Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 1038 ราชายุคอดีต
ตอนที่ 1038 ราชายุคอดีต
‘ติ๋งๆ’
โลหิตยังคงหยดลงมา
เงาสีดำเลือนรางเกาะอยู่บนเพดานเหนือศีรษะกู่ฉิงซาน
มันแลบลิ้นยาวออกมาพันรอบคอกู่ฉิงซานก่อนออกแรงรัดแน่นขึ้น
กู่ฉิงซานยังคงเฉยชา แต่กลับเผยสีหน้าครุ่นคิดแทน
วิญญาณที่ไม่รู้จักใช้วิชาอาณาจักรเพื่อดึงเขาเข้าสู่อาณาจักรโลกพิเศษ
สิ่งนี้ดูอันตราย
แต่ความจริง “วิชาอาณาจักร: การเชื้อเชิญแห่งความมืด” ไม่ใช่ไพ่ในโลกภายใน ไม่ใช่วิชาโลกที่ถูกสร้างด้วยการร่ายคาถา
อย่างไรเสีย พลังของไพ่ใบนี้มีขีดจำกัด
ดังนั้น กู่ฉิงซานไม่เคลื่อนไหวทันที
เขาเชี่ยวชาญวิชาโลกจริงสองวิชาอยู่กับตัว
วิชาแรก วิชาความฝันเสมือนจริงคู่ขนาน
วิชาที่สอง วิชาย้อนเวลา
กู่ฉิงซานเคยประสบกับการสร้างโลกพิเศษมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเข้าสู่โลกที่ไม่รู้จัก เขาเริ่มจากคิดถึงการทดสอบคุณลักษณะของวิชาโลก
ในแง่หนึ่ง นี่สามารถนับเป็นการขบคิดและการสำรวจวิชาก็ว่าได้
ดังนั้น
เขาไม่ขยับตอนลิ้นยาวเคลื่อนลงมาจากเพดาน
ลิ้นยาวเคลื่อนลงมาที่ด้านหลัง เขายังไม่ขยับ
เมื่อลิ้นยาวเคลื่อนมายังรอบคอ เขายังไม่ขยับ ยังคงสัมผัสวิชาอย่างละเอียด
จนกระทั่งมีความคิดคลุมเครืออยู่ในใจ กู่ฉิงซานยกมือขึ้นร่ายวิชา
วิชาจิตบริสุทธิ์
นี่คือวิชาพื้นฐานที่สุดในโลกวิญญาณ มันสามารถช่วยผู้ฝึกยุทธ์กำจัดความคิดยุ่งเหยิงออกไปได้
วิชานี้ไม่เป็นประโยชน์กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกู่ฉิงซานมานานแล้ว
แต่ครั้งนี้ สิ่งที่กู่ฉิงซานต้องการกำจัดไม่ใช่ความคิดยุ่งเหยิง
มันคือความรู้สึกทางวิญญาณ
“สลายไปซะ!”
เขากระซิบ
พลังวิญญาณพุ่งออกมาจากตันเถียน ไหลหลั่งเข้าสู่ค่ายกลบนมือ ค่ายกลเสร็จสมบูรณ์
กู่ฉิงซานเพียงรู้สึกว่าจิตใจของเขาว่างเปล่า จิตเทพทั้งหมดบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ข้อบกพร่อง
ทันใดนั้น
ลิ้นยาว โลหิต ห้องแคบ เงามืดและแม้กระทั่งสิ่งปลูกสร้างหายไปจากกู่ฉิงซาน
ฉากรอบข้างเปลี่ยนไป
กู่ฉิงซานพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในตำหนักโอ่อ่า
เขามองรอบข้าง
ด้านหลังของเขา อีกฝั่งของโต๊ะอาหารยาว ชายวัยกลางคนนั่งอยู่ด้วยท่วงท่าทรงเกียรติ
“เจ้าหาวิธีเจอได้ไง” ชายวัยกลางคนถาม
กู่ฉิงซานตอบคร่าวๆ ว่า “เพราะการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ทำให้ความรู้สึกทางวิญญาณของข้าเต็มไปด้วยความรู้สึกอันคุ้นเคย ดังนั้นข้าจึงหาวิธีเจอน่ะ”
“เจ้านี่เก่งวิชาพวกนี้เหลือเกิน… ยินดีต้อนรับ เชิญนั่งก่อนสิ”
ชายวัยกลางคนส่งสัญญาณให้กู่ฉิงซานนั่งที่
กู่ฉิงซานมองโต๊ะอาหารขณะยืนนิ่ง
“ขอโทษด้วย ข้าไม่ชินเวลากินข้าวกับคนแปลกหน้าน่ะ”
เขามองอีกฝ่ายขณะกล่าว
ชายวัยกลางคนยืนขึ้น คำนับด้วยความสง่า จากนั้นกล่าวว่า
“ที่จริง ข้าควรเป็นฝ่ายขอโทษสินะ… โปรดอภัยให้กับความบุ่มบ่ามที่พาเจ้ามาแบบนี้ด้วย”
“ถ้าอย่างนั้น ขอแนะนำตัวเองก่อน ข้าคือราชายุคอดีต”
ราชายุคอดีตหรือ
คนคนนี้เรียกตัวเองว่าราชายุคอดีตได้อย่างไร
ราวกับเห็นความสงสัยของกู่ฉิงซาน ชายวัยกลางคนครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ให้เจ้าดูไปก็คงไม่เสียหาย”
ร่างของเขาพลันขยายขึ้นอย่างรุนแรง กลายเป็นร่างวิญญาณมายาสูงห้าเมตร
ใบหน้านับร้อยปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของร่างวิญญาณ
พวกมันมองกู่ฉิงซานพร้อมกันด้วยสีหน้าและท่าทีเฉยชา
ฉากนี้น่าขนลุกเล็กน้อย
กู่ฉิงซานยังคงสงบก่อนประสานมือแล้วกล่าวว่า “ยินดีที่ได้พบ ข้าไม่รู้ว่าทำไมราชายุคอดีตเรียกข้ามาที่นี่ทำไม”
เพียงพริบตา ร่างวิญญาณที่ขยายตัวพลันหดกลับมาเป็นชายวัยกลางคนอีกครั้ง
เขาตอบว่า “อย่าตกใจไป… ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็รู้ว่าสัตว์ประหลาดไม่สามารถหาวิญญาณตระกูลราชวงศ์ได้ ดังนั้นพวกข้าเลยไม่ถูกกิน กลับกัน พวกข้าคงอยู่ในสภาพนี้มานานนับปี”
“เชิญนั่งลงก่อน ค่อยๆ พูดกัน” ชายวัยกลางคนกล่าว
“ได้”
กู่ฉิงซานนั่งลงข้างโต๊ะอาหาร
ชายวัยกลางคนสะบัดมือ
โต๊ะพลันเต็มไปด้วยอาหารมีไอกรุ่น
“นี่คืออาหารที่เหล่าราชาชื่นชอบ ข้าเดาว่าต้องมีอาหารบางจานที่ถูกปากเจ้าเป็นแน่” ชายวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
กู่ฉิงซานมองจานอาหาร
ไม่ว่าจะเกิดจากการทำอาหารหรือวิชาโลก เขาย่อมเข้าใจและมองออก
อาหารเหล่านี้เกิดจากการใช้สติ
พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นปรากฏของจิต
หากใครบางคนกินอาหารเหล่านี้เข้าไป รสชาติของอาหารจำนวนมากจะก่อเกิดขึ้นในจิต ทำให้อาหารปรากฏขึ้นในจิตอีกครั้ง
แบบนี้ เมื่ออีกฝ่ายกินอาหารเหล่านี้เข้าไป พวกเขาสามารถรับรู้รสชาติแสนอร่อยของอาหารเหล่านี้ได้
กู่ฉิงซานชื่นชม “ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ เป็นวิชาที่ดีมากจริงๆ ช่วยเปิดหูเปิดตาข้ายิ่งนัก”
เขาหยิบมีดและส้อมบนโต๊ะอาหารขึ้นมาก่อนจิ้มของว่างในจาน
มีดถูกเปลี่ยนเป็นตะเกียบหนึ่งคู่กลางทางเพื่อคีบของว่างอย่างช่ำชองก่อนถูกดึงกลับ
กู่ฉิงซานกัดเข้าไป
อืม…
รสชาตินี้ดีจริงๆ เขาสามารถรับรู้วิธีทำอาหารดั้งเดิมได้ผ่านทางรสชาติ
เขาขยับตะเกียบอีกครั้งเพื่อหนีบอาหารอีกจาน
ชายวัยกลางคนจ้องกู่ฉิงซานก่อนค่อยๆ เผยสีหน้าชื่นชม
ชายหนุ่มคนนี้เปลี่ยนมีดได้ด้วยความคิดโดยตรงเพื่อให้มันปรากฏเป็นตะเกียบ เป็นสัญญาณว่าเขาเข้าใจวิชาอย่างถ่องแท้ก่อนจะเริ่มทำการสำแดงวิชา
นี่คือการเตือนโดยไม่ต้องพูด
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“ข้ามีบางสิ่งอยากจะขอน่ะ”
“ท่านสุภาพเกินไปแล้ว ข้าไม่เคยกินอะไรฟรีๆ หรอกนะ หากมีเรื่องอะไร โปรดบอกมาตามตรงได้เลย” กู่ฉิงซานยังคงลิ้มรสอาหารขณะตอบกลับมา
“ในฐานะราชายุคอดีต ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกหลานที่ไร้ยางอายของข้า”
“โห หมายความว่ายังไงที่บอกว่าลูกหลานที่ไร้ยางอาย”
“คนที่ข้ามอบสกิลวิเศษของราชายุคอดีตให้น่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแพ้เจ้า สุดท้ายก็เข้าสู่ซากปรักหักพังของเทพแห่งชีวิตก่อนจะไม่รอดชีวิตกลับมา”
กู่ฉิงซานประหลาดใจ
เป็นแบบนี้นี่เอง
บรรพบุรุษของราชาไม่ลังเลที่จะใช้งานวิชานี้เพื่อดึงตัวเองเข้าไปค้นหาว่าราชาอยู่ที่ไหน นี่นับว่าสมเหตุสมผลมาก
หรือก็คือนี่เป็นของขวัญจากคนหัวขาวสู่คนหัวดำ
แต่จะพูดอะไรได้ในเมื่อราชากระทำผิดจริงก่อนถึงวาระสุดท้าย
ความจริง กู่ฉิงซานยังครุ่นคิดอย่างจริงจังว่าเขาอยากได้อีกฝ่ายมาร่วมกลุ่มด้วย
แต่วิญญาณแปลกประหลาดลงมือเร็วเกินไป หลังจากนั้นหนังของราชาก็ปลิวเข้าไปในวังวนความว่างเปล่าก่อนหายไป
ดังนั้นจึงไม่เหลือที่ว่างที่จะทำการฟื้นคืน
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก ในที่สุดก็กล่าวตามตรงเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนที่ราชาถึงแก่ความตาย
ชายวัยกลางคนฟังเงียบๆ ก่อนจะนิ่งไปสักพัก
กู่ฉิงซานกล่าวตามจริงว่า “ข้ารู้สึกขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โปรดอย่าได้เศร้าโศกเสียใจไปเลย”
“เศร้าโศกเสียใจหรือ ไม่ พวกข้าไม่ได้เสียใจ” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ความตายอันไร้ค่าแบบนี้ ขนาดวิญญาณยังถูกกิน เป็นความพยายามที่สูญเปล่าเหลือเกิน”
กู่ฉิงซานตกตะลึงเล็กน้อย
ท่าทีนี้คล้ายกับแตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้เล็กน้อย
หากอีกฝ่ายไม่สนใจที่จะฟังเกี่ยวกับความตายของราชาแต่แรก แล้วจะเล่าให้มันได้อะไร
กู่ฉิงซานถามตามตรงว่า “โปรดอภัยให้ข้าด้วย แต่ทำไมท่านถึงพาข้ามาที่นี่ด้วยวิชานี้ล่ะ”
ชายวัยกลางคนแบมือแล้วตอบว่า “แน่นอนว่าก็เพื่อทำข้อตกลงกับเจ้า พวกเรามาร่วมมือกันเพื่อหลบหนีออกจากเมืองเรเควี่ยมกันเถอะ”
สีหน้าของเขาจริงจังมากกว่าเดิม
หลังจากนั้นกู่ฉิงซานถึงเข้าใจว่าจุดประสงค์ของอีกฝ่ายเป็นแบบนี้นี่เอง
“ในฐานะร่างวิญญาณ ท่านราชาไม่สามารถออกจกาเมืองเรเควี่ยมได้หรือ” กู่ฉิงซานถาม
ชายวัยกลางคนตอบอย่างแผ่วเบาว่า “ถ้าพวกข้าสามารถไปได้ก็คงไปนานแล้ว อย่างที่เจ้าเห็น หากไม่นับวิญญาณที่ถูกกินไป พวกข้าก็ทำได้เพียงใช้วิธีนี้เพื่ออยู่รอดและเดินทางในเมืองเรเควี่ยมเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี”
“ถึงแม้พละกำลังพวกข้ายังคงเพิ่มขึ้น แต่เขตอาคมโลกในเมืองเรเควี่ยมมาจากคำสาบานของเหล่าเทพ หากพวกข้าไม่ปฏิบัติตามคำสาบานก็ไม่สามารถเข้าออกได้”
“แม้แต่เจ้าก็ไม่เว้น เจ้าเข้ามาที่นี่ได้เพราะคำสาบานของคนแรกที่ได้อยู่บนมงกุฎแห่งดวงดาว”
กู่ฉิงซานกล่าวทันทีว่า “ข้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรให้สงสัยแล้ว… ข้ากับสหายข้าเต็มใจที่จะทะลวงเขตอาคมของโลกนี้พร้อมกับราชาเพื่อออกจากที่นี่”
ใช่แล้ว เป็นใครก็ต้องทำเหมือนกัน
ทั้งสองฝั่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่มีความขัดแย้ง มีเพียงเป้าหมายร่วมกันเพียงอย่างเดียว: ออกจากเมืองเรเควี่ยม
นี่คือพื้นฐานที่ดีที่สุดสำหรับการร่วมมือกัน
ชายวัยกลางคนพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นสัญญาณว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้
เขากล่าวว่า “กู่ฉิงซาน เจ้าเป็นคนฉลาด ความสามารถแข็งแกร่ง ถึงแม้เจ้าจะอ่อนแอ แต่พละกำลังไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในแผนการพวกเรา”
กู่ฉิงซานถามว่า “ท่านราชาต้องการให้ข้าทำอะไร”
ชายวัยกลางคนนิ่ง จมดิ่งสู่ห้วงความคิด
เขาคล้ายกับกำลังนึกอะไรบางอย่างที่พูดออกมาได้ยากยิ่ง
ผ่านไปเนิ่นนาน
เขาเปิดปากกล่าวช้าๆ ว่า “ก่อนพวกเราจะร่วมมือกัน เจ้าต้องเข้าใจข้อมูลบางอย่างก่อน ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งจะผิดเพี้ยนไป”
“ข้อมูลอะไร” กู่ฉิงซานถาม
“หนึ่งร้อยล้านปีก่อน เทพแห่งชีวิตล่วงลับ” ราชากล่าว
“อ้อ ข้ารู้เรื่องนั้น เจ็ดเทพล่วงลับจากการต่อสู้ในความว่างเปล่า”
กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “เพื่อความอยู่รอดและการกำเนิดลูกหลานของเหล่าเทพ พวกเขาจึงพยายามสุดความสามารถ หลังจากนั้นก็ตายไป เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมจริงๆ ”
มุมปากของชายวัยกลางคนขยับเล็กน้อย เผยรอยยิ้มน่าขันออกมา
“หลังจากนั้นก็ตายไปหรือ”
ชายวัยกลางคนกล่าวต่อ
“ข้าไม่รู้จักเทพองค์อื่นหรอกนะ แต่เทพแห่งชีวิตมีวิธีการเอาตัวรอดยอดเยี่ยมที่สุด เทพที่ยิ่งใหญ่และสูงศักดิ์เช่นนี้จะตายได้ยังไง”
กู่ฉิงซานตกตะลึงแล้วพลันถามเสียงหลงว่า “เทพแห่งชีวิตยังอยู่อีกงั้นหรือ”
ชายวัยกลางคนพยักหน้าขณะบอกความลับ
“เพื่อความอยู่รอด เทพแห่งชีวิตพยายามยึดร่างของสัตว์ประหลาดตอนที่มันกำลังจะตายแล้วซ่อนอยู่ในเมืองเรเควี่ยมมาหลายปี อาศัยวิญญาณของเหล่าเทพเพื่อฟื้นตัว”
“เทพคือตัวตนคนละระดับกับพวกเรา เมื่อกลายเป็นเทพก็เท่ากับกลายเป็นสัตว์ประหลาดนั่นแหละ”
“สำหรับสัตว์ประหลาด การกินวิญญาณลูกหลานของตัวเองนับว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้”