World domination system - ตอนที่ 51 จอมเวทย์ผู้ฝึกหัดระดับมนุษย์
WDS Chapter 51 จอมเวทย์ผู้ฝึกหัดระดับมนุษย์
“ข้า ข้ากำลังจะทะลวง…” แดนีลอ้าปากพยายามบอกกับแฟกซัล ก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เป็นเวลานานครึ่งชั่วโมง ที่เขาไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากจับหัวของตัวเองและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ซึ่งมันก็ดูราวกับมีบางสิ่งกำลังจะถูกสร้างขึ้นมา
“แกร๊ก!”
ในฉับพลัน หลังจากที่เขาได้ยินเสียงแตกหักในหูของเขา ความเจ็บปวดของแดนีลก็หายไป
เมื่อตื่นขึ้นมา เขาก็รู้สึกว่า อนุภาครอบตัวเขาดูชัดเจนขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ แม้ว่าความแตกต่างจะไม่มากนัก แต่มันก็ดูชัดเจนขึ้น
เพื่อทดสอบ แดนีลได้ร่ายคาถาบอลเพลิงขึ้นมาบนมือของเขา
เมื่อเขาเชื่อมต่อและใช้อนุภาคมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาก็สังเกตเห็นว่า บอลเพลิงของเขามีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ราวครึ่งหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ บอลเพลิงที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยสร้าง มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าลูกปิงปอง เขาสร้างมันอย่างต่อเนื่องเหมือนตอนที่เขาประลองกับเอเลนาฟ ซึ่งมันทำให้เขาเหนื่อยจนหมดแรงและล้มลงกับพื้น ก่อนจะเกิดอาการปวดหัวหลังจากนั้น สำหรับขนาดสูงสุดในตอนนี้ เขาสามารถจะยิงมันออกไปได้ 10 ลูก ก่อนจะรู้สึกแบบเดียวกับในตอนนั้น
ในที่สุด เขาก็ก้าวเข้าสู่จอมเวทย์ผู้ฝึกหัดระดับมนุษย์
นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญในเส้นทางจอมเวทย์ ในขณะที่เขาเปี่ยมไปด้วยความสุข แดนีลก็นั่งลงบนเตียง ก่อนตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไป
เรื่องเทคนิคคาถาเร่งด่วนเกินไป แดนีลจึงรีบออกจากห้องแล้วไปที่กระท่อมของโจนาห์ในทันที แฟกซัลบอกว่าเขาจะฝึกฝน หลังจากได้เห็นความก้าวหน้าและพลังที่แข็งแกร่งขึ้นของแดนีล เขาก็ต้องการที่จะผลักดันตัวเองและทะลวงผ่านให้เร็วที่สุด เขามีสิ่งที่จะต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนทั้งสามที่เคยกลั่นแกล้งเขาอย่างไม่สิ้นสุด
เมื่อมาถึงกระท่อมของโจนาห์ แดนีลก็สาบแช่งเมื่อเห็นว่ามันว่างเปล่าอีกครั้ง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากกลับมาในภายหลัง และเขาเลือกที่จะไปยังพื้นที่ของกลุ่มระดับความเข้าใจสีเหลือง
แต่ละกลุ่มมีพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้ให้ในสถานศึกษา
พื้นที่นันทนาการ, พื้นที่เรียนรู้ และพื้นที่ฝึกอบรม ทั้งหมดแตกต่างกัน และนักเรียนต่างกลุ่ม ถูกห้ามไม่ให้เข้าถึงพื้นที่ของกลุ่มอื่น
มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่นักเรียนทุกกลุ่มในโรงเรียนสามารถจะทำความรู้จักกันได้ เช่น ห้องสมุด และหอพักนักเรียน
ตอนนี้ ด้วยสิทธิ์การเข้าถึงสถานศึกษาที่ไม่จำกัด แดนีลสามารถจะไปได้ทุกที่ที่เขาต้องการ
เดินไปยังพื้นที่ฝึกอบรมระดับความเข้าใจกลุ่มสีเหลือง แดนีลได้ยินเสียงเชียร์และเสียงเป่าปาก ราวกับมีการแสดงบางอย่างเกิดขึ้น
ฝูงชนก่อตัวขึ้นเป็น 2 ทีม และพวกเขาได้ต่อสู้กันบนสนามประลอง เมื่อนักเรียนจบปีกหนึ่งในสถาบันแล้ว พวกเขาจะได้รับอนุญาติให้ฝึกในสนามสถานศึกษา แดนีลอยากให้คนชั้นสูงมาท้าทายเขาให้เข้าประลอง เพื่อที่เขาจะเอาชนะพวกเขาโดยที่ไม่ต้องท้าทายพวกเขาด้วยตัวเองและถูกจับตามอง น่าเศร้า ไม่มีใครเข้ามาท้าทายเขาเลย
สนามมีสี่เหลียมจัตุรัสที่กว้างด้านละ 30 ตารางฟุต มี 2 ทีม ยืนอยู่คนละฝั่งของสนาม
แต่ละทีมมีสมาชิก 5 คน จากทั้งทั้ง 5 คน มีนักเรียน 3 คน ที่ดูเหมือนจะมีร่างกายกำยำ แม้ว่าพวกเขาจะอายุเพียง 13 ปีก็ตาม ขณะที่อีก 2 คน ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของพวกเขา
ทีมหนึ่งประกอบด้วยคนทั่วไปเช่นเดียวกับแดนีล พวกเขาสวมใส่เสื้อผ้าสีจางๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกมันถูกสวมใส่มาอย่างยาวนาน
อีกทีม เด็ก 2 คน ที่ยืนอยู่ด้านหลังเป็นคนชั้นสูง เสื้อผ้าของพวกเขาคล้ายกับฝาแฝดที่เคยทำร้ายแฟกซัล สำหรับอีก 3 คน แม้เสื้อผ้าของพวกเขาจะไม่มีตราประจำตระกูล แต่คุณภาพของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า 2 คนด้านหลังเลย
กรรมการมองไปที่สนามและกล่าวว่า “เริ่มได้!” ทั้ง 2 ทีม โห่ร้องร้องเสียงดัง
ทีมคนทั่วไป เด็ก 3 คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าพุ่งไปข้างหน้า ขณะที่ 2 คนที่อยู่ด้านหลังยกมือของพวกเขาขึ้น
แดนีลสังเกตว่า ทั้งสามที่อยู่ด้านหน้าเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นนักสู้
ขณะที่พวกเขาเข้ามาใกล้อีกทีม พวกเขากระโดดและกลิ้งไปตามการคำนวณอย่างระมัดระวัง เพื่อหลบเลี่ยงแท่งน้ำแข็งและบอลเพลิงที่ฝ่ายตรงข้ามที่ทีมฝ่ายตราข้ามยิงออกมาโจมตีพวกเขา
ในทีมคนชั้นสูง เด็กที่อยู่ด้านหน้าทั้ง 3 คน ยืนอย่างเฉยเมยอยู่ตรงนั้น ราวกับมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา แม้ว่าคนชั้นสูงทั้ง 2 ด้านหลัง จะยิงเวทมนต์ออกไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่สนใจใดๆ
“ตอนนี้แหละ”
ตามคำสั่งของทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง ทั้งสามที่กำลังวิ่งไปข้างหน้าก็ยื่นมือของพวกเขาออกไปในฉับพลัน พวกเขาโน้มตัวไปข้างหน้า และยื่นมือไปให้เพื่อนร่วมทีมของพวกเขา ขณะที่ยังคงระมัดระวังและหลบเลี่ยงการโจมตีของทีมฝ่ายตรงข้าม
ชั้นเหล็กบางๆก่อตัวขึ้นบนมือของทั้งสาม ในขณะนั้น ระยะห่างระหว่างทั้ง 2 ทีม ลดลงเหลือเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น
ด้วยมือที่ส่องประกาย ราวกับว่าพวกมันสามารถจะทะลวงทุกสิ่งทุกอย่างได้ ทั้งสามยิ้มออกมาก่อนที่จะต่อยไปที่อีกทีมที่เพียงแค่ยืนหัวเราะเยาะพวกเขา
สิ่งกีดขวางโปร่งใสก่อตัวขึ้นด้านหน้าทีมฝ่ายตรงข้าม ป้องกันการโจมตีของทั้งสาม ซึ่งมันทำให้ทั้งสามอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากผลกระทบของมัน แล้วพวกเขาก็ถูกผลักกลับมาด้านหลัง ขณะที่พื้นด้านล่างมีแท่งน้ำแข็งก่อตัวขึ้น
เห็นเช่นนั้น กรรมการก็เทเลพอร์ตทั้งสามออกมาจากสนาม
“ผู้ชนะ ทีมวาลาเนล” กรรมการกล่าว ก่อนที่จะส่ายหัวและมองอย่างเศร้าสร้อยไปที่ทั้งสาม
อีก 2 คน เดินออกมาจากสนามอย่างไม่เต็มใจ และพวกเขาก็เดินไปสมทบกับทีมของพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ
แดนีลที่ยืนอยู่ใกล้ทีมแพ้ รู้สึกว่าจิตใจของตัวเองล่องลอยขณะที่เขาได้เห็นคอมโบระหว่างจอมเวทย์และนักสู้เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา มันยากมากที่จะร่ายคาถาไปยังเป้าหมายเคลื่อนที่ แต่ทั้งสองก็สามารถจะทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 เป้าหมายที่เคลื่อนไหวแตกต่างกันด้วยแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้คาถาโลหะ แต่มันก็จำเป็นจะต้องใช้สื่อกลาง แตกต่างจากบอลเพลิงและแท่งน้ำแข็ง ที่สามารถจะก่อตัวขึ้นกลางอากาศได้
“บ้าเอ้ย ไอ้เครื่องประดับเวทมนต์เหล่านั้น ข้าคิดว่า หากพวกเราทำตามคอมโบโลหะจู่โจมโดยสมบูรณ์แล้ว พวกเราจะสามารถเอาชนะเด็กที่น่ารังเกียจเหล่านั้นที่ซ่อนเครื่องประดับเวทมนต์ไว้เบื้องหลังได้ซะอีก” เด็กคนหนึ่งกล่าวคอมโบที่พวกเขาพึ่งจะใช้ออกมา
เขาพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมา ในขณะที่คนอื่นๆถอนหายใจและจดจ้องไปที่อีกทีม ที่กำลังหัวเราะเยาะพวกเขาขณะเดินออกจากสนามซ้อม
แม้ผู้ชมจำนวนมากจะออกไปหลังจากที่เห็นทั้งสามถูกเทเลพอร์ตออกมา แต่ก็ยังคงมีเด็กบางคนยังคงอยู่ และพวกเขาก็พากันชื่นชมคนชั้นสูงเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับพวกเขาเป็นเหตุผลของชัยชนะ
แดนีลมาที่นี่ด้วยความตั้งใจที่จะมาหาบางสิ่งบางอย่าง แต่เขาก็ถูกดึงดูดโดยคนทั่วไปที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่รู้ว่า เขาจะได้พบกับการเลือกปฏิบัติจากพื้นฐานของความมั่งคั่ง เครื่องประดับเวทมนต์ที่มีความสามารถอันแข็งแกร่งนั้น จะต้องมีราคาอย่างน้อย 300-400 แลนทองในตลาด
นอกจากนี้ การได้เห็นคอมโบระหว่างจอมเวทย์และนักสู้เป็นครั้งแรก มันก็ได้ขยายขอบเขตความคิดของเขาออกไปอย่างกว้างไกล
เขาเดินเข้าไปหาทีมที่แพ้และกล่าวว่า “หากพวกเจ้าต้องการที่จะชนะ ข้าก็มีข้อเสนอให้กับพวกเจ้า”