World domination system - ตอนที่ 13 ฝึกนรกสามเดือน
แดนีลนั่งลงอีกครั้ง และเขายิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้น เอลเลนาฟก็กลับไปตรวจสอบคนอื่นๆ
แดนีลนั่งท่าขัดสมาธิ ก่อนจะปิดตาลงและทำตามคำแนะนำของเอเลนาฟ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดูดซับอากาศพิเศษเข้าสู่ปอด จากนั้น เขาก็จินตนาการถึงวัตถุสีขาวที่ตกข้างอยู่ในปอดของเขา ขณะที่หายใจเอาอากาศส่วนที่เหลือออกไป พลังงานจะถูกเคลื่อนย้ายไปส่วนต่างๆของร่างกาย จากกระเพราะและลำไส้ ไปยังแขน, ขา และศีรษะ ก่อนจะเบาบางลงและออกมาจากร่างกายพร้อมกับการหายใจออก
แดนีลทำเช่นนั้นอย่างขยันขันแข็งเป็นเวลานาน แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
จากนั้น 10 นาที เขาก็เริ่มได้ยินเสียงการหายใจที่ติดขัดของเด็กบางคน และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ถูกหยุดโดยเอเลนาฟ
จากนั้นราว 20 นาที หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าออกหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดแดนีลก็เข้าใจว่าเหตุใดมันถึงเป็นเช่นนั้น
ในการสูดลมหายใจครั้งนั้น แดนีลรู้สึกได้ว่าหน้าอกของเขาร้อนขึ้น จากนั้น เขาก็พยายามกระจายความร้อนดังกล่าวไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ด้วยการจินตนาการภาพที่วัตถุสีขาวถูกพาไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย แต่มันไม่มีประโยชน์ใดๆ เพราะหน้าอกของเขายังคงร้อนขึ้นเรื่อยๆ และมันค่อยๆเปลี่ยนจากความอึดอัดเป็นความเจ็บปวด
แดนีลพยายามหยุดหายใจ และหวังว่าสิ่งนี้จะหยุดลง แต่สุดท้ายแล้ว มันกลับทำให้การหายใจของเขาติดขัดเหมือนกับคนอื่นๆ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับมาหายใจอีกครั้ง
เอเลนาฟวางมือลงบนหลังของเขา ในฉับพลัน แดนีลรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาอุ่นลง และกลับมาหายใจเป็นปกติอีกครั้ง
กลับคืนสติ เขาตระหนักว่า มีเด็กอีก 2 คน ยังอยู่ในห้อง
แล้วในตอนนั้น ใบหน้าของเอเลนาฟก็ดูเศร้าเล็กน้อย ขณะที่เขาพาแดนีลออกไป
เดินออกมา แดนีลเห็นเด็กบางคนยิ้มออกมาอย่างแจ่มใส ขณะเดียวกันเด็กบางคนก็นอนร้องไห้อยู่บนพื้น
มันดูเหมือนว่า พวกเขาจะทำบางสิ่งไม่ได้ และเอเลนาฟก็ได้ทิ้งพวกเขาไว้เช่นนั้น
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แดนีลเชื่อมั่นว่า เขาจะเปลี่ยนไปหลังจากได้รับความช่วยเหลือของระบบ บนโลกเดิม เขาไม่เคยเป็นคนที่โดดเด่นหรือประสบความสำเร็จใดๆ แม้ว่ามันจะมีสิ่งผิดปกติกับร่างของเขา แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้และสูญเสียความเชื่อมั่นใดๆ
เพราะที่โลกแห่งนี้ เขามีทั้งระบบที่สามารถสร้างปาฏิหารย์ได้ และมีพ่อแม่ที่รักเขาอย่างสุดหัวใจ เขาจะต้องเดินไปข้างหน้า และทำตามคำแนะนำของระบบ เพื่อปกครองโลกแห่งนี้
ดังนั้น แดนีลจึงไม่รู้สึกผิดหวังใดๆ แม้ว่าเขาจะได้เห็นความเศร้าบนใบหน้าของเอเลนาฟก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีเด็ก 2 คน เดินมาหาเขา
“เด็กไร้พรสวรรค์ ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่รู้ เดี๋ยวพวกเราจะบอกเจ้าเอง สำหรับคนที่ออกจากห้องโถง ยิ่งออกมาเร็วเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งมีพรสวรรค์มากเท่านั้น พ่อของข้าเป็นผู้บอกเรื่องนี้กับข้าเมื่อครั้งที่เขามาทำการฝึกฝน เจ้าใกล้จะตายแล้ว เจ้าควรจะมาทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของข้า ไม่เช่นนั้น เจ้าอาจจะต้องประสบปัญหาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่เหนือกว่าเจ้า” เด็กคนหนึ่งที่แต่งตัวค่อนข้างดีกล่าว
เขาอ้วนจ้ำม่ำ จมูกเล็กๆและหน้าผากของเขาทำให้เขาดูเหมือนหมู ท้องของเขาใหญ่เป็นอย่างมากสำหรับเด็กอายุสิบสอง และมันกระเพื่อมขึ้นลงขณะที่เขากล่าวกับแดนีล
ภาพดังกล่าวตลกเป็นอย่างมาก และแดนีลอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“พ่อของเจ้าผ่านหรือล้มเหลวการฝึกล่ะ?”
เด็กคนอื่นๆคิดว่าเขาจะโกรธและกล่าวตอกหน้าแดนีล แต่มันกลับกลายเป็นว่า เขาแสดงท่าทีที่ลำบากใจ เมื่อได้ยินคำถามนี้
“เขา เขาล้มเหลว แต่อย่างไรมันก็ไม่สำคัญ เพราะข้าจะทำให้สำเร็จแทนเขาเอง” เด็กชายกล่าวอย่างมั่นใจ
“ข้าก็คิดเช่นนั้น ดี โชคดี แล้วเจ้าอย่าได้เป็นลมในระหว่างฝึกฝนล่ะ ข้าเคยได้ยินข่าวลือมาว่า ท่านปรมาจารย์เฟลิกซ์ชอบกินเด็กอ้วนที่เป็นลมระหว่างการฝึกฝนเป็นอาหารเช้า”
แดนีลเดินออกไปโดยไม่สนใจใดๆ ขณะเดียวกันนั้น บนหน้าฝากของเด็กคนนั้นมีเหงื่อไหลออกมา
หลังจากเดินไปได้ซักพัก เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา นั่นเป็นการสอนบทเรียนให้กับเด็กคนนั้นว่า อย่าได้รังแกคนอื่นอีก
ไม่นานหลังจากนั้น ทุกคนก็ออกมาจากห้องโถง หลังจากนั้น เอเลนาฟก็กล่าวว่า
“ข้าจะอ่านชื่อผู้ที่มีร่างกายศักยภาพสูง ไล่ไปกลาง และต่ำ เพื่อแบ่งพวกเจ้าออกเป็น 3 กลุ่ม”
ขณะที่เอเลนาฟอ่านรายชื่อ เด็กอ้วนคนนั้นมีชื่อว่า อีพ็อค และเขาอยู่ในกลุ่มศักยภาพสูง
อย่างน่าประหลาด มันเป็นดั่งที่อีพ็อกกล่าว แดนีลอยู่ในกลุ่มศักยภาพต่ำ ก่อนหน้านี้ เขายังคงจำได้ว่า ระบบเคยบอกเขาเกี่ยวกับศักยภาพของเขา มันน่าจะอยู่ที่ F หรือ F- แม้ว่าเขาจะไม่รู้วิธีการคำนวณของระบบ แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ว่า มันเป็นระดับศักยภาพที่ต่ำเป็นอย่างมาก
ในกลุ่มของเขา มีเด็ก 6 คน นอกเหนือจากแดนีลและเด็กที่ยืนอยู่ตรงกลางแล้ว คนที่เหลือยังคงนอนร้องไห้อยู่บนพื้น แดนีลไม่เท่าไหร่ เพราะเขาเชื่อมั่นในระบบ แต่เด็กอีกคนนั้นน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง
เนื่องจากเขาสนใจ แดนีลจึงได้เดินไปทักทายเด็กคนนั้น
“ข้าชื่อแดนีล แล้วเจ้าล่ะ?” เขาถามขณะที่ยิ้มอย่างสุภาพ
เด็กคนนั้นรูปร่างผอมและเสื้อผ้ามีรอยปะเป็นจำนวนมาก แต่เขามีความมุ่งมั่นเต็มอยู่บนใบหน้า แม้ว่าเขาจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มศักยภาพต่ำก็ตาม เมื่อเห็นแดนีลเข้ามาทักทายและแนะนำตัวเองแล้ว การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป เขายิ้มออกมาเล็กน้อยและกล่าวว่า “ข้าชื่อแฟกซัล ยินดีที่ได้รู้จัก”
ทั้งสองจับมือกัน แต่พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันมากนัก เพราะเอเลนาฟได้กล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ตอนนี้ พวกเจ้ารับการจัดกลุ่มตามศักยภาพแล้ว การฝึกฝนจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า ตั้งแต่วันนี้ไปจนครบ 3 เดือน จะไม่มีการหยุดพักหรือวันหยุดใดๆ ทุกๆวัน พวกเจ้าจะต้องปฏิบัติภารกิจประจำวันให้สำเร็จ พวกเจ้าจะไม่ได้นอนจนกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้น ทุกสัปดาห์จะมีการประเมินผลการต่อสู้โดยที่พวกเจ้าจะต้องสู้กันเอง ผู้ชนะจะได้รับงานลดลงในสัปดาห์ถัดไป ขณะที่ผู้แพ้ จะต้องทำงานหนักมากขึ้น ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า และพยายามให้ดีที่สุด”
“การฝึกนรก 3 เดือน ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ก่อนอื่น วิ่งรอบสนาม 10 รอบ รวมระยะทางราว 5 กิโลเมตร พวกเจ้าจะต้องรีบวิ่งให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าจะต้องอดอาหารกลางวัน”