World domination system - ตอนที่ 153 หอกแห่งความเมตตา
นิยาย World domination system WDs Chapter 153 หอกแห่งความเมตตา
WDS Chapter 153 หอกแห่งความเมตตา
วันถัดมา
ในสนามที่แดนีลเคยพบกับกองทัพการปกครองก่อนหน้านี้ มีกลุ่มของทหาร 2 กลุ่ม ยืนอยู่ที่นั่นและกําลังพูดคุยกัน
มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มทั้งสอง ซึ่งทุกคนสามารถจะมองเห็นได้ ตัวอย่างเช่น ดวงตาของเหล่าทหารจดจ้องไปยังคนอื่นๆ ราวกับพวกเขากําลังประเมินภัยคุกคามรอบๆ
ไม่กี่นาทีถัดมา ชาย 3 คน เดินมาที่ด้านหน้าของพวกเขา และได้เปิดใช้งานเครื่องประดับเวทมนต์สิ่งกีดขวาง เพื่อป้องกันการสอดแนม
เห็นเช่นนั้น เหล่าทหารก็จัดแถวเป็นระเบียบ ก่อนที่จะโค้งคํานับให้กับราชาที่เพิ่งจะมาถึง
ชายคนที่สองก็คือ ผู้บัญชาการทหารทั่วไป ลูเธอร์ ในขณะที่คนที่สาม สวมหมวกเหล็กซึ่งคลุมทั้งศีรษะของเขา
มีทหารอยู่ที่นี่ 1,000 นาย แต่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ชายคนนี้เป็นใคร แม้ว่าเขาจะให้ความรู้สึกถึงคุ้นเคยกับหลายๆคน แต่พวกเขาก็ยังคงคิดไม่ออก
อย่างน่าประหลาด ทั้งราชาและลูเธอร์ถอยกลับไป ปล่อยให้ชายลึกลับยืนอยู่บนเวที เขายืนอยู่อย่างสงบ ก่อนจะตะโกนออกมาว่า
“ทหารรร! พวกเราจะกล่าวเช่นใดกับผู้ที่ต้องการจะเอาชนะพวกเรา?”
“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”
เหล่าทหารตะโกนตอบกลับตามสัญชาตญาณของพวกเขา ราวกับพวกเขาเคยตอบกลับด้วยคําเหล่านี้หลายร้อย หรือหลายพันครั้งแล้ว ซึ่งทําให้มันฝังลึกในจิตใจของพวกเขาโดยสมบรณ์
พร้อมกับอ้าปากค้างและเสียงร้องประหลาดใจ ในที่สุด ชายและหญิงในสนามก็ตระหนักได้ว่า ชายลึกลับผู้นี้ก็คือ คนที่สอนทุกอย่างให้กับพวกเขา
“ท่านขุนพลโรเบิร์ต!”
ขณะที่ชายลึกลับบนเวทีถอดหมอกเหล็กที่ปิดบังใบหน้าของเขาออก เหล่าทหารที่อยู่ในสนามก็รู้สึกราวกับว่า พวกเขาได้ย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่พวกเขาเพิ่งจะเข้าร่วมกองทัพ
กองทัพแลนธานอร์มีกระบวนการทํางานที่แปลกประหลาด ทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมทั่วไปเท่านั้น สําหรับทักษะพิเศษและการฝึกอบรมเพิ่มเติมใดๆ เหล่านักเรียนทหารจะต้องพยายามไปรับมันมาด้วยตัวเอง
และเพื่อที่จะได้รับพวกมัน เหล่านักเรียนทหารจะต้องเลือกไปอยู่ภายใต้ปีกของผู้บัญชาการกองกําลังบางคน
สําหรับบุคคลอย่าง หัวหน้าหน่วย, นายกอง, ฯลฯ มันเป็นข้อบังคับสําหรับ พวกเขาที่จําเป็นจะต้องมีนักเรียนทหารอย่างน้อยครึ่งหนึ่งอยู่ภายใต้คําสั่งของพวกเขา เพื่อที่จะให้ทําการฝึกอบรม
หลังจากผ่านข้อกําหนดแล้ว นักเรียนทหารก็จะสําเร็จการศึกษา และกลายเป็นทหารประจําการ ที่สามารถรับผลประโยชน์จากรัฐได้มากขึ้น
แน่นอนว่า สิ่งนี้ใช้ได้กับทหารทั่วไปเท่านั้น ทหารในกลุ่มชั้นสูง ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่ละคนเป็นดั่งสมบัติล้ําค่า และพวกเขาได้รับการฝึกฝนเป็นรายบุคคลเพื่อให้พวกเขาสามารถแสดงพลังได้สูงที่สุด
เหตุผลหลักที่กองทัพใช้ระบบเช่นนี้ก็ คือ เพื่อที่จะมอบทรัพยากรให้กับผู้ที่สมควรจะได้รับ
แน่นอนว่า ทรัพยากรพื้นฐาน จะถูกมอบให้กับทุกคน อย่างไรก็ตาม พวกมันแทบจะไม่เพียงพอที่จะรักษาอัตราการเจริญเติบโตของนักสู้ได้โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในการบ่มเพาะ หากพวกเขาต้องการทรัพยากรมากขึ้น พวกเขาจะต้องแสดงความสามารถหรือทํางานอย่างหนักในการแข่งขันทั่วไปที่จะถูกจัดขึ้น เพื่อทดสอบความสามารถด้านต่างๆของเหล่าทหาร
ระบบนี้ถือว่าค่อนข้างดี เพราะมันสามารถจะกําจัดคนที่เข้ามากองทัพเพียง เพื่อใช้ทรัพยากรในพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือ วิธีนี้ทําให้คนที่ไม่ผ่านข้อกําหนดขั้นต่ํารู้สึกสิ้นหวัง
ด้วยเห็นเพื่อนทหารของพวกเขามีความสามารถ และได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเรื่อยๆคนทั่วไปเหล่านี้คิดว่า พวกเขาติดอยู่ในวัฏจักรของความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า
บ่ายครั้งที่สิ่งนี้ส่งผลให้พวกเขาเลิกหวัง และออกจากกองทัพไป
เวสซ์เป็นนักเรียนทหารคนหนึ่งที่เพิ่งจะเข้าประจําการในกองทัพ ในฐานะเด็กกําพร้า เธอได้เติบโตขึ้นมาด้วยการฟัง เรื่องราวชีวิตของทหารจากชายที่ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าขนาดเล็กในพื้นที่อยู่อาศัยของเธอ
ติดในใจเรื่องราวเหล่านั้น เธอตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพทันทีที่เธอมีโอกาส
แม้ว่าเธอจะเต็มไปด้วยความสุขเมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับเลือก แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ เธอก็กลายเป็นสิ้นหวัง
เธอมักจะรู้เกือบท้ายสุดของการแข่งขัน ทําให้มันไม่มีหน่วยหรือกองกําลังใดมารับเธอไป
ขณะที่เธอยอมแพ้และกําลังจะจากไป ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเธอและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่เธอยังคงจดจําได้ว่า มันสว่างสไวจนสามารถปกคลุมความมืดทั้งหมดในหัวใจของเธออย่างสมบูรณ์
“เฮ้ เด็กน้อย อย่างเข้าร่วมหน่วยของข้าหรือไม่?”
ชื่อของเขาก็คือ โรเบิร์ต และเขาชอบเดินไปรอบๆกองทัพ เพื่อรวบรวมเหล่าทหารที่ไม่มีใครสนใจ หลังจากนั้น เขาก็ลงมือฝึกอบรมพวกเขาด้วยตัวเอง ทําให้มั่นใจว่า พวกเขาทุกคนจะมีที่ยืนของพวกเขาในกองทัพ ส่งผลให้เขาได้รับนามว่า ชายผู้ใช้หอกที่มีหัวใจแห่งความเมตตา
โรเบิร์ต แอนิวรอน เป็นชื่อของผู้ที่คนจํานวนมากรู้กันว่า เขาเป็นคนต่อต้านคําสั่งของคนชั้นสูง ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการโดยราชาริชาร์ด
หลังจากปลดคนชั้นสูงที่ออกคําสั่งโง่ ซึ่งส่งผลให้ทหารจํานวนมากต้องตาย ออกแล้ว ริชาร์ดค่อนข้างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงรู้สึกโกรธจากการลุกขึ้นมาต่อต้านของโรเบิร์ต จึงตัดสินใจลงโทษเขาเพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ตไม่ได้ถูกประหาร แต่เขาถูกตราหน้าว่าเป็นทหารหนีทัพ คนชั้นสูงที่เขาเคยต่อต้าน ยอมปล่อยเรื่องนี้หลังจากมอบหมายหน้าที่ให้คนของเขา ซึ่งทําหน้าที่ทําให้แน่ใจว่า จะไม่มีใครเข้าไปช่วยโรเบิร์ต แม้ว่าครอบครัวของเขาจะต้องอดอยากมากเพียงใดก็ตาม
เรื่องราวทั้งหมดนี้ยังคงถูกพูดคุยกันบ่อยครั้งในกองทัพ แทนที่จะเป็นเรื่องน่าเศร้าก่อนหน้านี้ ตอนนี้เรื่องราวของเขาเป็นเรื่องของความสุข ขุนพลโรเบิร์ตอันเป็นที่รัก อยู่ในพระราชวัง พร้อมกับลูกชายของเขาที่เป็นราชา
กระนั้น หลายคนก็ยังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใด เขาจึงไม่เลือกมาที่กองทัพ แล้วกล่าวโอวาทแก่เหล่าเด็กฝึกหัดเก่าของเขา
ตอนนี้ พวกเขาเข้าใจแล้วว่า ที่มันเป็นเช่นนั้นเพราะเขาต้องการจะมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขาตรงนี้
ในความเป็นจริง การหายไปของตราบนใบหน้าของเขา มันได้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า หอกแห่งความเมตตาได้กลับมาแล้ว นอกจากนี้ ร่างกายของเขายังดูแข็งแรง ราวกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเลยในก่อนหน้านี้
เห็นความเคารพรักในดวงตาของเหล่าทหาร แดนีลยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้งที่ตระหนักได้ว่า บุคคลที่ให้กําเนิดเขา เป็นคนที่น่าเหลือเชื่อ
อย่างเห็นได้ชัด คําที่พ่อของเขากล่าวออกมา มันใช้ทั้งในการฝึกอบรมนักเรียนทหาร และใช้เมื่อเขาออกไปสู้รบ
มองออกไป แดนีลสังเกตเห็นลูเธอร์ยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เขาได้พบกับชายคนนี้
รู้สึกถึงการจับจ้องของแดนีล ลูเธอร์ กล่าวกับเขาว่า “ข้าเห็นพ่อของท่านมาเป็นเวลานาน และข้าก็พยายามเปลี่ยนคําตัดสินที่ขับไล่เขาออกจากกองทัพ และข้าก็มีความตั้งใจที่จะให้เขามาเป็นผู้สืบทอดของข้า”
แดนลพยักหน้า หันไปหาพ่อของเขา และกล่าวว่า “ท่านพ่อ ไปพูดคุยกับพวกเขาเถิด พวกเราจะรอ”
โรเบิร์ตโบกมือให้เขา ก่อนจะตะโกนออกไปว่า “พบกันคืนนี้ในสถานที่ประจําของพวกเรา แล้วมาดื่มกับข้า”
หันหลังกลับ โรเบิร์ตเดินมาหาแดนีล ขณะที่เสียงเชียร์ดังขึ้นที่ด้านหลังของเขา
รอยยิ้มแห่งความมั่นใจที่แดนีลเคย เห็นในวัยเด็ก กลับมาอยู่บนใบหน้าพ่อของเขาอีกครั้งแล้ว
ยิ้มออกมาอย่างปิติยินดี แดนีลเดินกลับพระราชวังพร้อมกับชายทั้งสอง
“ลูกชาย ข้าไว้วางใจคนเหล่านี้ด้วยวิตของข้า ข้าคิดว่าพวกเขาเหมาะกับแผนการของเจ้าในการสร้างองครักษ์
พิเศษที่ได้รับการยกระดับศักยภาพ พวกเขาจะกลายเป็นกองทัพนักสู้ชั้นสูง ที่สามารถจะทําหน้าที่ใดๆที่เจ้าต้องการ ข้าจะโน้มน้าวให้พวกเขาสาบานตน และพร้อมกับพวกเขา ข้าเองก็จะสาบานตนด้วยเช่นกัน”
ในความเป็นจริง การชุมนุมทหารในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่แดนีลอธิบายแผนการของเขาให้พ่อของเขาฟังเมื่อคืนก่อน
หลังจากสลายตราบนใบหน้าออกไปแล้ว แม้แดนีลจะมีคําถามมากมาย แต่เขาก็ได้พักพวกมันเอาไว้ก่อน เนื่องจากตอนนี้ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวแอนิวรอน เขากระทั่งหยุดพักจากการฝึกฝน และใช้เวลาทั้งหมดของเขากับครอบครัว ใช้โอกาสนี้ เขาได้เล่าเกี่ยวกับเทคนิคการพัฒนาและความฝันของเขาที่จะทําให้กองทัพแข็งแกร่งขึ้น
เห็นภาพของยักษ์ที่สามารถจะครอบงําสนามรบด้วยคาถาเดียวได้ มันได้ทําให้เขากระหายที่จะทําให้กองทัพของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ตอนนี้ ด้วยมีพ่อของเขาเพิ่มเข้ามา มันทําให้เขามีคนที่ไว้วางใจได้เพิ่มเข้ามาอีกคน ซึ่งช่วยให้เขาวางภาระที่กําลังข่มขู่ว่า มันจะทําลายเขาหากเขายังฝืนทําด้วยตัวคนเดียวต่อไป