World domination system - ตอนที่ 73 คำเชิญ
WDS Chapter 73 คำเชิญ
จากนั้นไม่นาน แดนีลก็สลายกลุ่ม พร้อมกับให้โจชัวและแฟกซัลแจกจ่ายม้วนกระดาษให้กับพวกเขา สิ่งเหล่านี้ก็คือเครื่องประดับเวทมนต์ และพวกมันจำเป็นต้องทำการผูกมัดด้วยเลือด เหมือนเมื่อครั้งที่แดนีลหยดเลือดของเขาลงบนเหรียญอัตลักษณ์ของสำนักฝึกฝนหมัดแห่งความยุติธรรม
เมื่อมันถูกผูกมัดแล้ว จะมีเพียงคนที่ผูกมัดกับมันเท่านั้น ถึงจะสามารถอ่านข้อความภายในได้ หากคนอื่นพยายามจะเปิดมันออกอ่าน มันจะทำลายตัวเอง
หลังจากสมาชิกฝ่ายเริ่มทะยอยกันออกไปจากป่าแล้ว แดนีลก็นั่งลงบนก้อนหินใกล้ๆ และดื่มน้ำจากคาถาบอลน้ำ
‘เริ่มการอัพเกรดระบบ’
[ยืนยัน จ่ายเพื่อการอัพเกรดระบบ แต้มประสบการณ์คงเหลือ 1,150 แต้ม]
[ในระหว่างการอัพเกรด ระบบจะออฟไลน์เป็นเวลา 6 ชั่วโมง โฮสต์ต้องการจะดำเนินการต่อหรือไม่?]
‘ใช่’ แดนีลตอบระบบ
ในขณะนั้น โจชัวและแฟซัลกำลังเดินเข้ามานั่งใกล้ๆเขา
แฟกซัลหยิบจดหมายสีเหลืองออกมา และมอบมันให้กับแดนีล พร้อมกับมีความสงสัยบนใบหน้า
“จำคนชั้นสูงที่โจชัวเอาชนะได้หรือไม่?” เขาถามขณะที่แดนีลรับจดหมายและเริ่มมองดูมัน เนื่องจากได้ทำงานร่วมกัน แฟกซัลและโจชัวจึงสนิทกันมาก
“จำได้ วาราเนล เขาไม่ได้อยู่ในโรงเรียนชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว ใช่หรือไม่?” แดนีลถาม ขณะที่คิดย้อนกลับไปถึงการแสดงออกอันชั่วร้ายบนใบหน้าของคนชั้นสูงหลังจากที่แพ้โจชัว
“ใช่ เขามาหาที่ห้องเมื่อวานขณะที่เจ้าอยู่ข้างนอก และได้จากไปหลังจากที่ฝากสิ่งนี้ไว้กับข้า เขาบอกว่ามันส่งถึงเจ้า”
แดนีลงงงวย มองไปที่จดหมายในมือ เขาสังเกตว่า มันเป็นเพียงกระดาษธรรมดา ไม่ใช่เครื่องประดับเวทมนต์เหมือนกับที่เขามอบให้กับสมาชิกฝ่ายของเขาในก่อนหน้านี้
เปิดจดหมายออก เขาตกตะลึงเมื่อได้เห็นเนื้อหาของมัน
“มายังพื้นที่รกล้างห่างออกไป 3 กิโลเมตร จากทางตะวันออกของเมืองชั้นนอกตอนเที่ยงคืน หากเจ้าต้องการรู้จุดอ่อนของราชา”
สิ่งแรกที่แดนีลคิดก็คือ มันจะต้องเป็นกับดักอย่างแน่นอน มันไม่มีโอกาสเลย ที่คนชั้นสูงระดับล่างอย่างวาราเนลจะมีข้อมูลเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของราชา
กระนั้น การกระทำของเหล่าคนชั้นสูงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็ทำให้เขางงงวย พวกเขาเกือบจะหายตัวไปจากสายตาของประชาชนทั่วไป
แดนีลรู้ถึงคุณค่าของข้อมูลเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะมั่งคั่งเป็นอย่างมาก แต่มันก็ยากที่จะได้รับข้อมูลจากพระราชวัง ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องการจะพลาดโอกาส เพราะมันอาจจะเป็นข้อมูลที่มีคุณค่า
หากเขาได้รับคำเชิญนี้ก่อนการประชุมฝ่าย แดนีลคงจะไม่สนใจมันเพราะเขาไม่ต้องการเพิ่มความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ระบบกำลังทำการอัพเกรด แดนีลมีความมั่นใจในเรื่องการตรวจจับอันตราย อย่างน้อยที่สุด เขาก็สามารถจะหลบหนีได้หากจำเป็น
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเวลานัด แดนีลมาเตรียมความพร้อม และเขาจะทำให้แน่ใจว่า มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การอัพเกรดระบบ ทำให้เครื่องมือทั้งหมดที่เขาซื้อได้รับการอัพเกรดโดยอัตโนมัติ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เขาเก็บสะสมแต้มประสบการณ์เพื่ออัพเกรดระบบ
ในตอนนี้ ด้วยเครื่องมือต่อต้านการเฝ้าระวัง-2 ระบบสามารถสแกนในรัศมี 200 ฟุตรอบตัวเขาได้ ด้วยสิ่งนี้ เขาจะสามารถเทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งต่างๆในระยะไกลได้อย่างปลอดภัย
เขาเริ่มจากเทเลพอร์ตลึกลงไปใต้ดิน 50 ฟุต เหมือนเมื่อครั้งที่เขาดักฟังที่นิกายไตรคอบร้า หลังจากนั้น เขาก็สั่งให้ระบบเทเลพอร์ตเขาไปทางตะวันออก ทีละ 200 ฟุต จนกว่าจะถึงพื้นที่รกล้างที่เขียนไว้ในจดหมาย
จากนั้น เขาก็รออยู่ใต้ดินในตำแหน่งที่นัดไว้ เพื่อดูว่า ใครเป็นคนที่ต้องการจะติดต่อกับเขา
ครึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัด วันรุ่น 2 คน ในชุดคลุมยาวเดินมุ่งหน้ามายังจุดนัด แม้เขาจะมองไม่เห็นพวกเขา แต่เขาก็บอกได้ว่า มันเป็นเสียงของใคร
มันก็คือ ลาราเวล
องค์ชายหยิ่งผยอง ที่แดนีลเกือบจะฆ่าเขาในระหว่างการประเมินมีหนึ่ง เขากำลังพูดคุยกับวาราเนล ขณะที่กำลังเดินด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย
“เจ้าได้บอกเขาอย่างชัดเจนว่า จดหมายนั้นสำหรับแดนีลแล้วใช่หรือไม่”
“ใช่ เขาไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแค่พยักหน้าหลังจากที่เห็นว่ามันเป็นเพียงกระดาษธรรมดา”
“ดี”
ความเงียบปกคลุม ขณะที่แดนีลดูการแสดงออกที่กระอักกระอ่วนของวาราเนล ราวกับเขาต้องการจะทำบางอย่าง แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำหรือไม่ทำดี
“เพราะเหตุใด ท่านลาราเวล? เหตุใดท่านถึงต้องการจะพบกับเขา? ตามที่ท่านกล่าว แม้ว่าพวกเราจะหยุดทำทุกอย่างแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนมุมมองของประชาชนได้ อันตรายที่ท่านกล่าวถึงยังคงอยู่ และตอนนี้ ราชาก็ได้พบทางออกแล้ว รองปรมาจารย์นิกายจะเป็นผู้ควบคุมรูปแบบแทนราชาองค์ก่อน ทุกอย่างควรจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน แม้พี่ชายใหญ่ของท่านจะกลายเป็นราชา แต่ท่านก็เคยบอกว่า ท่านไม่สนใจบัลลังก์ไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าช่างไร้เดียงสานัก เจ้าเชื่อจริงๆหรือว่าสิ่งต่างๆจะราบรื่นเช่นนั้น ข้ารู้จักพี่ชายใหญ่ของข้าดี เขาสืบทอดความปรารถนาในพลังงานและชีวิตยืนยาวจากพ่อของข้า นอกจากนี้ เขายังไม่เคยสนใจที่จะปกครองประชาชน นิกายใบไม้ร่วงโรย มีแรงจูงใจบางอย่างที่เข้ามาในราชอาณาจักรของพวกเรา แต่ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพบเขา”
ลาราเวลถอนหายใจยาว ขณะที่เขาเดินหน้าต่อไปยังจุดที่นัดไว้
“ข้าใกล้ชิดกับท่านปู่มาก เขาเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวิธีที่บรรพบุรุษของพวกเราสร้างราชอาณาจักรแห่งนี้ขึ้น จากนั้น พวกเขาก็ได้มอบตำแหน่งราชาให้กับบุตรชายแห่งตระกูลแลนธานอเร่ แม้ว่าข้าจะไม่ได้แสดงออก แต่ข้าก็ยังปรารถนาที่จะได้รับการชื่นชมจากผู้คน 3 ปีที่ผ่านมา ข้าได้ใช้เวลาเคียงข้างท่านปู่ และเขาได้สอนข้าว่า สุดท้ายแล้ว มันมีสิ่งเดียวเท่านั้นที่สำคัญ เมื่อพวกเราตาย จะไม่สามารถเสียใจใดๆได้อีก ท่านปู่รู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้คนในตระกูลทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ ในปีสุดท้ายของเขา เขาหวังว่าจะทำบางอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ราชอาณาจักรเดินมาถึงจุดนี้ พ่อของข้าก็บอกกับข้าคล้ายๆกันนั้น แต่ข้ารู้ว่า เขาสนใจเพียงตัวเองเท่านั้น ข้าไม่ต้องการให้ราชอาณาจักร ตกไปอยู่ในมือคนนอก เพื่อการนั้นแล้ว ข้ายินดีจะทำสิ่งต่างๆ ตามข้อมูลบางอย่างที่ข้าได้รับมาโดยบังเอิญ ข้าสงสัยว่า เขาเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ทรงพลัง ที่เป็นผู้จัดหาน้ำยากับดักน้ำผึ้ง ดังนั้น ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากนัดพบกับคนผู้นั้น โดยหวังว่า ข้าจะได้รู้ว่าพ่อของข้ากำลังวางแผนอะไร”
ได้ยินสิ่งนี้ แดนีลก็กลายเป็นตกใจ ราชาองค์กรรู้สึกเสียใจในปีสุดท้ายของเขาจริงหรือ? แล้วความเสียใจนี้มากพอที่จะเปลี่ยนองค์ชายผู้หยิงผย่องให้คล้อยตามเขา?
แดนีลสงสัยว่า สิ่งที่เขากล่าวมานั้น เป็นเพราะเขารู้ว่า ตัวเขากำลังดักฟังข้อมูลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความสิ้นหวังในนำเสียงของลาราเวลนั้น มันไม่่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน
แม้เขาจะยังไม่เชื่อทุกสิ่ง แต่แดนีลก็ตัดสินใจว่าจะไปดูจุดอ่อนที่ถูกกล่าวถึงในจดหมาย
หลังจากยืนยันว่าไม่มีภัยคุกคามใดๆในพื้นที่รอบๆสถานที่นี้แล้ว เขาก็เทเลพอร์ตออกไป พร้อมกับแสดงสีหน้าเหนื่อยล้า ก่อนจะเดินกลับมายังสถานที่นัดหมายอย่างช้าๆ
ในขณะที่เขาเดินมาใกล้สถานที่นัดหมาย หลังจากที่ได้เห็นลาราเวล การแสดงที่ประหลาดใจก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา