World domination system - ตอนที่ 59 พายุที่พัดผ่านแลนธานอร์
WDS Chapter 59 พายุที่พัดผ่านแลนธานอร์
1 วันหลังจากนั้น เสียงตะโกนและเสียงประท้วง ดังขึ้นที่ตลาดในราชอาณาจักรแลนธานอร์
“ข้าไม่มีทางเลือก พวกเขาซื้อทั้งหมดไปแล้ว และน้ำผึ้งล็อตใหม่ก็จำเป็นต้องใช้เวลากว่าจะมาถึงที่ร้าน”
ตำแหน่งที่วุ่นวายดังกล่าว อยู่ที่ร้านขายอาหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ประชาชนหลายคนกำลังประท้วงเรื่องที่ไม่มีน้ำผึ้งขาย
เมื่อเหล่าทหารยามมาถึง ประชาชนทั่วไปก็สลายตัวออกไป และพวกเขาก็บ่นออกมาพร้อมกับถอนหายใจ ไม่มีใครยินดีเข้าคุกเพียงเพราะไม่มีน้ำผึ้งในมื้ออาหาร
สามารถจะเห็นภาพที่คล้ายๆกันนี้ได้ในร้านอาหารที่มักจะกักตุนสินค้า ในคืนก่อน คนของคฤหาสน์เสนาบดี ได้กระจายตัวกันออกไปและซื้อน้ำผึ้งทั้งหมดที่ทุกร้านมี
ในอีก 2 วันถัดมา เกวียนที่ขับเคลื่อนด้วยอีเธอร์สามารถจะมองเห็นได้จากทุกแห่งบนท้องถนน และมันได้ขนส่งสิ่งที่แปลกประหลาด สิ่งนั้นก็คือกล่องโลหะทรงกลมที่มีช่องเปิดด้านบน และมีของเหลวบางอย่างอยู่ด้านใน
เกวียนเหล่านี้มุ่งตรงไปยังบ้านของพ่อค้ารายใหญ่ทุกแห่ง และมันได้ทิ้งกล่องไว้พร้อมกับม้วนกระดาษที่มีคำแนะนำโดยรายละเอียดอยู่ด้านบน
ตามคำแนะนำ ‘นี่คือผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอีเธอร์และวัสดุอื่นจากยุง เพียงวางกล่องไว้ใกล้กับที่เก็บของ แล้วยุงจะอยู่ห่างจากอีเธอร์และถูกถังอยู่ภายในกล่อง แต่ละกล่องจะทำงานได้เป็นเวลา 30 วัน และรัศมีการทำงานคือ 5 เมตรรอบๆกล่อง กล่องแรกจะถูกมอบฟรีให้สำหรับทดลอง’
ในวรรคสุดท้าย ม้วนกระดาษได้เขียนเอาไว้ว่า ‘ร้านค้าจะเปิดขายกล่องในอีก 10 วัน ชื่อของสิ่งประดิษฐ์นี้จะถูกเปิดเผยเมื่อร้านค้าเปิด’
ได้กลิ่นหวานของน้ำผึ้ง พ่อค้าทั้งหลายต่างก็งงงวยกับสิ่งที่พวกเขาอ่านจากม้วนกระดาษ พวกเขาใช้เงินนับร้อยนับพันแลนทองต่อปี เพื่อสร้างสิ่งกีดขวางป้องกันยุงต้องสาบ แล้วในตอนนี้ กล่องง่ายๆนี้จะสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้?
หากมันเป็นเรื่องจริง มันจะเป็นการสั่นคลอนรากฐานทั้งหมดของแลนธานอร์ หนึ่งในสินค้านำเข้าหลักของราชอาณาจักรก็คือ เครื่องประดับเวทมนต์สิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ที่ใช้ป้องกันยุง เครื่องประดับเวทมนต์เหล่านี้มีเวลาในการทำงานจำกัด พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ ความต้องการและห่วงโซ่อุปทานนี้ก่อตัวขึ้นเป็นเวลาหลายปีแล้ว ในความเป็นจริง แทบจะไม่มีใครจดจำช่วงเวลาที่ไม่ต้องใช้เครื่องประดับเวทมนต์นี้ได้เลย เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการเครื่องประดับเวทมนต์นี้ก็มีแต่จะทยานสูงขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะมีการทดลองมากมายมาตลอดหลายปี แต่ก็ยังคงไม่มีการพัฒนาทางเลือกมาทดแทนได้ แม้ว่าเครื่องประดับเวทมนต์จะเผาผลาญเงินในกระเป๋าของพวกเขา แต่มันก็เป็นที่ยอมรับ เพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
เนื่องจากพวกเขาไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พ่อค้าทุกคนจัดตัดสินใจที่จะลอง
ยุงไม่เลือกเวลากินอาหารของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคน สิ่งกีดขวางจึงจำเป็นจะต้องเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงในทุกๆวัน วางกล่องไว้ใกล้ตู่ที่มีบล็อกอีเธอร์บางส่วนอยู่ด้านใน พ่อค้าคนหนึ่งที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองชั้นนอก เอื้อมมือของเขาไปที่เครื่องประดับเวทมนต์ที่ยังคงเปิดใช้งานสิ่งกีดขวาง
เขารู้ว่า ในทันที่เขาปิดการใช้งานมัน ยุงจำนวนมากก็จะบินมาที่นี่เพื่อกัดกินบล็อกอีเธอร์ ไม่มีวัสดุใดที่สามารถจะขัดขวางพวกมันได้
นี่คือเหตุผลที่สถานประกอบการที่สำคัญหลายแห่ง เปิดใช้งานสิ่งกีดขวางรอบๆห้อง เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกสบายให้กับลูกค้าที่อาจจะพกพาวัสดุมีค่ามากับพวกเขา เหล่ารัมของคนแคระ ก็มีการจัดการเช่นนั่น
พ่อค้ายังคงยืนรออยู่ตรงนั้น หากเขาพบว่า กล่องไม่สามารถจะทำงานได้ เขาก็จะเปิดใช้งานเครื่องประดับเวทมนต์อีกครั้งในทันที
ตามที่คาดไว้ ฝูงยุงราวกับสายน้ำหลากพุ่งเข้ามา แต่พวกมันทั้งหมดกลับหลั่งไหลเข้าไปในกล่องทันที
มันราวกับมีบางอย่างในกล่องที่ล่อลวงยุงได้มากกว่าบล็อกอีเธอร์ ที่พวกมันควรจะชื่นชอบมากที่สุด
ดังนั้น เมื่อเห็นว่ายุงถูกเบนไปทางกล่อง พ่อค้าคนนั้นก็ผ่อนคลายลง
แต่ในวินาทีต่อมา บางสิ่งก็ก่อตัวขึ้นในความคิดของพ่อค้า มันบอกให้เขาค้นหาวิธีการและสร้างกล่องนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง เงินที่จะหาได้จากการขายผลิตภัณฑ์เช่นนี้นั้นไร้ขีดจำกัด
เปิดกล่องออก เขาเห็นยุงติดอยู่กับสิ่งที่ดูเหมือนน้ำผึ้ง เพื่อให้แน่ใจ เขาเอานิ้วจุ่มลงไปและชิมมัน
หวาน หวานน้ำผึ้ง! นี่คือรสชาติที่เขาได้รับ มันกระตุ้นให้เขาวิ่งออกไปและสั่งให้คนงานทั้งหมดของเขาออกไปซื้อน้ำผึ้งทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด
น่าเศร้า น้ำผึ้งทั้งราชอาณาจักรถูกกวาดออกไปหมดแล้ว ส่วนผึ้งส่วนใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ เป็นของประชาชนทั่วไปที่เก็บไว้ใช้สำหรับไม่กี่วัน ใครที่กักตุนน้ำผึ้งไว้ในบ้าน จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงเป็นอย่างมาก แลนทองจำนวนมากถูกใช้ไปโดยไม่คิด และในไม่ช้า เหล่าพ่อค้าก็เริ่มพยายามสร้างกล่องของตัวเอง
กระนั้น ก็มีบางคนที่ตระหนักได้ว่า นี่ไม่ใช่น้ำผึ้ง ในความเป็นจริง แนวคิดที่ใช้น้ำผึ้งนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทุกคนรู้ดีว่า เมื่อไม่มีอีเธอร์ให้กิน ยุงจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยการกินอาหารหวานในป่า และน้ำผึ้งก็คือ อาหารที่พวกมันชื่นชอบมากที่สุดเป็นลำดับที่สองรองจากอีเธอร์
เมื่อต้องเลือก ทุกคนจะเลือกกินอาหารที่ตัวเองชื่นชอบมากที่สุดก่อนเสมอ ในกรณีของยุงก็เป็นเช่นเดียวกันนั้น พวกมันเลือกที่จะกินอีเธอร์ก่อนเสมอ
ในไม่ช้า ช่างโลหะจำนวนมากก็ได้รับการว่าจ้างให้สร้างแบบจำลองกล่องโลหะ ไม่มีระบบลิขสิทธิ์ในราชอาณาจักร ดังนั้น จึงไม่มีใครสามารถจะหยุดยั้งคนที่มีความสามารถพอจะก็อปปี้ได้
เมื่อครั้งที่แบบจำลองแรกเริ่มการทดสอบ เหล่าพ่อค้าที่มีความคาดหวังรู้ดีว่า กล่องจะไม่ทำงานง่ายๆ พวกเขาพยายามเท่าที่จะทำได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำให้ยุงหยุดและเข้าไปในน้ำผึ้ง แทนที่จะเป็นอีเธอร์ได้ ใครก็ตามที่พยายามจะทดลองกับบล็อกอีเธอร์ของตนเอง พวกเขาจะได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ทำได้เพียงร้องไห้ออกมา สำหรับเงินจำนวนมหาศาลที่พวกเขาจ่ายไปกับการซื้อน้ำผึ้งและสร้างแบบจำลอง ตอนนี้ กล่องจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้น ได้กลายเป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์ และพวกเขาก็ทำได้เพียงมองไปยังกล่องเดิมที่สามารถจะทำงานได้ เหล่าพ่อค้าต่างก็ตกลงใจกันว่า จะพยายามซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อร้านค้าแห่งนั้นเปิด
ในขณะที่เสียงคร่ำครวญเหล่านี้เริ่มแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเมือง แดนีลนั่งฝึกฝนในห้องโถงฝึกอบรมของสถานศึกษาอย่างมีความสุข
ความสุขจากความรู้ที่เขาได้รับจากการฝึกฝนทั้งร่างกายและหน่อจอมเวทย์ในเวลาเดียวกัน ได้บดบังความเจ็บปวดทั้งหมดของเขา
เป้าหมายในระยะสั้นของเขาก็คือ ไปถึงขั้นจอมเวทย์ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ เพื่อที่เขาจะได้สามารถใช้คาถาเทเลพอร์ต เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานตามธรรมชาติ หลังจากที่รู้จากเอเลนาฟว่า ค่าใช้จ่ายในการดูแลห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานของสถานศึกษาสูงมากเพียงใดแล้ว เขาก็ได้ตระหนักว่า สมบัติใดๆที่สามารถดูดซับพลังงานเวทมนต์ได้นั้น มันเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ทุกวินาทีที่มันยังคงอยู่ที่บ้านเก่าของเขา มันทำให้เขาเป็นกังวลอย่างมาก เพราะเขากลัวว่า จะมีใครค้นพบมันและนำมันออกไป ดังนั้น เขาจึงเร่งการฝึกฝนของเขาเท่าที่จะสามารถทำได้
ไม่มีอะไรให้คิด เขาเริ่มคิดถึงเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสร้างกล่องในหัวของเขา