่นั่นทําไม?
จากนั้นเธอก็มองไปที่ใบหน้าของหลินเสี่ยวและพบว่าใบหน้าหลินเสี่ยวนั้นได้รับความเสียหายอย่างมาก ในขณะที่ผมยังไม่ได้หวีแต่มัดไว้ด้านหลังศีรษะ เธอจ้องไปที่ดวงตาของหลินเสี่ยวชั่วขณะจากนั้นเริ่มมองไปที่จมูกและปากของหลินเสี่ยว
หลินเสี่ยวเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ภายใต้การจ้องมองของเธอ เธอเขียนอีกสองสามบรรทัด “เธอมีตา จมูกและริมฝีปากที่สวยงามรูปหน้าของเธอก็สวยเช่นกัน แต่รอยแผลเป็นดูแย่มาก!เธอดูน่าเกลียดแบบนี้
หลินเสี่ยวพูดไม่ออก ชิวลี่ลี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่คิดว่าเธอน่าเกลียดเกินไป ..
ชิวลี่สี่จ้องมองเธอสักพัก แล้วเขียนลงในกระดาษว่า “ตอนนี้เธอกําลังจะไปที่ฐานทัพทางใต้ใช่ไหม? เธอต้องการพักผ่อนที่นี่ไหม?
หลินเสี่ยวส่ายหัวหลังจากอ่านบันทึก เธอต้องการหาครอบครัวของเธอ ยิ่งเร็วได้ยิ่งดี
เมื่อเห็นเธอส่ายหัว ชิวลี่ลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เขียนต่อ – “งั้นได้โปรดไปที่ที่ฉันอาศัยอยู่กับฉันหน่อย เธอมีพื้นที่อวกาศ ดังนั้น เธอสามารถใส่ของทั้งหมดของฉันในพื้นที่ของเธอและ นําไปกับเราได้ไหม? ”
หลินเสี่ยวพยักหน้าเพราะนั่นเป็นเรื่องง่ายสําหรับเธอที่จะทํา
เมื่อเห็นเธอพยักหน้า ชิวลี่ลี่ก็ลากแขนของเธอ หลินเสี่ยวรู้สึกว่าร่างกายของเธอไร้น้ําหนักในทันใดเมื่อลมพัดอย่างแรงพัดพา เธอออกไปจากที่ที่เธออยู่เธอเคลื่อนไหวเร็วมากก่อนที่เธอจะ มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ชัดเจนทั้งสองมาถึงสถานที่แห่ งใหม่หยุดอยู่หน้าอาคารสไตล์ตะวันตกหลังเล็ก
เมื่อไปถึงที่นั่นหลินเสี่ยวสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตสองตัวที่มีพลังเหมือนกับตัวเธอเองที่อยู่รอบอาคาร
“อ๊ายย!” ทันใดนั้นเอง ชิวลี่ลี่ ก็กรีดร้องออกมาดัง ๆ และทําให้หลินเสี่ยวตกใจจนแทบล้มทั้งยืน …
“เชี่ย! ทําไมเธอถึงอยากร้องก็ร้องออกมาแบบนี้? ฉันไม่ได้เตรียมตัวมา! เธออาจทําให้ฉันกลัวจนตาย! ”เธอบ่นอยู่ในหัว
พร้อมกับเสียงกรีดร้องของชิวลี่ลี่ สองร่างปรากฏตัวขึ้ นด้านบนของอาคารพวกมันมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่ดูไม่เหมีอนมนุษย์ทั่วไป
เหล่านี้เป็นซอมบี้ชายหนึ่งและหญิงหนึ่ง ขาของพวกเขางหลังค่อมมือทั้งสองข้างของร่างกาย เสื้อผ้าของพวกมันมอมแมม ทั้งหมดดูเก่าและสกปรกโชคดีที่ทั้งสองมีแขนขาครบ
ใบหน้าของพวกมันทั้งสองดูน่ากลัว เช่นเดียวกับซอมบี้อัจฉริยะตัวแรกที่หลินเสี่ยวพบ พวกมันมีตาดําและมีรอยคล้ําใต้ตา จมูกข องพวกเขาแบนปากฉีกแยกถึงหู และฟันอันแหลมคมยื่นออกมา จากปากของพวกมันเปล่งประกายด้วยแสงเย็น
ซอมบี้สองตัวนี้ดูเหมือนจะกลัวชิวลี่ลี่มาก หลินเสี่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงความกลัวที่มีต่ออีกฝ่าย ดูเหมือนพวกเขาจะอยู่ภายใต้ การควบคุมของชิวลี่ลี่ขณะที่พวกเขาปรากฏตัวทันทีหลังจากที่ เธอเรียกหาพวกเขาเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่กล้าต่อกรกับเธอ
พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้ชิวลี่ลี่ แต่ยืนห่างจากเธอเจ็ดหรือแปด เมตร มองเธออย่างกล้าๆกลัวๆ
“อ๊ากกส์!” ชิวลี่ลี่คํารามใส่พวกเขา หลังจากนั้นซอมบี้ทั้งสองก็เคลื่อนตัวออกไปข้าง ๆ และเฝ้าอยู่ที่ประตูด้านหน้าของอาคารจากนั้นเธอลากแขนเสื้อชิวลี่ลี่และเดินเข้าไปในอาคาร
หลินเสี่ยวมองไปรอบ ๆ และพบว่าทั้งอาคารเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ราวกับว่ามีคนมาทําความสะอาดทุกวัน ด้านหลังประตูทางเข้าเป็นลานเล็ก ๆพื้นคอนกรีตของสนามนั้นสะอาดมากไม่มีใบไม้ร่วงหรือทรายเลยมีต้นไม้ยืนต้นอยู่ในสนาม
หลินเสี่ยวเห็นไม้กวาดวางอยู่ใต้ต้นไม้
หลินเสี่ยวเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติที่ชิวลี่ลี่จะทําสิ่งที่มนุษย์เท่านั้นที่จะทําในขณะที่เธอเป็นซอมบี้ที่มีความทรงจําของมนุษย์เหมือน กับตัวเธอเองเธอแค่อยากรู้ว่าเธอกวาดพื้นด้วยตัวเองหรือให้ซอมบี้สองตัวข้างนอกทํา
ชิวลี่ลี่ดูเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยในชุดสีขาวสะอาดตาหลินเสี่ยวจึงคิดว่าเธอจะไม่กวาดพื้นเอง แต่จะทําให้ซอมบี้ตัวอื่นทําเพื่อเธอ
ในขณะที่วาดภาพซอมบี้สองตัวที่กําลังกวาดพื้น หลินเสี่ยวอยากที่จะหัวเราะ เธอไม่สามารถบอกได้ว่าทําไม แต่เธออยากจะหัวเราะ!
เหยียบพื้นคอนกรีตที่สะอาด หลินเสี่ยวรู้สึกสบายตัวขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย โลกหลังวันสิ้นโลกสกปรกและไม่เป็นระเบียบจนแทบทุกมุมดูเหมือนจะยุ่งเหยิงเธอรู้ว่าฐานของผู้รอดชีวิตที่เป็นมนุษย์อาจจะสะอาดกว่าส่วนอื่นๆของโลกแต่เธอไม่เคยอยู่ในฐาน
ใด ๆ
ดังนั้น คําว่า ”ยุ่งเหยิง” จึงเป็นความประทับใจแรกของเธอที่มีต่อโลกหลังวันสิ้นโลกนี้
หลังจากนําทางหลินเสี่ยวไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่งแล้ว ชิวลี่ลี่ไปที่ชุดโซฟาหนังกลับด้านบน จากนั้นที่โต๊ะน้ําชาคริสตัลที่ละเอี ยดอ่อนและชุดน้ําชาที่สวยงาม
หลินเสี่ยวเข้าใจว่าชิวลี่ลี่ต้องการให้เธอเก็บสิ่งเหล่านี้ดังนั้น เธอจึงเดินไปส่งชุดโซฟาและโต๊ะน้ําชาและทุกอย่างเข้าไปอยู่ในพื้นที่อวกาศของเธอ
หลินเสี่ยวพบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่จัดอย่างดีในห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แต่รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อยเมื่อเห็นต้นไม้แป ลก ๆ ในกระถางดอกไม้
ชิวลี่ลี่เป็นซอมบี้ที่ให้ความสําคัญกับสุขอนามัย และรู้ว่าจะมีความสุขกับชีวิตอย่างไร มนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ในเมืองทั้งหมดห นี้ไปดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอสามารถนําสิ่งที่ชอบจากบ้านหลังใดก็ได้
อย่างไรก็ตาม ตัดสินด้วยดอกไม้คล้ายปลาหมึกหลินเสี่ยวรู้สึกว่าชิวลี่ลี่มีรสนิยมแปลก ๆ
ภายใต้คําแนะนําของชิวลี่ลี่ หลินเสี่ยววางทุกอย่างในห้องนั่งเล่นลงในพื้นที่ของเธอ รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ผู้และดอกไม้คล้ายปลาหมึกจากนั้นชิวลี่ลี่ก็พาเธอไปที่ห้องครัวเพื่อหาอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารและเครื่องครัวที่สวยงามทุกประเภท
ชิวลี่ลี่อาศัยอยู่ในโลกหลังวันสิ้นโลกเพียงลําพังเป็นเวลาหลายปีในช่วงเวลานี้เธอสะสมของสวย ๆ มากมายซึ่งมีราคาแพงมากในโลกเก่า
หลังจากเข้าครัวเสร็จแล้ว ชิวลี่ลี่พาหลินเสี่ยวไปที่ชั้นสองโดยไม่ต้องมีคําถามห้องทั้งสามห้องบนชั้นสองก็ว่างเปล่าโดยหลินเสี่ยวจากนั้นพวกเขาก็ขึ้นไปชั้นสาม
หลังจากที่หลินเสี่ยวใส่ชิ้นส่วนเกือบทุกชิ้นในอาคารเข้าไปในพื้นที่ของเธอแล้ว ชิวลี่ลีก็พาเธอกลับลงไปชั้นล่าง หลินเสี่ยวรู้สึกว่าพื้นที่ว่างในพื้นที่ของเธอแคบลงหลังจากที่เธอใส่ข้าวของทั้งหมดของชิวลี่ลี่เข้าไป
หลังจากออกมาจากอาคาร ชิวลี่ลี่ชี้ไปที่ซอมบี้สองตัวที่ยืนอยู่ข้างประตูอย่างเชื่อฟัง และคํารามใส่หลินเสี่ยวเธอถามว่าเธอจะเอาซอมบี้สองตัวนี้ไปด้วยได้ไหม
หลินเสี่ยวไม่รังเกียจ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นหยิบแผ่นจดบันทึกและเขียนว่า “แล้วแต่เธอ แต่พวกเขานั่งในรถของฉันไม่ได้
ชิวลี่ลี่พยักหน้าอย่างมีความสุขจากนั้นก็รับแผ่นจดบันทึกจากมือของหลินเสี่ยวและเขียนว่า “เอาล่ะ! ฉันจะให้พวกเขานั่งบนรถก็ได้!
หลินเสี่ยวรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อยแต่ก็เห็นด้วย
หลังจากนั้น ชิวลี่ลี่ก็คํารามใส่ซอมบี้ทั้งสองและลากแขนของหลินเสี่ยวแล้วหลินเสี่ยวก็ถูกพัดพาไปอีกครั้งและถูกส่งกลับไปที่ร ถของเธอภายในพริบตา
ดูเหมือนว่าชิวลี่ลี่มีพลังลม
หลังจากกลับมาที่รถของหลินเสี่ยวแล้ว ชิวลี่ลี่นั่งตรงเบาะหน้าก่อนนั่งลงเธอเคาะเบาะเพื่อให้แน่ใจว่าสะอาด หลังจากบิดประตูรถแล้วเธอเห็นฝูงซอมบี้ที่ยังคงขวางทางอยู่
เธอยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่างทันทีเพื่อกรีดร้องใส่ฝูงซอมบี้
“อ้ายย!”
หลินเสี่ยวเพิ่งเปิดประตูเข้านั่งที่นั่งคนขับเมื่อเธอได้ยินเสียงกรีดร้องของชิวลี่ลี่ ซึ่งทําให้มือของเธอสั่น
ปัง!
ประตูมันปิดเอง
หลินเสี่ยวพูดไม่ออกอีกครั้ง