World domination system - ตอนที่ 53 ภารกิจแรก
WDS Chapter 53 ภารกิจแรก
แม้แต่ทีมฝ่ายตรงข้ามที่เพิ่งจะถูกเทเลพอร์ตออกมา ก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นี่เป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันในหมู่กองกำลังชั้นสูง สำหรับทำลายที่ตั้งที่ได้รับการป้องกันจากเวทมนต์… เพื่อเจาะทะลวงเครื่องประดับเวทมนต์ป้องกัน มันจำเป็นจะต้องมีความคิดที่หลักแหลมเพียงใด? และเพื่อให้มันดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มันจำเป็นจะต้องมีความร่วมมือที่น่าเหลือเชื่อเพียงใด?” กรรมการกล่าวสิ่งที่เขาสงสัยออกมาเสียงดัง
ได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น สมาชิกทั้งห้าของทีมฝ่ายข้าม ไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากสาบแช่ง พวกเขารีบลุกขึ้นและออกไปขณะที่ได้รับเสียงโห่จากฝูงชน
เมื่อเห็นใบหน้าของคนชั้นสูงคนที่เคยออกคำสั่ง ใบหน้าของฝูงชนที่เคยผ่อนคลายก็กลายเป็นบิดเบี้ยว และราวกับพวกเขาหวาดกลัว่า เด็กคนนั้นจะวางแผนการแก้แค้นกับเหล่าคนที่กล้าโห่เขา
ไม่มีใครรู้เลยว่า คนที่บ่มเพาะความเกลียดชังนี้แอบเฝ้าดูอยู่ไม่ไกล
มีเด็กคนหนึ่งเฝ้าดูอยู่ในร่มเงาของต้นไม้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล เขามองดูและบันทึกความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของทุกคน
เด็กคนนี้ก็คือ แดนีล เขาพยักหน้ากับตัวเองขณะที่เห็นว่า แผนการของเขาดำเนินไปด้วยดี หลังจากนั้น เขาก็เดินไปที่ห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงาน เพื่อทำการฝึกฝน
ตอนนี้ ด้วยการประมวลผลขนาน-1 เขาสามารถฝึกฝนทั้งร่ายกายและหน่อจอมเวทย์ไปพร้อมกันได้ นี่คือสิ่งที่เขาฝันไว้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา และเขาได้ตัดสินใจว่า เขาจะใช้เวลาฝึกฝนในห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
ช่วงเวลากลางคืนมาถึงอย่างรวดเร็ว
ในป่าใกล้ห้องสมุด นักเรียน 6 คน มารวมตัวกัน โดย 5 คนในนั้น ได้ล้อมและคุกเข่าลงล้อมรอบนักเรียนอีกคน ซึ่งกำลังมีใบหน้างงงวย
“พวกเจ้าทั้งทำอะไร? ลุกขึ้น!” แดนีลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
พวกเขาทั้งห้าได้มาถึงที่นี่ก่อนเวลานัด และได้ล้อมแดนีลไว้ในทันทีที่เขามาถึง
ตามที่คาดหวัง พวกเขารู้สึกขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ได้รับจากแดนีล และในขณะที่พวกเขาคุกเข่าลง น้ำตาก็ได้ไหลออกมาจากดวงตาของพวกเขา
ความเงียบสงบยามค่ำคืน ถูกแทนที่ด้วยเสียงน้ำตาที่ร่วงหล่นลงบนใบไม้แห้ง
โจชัวรีบควบคุมอารมณ์ เขายังคงคุกเข่าในขณะที่เงยหน้าขึ้นมองแดนีล
ในดวงของพวกเขา แดนีลสามารถจะมองเห็นความปิติยินดีจากชัยชนะ หลังจากที่พ่ายแพ้มาหลายต่อหลายครั้ง
โจชัวกล่าวว่า “ท่านนำพวกเราสู่ชัยชนะ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเรารู้สึกว่า พวกเราอยู่เหนือคนชั้นสูง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเรารู้สึกว่า พวกเราไม่ได้เป็นเพียงแมลงที่พวกเขาสามารถจะตบตีได้ตามที่พวกเขาความพอใจ”
คนอื่นๆพยักหน้าให้กับคำกล่าวของเขา ในขณะนั้น น้ำตาของพวกก็ยังคงไม่หยุดไหล โจวชัวหยุดชั่วครู่ จากนั้น พวกเขาก็เงยหน้าขึ้นและกล่าวพร้อมกัน เสียงของพวกเขาดังกึกก้องไปทั่วป่า ก่อให้เกิดบรรยากาศอันเคร่งขรึม ทำให้แดนีลที่ยืนอยู่ตรงกลางและกำลังจดจ้องไปยังพวกเขาถึงกับแข็งค้าง
“ตามคำกล่าวของพวกเรา พวกเราเลือกที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพวกเราให้กับท่าน โปรดยอมรับพวกเราเป็นผู้ติดตามของท่าน ไม่ว่าสวรรค์และนรกจะยืนข้างพวกเราหรือไม่ก็ตาม พวกเราก็จะยังคงเดินไปข้างหน้าตามคำกล่าวของท่าน”
แม้ว่าประโยคจะไม่สมบูรณ์ แต่มันก็คล้ายกับคำปฏิญาณของเหล่าทหารเมื่อครั้งที่พวกเขาเข้าร่วมกองทัพ
“ข้ายอมรับ”
ได้ยินเช่นนั้น ทั้งห้าก็ยืนขึ้นและกอดกันและกันอย่างปิติยินดี หากใครสังเกตเห็นภาพนี้ พวกเขาคงจะตกตะลึงเมื่อพบว่า แดนีลหวังจะให้พวกเขามาเป็นผู้ติดตามของเขาอยู่แล้ว
เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของแดนีล
[ความสำเร็จ : ได้รับ ‘ยอมรับคำสาบานตนครั้งแรก’]
[ยอมรับคำสาบานตนครั้งแรก : ด้วยการเสนอความช่วยเหลือของคุณในขณะที่มีความจำเป็นมากที่สุด คุณได้ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความชื่นชมที่เบ่งบานเป็นคำสาบานตนแห่งความจงรักภักดี ขอแสดงความยินดีกับการยอมรับคำสาบานตนครั้งแรก]
[ได้รับรางวัล แต้มประสบการณ์ 1,000 แต้ม]
[แต้มประสบการณ์ทั้งหมด 2,350 แต้ม]
หลังจากทั้งห้าแสดงความยินดีกันและกันแล้ว แดนีลก็ถามคำถามที่รบกวนเขามาตั้งแต่การประลอง
“ข้าเพียงแค่บอกพวกเจ้าว่า โดมนั้นอ่อนไหวต่อการโจมตีที่แหลมคมจากด้านบน แล้วพวกเจ้าคิดวิธีการโจมตีด้วยการกระโดดขึ้นไปด้านบนง่ายๆเช่นนั้นได้อย่างไร? และที่สำคัญที่สุด เหตุใดพวกเจ้าต้องการจะติดตามข้า ถึงขนาดที่ทำให้พวกเจ้าต้องคุกเข่าลงกับพื้นละมีความสุขเมื่อข้ายอมรับมัน?”
ในครั้งนี้ เป็นเฮลวิกซ์ที่ตอบ แตกต่างจากโจชัว ที่ตัวผอม, ผมดำ และจมูกยาว ร่างของเฮลวิกซ์ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่ามาก แม้ว่าเขาจะอายุเพียง 13 ปีก็ตาม ใบหน้าของเขามีแก้มที่น่าหยิก และเขาก็ดูน่ารักด้วยพุงขนาดใหญ่
“พวกเราเคยขโมยอาหารจากโกดังของพ่อค้าคนหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้านของพวกเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ กำแพงค่อนข้างสูง ดังนั้น แซนเดอร์จะเป็นคนกระโดดเข้าไป ก่อนจะช่วยดึงพวกเราที่เหลือเข้าไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้ามักจะเป็นคนที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าระวัง ขณะที่คนอื่นๆเข้าไปข้างใน”
ได้ยินน้ำเสียงของเฮลวิกซ์ แดนีลอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา มันเห็นได้ชัดว่า เหตุใดเด็กคนนี้ถึงได้ถูกทิ้งไว้เฝ้าระวังด้านนอก
ความเคร่งเครียดในบรรยากาศพังทลายลง และคนอื่นๆก็หัวเราะออกมาในขณะที่ใบหน้าของเฮลวิกซ์แสดงออกอย่างเศร้าสร้อย
“พวกเราเป็นเพียงคนทั่วไปที่ต้องการจะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมจากสถานศึกษา ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าเอนเอียงไปให้เหล่าคนชั้นสูง เมื่อตอนนั้น เพียงคำกล่าวธรรมดา พวกเราถูกทุบตีจนบางตาย และมันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง พวกเราไม่รู้ว่า หากพวกเราติดตามท่านแล้ว มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆหรือไม่ แต่จากสิ่งที่พวกเราเห็นในการประเมินและวิธีที่ท่านช่วยเหลือพวกเราที่เกือบจะยอมแพ้แล้ว สิ่งที่พวกเราต้องการ ก็คือโอกาส” โจชัวกล่าวขณะที่คนอื่นๆยิ้มและมองไปที่แดนีลด้วยความคาดหวัง
นี่เป็นครั้งแรกที่แดนีลรู้สึกได้ว่า คนอื่นนอกเหนือจากพ่อแม่ของเขา ตั้งความหวังในตัวเขา ทั้งหมดที่เขาทำก็มีเพียงการแนะนำในสิ่งที่เขารู้ อย่างการแนะนำเอเลนาฟ แต่พวกเขากลับเลือกที่จะสาบานตนต่อเขาและติดตามเขา
แม้คำสาบานตนของเขาจะไม่ใช่การสาบานเวทมนต์ แต่ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ของเด็กอายุ 13 ปี คำสาบานตนนี้เทียบได้กับการสาบานเวทมนต์
เขาสาบานกับตัวเองว่า เขาจะไม่ทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง แดนีลได้มอบภารกิจแรกให้กับพวกเขา เขาสั่งให้พวกเขารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคนทั่วไปทั้งหมดที่ถูกกดขี่เช่นเดียวกับพวกเขา และรายชื่อของคนชั้นสูงที่ขอบกดขี่พวกเขามากที่สุด
จากนั้น พวกเขาก็ได้รับคำแนะนำให้เป็นเพื่อนกับเด็กเหล่านั้น และค่อยปลูกฝังให้เด็กเหล่านั้นต่อสู้กับคนชั้นสูงเหมือนกับที่พวกเขาทำ และมันจะต้องทำอย่างไม่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นๆสงสัย
หลังจากตัดสินใจว่าจะพบกันที่นี่ในอีก 10 วันแล้ว พวกเขาก็กระจายตัวกันออกไปยังที่พักของตัวเอง
ด้านหลังต้นไม้ที่อยู่ห่างจากแดนีลไปราว 100 ฟุต ชายคนที่ผมยุ่งเหยิงเกาหัวของตัวเองขณะที่เขากำลังไตร่ตรองบางสิ่งอยู่ภายในใจ
เห็นทั้งห้ากล่าวคำสาบานตน การแสดงออกที่น่าสนใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา ก่อนจะไป เขาสะบัดนิ้วของเขา สร้างโดมกึ่งโปรงแสงขึ้นมา ก่อนที่มันจะกระพริบขึ้นในจุดที่แดนีลยอมรับคำสาบานตน