(WN)The Pain of an Inferior: A Blistering Love Comedy That Begins After a Broken Heart (ฮาเร็มที่เริ่มต้นหลังจากอกหัก) - ตอนที่ 2 ความเจ็บปวดของผู้ด้อยกว่า 2
- Home
- (WN)The Pain of an Inferior: A Blistering Love Comedy That Begins After a Broken Heart (ฮาเร็มที่เริ่มต้นหลังจากอกหัก)
- ตอนที่ 2 ความเจ็บปวดของผู้ด้อยกว่า 2
“ดูวิดีโอที่อากิโตะร้องเพลงของ Ark รึยัง?”
“ยังเลย แต่เมื่อวานฉันเห็นโพสต์นั้นในกลุ่มแชทแล้ว”
“…..”
ระหว่างทางไปโรงเรียน ฮารุกะเดินตามทั้งสองคนที่กำลังสนทนากันอย่างมีความสุขโดยทึ่ยังคงนิ่งเงียบอยู่
มิยาโกะและซุนคุยกันอย่างสนุกสนานเช่นเคย ซุนซึ่งมีทั้งเพื่อนผู้ชายและเพื่อนผู้หญิงหลายคน ดูเหมือนจะพูดคุยในหัวข้อต่าง ๆ มากมายและเล่าให้มิยาโกะฟังอย่างสนุกสนาน
มิยาโกะเองก็ผ่านช่วงเวลาที่น่าเบื่อระหว่างทางไปโรงเรียนด้วยการคุยกับซุนเกี่ยวกับความรักของเพื่อน ๆ และบ่นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เธอไม่ค่อยเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง
น่าเศร้าสำหรับฮารุกะที่เขาไม่สามารถตามเรื่องพวกนั้นทันและไม่สามารถเข้าร่วมการสนทนาได้ เขาเข้าใจถ้าคนที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่ห้องเรียนเดียวกับพวกเขา แต่ชื่อของคนจากห้องเรียนอื่น ๆ, รุ่นพี่, รุ่นน้องในโรงเรียนประถม และแม้แต่คนจากโรงเรียนอื่นก็มักจะถูกพูดถึงบ่อยครั้ง มิยาโกะและซุนรู้กันดีว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงใคร หากฮารุกะถามว่า “คนนั้นคือใคร?” จังหวะการสนทนาก็จะช้าลง และนั่นอาจจะทำให้มิยากะหงุดหงิดได้
ในท้ายที่สุด ฮารุกะซึ่งไม่อยากถูกสาวที่เขาสนใจดูถูก ได้แต่เงียบฟังบทสนทนาของพวกเขาระหว่างเดินไปโรงเรียนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดที่พบว่าการฟังเรื่องราวของซุนเงียบ ๆ นั้นกลับน่าสนใจไม่น้อย
ในช่วงปีสุดท้ายของชั้นประถม ฮารุกะเคยขัดจังหวะการสนทนาของชุนกับมิยาโกะโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ตอนนี้ เขาไม่อาจทนต่อสายตาเย็นชาของซุนและรอยยิ้มแห้ง ๆ ของมิยาโกะได้อีกต่อไป ทำให้ในระยะหลัง เขาจึงพยายามยับยั้งตัวเองเอาไว้
ทุกครั้งที่ฮารุกะแทรกการสนทนา เขามักจะถูกดูถูกจากคนรอบข้างอยู่เสมอ นั่นเป็นการเตือนใจว่าเขาต้องมีคุณสมบัติเพียงพอถึงจะสามารถพูดคุยกับคนในวรรณะสูงได้
ในท้ายที่สุด เมื่อมิยาโกะหรือซุนพูดกับเขา เขาก็ได้แต่ตอบกลับด้วยคำพูดว่างเปล่า ไม่มีความหมาย พร้อมกับร้อยยิ้มกระตุก ๆ
ถ้ามีโอกาสเขาก็จะพยายามตอบโต้ซุนด้วยคำตอบที่น่าสนใจหรือหัวข้อสนทนาบางอย่าง แต่เขากลับต้องเผชิญกับความกดดันจากความคิดที่ว่าจะถูกมิยาโกะมองว่าไม่สำคัญ น่าเบื่อ หรือไม่น่าสนใจ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพูดได้ดี
มิยาโกะเป็นคนร่าเริงแจ่มใสและดูเหมือนจะสนุกสนานทุกครั้งที่คุยกับซุน แต่เมื่อถึงคราวของฮารุกะ เธอก็จะยิ้มให้เขาแบบธรรมดา ๆ เท่านั้น เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว ฮารุกะจึงไม่รู้ว่าการคุยกับมิยาโกะกลายเป็นประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจสำหรับเขาไปแล้ว
ตรงกันข้ามกับอากาศยามเช้าที่สดชื่น อากาศรอบ ๆ ฮารุกะกลับมืดครึ้มและเศร้าหมอง
เขาทำได้เพียงยืนมองหญิงสาวที่เขารักกำลังสนทนาอย่างมีความสุขอยู่กับชายอีกคน แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้
หลังจากเดินไปประมาณสามสิบนาที เขาก็ค่อยๆ เริ่มสังเกตเห็นนักเรียนที่สวมเครื่องแบบโรงเรียน A-10
เมื่อใกล้ถึงโรงเรียน ฮารุกะก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยและตั้งท่าราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่กำลังเดินตามพวกเขาอยู่ ทั้งสองคนที่ดูเหมือนไม่สนใจฮารุกะไม่ได้สังเกตว่าเขาถอยห่างออกไป หรือบางทีพวกเขาอาจจะสังเกตเห็น แต่เลือกที่จะไม่พูดถึงมัน
เนื่องจากฮารุกะมีรูปลักษณ์ที่ฉูดฉาดและสะดุดตา พวกเขาน่าจะคิดว่ามันคงจะอึดอัดหากต้องอยู่ใกล้เขา ระยะห่างที่พวกเขามีในตอนนี้น่าจะเป็นระยะที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับพวกเขา
ในตอนนี้ มิยาโกะกำลังดึงดูดความสนใจจากนักเรียนรอบข้างมากกว่าปกติ เหตุผลนั้นชัดเจน เนื่องจากเธอกำลังสวมเครื่องแบบพิเศษของเธออยู่ เครื่องแบบของเธอดูโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดท่ามกลางชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มของกลุ่มนักเรียน
ถึงแม้ว่าจะมีการแจกเครื่องแบบพิเศษให้กับนักเรียนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในโรงเรียนที่มีนักเรียนทั้งหมด 1,200 คน มีเพียงแค่ 26 คนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการสวมเครื่องแบบพิเศษนี้
เพราะเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มิยาโกะจะต้องเผชิญกับอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความอยากรู้อยากเห็น ความทึ่ง และความอิจฉา
“มิยาโกะ ซุนคุง อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ เรกะ”
“อรุณสวัสดิ์นะ เรย์จัง”
เด็กสาวตัวเล็กน่ารักผมยาวสีดำเข้ามาหาซุนและมิยาโกะแล้วทักทายพวกเขา
เธอเป็นนักเรียนชั้นเดียวกับพวกเขา ชื่อของเธอคือ คามิซาโตะ เรกะ เธอเป็นสาวสวยที่มีหน้าตาคล้ายกับยามาโตะ นาเดชิโกะ เธอเป็นหนึ่งในนักเรียนชั้นสูงที่มักจะไปเที่ยวกับซุนและคนอื่น ๆ
“ชุดพิเศษของคุณดูน่ารักจัง!”
“เอเฮะเฮะ ขอบใจนะー!”
“โอ๊สสึ ซุน”
“โย่ว”
เด็กชายที่ดูกล้าหาญซึ่งมีผมสีน้ำตาลอ่อนจัดทรงอย่างดีเรียกซุน เขาคือ ฟุโด อากิโตะ ซึ่งอยู่ห้องเดียวกัน เขาเป็นคนตัวสูงล่ำและมีกล้ามเป็นมัด และหน้าตาของเขาถือว่าดูดีทีเดียว แม้ว่าจะไม่เท่าชุนก็ตาม
“วันนี้มาเร็วจังนะ อากิโตะ”
“ฟุโดคุง ปกติเธอต้องมาสายนะ”
“แน่นอนว่าฉันตื่นเช้ามาเพื่อเห็นเธอในชุดยูนิฟอร์มใหม่ มิยาโกะจัง!”
“คิดว่าไงบ้าง”
มิยาโกะถามอากิโตะพร้อมกับดึงชายกระโปรงและยิ้ม
“โอ้ มันยอดเยี่ยมที่สุดเลย! ได้โปรดมาเป็นคนรักของฉันเถอะ!”
“ไม่ได้หรอก ฉันมีคนที่ฉันรักแล้ว!”
อากิโตะก้มศีรษะลงด้วยความชื่นชมและสารภาพรักกับมิยาโกะแบบตลก ๆ มิยาโกะหัวเราะคิกคักและปฏิเสธคำสารภาพรักของเขา
เมื่อได้ยินมิยาโกะประกาศว่าเธอมีคนในใจแล้ว ฮารุกะก็รู้สึกเหมือนเลือดของเขาแข็งตัว ในสายตาของผู้พบเห็น ฮารุกะดูเหมือนซอมบี้ที่เดินตอนกลางวันแสก ๆ
เด็กสาวอีกคนเดินเข้ามาหามิยาโกะจากด้านหลังของอากิโตะ
“อรุณสวัสดิ์ มิยาโกะ”
“อรุณสวัสดิ์ จูกะจัง”
ยูนิคุโมะ มิกะ ชื่อเล่น จูกะ เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาก็มาร่วมกลุ่มด้วย และเมื่อถึงทางเข้าโรงเรียน ก็มีคนมารวมตัวอยู่รอบ ๆ ซุนและคนอื่น ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ซุนและมิยาโกะที่เป็นที่รักของผู้คนมากมาย ก็กลายเป็นจุดดึงดูดฝูงชนโดยไม่ตั้งใจ
จำนวนผู้ติดตามของพวกเขามากเสียจนไม่เกินจริงที่จะกล่าวได้ว่าพวกเขาเข้าสู่ระดับของคนดัง
ไม่เพียงแค่คนรู้จักของคนรู้จักเท่านั้น แต่แม้กระทั่งคนแปลกหน้าก็ยังเดินเข้ามาทักทายพวกเขา
สถานการณ์ก็เหมือนกันในช่วงที่พวกเขาอยู่ชั้นประถม
รุ่นน้อง เพื่อนร่วมชั้น และรุ่นพี่หลายคนที่ฮารุกะไม่รู้จักก็จะเข้ามาหรือเรียกพวกเขา
มันคงจะแปลกถ้าฮารุกะยังอยู่ใกล้พวกเขา ดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างเอาไว้
ฮารุกะถอนหายใจเสียงดัง ซึ่งกลายเป็นนิสัยในช่วงหลัง ขณะที่มองไปที่แผ่นหลังของพวกเขาที่ดูวุ่นวายตั้งแต่เช้า