World domination system - ตอนที่ 137 ความจริง ตอนที่ 3
World domination system WDS Chapter 137 ความจริง ตอนที่ 3
WDS Chapter 137 ความจริง ตอนที่ 3
ภาพที่ทั่วท้องถนนของแลนธานอร์นองไปด้วยเลือดผ่านเข้ามา ในจิตใจของเขา ทําให้ความกระวนกระวายและความหวาดกลัว ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ถูกต้องแล้ว เชิร์ชคิดว่าข้ามีความเจ็บปวดมากพอที่จะทําลาย ราชอาณาจักรที่ข้าเติบโตขึ้นมาได้ พวกเขาจึงได้พยายามที่จะใช้ภาพนี้ เพื่อที่จะให้ข้าเข้าร่วมกับพวกเขา”
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ โจนาห์กล่าวต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“จนถึงตอนนี้ ทั้งหมดที่ข้าค้นพบก็คือ พวกเขามาจากทะเลที่ล้อมรอบแอนแกเรีย และแรงจูงใจเดียวของพวกเขาก็คือ กวาดล้างสถานที่ทุกแห่งในทวีปแห่งนี้ เนื่องจากพวกเขามาจากสถานที่ห่างไกล พวกเขางพยายามจะใช้วิธีที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุดและใช้ความขุ่นเคืองของประชาชนเพื่อควบคุมราชอาณาจักรก่อน เหมือนอย่างที่พวกเขาเคยพยายามทํากับแลนธานอร์ จากนั้น โดยใช้มันเป็นฐาน พวกเขาจะขยายออกไปยังราชอาณาจักรที่อยู่รอบๆ และใช้กําลังบังคับให้เกิดสงคราม”
“แดนีล ที่ข้าเข้าร่วมกับพวกเขา เพราะข้ารู้ว่ามันมีความจําเป็น จะต้องมีใครบางคนอยู่ข้างพวกเขา ผู้ที่สามารถจะถ่ายทอดข้อมูลเช่นนี้ เพื่อการต่อสู้เอาชีวิตของทั้งแอนแกเรีย ข้าไม่สามารถจะอธิบายได้ว่า ข้าจะบอกเรื่องนี้กับเจ้าได้อย่างไรโดยไม่ตายจากผลของคําสาบานตน หากเจ้าต้องการหาคําตอบสําหรับคําถามนี้ ให้ทําตามสิ่งที่ข้าบอกในจดหมาย ไปยังสถานที่ในแอนแกเรียที่ร็อคเจาะตาบาซิลลิสก์ แล้วมองหาผู้ทํานายชุดคลุมขาวเมื่อเจ้ามีความแข็งแกร่งมากพอ แม้สิ่งที่ขากล่าวเกี่ยวกับคําสาบานตนในจดหมายจะจริง แต่มันไม่ใช่ในกรณีนี้ ข้าสาบานตนด้วยความตั้งใจว่า ข้าจะรับใช้ราชอาณาจักรของข้า มันสําคัญเกินไป ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากโกหกบางส่วนในจดหมายสําหรับผู้ทํานาย มันเป็นความลับที่เปิดเผยได้”
ทุกอย่างที่แดนีลสามารถจะทําได้ก็คือ จดจ้องเข้าไปในดวงตา อดีตอาจารย์ของเขา ซึ่งเขาสามารถจะได้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มันเต็มไปด้วยความรักและความปรารถนาดีต่อบ้านเกิดของตัวเขา
“สุดท้ายนี้ ข้าขอโทษที่ข้าทําลายพิธีและลักพาตัวคนชั้นสูงคนนั้น ข้าต้องทําเพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้า แม้แต่การมาหาเจ้าในครั้งนี้ ก็เป็นการมาเพื่อมอบข้อเสนอให้เจ้าอีกครั้ง ข้ารู้คําตอบของเจ้าดี ข้าจึงไม่ถามออกไป
“เวลาของข้าหมดลงแล้ว ข้าจะติดตามกลับมาผ่านเครื่องประดับเวทมนต์นี้ทุกครั้งที่ข้าสามารถจะทําได้ สําหรับตอนนี้ สิ่งที่ข้าอยากจะขอก็คือ เก็บความจริงนี้เอาไว้ แม้ข้าจะรู้ว่า 5 ปีหลังจากนี้จะปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่ข้าก็ไม่สามารถจะบอกอะไรหลังจากนั้นได้”
“แดนีล ข้ารู้ว่ามันฟังดูมากเกินไป แต่ได้โปรดจงเชื่อมั่นในตัวข้า หากเจ้าต้องการจะพิสูจน์ ก็ทําตามที่ข้ากล่าว จงแข็งแกร่งขึ้นและไปยังสถานที่นั้น”
“นี่คือสิ่งที่อาจารย์สามารถจะทําให้เจ้าได้ ราชาหนุ่ม ข้ารู้ว่าเจ้าและเคลเลอร์คิดเกี่ยวกับข้าอยู่เสมอ และข้าจะพยายามทํางานอย่างหนัก เพื่อรวบรวมข้อมูลที่สามารถจะช่วยให้พวกเราพ้นภัยได้ ลาก่อน”
หลังจากกล่าวจบ ร่างโคลนของโจนาห์ก็ค่อยๆสลายไป
พร้อมกันนั้น เครื่องประดับเวทมนต์รูปดิสก์ที่เขาอยู่ในมือก็หล่นลงกับพื้น
ดวงตาของแดนีลหรี่ลง เขาพยายามผ่อนคลายและคิดเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เพิ่งจะเห็นและได้ยิน
ภาพนั้นลอยขึ้นตรงหน้าเขา ร่างของผู้คนมากมายนับแสนๆ
แลนธานอร์ถูกปิดล้อมและถูกทําลาย
ครอบครัวของเขาถูกฆ่าตาย
สหายของเขาถูกฆ่าตาย
คนของเขาถูกฆ่าตาย
แม้จะมีเสียงจากมุมหนึ่งในหัวใจของเขา ที่บอกกับเขาว่า ทั้งหมดที่เขาเห็นไม่ใช่เรื่องจริง แต่บางสิ่งในใจของเขาก็ได้ถามว่า จะเป็นอย่างไรหากมันเกิดขึ้นจริง?
แม้ว่ามันจะมีโอกาสเกิดสิ่งนั้นขึ้นเพียง 1% แต่มันก็จะเป็นดั่งการแสดงความโง่เขลา หากมองข้ามหรือเพิกเฉยต่อมัน
ถูกต้องแล้ว อาจารย์ของเขาทรยศเขา
แต่เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทําของเขา และสาเหตุที่เขาไปเป็นพันธมิตรกับเชิร์ช ในที่สุดก็ได้รับคําตอบ
แม้แดนีลจะมีคําถามมากมาย แต่เขาก็รู้ว่า เขาทําได้เพียงเก็บมันไว้ในใจเท่านั้นในตอนนี้ แล้วเขาจะต้องหาคําตอบในภายหลัง
สําหรับตอนนี้ อาจจะไม่มีใครในทวีปนี้ที่ตระหนักว่า ภัยคุกคามขนาดใหญ่กําลังจะปรากฏขึ้น?
อาจารย์ของเขาเอาชนะข้อจํากัดของคําสาบานตน เพื่อทําทุกสิ่งที่เขาสามารถจะทําได้?
เหตุใดเชิร์ชถึงต้องการจะรุกรานและกวาดล้างแอนแกเรีย? พวกเขาได้อะไรจากการทําเช่นนั้น?
โจนาห์มีความพิเศษอะไร ที่เชิร์ชถึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรับสมัครเขา? พวกเขาเคยเสนอให้เขา แต่พวกเขาไม่ได้มอบความทรงจําเช่นเดียวกันนี้ให้กับเขา เหมือนกับที่ใช้ล่อลวงโจนาห์
และสุดท้าย เชิร์ชมาจากไหน? อะไรอยู่ด้านนอกแอนแกเรีย?
มีคําถามมากมาย อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงความสงสัยและทฤษฎีของแดนีล
รวบรวมความคิดของตัวเอง แดนีลตระหนักว่า เขาโง่เองที่โกรธเคืองหลังจากที่เห็นการกระทําที่ผิดแปลกของโจนาห์
ตระหนักถึงความจริงที่ว่า เขาไม่มีทางที่จะเคียดแค้นได้อย่างสมบูรณ์ มันทําให้อารมณ์ของแดนลค่อยๆสงบลง
แม้โจนาห์จะเป็นคนทรยศตามกฎหมาย แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่แดนีลจะรู้สึกโกรธเคืองคนที่พยายามจะปกป้องเขาจากในเงามืดมาเป็นเวลานาน
พลังอํานาจได้เปลี่ยนเขา แต่โชคดีที่เขาสามารถจะตระหนักถึงมันได้อย่างรวดเร็ว
สําหรับปัญหาใดๆ การตระหนักถึงมันเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด แดนีลยอมรับว่าตัวเขาเปลี่ยนไป และเขาตั้งใจที่จะปรับปรุงตัวเองใหม่
ในสายตาของราชา โจนาห์เป็นคนทรยศที่ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
แต่ในสายตาของคนที่รู้จักชายคนนี้มาเป็นเวลานาน โจนาห์ ทําสิ่งเหล่านี้เพียงเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น
จุดสําคัญก็คือ การแยกความแตกต่างระหว่างทั้งสอง ไม่ผสมมันเข้าด้วยกันเหมือนที่เขาทําในตอนนี้
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว แดนีลก็ลุกขึ้น
ตามที่อาจารย์ของเขาบอก เขาจะเก็บความจริงเกี่ยวกับภัยคุกคามนี้ไว้ในใจ
และหากเขาต้องการคําตอบเพิ่มเติม เขาจะต้องไปยังสถานที่ที่อาจารย์ของเขากล่าวถึง
ในความเป็นจริง หลังจากที่แดนีลได้รู้เรื่องทั้งหมดเหล่านี้แล้ว เขาก็เริ่มที่จะเรียกโจนาห์ว่า อาจารย์ แทนที่จะเป็นอดีตอาจารย์เหมือนก่อนหน้านี้
ราวกับเป็นการให้กําลังใจเขา เสียงของระบบที่นํามาซึ่งข่าวดีดังขึ้น
[ความสําเร็จ : ได้รับตระหนักถึงตนเอง-1]
[ตระหนักถึงตัวเอง : สามารถจะระบุจุดอ่อนของตัวเองด้วยการใช้ความสามารถของตัวเองได้ เส้นทางที่โฮสต์เลือกเดินจะดีมากขึ้น อีกด้านก็จะยิ่งเป็นผู้ที่เหมาะสมสําหรับการปกครองโลกมากขึ้น ยินดีด้วย]
[รางวัล 2,000 แต้มประสบการณ์]
เดินไปยังกองผ้าที่ร่างโคลนอาจารย์ของเขาสลายไป แดนีลพับเสื้อผ้าอย่างระมัดระวังและวางมันไว้ด้านข้าง
หยิบเครื่องประดับเวทมนต์ขึ้นมา และหยดเลือดลงไปที่มันเพื่อผูกมัด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาทําเช่นนั้น เสียงของชายที่ปลุกเขา ด้วยกลิ่นเหม็นในห้องของเขาเมื่อหลายปีก่อนก็ได้ดังขึ้นในใจ มันทําให้เขายิ้มออกมาเล็กน้อย
“นี่เป็นของขวัญสุดท้ายสําหรับศิษย์ของข้า องค์ชายใหญ่อยู่ที่ศูนย์ใหญ่นิกายใบไม้ร่วง ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาไร้ชื่อทางตะวันออกของแลนธานอร์”