[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 41 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - ความทรงจำภายในห้อง
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 41 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - ความทรงจำภายในห้อง
พวกเราเข้ามาในคฤหาสน์ และเดินต่อไปจนถึงห้องโถงโอ่อ่าด้านหลัง
ฉันไปยืนอยู่ข้างๆ ท่านโนอะเหมือนอย่างทุกที พร้อมจะปกป้องท่านอยู่ตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ทางด้านเคานต์ออลัสนี่ดูเหมือนจะยอมแพ้เรื่องพวกเราไปแล้วนะ นอกจากการเหลือบมาดูทางพวกเราอยู่แวบนึง ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นเลย
“ถ้าอย่างนั้น มาเริ่มเจรจากันเลยดีกว่า ถึงแผนนโยบายในอนาคต―――”
“แต่ว่านะคะท่านพ่อ ฉันขอตัวจากที่นี่ได้ไหมคะ? ท่านออร์เกอร์ ท่านจะมากับฉันหรือเปล่าคะ? ฉันต้องการจะคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวเสียหน่อยค่ะ!”
“หืม แน่นอนสิ คำนึงถึงอนาคตหลังจากนี้แล้ว ให้ทั้ง 2 คนได้ไปคุยกันเองก็เป็นเรื่องที่ดีทีเดียว”
“อึม ไม่มีปัญหาหรอกโนอามารี ท่านออร์เกอร์ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
“ต้องยินดีอยู่แล้วสิครับ กับเธอ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ได้เสมอเลย… เนอะ?”
ท่านโนอะปัดการขยิบตาของออร์เกอร์ทิ้งไปอย่างง่ายได้ด้วยรอยยิ้มอันสง่างาม ก่อนที่ท่านจะลุกขึ้น เดินออกไปเปิดประตู
“รีบไปที่ห้องของฉันกันเถอะค่ะ ท่านออร์เกอร์!”
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิครับคุณโนอามารี ไม่ต้องรีบแบบนั้นก็ได้ครับ ผมไม่หนีหายไปไหนหรอก”
หมอนี่นี่ น่าสนใจได้ทุกก้าวทีเดินเลยสินะ
ฉันคิดแบบนั้นพลางเดินตามท่านโนอะไป แล้วก็สังเกตเห็นว่าออร์เกอร์มีสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัดเลย
“นี่พวกเธอเองก็จะมาด้วยเหรอ?”
“โชคร้ายหน่อยนะคะ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องปกป้องท่านโนอะอย่างสุดความสามารถค่ะ”
“ทั้งๆ ที่เวทมนตร์ก็ใช้กันไม่ได้เนี่ยนะ ผมก็อยู่ด้วยไม่ใช่หรือไงกัน?”
“น่าๆ ท่านออร์เกอร์คะ คุโระ สแต พวกเธอช่วยไปคุ้มกันฉันที่หน้าประตูห้องได้หรือเปล่า?”
“อืม”
“รับทราบค่ะ”
เมื่อตอบรับแบบนั้น ท่านโนอะก็ปัดผมมาทางด้านหลังพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพอใจ
พอเห็นแบบนั้นแล้ว สแตก็ร่ายเวท
ท่าทางที่ท่านโนอะใช้มือซ้ายปัดผมแบบนี้เป็นสัญลักษณ์มือลับๆ ที่รู้กันแค่พวกเรา
มีความหมายว่า [ให้สแตใช้เวทมนตร์เพื่อสื่อสารกัน]
ท่านใช้ 3 นิ้วปัดผม หมายความว่าเชื่อมการสื่อสารกับ 3 คน
แล้วสแตก็ร่าย {เทเลพาธ (แลกเปลี่ยนความคิด)} ออกมาอย่างเงียบๆ
‘อ่า อ่า ได้ยินหรือเปล่าคะ?’
‘อืม ได้ยินแล้ว’
‘การสื่อสารเป็นไปด้วยดี’
‘นี่ ช่วยทำอะไรกับเจ้าคนน่าขยะแขยงนี่ซักหน่อยจะได้มั้ย? สายตาเจ้าหมอนั่นมันทำฉันครั่นเนื้อครั่นตัวมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วเนี่ย’
‘ฉันเข้าใจความรู้สึกของท่านโนอะค่ะ แต่ต้องอดทนเอาไว้ก่อนนะคะ ถึงยังไงชีวิตของชายคนนั้นก็ไม่ได้มีเหลืออยู่มากเท่าไหร่แล้วด้วย พวกพฤติกรรมน่าอดสูที่เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กผู้ชายวัยกลัดมันพวกนี้ นิดๆ หน่อยๆ เราก็มองข้ามๆ มันไปเถอะค่ะ’
‘ยังปากคอเราะร้ายกับใครก็ตามที่เธอไม่ชอบเหมือนอย่างทุกทีเลยนะ คุโระ เอาเถอะ ขอฉันอธิบายแผนก่อนนะ ขั้นแรก สแต พอจบการสื่อสารแล้ว ให้เธอเข้ามาในห้องด้วย แล้วส่องเข้าไปในความทรงจำของชายคนนี้ จากนั้น ถ้าเจอคำไหนที่จะทำให้เขาดีใจจนลิงโลดหรือข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์ ให้แอบบอกกับฉันด้วย เอาทั้งหมดเลย’
‘เข้าใจแล้ว’
‘ระหว่างที่สแตขุดคุ้ยความทรงจำของชายคนนี้อยู่ ฉันจะคุมการหักเหแสงเพื่อซ่อนตัวตนของเด็กคนนี้เอาไว้ให้ล่องหนนะ คุโระ เธอเองก็ลบตัวตนของตัวเองแล้วเข้ามาอยู่ในห้องด้วยนะ เพื่อการป้องกันเผื่อไว้ก่อน’
‘รับทราบค่ะ’
ให้คุ้มกันอยู่หน้าห้องน่ะเหรอ? ไม่มีทางทำยังงั้นซะล่ะ
‘ถ้างั้น สแต ตัดการสื่อสารได้เลยนะ เริ่มปฏิบัติการได้เลย’
‘อืม’
“ที่นี่คือห้องของฉันค่ะ ท่านออร์เกอร์!”
“โห นี่น่ะเหรอ”
“ถ้าอย่างนั้น ท่านโนอามารีคะ พวกเราจะคอยอยู่ข้างนอกห้องตรงนี้ ถ้าหากท่านต้องการอะไรล่ะก็ สามารถเรียกเราได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
“อื้อ ฝากด้วยนะทั้ง 2 คน”
หลังจากที่เชื้อเชิญออร์เกอร์เข้ามาในห้อง ก่อนที่ท่านโนอะจะปิดประตู
“{ดีลีทไซน์ (ลบล้างตัวตน)}”
“{โฟตอนรีเฟลค (บิดเบือนแสงสว่าง)}”
ฉันปิดบังตัวตนของตัวเอง ส่วนท่านโนอะก็ใช้เวทมนตร์ซ้อนตัวสแต
“หือ? มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ ท่านออร์เกอร์ งั้น เรามาคุยกันดีมั้ยคะ?”
ระหว่างที่คุยกันอยู่นี่ สแตต้องกำลังจัดการเรื่องขุดคุ้ยความทรงจำอยู่แน่
ฉันมองไม่เห็นหรอก แต่สแตก็น่าจะยืนประจำตำแหน่งอยู่ข้างตัวท่านโนอะ คอยกระซิบบอกข้อมูลที่ข้างๆ หูของท่านนั่นแหละ
“แต่ว่านะ คุณโนอามารี—”
“ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ค่ะ แค่โนอามารีก็พอ”
“ง- งั้นเหรอ? งั้น โนอามารี แล้วก็อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้นะครับ เธอเองก็เรียกผมแบบเป็นกันเองด้วยก็ได้นะ”
“ฮุฮุ”
ท่านยิ้มให้ และปล่อยผ่านมันไป
ดูเหมือนท่านจะเกลียดการถูกเรียกด้วยชื่อต้นนะ
“แล้วก็นะโนอามารี คุณน่ะ ทำได้ถึงได้ไปชอบใจอะไรในตัวพวกเส้นผมชั้นต่ำนักล่ะ?”
“นี่อาจเป็นความรู้สึกที่ชาวจักรวรรดิไม่คุ้นเคยนะคะ―――ฉันรู้สึกถูกดึงดูดจากเหล่าผู้อ่อนแอค่ะ”
“จากเหล่าผู้อ่อนแอ?”
“ใช่ค่ะ ฉันรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดแปลกๆ จากเหล่าบรรดาผู้ที่ดูเหมือนจะไม่มีพลัง ราวกับเหล่าสัตว์ตัวน้อยที่ไร้ทางสู้เลยค่ะ ท่าทีที่พวกเธอรับรู้ถึงความด้อยกว่าของตัวเอง แล้วพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อจะทำให้เราพึงพอใจนั้นน่ะ… มันแสนจะน่ารักน่าเอ็นดูเลยทีเดียว”
“แบบนี้นี่เอง แสดงว่าที่คุณเก็บพวกนั้นมาเนี่ย ไม่ใช่แค่สงสารอย่างไม่คิดสินะ”
“ถูกต้อง แน่นอนสิคะ”
สมกับเป็นท่านโนอะจริงๆ ปั้นน้ำเป็นตัวออกมาให้พวกคนอื่นๆ นอกจากฉันกับสแตได้อย่างง่ายดายราวกับแค่หายใจเข้าออกเลย
จนถึงตอนนี้ คำท่อนเดียวที่ฉันรู้สึกว่าท่านไม่ได้โกหกก็มีแค่ท่อนสุดท้ายตรง [i]“ถูกต้อง แน่นอนสิคะ”[/i] เท่านั้นเอง
จากนั้น บทสนทนาที่เป็นเรื่องสัพเพเหระก็ดำเนินต่อไป
“งานอดิเรกของคุณคืออ่านหนังสือสินะครับ เหมือนผมเลย”
“บังเอิญจังเลยนะคะ ฉัน―――”
ฉันมองท่านโนอะไปด้วย ในขณะที่ฟังบทสนทนาแสนน่าเบื่อจนแทบทนไม่ไหวเลย
“…เอ๊ะ?”
แล้วจู่ๆ ท่านโนอะก็สีหน้าเปลี่ยน
หน้าของท่านเต็มไปด้วยความแปลกใจและตกตะลึงที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน พร้อมๆ กับจ้องไปที่ออร์เกอร์ไปด้วย
“โนอามารี?”
“…อ่า ป- เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ฉันก็แค่เหม่อมองหน้าของท่านออร์เกอร์เท่านั้นเอง”
“ง- งั้นหรอกเหรอ? ก็นะ ผมคิดว่าตัวเองมีหน้าตาที่ดูออกธรรมดาเกินไปจนดูไม่ได้น่าจะทำให้ผู้หญิงหันมามองได้เท่าไหร่นะครับ แต่ยังไง—”
บางที จังหวะที่สีหน้าท่านโนอะเปลี่ยนไปนั่น คงจะเป็นเพราะข้อมูลที่สแตกระซิบบอกท่านล่ะมั้ง
แถมดูเหมือนข้อมูลที่สแตได้มาจากความทรงจำในหัวของชายคนนี้จะเพียงพอที่ทำให้ท่านโนอะที่ช่ำชองในการแสดงตบตายังเผลอหลุดเลยด้วย
“จะว่าไปแล้ว ท่านออร์เกอร์มีพี่น้องหรือเปล่าคะ?”
“หือ?”
พอท่านโนอะถามคำถามนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่ออร์เกอร์พูดตอบโต้ไม่ออก
ราวกับว่ากำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เลยว่าเขาควรจะตอบสนองกับคำถามนี้ยังไงดี
“ฉันเป็นบุตรีเพียงคนเดียวค่ะ แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับตระกูลขุนนาง โดยทั่วไปแล้ว ครอบครัวชนชั้นสูงเรามักจะมีทายาทไว้หลายคนเพื่อที่จะเพิ่มจำนวนผู้สืบทอดที่มีศักยภาพให้มากขึ้น แล้วทางท่านล่ะคะ?”
พูดให้ถูกกว่าคือ ในกรณีของท่านโนอะแล้ว แม่ของท่านเสียไปไม่นานหลังจากที่ท่านเกิด แล้วนับแต่นั้น พ่อท่านก็ไม่ได้มีคู่รักคนไหนอย่างจริงๆ จังๆ อีกเลย แต่กลับไปหาผู้หญิงมากมายมาหลับนอนด้วยแทนซะงั้น
เพราะแบบนั้นแหละ มันก็มีความเป็นไปได้อยู่นะที่ท่านโนอะอาจจะมีพี่น้องต่างมารดาจากความสัมพันธ์ทางฝั่งพ่อก็ได้
“ไม่มีหรอกครับ ผมเองก็เป็นลูกคนเดียว ได้ความรักจากพ่อกับแม่มาอยู่ที่ตัวเองคนเดียวเลยล่ะครับ”
“โกหกสินะคะ?”
“เอ๊ะ?”
“ฉันน่ะ จับคำโกหกของผู้คนได้เก่งนะคะ ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ฉันก็สามารถบอกได้เลยค่ะว่านั่นน่ะเป็นเรื่องจริงหรือโป้ปดมดเท็จกันแน่”
อันนั้นเป็นความสามารถพิเศษที่ฉันกับสแตมีนะ ท่านโนอะไม่มีหรอก
“ทำไมท่านถึงต้องโกหกด้วยล่ะคะ? ท่านไม่จำเป็นต้องมีความลับอะไรเก็บไว้จากฉันที่จะเป็นภรรยาของท่านจากนี้ไปเลยนี่คะ?”
“ฮึก…”
ท่านโนอะคว้ามือของออร์เกอร์มากุมไว้ พร้อมกับพูดแบบนั้นด้วยสายตาเปล่งประกาย
แล้วก็ได้ผลชะงักนักเลยล่ะ หน้าของออร์เกอร์แดงแจ๋ ทำเขาเขินม้วนต้วนเลย ถึงยังไงเขาก็เป็นเด็กผู้ชายอายุสิบสาม เป็นแค่เด็กน้อยเท่านั้นเองนี่นะ
“เฮ่อ เทียบคุณไม่ได้จริงๆ เลยครับ”
พูดว่า ‘เทียบคุณไม่ได้จริงๆ’ กับคนที่เพิ่งจะได้เจอกันเนี่ยนะ
ในเมื่อตอนนี้ฉันลบตัวตนของตัวเองให้หายไปอยู่ คราวนี้ฉันเลยหัวเราะออกมาแบบไม่กั๊กเลย
“อย่างที่คุณว่าเลยครับ ผมมีพี่น้องจริงๆ น้องชายหนึ่ง น้องสาวหนึ่ง”
“พวกเขาเป็นเด็กแบบไหนงั้นเหรอคะ?”
“―――สัญญากับผมได้มั้ยครับ? ผมอยากให้คุณเก็บเรื่องนี้ไว้แค่เรา 2 คนน่ะ”
“หมายความว่ายังไงน่ะคะ?”
ออร์เกอร์โน้มตัวมาข้างหน้า ท่านโนอะก็โน้มตัวเข้าไปหาตาม
ทั้ง 2 คนทำท่าเหมือนกับจะกระซิบกันนะ แต่ฉันก็เข้าไปร่วมฟังด้วยอย่างไม่ลังเลเลย
เนื้อหานั้น ก็เป็นตามนี้เลย
มันแน่อยู่แล้วล่ะ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมมันถึงไปรบกวนสีหน้าของท่านโนอะได้
“จริงๆ แล้ว น้องชายกับน้องสาวของผมน่ะ ทั้งคู่มีเส้นผมชั้นต่ำครับ”
TN: แหม แหม แหม~
ทำได้ดีมาก เจ้าหนู