World domination system - ตอนที่ 166 แผนการ
นิยาย World domination system
WDS Chapter 166 แผนการ
ตั้งแต่สมัยโบราญ EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq การจับตัวคนในเผ่าพันธุ์ของพวกเขาไปเป็นทาส
ในความเป็นจริง สงครามต่างประเทศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมักจะมีส่วนมาจากการค้านี้จนกระทั่งมันกลายเป็นที่รู้กันทั่วทั้งแอนแกเรียตอนกลางว่ามันเป็นข้อจํากัดต่ำสุดในความภาคภูมิใจของเหล่าเอลฟ์แห่งเอลดินอร์
ตั้งแต่นั้น การค้าทาสเอลฟ์ จึงได้กลายเป็นธุรกิจมืดที่มีความเสี่ยงสูงและให้ผลตอบแทนสูง
ข่าวที่ลูกสาวของราชินีมีส่วนร่วมในการกระทําดังกล่าว เขย่าขวัญไปทั่วทั้งราชอาณาจักรเอลฟ์เกือบทุกตนในเอลดินอร์มีการอภิปรายอย่างไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้และพวกเขาต้องการให้ผู้กระทําผิดถูกลงโทษ
ทรมาน? จาคุกตลอดชีวิต? ประหารในทันที? ที่เป็นตัวเลือกที่พวกเขากําลังพิจารณากัน
ยอดขายหนังสือพิมพ์ได้พุ่งสูงถึงขีดสุด องค์กรสื่อทั้งสามแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีอานาจในการสร้างเรื่องราวมากเพียงใด
มีการแบ่งเนื้อหาในเรื่องราวอย่างเป็นระบบเพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบคนอื่นๆอย่างเด็ดขาด
แม้บางคนจะไม่เชื่อหลังจากที่ได้อ่านข่าวนี้แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในเอลดินอร์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ในห้องพักของแดนลในเอลฟาเวน เอลดร้ายืนจับแผ่นพับข่าวและจ้องมองมันด้วยดวงตาที่แดงก่า
ในการซื้อขายทั้งหมดที่เธอทําตามคําสั่งแม่ของเธอ ทั้งสถานที่และจํานวนเงินล้วนแล้วแต่ถูกโอนถ่ายภายใต้ชื่อของเธอ
แน่นอนว่า หลักฐานที่แสดงในหนังสือพิมพ์ เป็นเพียงคํากล่าวของทหารนิรนามไม่กี่คนที่อ้างว่า พวกเขายอมเปิดปากเพราะพวกเขาไม่สามารถจะทนเห็นความโหดร้ายนี้ได้อีกต่อไป
ทั้งเอลดร้าและแม่ของเธอระมัดระวังไม่ทิ้งร่องรอยหรือเงื่อนง่าใดๆเอาไว้เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ใครสามารถสืบกลับมาหาพวกเธอได้ อย่างไรก็ตามเอลดร้าก็ยังคงเป็นคนที่อยู่แนวหน้าในการติดต่อเช่นนี้มาโดยตลอด
เธอคิดเสมอว่ามันเป็นเพียงการฝึกฝนเพื่อจัดการกับคนที่อยู่ในเงามืด
เธอไม่คาดฝันเลยว่า แม่ของเธอจะใช้มันกับเธอในลักษณะนี้
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่ปมเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะสร้างและเชื่อมโยงเรื่องราวที่ไม่มีอยู่จริงได้
แดนลนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลางห้องขณะใช้นิ้วจับไปที่คาง
ในฐานะคนที่มาจากโลกเดิม แดนี้ลรู้ดีว่า เรื่องอื้อฉาวนั้นมีประสิทธิภาพในการใส่ร้ายใครบางคนมากเพียงใด
พร้อมกับที่ข่าวนี้ถูกปล่อยออกมา พยานผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนที่เคยเห็นเอลดร้ามีส่วนร่วมในอาชญากรรมมากมายก็หลั่งไหลไปยังองค์กรข่าวทําให้พวกเขามีเนื้อหามากมายจนกระทั่งสามารถออกหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
แน่นอนว่า พลังของข่าวนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อหามากกว่าความถูกต้องของมัน ดังนั้น แม้แต่สภาที่อยู่ภายใต้การควบคุม ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าการสอบสวนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วแต่พวกเขาก็กล่าวอีกว่ายังไม่มีผู้ต้องสงสัยที่จะถูกสอบสวนอย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่อาจหยุดเหล่าเอลฟ์ไม่ให้ขุ่นเคืองและรังเกียจลูกสาวของอดีตราชินีได้
แดนีลก็ตกตะลึงเช่นเดียวกับเอลดร้าเมื่อครั้งที่เขาเพิ่งจะรู้ว่าอดีตราชินีออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้
เขาพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ปรบมือกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมของเธอ เขาตัดสินใจรอชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อดูผลกระทบ
ตอนนี้ เมื่อเวลาผ่านไป มันชัดเจนว่าชื่อเสียงของเอลดร้ามีแต่จะดําดิ่งลงแม้เธอจะยังคงได้รับการคุ้มครองจากรัฐเนื่องจากเธอเป็นผู้สมัครที่ข้อกล่าวหายังไม่ได้รับการพิสูจน์มันคงไม่ง่ายที่จะช่วยเธอจากความโกรธของประชาชนที่ถูกล้างสมองซึ่งเชื่อว่าเธอเป็นผู้กระทําผิด
ช่วงเวลาเคลื่อนไหวของราชินีสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ทั้งแดนลและเอลดร้าเลือกที่จะเผยแพร่ข่าวผ่านเสียงแห่งเอลดินอร์เพื่อสร้างชื่อเสียงและขยายเครือข่ายแห่งแอนแกเรียไปทั่วเอลดินอร์ในวันถัดไป
ตอนนี้ แผนดังกล่าวถูกหยุดเอาไว้ เพราะมันจะเป็นการพิสูจน์ว่าข่าวก่อนหน้านี้เป็นเรื่องนี้
นอกจากนี้ ราชินียังสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่ประชาชนประนามลูกสาวของเธอเพื่อการหาเสียงของตัวเองได้
สิ่งนี้จะช่วยเติมเต็มความต้องการของประชาชนซึ่งมันจะส่งผลให้ความนิยมของอดีตราชินีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเธอพร้อมที่จะลงโทษครอบครัวของตัวเองเพื่อยืนหยัดเคียงข้างความยุติธรรม
สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปแล้ว และตอนนี้มันแสดงให้เห็นว่าอดีตราชินีกาลังจะชนะการเลือกตั้งอีกครั้งโดยไม่มีคู่แข่งคนใดสามารถจะเปรียบเทียบกับเธอได้
ทั้งหมดนี้สําเร็จได้ในระยะเวลาเพียง 3 วัน ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
เธอเป็นผู้มากประสบการณ์ทางการเมืองอย่างแท้จริง แดนีลพิมพ์ขณะที่เขาตัดสินใจว่าจะทําอย่างไรต่อไป
ความเงียบกระจายไปทั่วห้องขณะที่เอลดร้าอ่านหนังสือพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในที่สุดเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้และมองไปในอากาศอย่างว่างเปล่า ไม่รู้ว่าควรจะทําเช่นไรต่อไป
“พวกเราต้องการหลักฐาน” แดนลกล่าวขึ้นในฉับพลัน เขากําจัดตัวเลือกอื่นๆทั้งหมดและเห็นว่านี่คือตัวเลือกสุดท้ายที่เหลืออยู่
“หลักฐานอะไร? แม่ของข้าทําให้แน่ใจเสมอว่า EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq นอกจากนี้ บุคคลทั้งสามที่ข้ากล่าวถึงก็ไม่ใช่คนที่พวกเราจะสามารถเข้าถึงได้แล้วจะมีหลักฐานอะไรที่สามารถจะทําให้พวกเราหลุดพ้นจากความยุ่งเหยิงนี้ได้?”
ได้ยินคํากล่าวที่น่าอึดอัดของเอลดร้า แดนีลก็ขมวดคิ้วแน่น
คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้จากโลกเดิม แดนลพยายามมองหาสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่นั่นเพื่อที่เขาจะใช้มันอ้างอิงสําหรับการแก้ปัญหานี้ได้
ในขณะที่เขาทําเช่นนั้น เขาก็คิดถึงภาพของเด็กหญิงตัวน้อยที่กล่าวออกไปทั่วโลก
ตื่นขึ้นในฉับพลัน แดนลมองเข้าไปในดวงตาของเอลดร้าและกล่าวว่า
“พวกเราต้องการหลักฐานจากเหยื่อ”
ในเวลาเดียวกันนั้น ภายในสุสานที่ตั้งอยู่ใต้คฤหาสน์ของอดีตราชินีแห่งเอลดินอร์
อุโมงค์ใต้ดินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นนอกสายตาของรัฐ โดยใช้วิธีการลับที่ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ผลกาไรจากมันก็คุ้มค่าต้นทุนอย่างมาก เนื่องจากการประชุมลับทั้งหมดมักจะเกิดขึ้นที่นี่
ในห้องหรูหราที่ประดับด้วยภาพเขียนหลากหลาย เอลดารานั่งอยู่กับคน 3 คนที่เอลดราเคยพูดคุยมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนสภาพแวดล้อมที่เป็นทางการเหมือนก่อนหน้านี้ทั้งสี่มีแก้วไวน์อยู่ในมือพวกเขาลิ้มรสพวกมันและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง
“เด็กเหลือขอนั้น นางคิดว่า มีเพียงพวกเราที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ นางไม่รู้อย่างแท้จริงว่าแม่ของนางก็เป็นส่วนหนึ่งในแวดวงพวกเรา”
เอลฟ์ตนหนึ่งกล่าวออกมาขณะที่มองไปยังเอลดารา เพื่อดูว่าเธอมีการ เปลี่ยนแปลงการแสดงออกหรือไม่
ได้ยินเช่นนั้น เอลดาราก็ยิ้มบางๆและกล่าวว่า “นางยังไร้เดียงสาเกินไป และนางคิดว่านางสามารถจะยืนหยัดต่อต้านข้าในการเลือกตั้งได้หากข้าได้รับตําแหน่งอีกครั้งแล้วบางทีข้าอาจจะพิจารณาเรียกนางว่าลูกสาวของข้าอีกครั้ง”
หลังจากที่กล่าวออกมา เอลฟ์ก็ยิ้มที่มุมปากพร้อมจิบไวไวน์ในมือของเธอ
แม้มันจะดูเหมือนว่าทั้งสี่เป็นหุ้นส่วนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีคลื่นใต้น้ำระหว่างพวกเขาซึ่งสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนหากใครสังเกตได้ดีพอ
หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับข่าวต่อไปที่องค์กรทั้งสามจะตีพิมพ์แล้ว เอลดร้าก็ปิดการประชุมพร้อมกับค่าสังหนึ่ง
“ตรวจสอบให้แน่ใจว่า กิจกรรมทั้งหมดจะถูกหยุดเอาไว้ก่อนและรักษาความปลอดภัยให้กับสินค้าทั้งหมดให้ดีหากมีที่ใดถูกโจมตี ข้าต้องการจะรู้เกี่ยวกับมันในทันทีพวกเราไม่สามารถเคลื่อนย้ายพวกมันในตอนนี้ได้เนื่องจากมีข่าวว่ากองทัพกําลังตื่นตัวสูง อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถค้นหาพวกเราได้”