World domination system - ตอนที่ 75 กองทัพแห่งแลนธานอร์
WDS Chapter 75 กองทัพแห่งแลนธานอร์
รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของแดนีล ขณะที่เขาเห็นว่าสิ่งต่างๆมาอยู่ในมือของเขาทีละอย่างทีละอย่าง
เทเลพอร์ตกลับไปที่ห้อง เขานั่งลงบนเตียงและเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลในม้วนกระดาษ แม้ว่าข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะทำให้เขารู้คร่าวๆเกี่ยวกับกองทัพ แต่การได้รับรายละเอียดเฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
แม้ลาราเวลจะให้ข้อมูลเพียงเท่าที่เขารู้ แต่มันก็ยังคงเป็นประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ แผนการของแดนีลก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปะทะกับกองทัพโดยตรงเลย เพราะด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฝ่ายเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเช่นนั้น
กองทัพแห่งแลนธานอร์แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือ กองทัพนักสู้ และกองทัพจอมเวทย์
กองทัพนักสู้มาจากประชาชนที่ถูกทดสอบว่าพรสวรค์ต่ำ การเกณฑ์พลในกองทัพนี้ค่อนข้างง่าย ชายและหญิงจำนวนมากสามารถลงทะเบียนและได้รับเลือก พวกเขาเพียงแค่ผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายเท่านั้น
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมาตรฐานที่ต่ำเช่นนี้เป็นเพราะความขัดแย้งชายแดนที่คุกคามราชอาณาจักร และขนาดของกำแพงชายแดนกันกว้างใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้กำลังจำนวนมากในการตรวจตรา กำลังพลในกองทัพนี้มีมากถึง 200,000 นาย โดยเกือบทั้งหมด เป็นนักสู้ระดับมนุษย์ขั้น 1 นี่เป็นจำนวนสูงสุดที่สามารถเกณฑ์ได้ด้วยงบประมาณที่จัดสรรให้กองทัพ
หลังจากฝึกฝนเพียงไม่กี่เดือน พวกเขาก็จะถูกส่งไปยังชายแดนเพื่อดูแลกำแพง หากพวกเขาโชคดี พวกเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งและใช้เวลาส่วนใหญ่ในการลาดตระเวณตามกำแพง หลังจากนั้น พวกเขาก็จะเกษียณไปอยู่ชนบท และได้รับบำนาญที่ช่วยหล่อเลี้ยงครอบครัวของพวกเขา แต่หากพวกเขาได้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งและตายลง ครอบครัวของพวกเขาจะได้รับเพียงอาหารและเงินชดเชยบางส่วนเท่านั้น
สำหรับผู้ที่มีศักยภาพปานกลางหรือสูง พวกเขาจะได้รับทรัพยากรและเวลาในการฝึกฝนทักษะ ซึ่งมันอาจจะช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาตัวเองได้ก่อนถูกส่งไปสนามรบในฐานะหัวหน้าหน่วย หากพวกเขามีคณูปการมากพอ และมีความก้าวหน้าในระดับการฝึกฝน พวกเขามีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่งและควบคุมกำลังทหารได้มากนัก
ทหารที่แดนีลเห็นในระหว่างขบวนพิธีศพ สวมชุดคลุมสีเทาซึ่งพวกเขาเป็นกองกำลังระดับสูงที่ถูกคัดเลือกจากผู้ที่มีผลงานดีที่สุดในชายแดน ทหารเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนให้เป็นกองกำลังหลักที่จะถูกส่งออกไปยังสถานที่ที่มีความขัดแย้งสูงที่เกินกว่าระดับหน่วยสามารถจะรับมือได้ ความต้องการต่ำสุดในกองกำลังนี้ก็คือ จะต้องเป็นนักสู้ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์อย่างแดนีล กำลังพลในกองกำลังนี้มีอยู่ราว 3,000 นาย เมื่อพิจารณาถึงประชากรนับล้านของราชอาณาจักรแล้ว จำนวนดังกล่าวถือได้ว่าน้อยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอย่างไร กองกำลังนี้ก็รับเพียงผู้ที่มีศักยภาพปานกลางและสูงเท่านั้น
สุดท้าย ทหารที่สวมอินทรธนูสีแดง พวกเขาเป็นกองกำลังชั้นสูงในหมู่กองกำลังชั้นสูง อย่างน้อยที่สุด พวกเขาจะต้องเป็นนักสู้ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ชั้น 6 ก่อน ถึงจะสามารถเข้าร่วมกองกำลังนี้ได้ ด้วยทรัพยากรที่ดีที่สุด หน้าที่หลักของพวกเขาก็คือ การปกป้องราชอาณาจักรในเวลาที่มีภัยคุกคามร้ายแรง นอกจากนี้ พวกเขายังทำหน้าที่เป็นสายลับ ที่แทรกแซงเข้าไปรวบรวมข้อมูลในประเทศศัตรู
ในกองทัพ กำลังพลในกองกำลังพื้นฐานจะถูกเรียกว่าทหาร ขณะที่ระดับต่อมาจะเรียกว่าทหารชั้นสูง แต่สำหรับกองกำลังนี้ พวกเขาได้รับชื่อพิเศษว่า อสูรแดง พวกเขาได้รับเครื่องประดับเวทมนต์ที่ดีที่สุด และอินทรธนูสีแดงของพวกเขา มันมีความหมายถึง ปริมาณโลหิตที่อาบร่างของพวกเขา
ด้วยกำลังพลเพียง 500 นาย พวกเขาสามารถจะได้รับการดูแลรักษาจากราชอาณาจักรเป็นอย่างดี
มีผู้บัญชาการ 3 คน โดย 2 คน เป็นนักสู้ผู้น่ายกย่องระดับมนุษย์ และพวกเขาขึ้นตรงต่อราชา หนึ่งในพวกเขาควบคุมทหารทั่วไป ขณะที่อีกคนควบคุมกองกำลังชั้นสูง
สำหรับผู้บัญชาการคนสุดท้าย เธอเป็นจอมเวทย์ผู้น่ายกย่องที่ควบคุมกองทัพจอมเวทย์
แตกต่างจากทหารทั่วไปที่ถูกโยนเข้าสู่สนามรบตามต้องการโดยไม่สนใจความเสี่ยงใดๆ กองทัพจอมเวทย์จะมั่นใจได้ว่า สมาชิกของพวกเขาจะมีความเสี่ยงน้อยที่สุดในความขัดแย้งต่างๆ
นี่เป็นเพราะความหายากของคนที่เกิดมาพร้อมหน่อจอมเวทย์ที่ทรงพลัง
กองทัพจอมเวทย์ประกอบไปด้วย 2 กองกำลัง ทหารจอมเวทย์และทหารจอมเวทย์ชั้นสูง จอมเวทย์ผู้ฝึกหัดระดับมนุษย์ทั้งหมดจะเป็นทหารจอมเวทย์ ขณะที่จอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์จะเป็นทหารจอมเวทย์ชั้นสูง
ข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพนี้ เป็นความลับอย่างมาก แม้ลาราเวลจะไม่รู้จำนวนเฉพาะเจาะจง หรือแม้แต่ที่ตั้งศูนย์บัญชาการของพวกเขา แต่เขาก็พอจะรู้ว่า ทหารจอมเวทย์มีกำลังพลอยู่ราว 1,000 นาย ขณะที่ทหารจอมเวทย์ชั้นสูงมีกำลังพลอยู่ราว 200 นาย
จอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ 200 คน?
แดนีลตกใจเมื่อได้เห็นข้อมูลนี้ ความแข็งแกร่งของราชอาณาจักร ไม่สามารถจะประมาทได้อย่างแท้จริง
เป็นอีกครั้ง ที่เขารู้สึกโชคดี ที่ไม่ได้วางแผนจะปะทะกับกองทัพโดยตรง
สำหรับข้อมูลกำลังพลภายในเมืองหลวง มีทหารยามอยู่ราว 5,000 นาย ที่คอยรักษาความสงบ ในหมู่พวกเขา มีบางคนที่เป็นนักสู้ผู้ฝึกหัดระดับมนุษย์ และคนที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นนักสู้ผู้น่ายกย่องระดับมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้นำของพวกเขา
สมองของเขาเริ่มอ่อนล้าจากการรับข้อมูลจำนวนมาก แดนีลล้มตัวลงนอนบนเตียง และเริ่มคิดว่าจะทำเช่นไรต่อไป การเตรียมการของเขาเป็นไปด้วยดี แต่สิ่งที่เขายังคงคิดอยู่ก็คือ วันที่เหมาะสมในการโจมตี
กองกำลังต่างๆในราชอาณาจักร จะไม่รอถึงเดือนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่โจมตีในทันที ก่อนที่จะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนิกายใบไม้ร่วงโรยและนักบวชอาวุโสสูงสุดได้ ในความเป็นจริง แดนีลก็ยังคงรอข้อมูลเกี่ยวกับนิกายเช่นกัน
ในขณะที่แดนีลกำลังคิดอยู่นั้น เขาก็คิดถึงอาจารย์ของเขา ซึ่งไม่ค่อยจะได้พบกันหลังจากที่เขาปฏิเสธข้อเสนอของเชิร์ช หลังจากที่ถามเขาในภายหลัง แดนีลได้รู้ว่า การก้าวย่างอันลึกลับและน่าเหลือเชื่อระหว่างที่เมานั้น เป็นสิ่งที่เขาได้รับจากเชิร์ช และเขาสาบานเวทมนต์ว่า จะไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งนี้ให้กับผู้ใด นอกจากนี้ หลังจากถามกับระบบแล้ว แดนีลก็พบว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวิเคราะห์เทคนิคดังกล่าว แม้เขาจะคาดหวังเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงน่าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ระบบได้รับการอัพเกรดแล้ว เขาตื่นเต้นที่รู้สึกว่า มันเป็นไปได้ที่ระวิเคราะห์มัน
หลังจากการอัพเกรดระบบ PAM-2 ก็ได้รับการอัพเกรดเป็น PAM-3 กระนั้น เขาก็ยังไม่เคยทดสอบมันเลย เขาจึงไม่รู้ว่า มันสามารถจะวิเคราะห์และพัฒนาคาถาใหม่ๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในก่อนหน้านี้ได้หรือไม่
นอกจากนี้ เขายังต้องการที่จะลองต่อสู้กับใครบางคน เพื่อทดสอบพลังหลังจากที่เขาทะลวงผ่าน แม้ว่าอาจารย์โจนาห์จะทำข้อตกลงกับเชิร์ช แต่เขาก็ยังคงเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้จากคำกล่าวของเคลเลอร์
ปรบมือด้วยความกระตือรือร้น แดนีลลุกขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของอาจารย์เขา