World domination system - ตอนที่ 63 อาจารย์นอเวรียน
WDS Chapter 63 อาจารย์นอเวรียน
“เอเลนาฟ ไปตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีใครมารบกวนพวกเรา แนนีล นั่งลง พวกเราจำเป็นจะต้องพูดคุยกัน” เสนาบดีกล่าว ขณะที่ชี้ไปยังเตียงที่ตั้งอยู่ในห้อง
เอเลนาฟพยักหน้า เขายิ้มให้แดนีลก่อนจะออกจากห้องไป
“พวกเรามีหน้าต่างเล็กน้อย ทำให้พวกเรารู้ว่า ในตอนนี้ ราชากำลังพูดคุยกับจอมเวทย์ราชสำนักใหญ่ มาจัดการให้เร็วที่สุดกัน แดนีล ช่วงนี้เจ้าดูยุ่งมากเลยนะ” เคลเลอร์กล่าวขณะที่จับมือของเขา
“ข้าขอโทษ ข้าไม่คิดเลยว่า ผลิตภัณฑ์จะส่งผลกระทบถึงเพียงนี้”
แดนีลถูจมูกขณะที่กล่าว เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็มองกันและกันก่อนจะถอนหายใจ
“ข้าควรจะเตือนเจ้าถึงผลกระทบ แต่ก็เป็นข้าเองประเมินความสนใจของราชาต่อผลิตภัณฑ์ผิดพลาด ในราคาที่พวกเราตกลงกัน มันจะถูกกว่าสิ่งกีดขวางเพียง 25% แม้ว่าผลรวมจะมหาศาล แต่ราชาไม่ควรจะสนใจมันเร็วเช่นนี้” เสนาบดีกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษ
“ไม่ ราชาไม่เคลื่อนไหวเพียงเพราะผลกำไร เช่นเดียวกับข้า จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่จะต้องวิเคราะห์ตัวอย่าง และตระหนักได้ว่า บุคคลหรือองค์กรที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ที่น่าอัศจรรย์นี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะยั่วยุ ดังนั้น ข้าจึงเพียงสงสัยว่า เขาแค่ต้องการจะขอความช่วยเหลือ มันอาจจะเป็นการต่อสู้กับฝ่ายอื่นๆ หรือลอบนำเครือญาติของเขาออกไปก่อนที่ราชาองค์ก่อนจะสิ้นพระชนม์”
เคลเลอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด ขณะที่เขากล่าวตอบการขอโทษของเสนาบดี กุมมือแน่น เขาหันไปหาแดนนีลและกล่าวว่า
“แดนีล ข้าได้ทำการศึกษาตัวอย่างแล้ว น้ำยานั่นไม่สามารถจะทำขึ้นได้โดยผู้ที่อยู่ระดับต่ำกว่าจอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับนักรบ ทักษะเวทมนต์ที่จำเป็นต้องใช้ในการร่ายคาถา มีการจัดการอนุภาคที่ซับซ้อน ซึ่งแม้แต่จอมเวทย์ผู้น่ายกย่องระดับมนุษย์เช่นข้าก็ยังไม่สามารถจะทำความเข้าใจได้ ในความเป็นจริง แม้แต่จอมเวทย์ราชสำนักหลัก ซึ่งเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งลำดับที่สองของราชอาณาจักร ก็เป็นเพียงจอมเวทย์ผู้น่ายกย่องระดับมนุษย์เท่านั้น ใครเป็นคนที่ช่วยเจ้ากัน แดนีล”
แน่นอน แม้แต่แดนีลก็ยังมึนงงว่าเหตุใด ราชาถึงได้เคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ตอนนี้ มันเห็นได้ชัดว่าแรงจูงใจของเขาไม่ใช่น้ำยา แต่เป็นการดำรงอยู่ของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ช่างน่าตลก มันเป็นเหมือนกับข้อสรุปของนิกายไตรคอบร้าในก่อนหน้านี้
ในความเป็นจริง แดนีลไม่รู้เลยว่าคาถาดังกล่าวจะซับซ้อนเช่นนั้น เขาวางแผนที่จะบอกกับเคลเลอร์ว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากบางสิ่งที่เขาเห็นในธรรมชาติ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่คล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นตามหนังสือที่เขาอ่าน
ตอนนี้ มันไม่เหมาะนักที่จะใช้ข้ออ้างนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะเชื่อชายทั้งสองตรงหน้าเขามากเพียงใด เขาก็จะไม่มีวันบอกพวกเขาเกี่ยวกับระบบ เพราะมันเป็นอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขามี
ดังนั้น ทางเลือกเดียวที่เขาสามารถจะทำได้ก็คือ บอกพวกเขาว่า เขามีอาจารย์ลึกลับบางคน อยู่เบื้องหลังเขา นี่จะทำให้เขาสามารถเก็บเงินได้อย่างปลอดภัย และใช้การปลอมตัวเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการจะร่ายคาถากับน้ำผึ้งได้ นอกจากนี้ มันอาจจะทำให้เขารอดพ้นจากอันตรายต่างๆที่อาจจะตามมา หากเขาสามารถแสดงให้เห็นว่า อาจารย์ของเขาเป็นคนที่ไม่ควรที่จะยั่วยุ
หลังจากตัดสินใจว่า นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แดนีลก็เริ่มคิดชื่ออย่างรวดเร็ว
“ข้าจะบอกกับพวกท่าน ไม่กี่วันหลังจากที่ท่านมาหาข้าที่ห้อง ชายชราคนหนึ่งก็มาหาข้า และบอกว่า เขาต้องการจะรับข้าเป็นศิษย์ เมื่อข้าปฏิเสธ เขาก็ได้เทเลพอร์ตข้าไปยังสถานที่ห่างไกล”
“ด้วยการสะบัดมือเพียงครั้งเดียวของเขา พายุทอนาโดสูง 10 ฟุต ก็ก่อตัวขึ้น และเริ่มทำลายป่าใกล้ๆ เมื่อตระหนักได้ว่า ข้าได้พบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ข้าก็ได้ขอให้เขารับข้าเป็นศิษย์ในทันที”
“แม้เขาจะตกลง แต่เขาก็กล่าวว่า เขาจะช่วยข้าเพียงเล็กน้อย จนกว่าพลังของเขาจะก้าวไปถึงระดับหนึ่ง และข้าสามารถขอ 3 สิ่งจากเขาได้ โดยสิ่งแรกที่ข้าขอก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ข้าสามารถสร้างรายได้สำหรับฝ่ายของข้าได้ เขาเห็นด้วย และมอบน้ำยานี้ให้กับข้า แล้วยังบอกว่า เขาจะปรับปรุงมันตามต้อง นอกจากนี้ เขายังได้ให้กำลังใจสำหรับการสร้างกลุ่มของข้าอย่างมาก โดยบอกว่า ความเป็นผู้นำ ต้องเรียนรู้ตั้งแต่ยังเยาว์”
หยุดตัวเองชั่วครู่ แดนีลมองไปยังทั้งสอง เพื่อดูว่าพวกเขามองคำโกหกของเขาออกหรือไม่ นี่เป็นเรื่องราวที่เขาเคยอ่านจากโลกก่อน และเขาเห็นว่า มันเหมาะกับสถานการณ์ของเขา เขาจึงใช้มันโน้มน้าวเคลเลอร์และเสนาบดี
ความหวังของเขาก็คือ ความหวาดกลัวต่ออาจารย์ที่ทรงอำนาจของราชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาเช่นนี้ ที่มีภัยคุกคามจำนวนมากอยู่รอบตัวเขา
“แดนีล นั่นเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากความจริงมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยิน”
ได้ยินเช่นนั้น แดนีลก็รู้สึกเคร่งเครียด เพราะมันดูเหมือนว่า คำโกหกของเขาจะถูกมองออก อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อมามันทำให้เขาสบายใจ
“แต่ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อเจ้า ข้าเชื่อในสัญชาตญาณของข้าว่า น้ำยาดังกล่าวถูกทำขึ้นโดยจอมเวทย์ที่ทรงพลังกว่าจอมเวทย์ทุกคนที่อยู่ในราชอาณาจักรแห่งนี้ ตามที่อาจารย์ของข้าเคยกล่าว มีผู้เชี่ยวชาญบางคน ที่ชอบทำตามอำเภอใจโดยไม่สนใจสิ่งใด ข้าขอถามชื่อของอาจารย์ผู้ทรงเกียรตินี้ได้หรือไม่?”
“ท่านอาจารย์นอเวรียน”
แดนีลพยายามคิดชื่อตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจโกหก สุดท้าย เขาก็ทำการสลับตัวอีกษรนามสกุลของเขา ซึ่งมันดูเหมือนจะเหมาะสมมากที่สุด
“ชื่ออันสูงส่ง ข้าดีใจที่ข้อสงสัยของพวกเรากลายเป็นจริง ข้าได้บอกกับเสนาบดีในทันทีที่ข้าได้เห็นน้ำยา และนั่นเป็นสาเหตุที่ข้าไม่หยุดเขา มีเพียงความสนใจในฉับพลันของราชาเท่านั้นที่ข้าคาดไม่ถึง” เคลเลอร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“นั่นคือทุกสิ่ง ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากบอกกับราชาว่า มีคนไร้นามเข้ามาหาข้าและขอให้ข้าขายมัน ราชาและจอมเวทย์ราชสำนักใหญ่ต้องการพบคนผู้นี้ มันคงจะดีที่สุด หากเจ้าขอให้อาจารย์ของเจ้าพบกับพวกเขา เพราะความสามารถพวกเขา ไม่ได้เป็นภัยคุกคามใดๆต่อเขา” เสนาบดีกล่าว ราวกับทุกสิ่งถูกตัดสินใจแล้ว
แดนีลยิ้ม เขาก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ใจของเขากลายเป็นว่างเปล่าเมื่อได้ยินเช่นนั้น อาจารย์ในจินตนาการของเขาจะต้องพบกับราชาและจอมเวทย์ราชสำนักใหญ่?
“ตกลงนะแดนีล แล้วเจ้าค่อยบอกกับข้าในภายหลัง เกี่ยวสถานที่และเวลานัดหมาย”
“ตกลง…”
คิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ แดนีลตัดสินใจเห็นด้วยกับที่ประชุม กำไรก้อนโต สามารถทำได้โดยการรับความเสี่ยงที่สำคัญเท่านั้น
สำหรับราชา นี่เป็นการดำรงอยู่ของบุคคลหรือองค์กรที่ทรงพลังอำนาจ ซึ่งเขาจะไม่กล้ายั่วยุ ดังนั้น มันจึงมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะเกิดอันตราย นอกจากนี้ เขายังมีความสนใจอย่างมากในการค้นหาแผนการในอนาคตของราชา
หากเขาสามารถได้รับข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของราชาโดยใช้ประโยชน์จากการคงอยู่ของผู้ทรงพลังอำนาจได้ เขาก็ทำจะปรับเปลี่ยนแผนการของเขา และนำหน้าราชาก้าวหนึ่ง
‘ระบบ ข้าสามารถใช้คาถาที่พัฒนาขึ้นจากเครื่องมือ เพื่อแสดงตัวว่าเป็นจอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับนักรบได้หรือไม่?’
[จากการวิเคราะห์บันทึกที่รวบรวมมาจากห้องสมุด ระบบสามารถยืนยันได้แล้วว่า มีอย่างน้อย 1 คาถา ที่มีเพียงจอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับนักรบขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถร่ายได้ โดยโฮสต์สามารถจะใช้การประมวลผลคู่ขนานทำการผสาน 2คาถา ที่พัฒนาโดยระบบได้]
แม้เขาจะตอบรับไปอย่างไม่มั่นใจ แต่เขาก็เริ่มรู้สึกมั่นใจขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบนี้จากระบบ
ถึงเวลาฝึกฝนการแสดงแล้ว