World domination system - ตอนที่ 78 เข้าสู่พระราชวัง
WDS Chapter 78 เข้าสู่พระราชวัง
แดนีลหวังว่า เขาจะสามารถทำการเทเลพอร์ตได้ แต่คลื่นของผู้คน ได้ขัดขวางไม่ให้เขาทำเช่นนั้นได้ เขาจึงส่ังให้ระบบทำการเทเลพอร์ตตัวเขาไปยังปลายทางโดยตรง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ในที่สุด เขาก็มาถึงที่หมาย
เขาสะดุดกับพื้นที่กำแพงด้านหนึ่งของเมืองชั้นใน จากนั้น เขาก็จัดเสื้อผ้า และเงยหน้าขึ้น มองเห็นลาราเวลที่รอคอยเขาอยู่
ถูกต้องแล้ว ลาราเวลเป็นกุญแจสำคัญในการผ่านเข้าสู่พระราชวัง แผนการของเขาในตอนนี้ค่อนข้างเรียบง่าย ไปที่พระราชวัง และวิเคราะห์รูปแบบด้วยPAM-3ที่เพิ่งได้รับการอัพเกรด
แดนีลมีสิ่งที่ต้องทำ 2 ประการ ประการแรก เขาจะต้องทำให้ระบบทำความเข้าใจรูปแบบด้วยความสามารถที่ได้รับการอัพเกรดแล้วของมัน ในขณะที่อยู่ต่อหน้ารูปแบบ ประการที่สอง เขาจะต้องเปลี่ยนการสนับสนุนของประชาชน ให้มาอยู่ข้างเขา หากเขาต้องการที่จะเป็นราชา
ดังนั้น เขาจึงติดต่อกับลาราเวล และถามเกี่ยวกับทางลับเข้าพระราชวัง เหมือนอย่างที่เขาเห็นที่คฤหาสน์ของเอเลนาฟ
แม้ว่าทางเข้าออกพระราชวังเกือบทั้งหมดจะถูกปิดกั้นเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น แต่ลาราเวลก็กล่าวว่า เขามีทางเข้า
ดังนั้น หลังจากที่กำหนดแผนการสำรอง ในกรณีที่แผนการของลาราเวลไม่ประสบผลแล้ว แดนีลก็ยืนยันเวลานัดพบระหว่างพวกเขา
แม้ลาราเวลจะถามว่า เหตุใดอาจารย์ของเขาถึงไม่มา แดนีลก็ตอบเพียงว่า ผู้ที่ทรงพลังอำนาจคนนั้น เขาถูกมัดด้วยกฎบางอย่าง และไม่สามารถจะเข้าร่วมความขัดแย้งเช่นนี้โดยตรงได้ สิ่งที่เขาสามารถจะทำได้ก็คือ ช่วยลูกศิษย์ของเขาและมอบสิ่งต่างๆที่จำเป็นให้ เพื่อชัยชนะ
แน่นอนว่า นี่เป็นสิ่งที่แดนีลคิดขึ้นมา หลังจากคิดย้อนกลับไปถึง เรื่องราวปรมาจารย์ลึกลับ ที่เขาเคยอ่านบนโลกเดิม กระนั้น ลาราเวลก็เชื่อ เพราะมันสมเหตุสมผล
“เจ้าแน่ใจหรือว่า เจ้ามีแผนการที่สามารถจะเอาชนะคนอื่นๆได้?”
แดนีลตรวจสอบกระเป๋าของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อม ก่อนจะตอบว่า “แน่นอน ข้ามีแผน และอาจารย์มอบทุกสิ่งที่ข้าจำเป็นต้องใช้ให้หมดแล้ว ส่วนที่เหลือทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
การใช้อาจารย์มาเป็นข้ออ้าง ไม่สามารถจะใช้ได้ตลอดไป แดนีลจึงตัดสินใจที่จะเริ่มให้เครดิตตัวเองมากขึ้น
ลาราเวลพยักหน้า เขาหันหลังกลับและจิกเล็บไปที่นิ้วของเขาจนเหลือดออก
ยื่นมือไปข้างหน้า เขาวาดสัญลักษณ์ที่คล้ายกับตราราชวงศ์ลงบนกำแพง
จากนั้น หินบนกำแพงก็เคลื่อนไปด้านข้างอย่าสงน่าอัศจรรย์ กลายเป็นประตูที่สามารถจะเข้าไปได้ทีละคน
แดนีลเดินตามลาราเวลเข้าไป หลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่า ไม่มีใครสอดแนมพวกเขา ดูเหมือนว่า จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่จะยุ่งกับเรื่องอื่นๆอยู่
ประตูปิดลงในทันทีที่ทั้งสองเข้ามา ในความมืด แดนีลเสกบอลเพลิงขึ้นมาและส่องไปรอบๆถ้ำที่พวกเขาอยู่ ซึ่งมีบันไดอยู่ด้านหน้า
ด้วยการนำทางของลาราเวล ทั้งสองเริ่มเดินผ่านไปอย่างเงียบๆ
ขณะที่เขามองไปยังด้านหลังของลาราเวล แดนีลอดไม่ได้ที่จะคิดถึงปฏิกิริยาทั้งหมดของเขา
แม้แต่เคลเลอร์ก็ยังบอกว่า ปัญหาของเขาก็คือ ความหยิ่งผยอง ความเปลี่ยนแปลงในหัวใจของเขา จึงค่อนข้างที่จะเกินความคาดหมายของแดนีล
เนื่องจากเขายังใหม่ต่อเรื่องความซื่อสัตย์และลักษณะนิสัยของคน แดนีลจึงไม่เคยคาดหวังหรือเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ใดๆที่จะมีคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเองอย่างสิ้นเชิงได้ในช่วงเวลาสั้นๆเพียง 3 ปี ในความเป็นจริง เขายังคงมีความสงสัยเล็กน้อยว่ามันอาจจะเป็นกับดัก แต่แดนีลก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้นั้นแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ระบบได้รับการอัพเกรดแล้ว
สรุปได้ว่า เขายังมีสิ่งต่างๆมากมายให้เรียนรู้ แดนีลเปิดปากและถามว่า อีกนานเพียงใดจะถึงพระราชวัง
ตูม!
ทางเดินทั้งหมดสั่นสะเทือน ราวกับมีพลังมหาศาลโจมตีพื้นดินเหนือพวกมัน ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
ฝุ่นจำนวนมากตกลงมาจากบนเพดาน ขณะที่ทั้งสองพยายามพยุงตัวรอให้การสั่นสะเทือนหยุดลง
แดนีลตกตะลึง ต้องมีพลังมากเพียงใดกัน ถึงจะสามารถทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรงเช่นนี้ได้?
เมื่อเสียง ตูม! ดังขึ้นที่ด้านบนของพวกเขาอีกครั้ง ลาราเวลก็ตะโกนออกมาว่า “วิ่ง!” จากนั้น เขาก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
แดนีลตัดสินใจวิ่งตามไป มันเสี่ยงเกินไปที่เขาจะเทเลพอร์ตไปด้วยสภาพการสั่นสะเทือนและมีหินตกลงมาจากเพดานเช่นนี้
เมืองชั้นในค่อนข้างใหญ่ การเดินข้ามเมืองจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาพอสมควร หลังจากวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 30 นาที ในที่สุด ทั้งสองก็มาถึงจุดที่มีแสงส่องเข้ามา
หลังจากที่แดนีลและลาราเวลออกจากทางเดินแล้ว มันก็ทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์ในทันที
แดนีลถอนหายใจแล้วถามว่า “ทางเดินบอบบางเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“ทางผ่านนี้ถูกทิ้งร้างมานานแล้ว และมันไม่ได้รับการบำรุงรักษาใดๆ ข้ารู้เกี่ยวกับมันมาจากเรื่องในวัยเด็กของท่านปู่”
ลาราเวลลุกขึ้นและปัดฝุ่นออกจากชุดของเขา แล้วกล่าวว่า “ไปกัน พระราชวังอยู่ข้างหน้าแล้ว”
มองไปรอบๆ พวกเขาอยู่ในห้องทรงกลม ที่ดูเหมือนจะไม่ถูกใช้งานนานมากแล้ว เพราะมีวัชพืชขึ้นทั่วซอกหิน เพดานสูงอย่างน้อย 20 ฟุต แดนีลสงสัยเบื้องหลังของห้องนี้
ในขณะที่เขากำลังจะถามลาราเวล เขาก็สังเกตเห็นว่า ลาราเวลกำลังสั่นสะท้าน ราวกับกำลังมองเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุด
แดนีลจึงรีบมองไปข้างหน้า และการแสดงออกของเขาก็คล้ายกับลาราเวล
ราชาแห่งราชอาณาจักรแลนธานอร์คนปัจจุบัน ริชาร์ด ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าพระราชวัง
การแสดงออกอันเกรี้ยวกราดของเขา มันเกินกว่าที่แดนีลเคยพบเห็นมา ราชาตวาดออกมาว่า “ลาราเวล! เจ้ากล้าพาบางคนผ่านทางลับเข้ามา นี่มันหมายว่าอะไร?”
เสียงตลาดของเขาดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง แต่แดนีลก็ได้สังเกตเห็นบางอย่างที่ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
ภาพของราชาดูเหมือนจะกระพริบและไม่ใช่ชัดเจน ราวกับมันเป็นเพียงภาพฉาย
กระนั้น ด้วยความตกใจ ลาราเวลจึงไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้
การแสดงออกอย่างหวาดกลัวเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น ลาราเวลตั้งสติและตอบว่า “ชื่ออันสูงส่งของตระกูลพวกเรา ไม่สามารถจะจบสิ้นลงด้วยการกระทำอันโง่เขลาของท่านได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า มันจะยังคงอยู่ต่อไป”
ตอนนี้ มันเป็นราชาที่เป็นฝ่ายตกตะลึง มองไปยังลูกชายที่กล้ากล่าวคำเช่นนั้นกับเขา ราชาไม่ได้กล่าวอะไรออกมา ขณะที่เขาจดจ้องเข้าไปในดวงตาของลาราเวล