Yusha ni naritai shojo to, yusha ni narubeki kanojo [ฉันคือคนที่อยากจะเป็นผู้กล้าและเธอผู้ที่ควรจะเป็นผู้กล้า] - ตอนที่ 2 อารัมภบท
ตั้งแต่สมัยที่อยู่บ้านเกิด ฉันก็มีความคิดอย่างหนึ่งอยู่ในหัวมาโดยตลอด บางที ฉันอาจจะเป็นคนที่ดึงดูดปัญหาโดยธรรมชาติก็ได้
ขณะที่ฉันกำลังเกาแก้มของตัวเองเบาๆ มองดูภาพทิวทัศน์ที่แผ่กว้างอยู่ตรงหน้า เวลาในตอนนี้ใกล้จะเย็นแล้ว เมืองหลวงสเปดของอาณาจักรคาร์ซ หนึ่งในอาณาจักรของมนุษย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ล้อมรอบด้วยป่าและทะเลสาบ
ในระยะไกล มีหอนาฬิกาและกำแพงปราสาทขนาดใหญ่ที่ประดับตกแต่งในสไตล์โบราณที่ดูหรูหราจนเกินพอดี ส่องแสงรับกับแสงอาทิตย์ยามเย็นสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ดูเหมือนกำลังถูกปกคลุมด้วยอาคารสีเทาที่ทันสมัยและดูเหมือนกันไปหมด ซึ่งฉันคิดว่ามันน่าเสียดายจริงๆ
ตอนนี้ฉันยืนอยู่ในพื้นที่คล้ายลานกว้าง รอบๆ มีชายหญิงหนุ่มสาวมากมาย สวมชุดเกราะและอาวุธครบมือ พวกเขาทุกคนใส่อุปกรณ์ลักษณะเหมือนปลอกคอรูปเกียร์
ที่ฉันไม่คุ้นเคยที่บ้านเกิดของฉัน แต่ก็พึ่งได้รู้จักเร็วๆนี้แหละ
แต่สิ่งนั้นยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญสิ่งสำคัญในตอนนี้คือ ฉันจะจัดการ “เรื่องที่ทำพลาดไป” ครั้งนี้ยังไงดี?
“แก…เจ้าเผ่ามาร!”
พอก้มมองลงไป ฉันก็เห็นเด็กสาวที่เป็นคู่ต่อสู้ของฉัน นอนอยู่บนพื้นด้วยเส้นผมที่ถูกเผาจนหงิกงอเล็กน้อย ดวงตาของเธอเปี่ยมด้วยความเคียดแค้นมองขึ้นมาที่ฉัน ผู้ชมรอบข้างที่เคยแสดงท่าทีเย็นชา หรือดูถูกเมื่อครู่ ต่างพากันมองมาที่ฉันด้วยสายตาราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด น่าเสียดายจริงๆ
สงครามระหว่างเผ่ามารกับมนุษย์จบไปตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วแท้ๆ
ในตอนนั้น เสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าร้องก็ดังขึ้น….เอ่อ ไม่ใช่เสียงฟ้าร้องหรอก นั่นมันเสียงท้องฉันร้องต่างหาก การใช้ “พลัง” แบบนี้ทำให้หิวจริงๆเลยน้า
“ระ…รุจิกะ…”
เสียงเรียกชื่อฉันดังขึ้นจากกลุ่มคนที่มุงดูอยู่ ผู้หญิงผมสีเงิน ดวงตาสีแดง ซึ่งเป็นเด็กสาวที่งดงามมาก เธอคือคนแรกที่ฟื้นตัวจากอาการตกใจและเรียกชื่อฉันออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ
รุจิกะ — นั่นคือชื่อของฉัน แม้ว่าบางครั้งจะถูกเข้าใจผิดเพราะคำสรรพนาม(Boku)ที่ฉันใช้และการกระทำของฉัน แต่จริงๆแล้วฉันเป็นเด็กผู้หญิงนะ
เลโอนี่ เด็กสาวที่เรียกฉันเป็นคนที่งดงามอย่างไร้ข้อกังขา ผมยาวสีเงินที่ดูเหมือนสีขาวได้รับการดูแลอย่างดีจนน่าจะให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนผ้าไหมจากสวรรค์ประทานให้เลยละ และดวงตาสีแดงเหมือนเปลวไฟเย็นชานั้น ตอนนี้ดูเหมือนกำลังสั่นไหวด้วยความไม่แน่ใจ
เลโอนี่ดูมีบรรยากาศที่ดูเหมือนจะมีอมทุกข์ปกคลุมอยู่รอบตัว แต่สำหรับฉันนั่นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะฉันจะช่วยเธอขจัดความทุกข์นั่นออกไปเอง
เธอที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นแบบเด็กผู้หญิงในตอนนี้ดูน่ารักจนฉันอดยิ้มไม่ได้ ฉันจึงเริ่มพูดขึ้นมา
“เลโอนี”
“…!”
เมื่อฉันตอบกลับ เธอแสดงท่าทีหวาดกลัวเล็กน้อย อา… ทำให้รู้สึกเจ็บนิดๆเลยแฮะ กับปฏิกิริยาแบบนั้น แต่มันช่วยไม่ได้ล่ะนะ ฉันเพิ่งจะก่อเรื่องไปนี่นา เธออาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับฉันไปแล้ว แต่ก็นะ เดี๋ยวเธอก็จะชินเองล่ะ เพราะเราคงต้องใช้เวลาร่วมกันอีกนาน
เอาล่ะ… ถ้าจะพูดถึงคำว่า “ใช้ชีวิตร่วมกัน” พวกมนุษย์นี่ชอบใช้คำพูดแบบอ้อมค้อมเสียจริงๆ ถ้าเป็นบ้านเกิดฉัน พูดแบบนี้ต้องโดนหัวเราะเยาะแน่ๆ ดังนั้น ฉันจะพูดในแบบของฉันเองแล้วกัน
“นี่ เลโอนี” ฉันเอ่ยขึ้น
“…อะไรเหรอคะ?” เธอถามด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยความกังวล
ฉันเดินเข้าไปหาเธอ ทิ้งคู่ต่อสู้ที่ยังคงนอนร้องครวญครางอยู่ข้างหลังไว้ แล้วยื่นมือไปหาเธอพร้อมรอยยิ้ม
ในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ กลับถอยห่างไปด้วยท่าทีหวาดกลัว นี่มันอะไรกัน ท่าทางไม่น่ารักเลยนะ
ในดวงตาของเลโอนี่ที่มองฉันสะท้อนภาพตัวฉันที่มีผมสีดำ ดวงตาสีดำ และตัวเตี้ย ฉันถอนหายใจเบาๆ …เฮ้อ จริงๆ ฉันอยากสูงกว่านี้อีกนิดนะ
เธอมองฉันด้วยสายตาระแวดระวัง แต่ฉันก็รับมือกับสายตานั้นด้วยรอยยิ้ม เธอจับมือฉันและยืนขึ้น เธอตัวสูงกว่าฉันไปประมาณหนึ่งศีรษะเลยแฮะ อืมม
ดูเท่ดีนะ ฉันชอบคนเท่ๆด้วยสิ เอาล่ะ ฉันมองเธอแล้วยิ้มก่อนจะพูดว่า—
”อะแฮ่ม… เลโอนี่ เมื่อกี้กล้าหาญมากเลยนะ”
“….ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ…”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันประทับใจมากเลยนะ!”
“….หา…”
“แล้วก็ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องด้วยน่ะ”
“…เอ๊ะ”
ฉันหยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะสบตากับเธอ ในดวงตาสีแดงคู่นั้นยังคงมีแววระมัดระวังอยู่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับฉันเลย เธอเป็นคนที่ซื่อตรงและมีความคิดที่หนักแน่นมาก ดูเหมือนเป็นคนที่มีความยึดมั่นในคุณธรรมสูง ซึ่งฉันก็ชื่นชมมากเช่นกัน
แต่สิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความกล้าไม่น้อย ฉันหวังว่าเธอจะรับฟังด้วยท่าทีที่เปิดใจนะ เอาล่ะ… เป็นไงเป็นกัน! ผู้หญิงต้องมีความกล้า!
แม่เคยบอกฉันแบบนั้น
“เลโอนี ไบเอซ เธอจะเป็นคู่ชีวิตของฉันไหม?”
“…เอ๋? คะ-คู่ชีวิตเหรอ?”
อ๊ะ แก้มของเธอแดงนิดหน่อย นี่แปลว่าใจเต้นหรือเปล่านะ? หรือว่าใช่กันนะ? ฉันก็แสดงด้านที่ดูเท่ไปบ้างแล้ว คิดว่าน่าจะไปได้สวย
ดีล่ะ งั้นจะใช้โอกาสนี้ลุยจีบเธอให้สำเร็จเลยแล้วกัน
“เลโอนี่ เธอเป็นคนใจดี แล้วยังดูตรงกับสเปกของฉันมากๆ เลย ฉันจะทำให้เธอมีความสุขแน่นอนนะ ขอร้องล่ะ! ได้ไหม?”
“เอ๋ เอ่อ… เอ๋?”
“หรือว่า การที่ต้องมาเป็นคู่ชีวิตกับปีศาจทำให้เธอไม่สบายใจหรอ? แต่ไม่ต้องห่วงนะเลโอนี่ แม่ของฉันบอกว่าเรื่องการเป็นคู่ชีวิตน่ะ มันไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบ แต่เป็นเรื่องของการปรับตัวกันน่ะ!”
“มะ ไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ มันไม่ใช่แบบนั้น…”
เอ๋? ดูเหมือนว่าการ์ดเธอหนากว่าที่คิดไว้อีกแฮะ คิดว่าน่าจะทำได้แล้วแท้ๆ ฉันทำพลาดตรงไหนกันนะ?
พอลองนึกย้อนดู ทุกๆอย่างมันเกิดก็ตอนที่ฉันมาที่เมืองแห่งนี้