Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ - ตอนที่ 69 การเก็บเกี่ยว

[มนุษย์: เย่เทียน

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: หลุดพ้น

พรสวรรค์ความเร็ว: สูงสุด

พรสวรรค์ด้านดาบ: สูง

พรสวรรค์เงาทมิฬ: เริ่มต้น

พรสวรรค์ในการรักษา: สูงสุด

พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่ง: สูง

พรสวรรค์ด้านความอดทน: ปานกลาง

พรสวรรค์ในการป้องกัน: ปานกลาง]

เย่เทียนมองไปยังพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ด้วยพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นเราจะสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ได้ในเร็วๆนี้และในอนาคตเราจะไปถึงระดับราชา แม้จะความเป็นไปได้จะไม่ใช่ 100% แต่ก็มีโอกาส 80% ซึ่งมันก็ยังสูงมากตราบใดที่ไม่โชคร้ายเราก็สามารถกลายเป็นระดับราชาได้ความแข็งแกร่งของเราจะเหนือกว่าระดับราชาทั่วไปอย่างแน่นอน”

เย่เทียนพึมพํา

จากนั้นเขาก็เดินไปล่าธารเพื่อทําความสะอาดร่างกาย

ในเวลานี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องรีบไปหาเย่วหลินแล้ว เย่เทียนมองไปยังนาฬิกาที่เย่วหลินมอบให้

บนหน้าปัดมีจุดสีแดงอยู่สองจุด ซึ่งน่าจะเป็นตําแหน่งที่เขาและเย่วหลิงอยู่

ในเวลานี้จุดสีแดงอีกจุดหนึ่งกําลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ

“หากจุดสีแดงทั้ง 2 จุดเคลื่อนไหวพร้อมกัน เราคงจะแยกไม่ออกว่าจุดไหนคือตําแหน่งของเราในตอนนี้จุดสีแดงที่กําลังเคลื่อนไหวหมายถึงเย่วหลิงหมายความว่าเย่วหลิงกําลังมาทางเรา!” เมื่อตระหนักได้ดังนั้นเย่เทียนจึงเคลื่อนไหวตลอดทาง

เย่เทียนไม่กล้ารีบเร่งจนเกินไป เขาคอยสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบๆอยู่ตลอดเวลา

เขามีความรู้เกี่ยวกับเขตแดนลับน้อยเกินไป รู้เพียงว่าเขตแดนลับแห่งนี้มีสมบัติมากมายเช่นสมุนไพรต่างๆที่มีอายุมากบางทีมันอาจจะมีอายุมากกว่าร้อยปีหรือพันปีในขณะที่สมุนไพรบนโลกส่วนใหญ่มีอายุไม่เกิน 100 ปีเนื่องจากตั้งแต่มีรอยแยกปรากฏขึ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพิ่งจะครบรอบ 100 ปีเท่านั้นพลังปราณปฐมแห่งฟ้าดินที่เกิดขึ้นทําให้สมุนไพรหลากหลายชนิดเจริญเติบโตกลายเป็นสมุนไพรพลังปราณ

สําหรับสมุนไพรอายุพันปีนั้นมันต้องย้อนกลับไปในสมัยโบราณ สมุนไพรที่มีอายุขนาดนี้ล้วนหาได้ยากยิ่งบนโลกและการค้นหาก็ว่ายากอีกทั้งบางครั้งสมุนไพรเหล่านั้นยังถูกครอบครองโดยสัตว์อสูรระดับราชาหากต้องการได้รับมันก็ต้องสังหารสัตว์อสูรระดับราชาให้ได้

แต่ในเขตแดนลับ สมุนไพรอายุร้อยปีพันปีนั้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งหลังจากวิ่งออกไปได้ไม่นานเย่เทียนก็สัมผัสได้ถึงพลังปราณที่เข้มข้น

“อยู่ตรงนั้น!”

เย่เทียนลดความเร็วลง และเริ่มบรรจงขุดสมุนไพรบนพื้น

“โสมร้อยปี!”

เย่เทียนเก็บมันอย่างมีความสุข

ต้องรู้ก่อนว่าที่ฐานทัพทะเลมาร โสมอายุ 100 ปีนี้มีมูลค่าไม่น้อยสามารถขายได้ 50 ล้านหยวน

แม้ว่าเขาจะมีเงินเก็บหลายร้อยล้าน แต่เงินเหล่านั้นก็ไม่เพียงพอ ยิ่งระดับการบ่มเพาะของเขาสูงเท่าไหร่ เขาย่อมใช้เงินมากขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้เพิ่งเข้าสู่เขตแดนลับก็ได้รับผลประโยชน์เช่นนี้แล้ว

เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อเวลาผ่านไปเขาจะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น

“ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมนักรบผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเย่วถึงแสดงความไม่พอใจออกมาถ้าเราขายโควต้านี้ออกไป ต้องมีคนขอซื้อในราคาหลายพันล้านแต่เย่วหลังกลับมอบโควตาอันล้ำค่านี้ให้เรา” เย่เทียนถอนหายใจ

เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาพยายามปกป้องเย่วหลิงในเขตแดนลับแห่งนี้ ให้ถึงที่สุด

ตลอดเส้นทางบางครั้งเย่เทียนก็ชะลอความเร็วและเก็บสมุนไพรบางอย่าง ขอแค่มันมีค่ามากกว่า 1 ล้านหยวน เขาก็จะเก็บมันมา แต่โชคไม่ดีที่เขาไม่ได้ต้องการถุงเก็บสมบัติดังนั้นกระเป๋าของเขาจึงขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว!

ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป

ในที่สุดเย่เทียนมองและเห็นเย่วหลิงกําลังใกล้เข้ามาแล้ว

ณ ตอนนี้เอง

สัตว์อสูรตัวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเย่เทียน

[ประเภท: พยัคฆ์โลหิต

พรสวรรค์ทางสายเลือด: ระดับสูง

พรสวรรค์ในการเผาผลาญเลือด: ระดับเริ่มต้น]

เสือโคร่งขนาดเท่าลูกวัว จ้องมายังเย่เทียนอย่างดุร้าย และโจมตีเข้ามาทันที

เย่เทียนเคยเห็นสัตว์อสูรแบบนี้มาหลายต่อหลายตัว

พยัคฆ์โลหิตเป็นสัตว์อสูรระดับสูง แต่พวกมันยากที่จะรับมือ จุดเด่นของมันทําให้ความสามารถของมันสูงกว่าสัตว์อสูรระดับสูงทั่วไปเพราะพวกมันสามารถเผาผลาญโลหิตและปลดปล่อยพลังทางสายเลือดออกมาได้พร้อมกันพลังโจมตีของพวกมันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าในพริบตา

หากพยัคฆ์โลหิตตัวหนึ่งพยายามต่อสู้อย่างสุดชีวิต ก็เพียงพอที่จะสังหารนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นกลางได้ ลืมแม้กระทั่งสามารถสังหารนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นปลายได้แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยการบาดเจ็บสาหัส

เมื่อเห็นพยัคฆ์โลหิตพุ่งเข้ามา เย่เทียนก็ฟันดาบออกไป

พรูด!!!

พยัคฆ์โลหิต ปลูกผมดาบแยกออกเป็น 2 ส่วน มันตายไปโดยที่ยังไม่ได้ทําอะไร!

เลือดของสัตว์อสูรพยัคฆ์โลหิตมีค่าเล็กน้อย แต่เย่เทียนไม่มีเวลาเก็บเลือดของสัตว์อสูรเหล่านี้เพราะเขาไม่สามารถนําเลือดของสัตว์อสูรเหล่านี้ติดตัวไปด้วยได้เพราะมันจะเป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่จนเกินไป

เย่เทียนวิ่งผ่านซากศพของสัตว์อสูรพยัคฆ์โลหิตและวิ่งไปยังทิศทางของเย่วหลิงอย่างรวดเร็ว

หนึ่งนาทีต่อมา ในที่สุดเย่เทียนก็พบกับเย่วหลิง แต่ในตอนนี้สภาพของอีกฝ่ายไม่ค่อยดีนัก

อาการบาดเจ็บของเธอไม่เบาเลย ใบหน้าของเธอซีดเผือด เธอกําลังเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรหลายตัว สัตว์อสูรเรานั้นเป็นพยัคฆ์โลหิตเช่นกันเห็นได้ชัดว่าบริเวณนี้ควรจะเป็นอาณาเขตของพวกมัน

“พยัคฆ์โลหิตสิบสามตัว!”

เย่เทียนตกใจเล็กน้อย

หากนับรวมกับพยัคฆ์โลหิตที่ถูกสังหารแล้ว จํานวนของพวกมันก็ราวๆ 20 ตัว

ต้องยอมรับว่าเย่วหลิงโชคร้ายเล็กน้อยที่ได้พบกับพยัคฆ์โลหิตจํานวนมาก

“เย่วหลิงได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร? พยัคฆ์โลหิตเหล่านี้คงไม่สามารถทําร้ายเธอได้เย่วหลิงมี พรสวรรค์ด้านความเร็วระดับรองสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 2 เท่าถ้าเธอต้องการหลบหนีสัตว์อสูรพยัคฆ์โลหิตก็ไม่สามารถหยุดเธอได้”

เย่เทียนรู้สึกแปลกๆ

ในตอนนั้นเอง เย่วหลิงก็ใช้ทักษะดาบที่ทรงพลัง

“ดาบสิบทิศ!”

ประกายแสงแห่งดาบที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณกวาดไปทั่วรัศมีหลายสิบเมตรพยัคฆ์โลหิตหลายตัวหลบไม่พ้นถูกแสงดาบฉีกกระชากจนล้มลงจมกองเลือด”ช่างเป็นทักษะดาบที่ทรงพลังจริงๆ มันน่าจะเป็นทักษะดาบระดับทองแดงแต่มันกลับแข็งแกร่งกว่าฟาดฟันวายุครามของเรา!”
เย่เทียนคาดเดา

เขารู้อยู่แล้วว่าทักษะดาบระดับทองแดงไม่ได้ฝึกฝนกันง่ายนัก ทักษะดาบระดับทองแดงบางอย่างสามารถเพิ่มพลังโจมตีได้เจ็ดเท่าหากฝึกฝนถึงระดับสมบูรณ์แบบแต่ทักษะดาบระดับทองแดงนั้นหายากมากมันมีราคาแพงมากมูลค่าของมันสูงกว่าหลายพันล้านหยวน

อย่างไรก็ตาม ตระกูลเย่วเป็นตระกูลใหญ่ของฐานทะเลมาร หากเย่วหลิงต้องการเรียนรู้ทักษะดาบระดับทองแดงก็ไม่ใช่เรื่องยาก

หลังจากใช้ทักษะดาบทั้งสิบทิศ พยัคฆ์โลหิตเกือบทั้งหมดได้รับบาดเจ็บสาหัสและเหลือเพียงไม่กี่ตัว

ในเวลานี้เย่เทียนได้ปรากฏตัวและฆ่าพยัคฆ์โลหิตเหล่านั้นในพริบตา

“เย่ว์หลิง ทําไมคุณถึงได้รับบาดเจ็บ? พยัคฆ์โลหิตพวกนี้ไม่น่าจะทําร้ายคุณได้”เย่เทียนถาม

“โชคร้ายข้าได้พบกับสัตว์ร้ายระดับสูงที่ทรงพลัง และอีกฝ่ายมีพรสวรรค์พิเศษหากฉันไม่มีพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับรอง เกรงว่าฉันคงต้องตายแน่!”

เย่วหลิงกล่าวด้วยความหวาดกลัว

ไม่นานเย่เทียนก็รู้ที่มาของสัตว์อสูรจากเย่ว์หลิง

มันเป็นสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ด้านเนตรเป็นสัตว์อสูรที่ไม่เคยพบมาก่อนดวงตาที่สามตรงหว่างคิ้วของมันสามารถปลดปล่อยล่าแสงสีดําออกมาได้พลังของมันสามารถทําลายการป้องกันของเย่วหลิงส่งผลให้เธอบาดเจ็บสาหัสถ้าไม่ใช่เพราะเธอหลบหนีด้วยพรสวรรค์ด้านความเร็วเธอคงต้องตายจริง

“พรสวรรค์ด้านเนตร!”

เย่เทียนสนใจอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่มันยากที่จะหาสัตว์อสูรตัวนี้พบใครจะรู้ว่ามันหายไปไหนแล้ว”คุณรักษาตัวก่อนเถอะผมจะปกป้องคุณเอง!”

เย่เทียนกล่าว

“อื้ม!”
เย่วหลิงนั่งขัดสมาธิและหยิบน้ายารักษาระดับสูงออกมาจากถุงเก็บของ หลังจากดื่มมันลงไปเธอก็เริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่วหลังก็กลับมาเป็นปกติ

ขณะที่ทั้งสองกําลังจะจากไป แสงประหลาดก็ลอยมาจากฟากฟ้า

แสงนี้ส่องไปทั่วบริเวณและส่งผ่านไปยังเย่เทียน

“นั่นคือแสงที่แผ่ออกมาจากภายในรอยแยกมิติ ต้นกําเนิดของแสงคือรอยแยกมิติดูจากระยะทางแล้วพวกเราอยู่ไม่ไกลจากรอยแยกมิติมากนักโชคของเราถือว่าไม่เลวเลย!”เย่วหลิงกล่าวด้วยความยินดี

หากโชคร้าย ถูกส่งไปยังพื้นที่ไกลกว่านี้มันจะต้องใช้เวลากว่าถึงครึ่งในการเดินทางผลประโยชน์ที่จะได้รับก็จะลดน้อยลงอย่างมาก