(WN)The Pain of an Inferior: A Blistering Love Comedy That Begins After a Broken Heart (ฮาเร็มที่เริ่มต้นหลังจากอกหัก) - ตอนที่ 5 ความเจ็บปวดของผู้ด้อยกว่า 5
- Home
- (WN)The Pain of an Inferior: A Blistering Love Comedy That Begins After a Broken Heart (ฮาเร็มที่เริ่มต้นหลังจากอกหัก)
- ตอนที่ 5 ความเจ็บปวดของผู้ด้อยกว่า 5
ฮารุกะกลับมาบ้านพร้อมกับใบหน้าที่บวมเป่งและเปื้อนคราบน้ำตา
เมื่อเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็พบยูซูริกะ พี่สาวของเขานั่งอยู่ในโคทัตสึ กำลังกินอาหารที่เขาเตรียมไว้ให้
ยูซูริกะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นสภาพอันน่าตกใจของฮารุกะ
“เกิดอะไรขึ้น ฮารุ?”
“….ผมอกหัก”
ฮารุกะทรุดตัวลงนั่งตรงทางเข้าห้องนั่งเล่น ใบหน้าของเขาดูเหม่อลอย ดวงตาว่างเปล่า ไร้ซึ่งแสงสะท้อนใด ๆ
ยูซูริกะวางอาหารที่กินไปครึ่งหนึ่งลง แล้วขยับเข้าไปใกล้ ๆ ฮารุกะ
“เธอพยายามมาตลอดเลยนะ”
“… ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”
ฮารุกะไม่คิดอย่างนั้น
เป็นเวลานานที่เขาได้แต่มองดูซุนและมิยาโกะใช้เวลาร่วมกันจากข้างหลัง ในขณะที่เขาเอาแต่นั่งเฉย ๆ
เขาไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง
เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าเขาพยายามแล้วในสถานการณ์เช่นนี้
ยูซูริกะกอดเขาเบา ๆ พร้อมกับลูบหัวอย่างอ่อนโยน
ความอบอุ่นของเธอค่อย ๆโอบล้อมหัวใจที่แตกสลายของเขา ดวงตาของฮารุกะร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ไม่หรอก เธอทำดีที่สุดแล้ว… เก่งมาก ฮารุ”
“เน่ซัง…”
ถ้ามองจากมุมมองของคนนอก คงเป็นภาพที่ดูตลกพิลึก
เด็กหนุ่มวัยสิบหกปี กอดพี่สาวพร้อมร้องไห้เหมือนเด็กทารก เพียงเพราะรักข้างเดียวที่ไม่สมหวัง มันช่างน่าขันและน่าสมเพชที่ได้เห็นภาพแบบนี้
“… ผมอยากให้เน่ซังอยู่เคียงข้างผมตลอดไป”
“พี่จะอยู่ตรงนี้เพื่อเธอเสมอ… เราเป็นครอบครัว และก็เป็นคนรัก… ใช่ไหม?”
“… เน่ซัง”
ฮารุกะกอดเธอแน่นและร้องไห้ต่อไป เสียงของเขาถูกกลืนหายไปกับอ้อมกอด
มิยาโกะไม่รู้เลยว่าฮารุกะและยูซูริกะมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่าพี่น้อง
เธอไม่ชอบยูซูริกะมาโดยตลอด ฮารุกะไม่สามารถซื่อสัตย์กับเธอได้ เพราะเขาคิดว่าถ้าเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพี่สาว เขาคงหมดโอกาสกับเธอ
“ผมมันเลวจริง ๆ… ผมเลือกไม่ได้ระหว่างเน่ซังกับมิยาโกะ… บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้…”
หลังจากนั้นไม่นาน ฮารุกะก็ร้องไห้จนเหนื่อยและผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของยูซูริกะ
เธอวางเขาลงบนพรมข้าง ๆ โคทัตสึ และห่มผ้าห่มให้เขา
ยูซูริกะปัดผมหน้าม้าที่ปิดของฮารุกะออก และเหน็บไว้หลังใบหูของเขาด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน
“ไม่ต้องกังวล พี่จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ”
หลังจากพูดจบ ยูซูริกะก็จูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของฮารุกะที่กำลังหลับใหล
“ฟุฟุ… เป็นเรื่องดีแล้วล่ะที่เธออกหักจากยัยนั่น… ฮารุ”
ยูซูริกะยิ้มเยาะ พร้อมกับลูบไล้แก้มของฮารุกะ
“ยัยโรคจิตนั่นไม่คู่ควรกับเธอหรอก ฮารุ”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงราวกับกำลังสะกดจิตฮารุกะที่กำลังหลับ
ยูซูริกะนอนลงข้าง ๆ ฮารุกะและจับมือเขาไว้ เธอคลี่ผ้าห่มออกและนำมาคลุมตัวเอง
“แต่จะทำยังไงดีล่ะ ฉันว่าร่างกายฉันคงรับมือฮารุคนเดียวไม่ไหว…”
ยูซูริกะรู้สึกถึงวิกฤต ถ้าเธอเป็นคู่ของฮารุกะเพียงคนเดียว มันอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเธอ เช่น ทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้น หรืออาจจะรวมถึงวันถัดไปด้วย
ยูซูริกะคิดว่าในครั้งต่อไปที่มีโอกาส เธอจะแนะนำเพื่อนสาวที่สวยแต่แปลกประหลาดของเธอให้ฮารุกะ เพื่อนคนนั้นติดหนี้บุญคุณยูซูริกะอยู่ เธอเป็นผู้หญิงที่แปลก ดังนั้นเรื่องนี้อาจจะลงเอยด้วยดีก็ได้
“ราตรีสวัสดิ์นะ ฮารุ”
ยูซูริกะจูบลงบนแก้มของฮารุกะขณะที่เธอนอนข้าง ๆ เขา
เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นของยูซูริกะ การแสดงออกของฮารุกะก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เผยให้เห็นถึงความรู้สึกโล่งใจ
———————–
ฮารุกะตื่นนอนตามเวลาปกติเหมือนเช่นเคย
แม้ว่าจะเจอกับเหตุการณ์ร้าย แต่เขาก็ไม่ได้ฝันร้ายใด ๆ เลย เขากลับรู้สึกเหมือนได้นอนหลับอย่างอบอุ่นและสบายใจ
สาเหตุหนึ่งคงเป็นเพราะยูซุริกะที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขา
เขาสัมผัสได้ว่าเธอโอบกอดเขาตลอดทั้งคืน คอยปลอบโยนเขาในยามที่เขาจมอยู่กับความเศร้าโศก
“ขอบคุณนะครับ เน่ซัง”
เช่นเดียวกับที่ยูซูริกะทำเมื่อคืน ฮารุกะก็จูบเธออย่างอ่อนโยนที่ริมฝีปากขณะที่เธอนอนหลับ
ฮารุกะวางอาหารสำเร็จรูปที่พร้อมรับประทานเพียงแค่เติมน้ำร้อนลงบนโต๊ะ เขาไม่อยากปลุกพี่สาวเพราะเสียงดังจึงงดทำอาหาร
เขามุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาและเตรียมตัว
เขาหยิบขนมปังหวานจากบนโต๊ะใส่กระเป๋าแล้วออกจากบ้าน
“อรุณสวัสดิ์ ฮารุคุง”
“อรุณสวัสดิ์ มิยาโกะ”
มิยาโกะทักทายเขาด้วยรอยยิ้มเช่นเคย เขาทักทายกลับด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์”
ซุนเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยสีหน้าสะลึมสะลือ
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่สงบสุขเหมือนเช่นเคย
นั่นเป็นเรื่องปกติ คนที่สถานการณ์เปลี่ยนไปมีเพียงฮารุกะคนเดียว ทั้งซุนและมิยาโกะไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้เลย
ถ้าฮารุกะต้องชี้ให้เห็นความแตกต่าง ก็คือหัวใจของเขาไม่ได้เจ็บปวดมากเท่ากับเมื่อก่อนตอนที่เห็นซุนและมิยาโกะพูดคุยและเคียงข้างกัน
สิ่งเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจเขา คือความรู้สึกสูญเสียที่ไม่อาจบรรยายได้ ราวกับว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ในหัวใจของเขา
ฮารุกะเดินตามทั้งสองไปด้วยย่างก้าวที่อ่อนแรง โดยมีกลิ่นจาง ๆ ของพี่สาวไว้คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ
ฮารุกะมาถึงโรงเรียนโดยที่ยังไม่ทันตื่นจากอาการมึนงง
เขาเดินเข้าไปในห้องเรียนและเดินไปนั่งที่ของตน เรียสังเกตเห็นฮารุกะ และทักทายเขาอย่างร่าเริง
“อรุณสวัสดิ์ ฮารุกะ”
“อรุณสวัสดิ์นะ เรีย”
เมื่อมองฮารุกะอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเรียก็กลายเป็นไร้ความรู้สึก อย่างไรก็ตาม ฮารุกะไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องของเรียเลย เขาซ่อนสีหน้าที่ว่างเปล่าของเขาด้วยการก้มหน้าลงบนโต๊ะ
เรียลูบหัวฮารุกะเบา ๆ ราวกับกำลังลูบสัตว์เลี้ยง เมื่อเห็นว่าฮารุกะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง รอยยิ้มเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา
เรียหันไปทางโต๊ะครูและเริ่มเตรียมตัวสำหรับคาบแรก
สติของฮารุกะกลับมาอย่างสมบูรณ์ในช่วงพักกลางวัน
เขายังจำสิ่งที่เกืดขึ้นในชั้นเรียนและบทสนทนากับเรียก่อนหน้านี้ได้ แต่มันเลือนรางมาก ราวกับความฝัน
“ฮารุกะ นายโอเคมั้ยー?”
“ไม่เลย ฉันไม่โอเค”
ดูเหมือนเรียจะเดาอะไรได้หลายอย่างแล้ว เพียงแค่มองหน้าฮารุกะ เขาเอียงศีรษะไปด้านข้างและหัวเราะคิกคัก
“นายจะยกเลิกเดทของเราไหม?”
“ไม่ ฉันจะไม่ยกเลิก ต่อให้ฝนตกเราก็จะไป”
เมื่อได้ยินคำตอบที่หนักแน่นของฮารุกะ ใบหน้าของเรียก็เผยรอยยิ้มออกมาพลางพูดว่า “ดีใจจัง” แม้ในช่วงเวลาที่อกหัก การไม่มีตารางงานในวันหยุดก็เป็นเรื่องยากสำหรับฮารุกะ ในสภาพหัวใจที่แตกสลาย การใช้เวลาว่างโดยไม่ทำอะไรเลยอาจทำให้เขาเป็นบ้าได้
เรียประสานมือเข้าด้วยกันแล้วยิ้มให้ฮารุกะที่ทำหน้าเคร่งขรึม ขณะที่เขายื่นข้อเสนอ
“เดทของเราพรุ่งนี้ ฉันเลือกสถานที่ที่จะไปได้ไหม?”
“แน่นอน”
“ฉันจะพยายามแต่งตัวให้สวยที่สุดเพื่อฮารุกะ โอเคไหม?”
“ฉันจะตั้งตารอเลย”
เรียมักจะแต่งตัวให้ฮารุกะดูในเดทของพวกเขา เขาจะปรากฏตัวพร้อมกับทรงผมที่แตกต่างกันและชุดที่หลากหลายเสมอ
ทุกครั้งที่ฮารุกะซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีให้เรีย เขามักจะสวมใส่ในเดทครั้งต่อไปเสมอ
“ฉันจะทำให้นายอารมณ์ดีขึ้นแน่นอน โอเคไหม?”
“ขอบคุณนะ เรีย”
เรียหัวเราะคิกคัก ขณะที่เขาวางกล่องข้าวขนาดเล็กน่ารักไว้บนโต๊ะของฮารุกะ ฮารุกะหยิบขนมปังหวานออกจากกระเป๋าและเริ่มกินมัน
เมื่อเห็นว่าอาหารกลางวันของฮารุกะเล็กกว่าปกติมาก เรียก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“ฮารุกะ นั่นคือทั้งหมดที่นายกินเป็นอาหารกลางวันเหรอ?”
“เน่ซังนอนหลับอยู่ในห้องนั่งเล่น มันคงไม่ดีถ้าฉันปลุกเธอด้วยเสียงทำอาหาร”
เมื่อได้ยินดังนั้น เรียก็หัวเราะเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี
เขาใช้ตะเกียบคีบไก่ทอดชิ้นหนึ่งจากกล่องข้าวของตัวเองแล้วยื่นให้ฮารุกะ
“อ้าม?”
“อ้า-“
ฮารุกะอ้าปากรับอาหารจากริเอะ เป็นไก่ทอดอร่อยมาก
“ทำเองเหรอ?”
“ไม่เลย มันเป็นอาหารแช่แข็งต่างหากล่ะー”
ฮารุกะจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่ง่วงซึมของเรียแล้วกระซิบ
“ฉันทำอาหารที่อร่อยกว่าอาหารแช่แข็งได้นะ ถ้าเรียมาเยี่ยม ฉันจะทำให้ชิม”
“ฉันจะลองคิดดูนะ”
“โอเค ว่างเมื่อไรก็มาได้เลย แล้วเรามาเล่นเกมกระดานกันด้วย”
หลังจากทานอาหารเสร็จ ฮารุกะก็เอนหลังพิงเก้าอี้และมองออกไปนอกหน้าต่าง
ท้องฟ้าในตอนนี้เป็นสีฟ้าไร้เมฆ มันช่างแตกต่างกับหัวใจของฮารุกะอย่างสิ้นเชิง
“ฉันตั้งตารอเดทของเราพรุ่งนี้นะ”
“อืม…”
ว่าแล้วเรียก็ยิ้มกับตัวเอง
ฮารุกะยังคงจ้องมองทิวทัศน์ภายนอกอย่างเหม่อลอยโดยไม่รู้ตัวถึงรอยยิ้มของเรียที่ดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเขามีแผนบางอย่างอยู่ในใจ
มันคงจะดีถ้าเขาสามารถลืมทุกอย่างและรอคอยเพียงแค่การออกเดทกับเรีย