[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 39 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - ออร์เกอร์ กิฟท์
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 39 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - ออร์เกอร์ กิฟท์
“คงได้เวลาแล้วนะ”
พวกเรามารวมตัวกันหน้าประตูรั้วของคฤหาสน์
อีกเดี๋ยว ขุนนางจากประเทศเพื่อนบ้าน จักรวรรดิดีโอทีรีโอจะมาถึงแล้ว และยิ่งกว่านั้น ยังเป็นคู่หมั้นของท่านโนอะด้วย ต้องทำให้มั่นใจว่าเราเตรียมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเอาไว้เป็นอันเรียบร้อยด้วย
“แต่ว่า น่าตกใจนะโนอามารี ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะทำตามแผนของฉันแบบนี้ด้วยน่ะ”
คนที่พูดขึ้นนั้นก็คือพ่อของท่านโนอะ เคานต์กอร์ดอน เทียไลท์
เขานี่แหละที่เป็นคนจัดแจงเรื่องการหมั้นหมายนี่ให้เกิดขึ้นล่ะ
“ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกนี่ ท่านพ่อ ฉันเข้าใจสถานการณ์น่าเป็นห่วงของอาณาจักรที่ฉันอยู่ในตอนนี้ดี แล้วฉันก็เชื่อด้วยว่าการประกาศความสัมพันธ์กับจักรวรรดิ และเลือกข้างพวกเขาแบบนี้ถือเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดแล้ว”
“อ่า อาณาจักรน่ะ ตอนนี้กำลังอยู่น่ะภาวะล่อแหลม การรุกรานของจักรวรรดิเองก็จวนเจียนอยู่รอมร่อ ถึงพวกนั้นจะยังยอมสงบอยู่เพราะพวกผิดปกติอย่างแกก็ตาม ถ้าฉันยกแกให้ไปเป็นของกำนัลล่ะก็ พวกจักรวรรดิก็จะไม่ทำให้ฉันต้องลำบากแน่นอน”
“หาประโยชน์จากการใช้งานลูกสาวตัวเองน่าดูเลยนี่ ท่านพ่อ แต่ไม่เป็นไรหรอก ครั้งนี้ ฉันจะยอมตามแผนนี้ไปแล้วกัน ยังไงซะ เราก็มีความสนใจร่วมกันนี่”
“ไม่รู้หรอกนะว่าแกวางแผนอะไรเอาไว้ แต่แกถึงกับตั้งใจใช้กระทั่งตัวเองเพื่อเป้าหมายเลยเรอะ ลูกสาวฉันนี่ น่ากลัวจริงๆ โนอามารี”
“ฮุฮุ ใช่มั้ยล่ะ? แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ท่านพ่อ ตราบใดที่คุณไม่หักหลังฉัน และเรายังคงความสัมพันธ์แบบนี้ต่อไป ฉันจะรับประกันความปลอดภัยของคุณให้เอง เริ่มจากตำแหน่งดีๆ ในจักรวรรดิล่ะเป็นยังไง?”
“ให้ตาย! เป็นลูกสาวที่ดีแถมเอาการเอางานอะไรขนาดนี้เนี่ย!”
“ได้ยินแบบนั้นฉันก็ดีใจ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!”
“อุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุ”
น่ากลัวอะไรขนาดนี้เนี่ย
ความสัมพันธ์พ่อลูกแบบนี้น่ะ คืออะไรที่ฉันอยากจะออกห่างให้ไกลสุดๆ ไปเลย
ต่างฝ่ายต่างใช้งานกันและกัน โดยไม่ได้มีวี่แววของสายสัมพันธ์ในครอบครัวเลยแม้แต่นิดเดียว
เจ้านายของฉันกับพ่อของท่านนี่ น่ากลัวจริงๆ
ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างก็กระอักกระอ่วนกันหมดเลย
แถมยิ่งกว่านั้นคือ ท่านโนอะแทบจะไม่เผยความจริงอะไรออกมาเลยเนี่ยแหละ
“หน้าตาแก คนเห็นก็อาจมองว่าสวยนะ แต่แกต้องหว่านเสน่ห์พวกนั้นด้วย พยายามประจบประแจพวกนั้นเข้าซะล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ท่านพ่อ การโกหกและการแสดงเป็นความสามารถพิเศษของฉันเลย”
“ท่านโนอะ โปรดหยุดแสดงรอยยิ้มชั่วร้ายแบบนั้นออกมาด้วยเถอะนะคะ พวกเขาอาจมาถึงเมื่อไหร่ก็ได้ เปลี่ยนกลับมาให้ร่าเริงกว่านี้เถอะค่ะ”
“แบบนี้เหรอ?”
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่แบบนั้น รอยยิ้มแบบนั้นดูแฝงความนัยเกินไป พยายามทำให้เป็นธรรมชาติกว่านี้หน่อยนะคะ”
“นี่ล่ะ?”
“ลองใหม่อีกทีนะคะ พยายามนึกถึงผู้หญิงที่ล้มเหลวในชีวิตมา แล้วตอนนี้ก็พยายามอย่างสุดกำลังที่จะใช้รอยยิ้มเอียงอายนั้นเพื่อจะพิชิตหัวใจของชายหนุ่มด
นะคะ”
“นี่ล่ะ?”
“แบบนั้นเลยค่ะ เท่านี้ แม้แต่ชายโง่เง่าก็หลงหัวปักหัวปำได้แล้วค่ะ”
“ฉันก็ไม่ควรจะพูดแบบนี้หรอก แต่เธอนี่ก็เจ้าเล่ห์เหมือนกันนะ คุโระ”
เอาเถอะ ท่านจะคิดยังไงก็ไม่สำคัญหรอก
เป้าหมายของพวกเราคือใช้งานเจ้าคู่หมั้นที่ว่านั่น ตามหาใครก็ตามที่มีพรสวรรค์อย่างเวทมนตร์หายากในตัว แล้วก็ล่อลวงพวกเขาจากจักรวรรดิมาอยู่ฝ่ายเราให้ได้
“มาแล้ว”
คำพึมพำของสแตทำทุกคนหันไปกันหมดเลย
ข้างหน้านั่น รถม้า 3 คันถูกลากมาด้วยม้าตัวโตที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อมัดเบ้อเร่อเหมือนพวกม้าที่ฉันเคยเห็นในรายการม้าแข่งเก่าๆ บนทีวีเลย
รถม้าเคลื่อนตัวช้าลงเหมือนกับการดริฟท์ ทำฝุ่นตลบไปทั่ว แต่ก็หยุดได้ในระยะสั้นๆ เลย ฝีมือการควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบของนายสารถีเลยล่ะ
ไม่รู้หรอกว่าเขาฝึกมามั้ย? ถ้าใช่ ก็เสียเวลาชัดๆ เลยเนี่ย
คนบนรถทยอยลงมาทีละคนๆ จนในที่สุด ชายวัยกลางคนร่างสูงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพวกเรา
“ขออนุญาต ท่านคงจะเป็นเคานต์กอร์ดอน เทียไลท์สินะ ฉัน เคานต์ออลัส กิฟท์ ผู้ปกครองเขตกิฟท์แห่งจักรวรรดิดีโอทีรีโอ”
“เดินทางมาไกลน่าดูเลย ก็อย่างที่เห็น ฉัน เคานต์กอร์ดอน เทียไลท์ ผู้ปกครองเขตเทียไลท์แห่งอาณาจักรเอโดรัม”
ทั้งสองทักทายคล้ายๆ กัน ก่อนจะจับมือ
“จะว่าไปแล้ว หรือว่าคุณหนูน่ารักคนนี้ก็คือ?”
“ใช่แล้ว ลูกสาวของฉัน―――”
ท่านโนอะเดินเข้าไปหาชาย 2 คนนั้น ก่อนจะโค้งให้อย่างสง่างามด้วยกิริยามารยาทอันสมบูรณ์แบบ
“ยินดีที่ได้พบค่ะ เคานต์กิฟท์ ฉันโนอามารี เทียไลท์ ขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้อุตส่าห์มาในวันนี้ แม้จะยังขาดประสบการณ์ แต่ฉันจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้พวกท่านได้รับการต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี เชิญทำตัวตามสบายได้เลยค่ะ”
เดี๋ยวนะ นี่ใครกันเนี่ย
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นลูกสาวที่ได้รับการอบรมศีกษาอย่างวิเศษเลยทีเดียวนะ แถมยังมีผมสีบลอนด์ทองด้วยอีกต่างหาก ผู้ถือครองเวทมนตร์สายแสงสว่าง แหม นางดูช่างมีอนาคตที่สดใสเหลือเกินนะ ท่านเคานต์กอร์ดอน”
“ช- ใช่แล้วล่ะ”
อย่าว่าแต่ฉันเลย ขนาดสแตที่ยืนอยู่ข้างๆ เอง เจอการแปลงโฉมระดับพลิกฝ่ามือของท่านโนอะแบบนี้เข้าไป ก็ทำได้แต่กระพริบตาปริบๆ เลย
อยากให้เธออย่าทำสีหน้าแบบ ‘คุโระ นั่นใครน่ะ?’ ใส่ฉันจังเลยน้า นี่ทำเอาฉันเกือบจะกลั้นขำไม่อยู่แล้วเนี่ย
“ว่าแต่ว่า ท่านออลัส การมาพบปะกันในครั้งนี้มีเพื่อประกาศความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ตระกูลนี่ แต่ดูเหมือนคุณลูกชายจะไม่อยู่ ไม่ทราบว่า―――?”
“อ่า ต้องขอเวลาซักครู่… ออร์เกอร์! ยังอีกเรอะ!?”
เคานต์ออลัสตะโกนไปที่รถม้าคันที่ 2 ในขบวน
แล้วประตูก็เหวี่ยงเปิดออก
ก่อนที่คนแสนสะดุดตาคนนึงจะก้าวออกมา
คงจะอายุราวๆ 13-14 ได้ ใช่ ช่วงอายุที่มนุษย์คนหนึ่งจะบ้าบอได้มากที่สุดเลยยังไงล่ะ
แต่งตัวมาด้วยชุดเกราะประดับทอง เสริมด้วยสร้อยคออัญมณีสีน้ำเงินดูแพง แต่ส่วนที่อยู่รอบคอนั่นเป็นทองคำหมดเลย
แล้วไหนจะยังมีทั้งต่างหูทองคำ ทั้งแหวนทองคำ ตัดกับเส้นผมสีแดงเพลิง สื่อให้เห็นถึงคุณสมบัติธาตุอัคคีในตัว
เขาคงคิดว่าแบบนี้คงจะดูดีในซักแง่นึงล่ะมั้ง แต่พอเทียบกับการดูจากท่านโนอะที่เป็นการอธิบายของคำว่า [งดงาม] ในทุกๆ วันแล้ว ฉันก็อดคิดไม่ได้เลยล่ะว่า ‘แสบตาอะไรแบบนี้เนี่ย?’ แล้วความประทับใจของฉันก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย
“นี่ แดดดี้ ไหนเหรอ หญิงสาวผมทองแสนสวยที่จะมาเป็นเจ้าสาวของผมน่ะ?”
สิ่งที่เขาพูดออกมานั่น ไม่ใช่อะไรที่ฉันคาดเอาไว้เลยซักนิด
ฉันรู้สึกเหมือนกับจะหัวเราะลั่นออกมาได้ตรงนั้นเลยนะกับสถานการณ์ที่มันไร้สาระบ้าบอขนาดนี้ แต่ฉันก็คุมตัวเองเอาไว้ได้โดยการควบคุมตั้งสมาธิไปที่เส้นประสาททุกเส้นในร่างกายเลย
เวลาแบบนี้เนี่ย อิจฉาหน้าตายของสแตจังเลยแฮะ
“ออร์เกอร์ ก่อนอื่น ทักทายแขกของเราก่อนสิ ชายคนนี้คือท่านกอร์ดอน พ่อของหญิงที่จะมาเป็นภรรยาของลูกไงเล่า”
“ย- ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าที่ลูกเขยของฉัน”
“ไม่ต้องสุภาพแบบนั้นก็ได้ครับ คุณว่าที่พ่อตา ผมคืออัศวินผู้จะมาปกป้องบุตรีของท่าน ออร์เกอร์ กิฟท์ครับ”
“…อึม”
อดทนไว้นะตัวฉัน! อดทนเอาไว้!
อย่าให้มันออกมาทางสีหน้าเด็ดขาด! ต่อให้จะขำชักดิ้นชักงอจนจะเป็นจะตายอยู่ในใจก็ตาม!
แต่แบบ เห็นแบบนี้แล้วทำไมไม่มีใครขำกับเรื่องนี้เลยล่ะ? นี่เส้นหัวเราะของฉันมันผิดปกติอยู่คนเดียวงั้นเหรอ?
“แหม! แสดงว่าคุณคือคนที่จะมาเป็นสามีอย่างนั้นเหรอคะ!”
“โห นี่หรือว่าคุณจะเป็น?”
“ใช่ค่ะ โนอามารี เทียไลท์ เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะที่ได้พบ ท่านออร์การ์”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เรียก ‘ท่าน’ เลยนี่ เป็นทางการไปหน่อยมั้งครับ แค่ออร์การ์ก็พอแล้วล่ะครับคุณโนอามารี”
ท่านโนอะเองก็ดูสงบดีเหมือนกัน หรือนี่จะเป็นบุคลิกนิสัยที่ตลกเฉพาะสำหรับคนต่างโลกงั้นเหรอ?
ก่อนอื่นเลยคือ กิริยาท่าทางของเขาดูตลกมากเลย
เขาปัดผมไปข้างหลัง เดินด้วยทีท่าแปลกๆ แผ่ออร่าออกมาแบบ ‘ฉันเท่มั้ยหล้า~’
ที่น่าเป็นกังวลจริงๆ ก็คือเรื่องที่ว่าเขาเหมือนจะทำเรื่องนี้ออกมาในชีวิตจริงๆ ไม่ได้แค่แกล้งทำเป็นเรื่องตลกเนี่ยสิ
ยิ่งกว่านั้น
“เกราะกับเครื่องประดับพวกนี้ คิดยังไงบ้างครับ? ได้ยินว่าคุณมีผมสีทอง ผมก็เลยอยากแต่งพวกมันให้เข้ากันด้วย เข้ากับคุณดีมั้ยครับ?”
“…เข้ามากเลยล่ะค่ะ! พอคิดดูแล้วว่าคนแบบนี้จะมาเป็นว่าที่สามีแล้ว โนอามารีนี่โชคดีจริงๆ เลยค่ะ!”
มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังซะด้วย
นี่เขาคิดจริงๆ เหรอว่าทำแบบนี้แล้วผู้หญิงเขาจะชอบน่ะ?
ฉันต้องคอยเบือนหลบสายตาออกไปเป็นครั้งคราวเพื่อยั้งตัวเองไว้ไม่ให้หลุดขำกับความบ้าบอทั้งหมดนี่เลยด้วยซ้ำ
แถมความต่างกันแบบสุดขั้วระหว่างท่านโนอะตอนนี้กับท่านโนอะตามปกติเนี่ย ทำฉันเจ็บท้องไปหมดแล้วอีกต่างหาก
คนคนนี้เป็นใครกันน่ะ? เกิดอะไรขึ้นกับท่านโนอะปกติกันล่ะเนี่ย?
“เอาล่ะ จะเอาแต่ยืนคุยอยู่ตรงนี้ทั้งวันคงไม่ได้ เชิญเข้ามาข้างในก่อนสิคะ ทางเราจะเตรียมเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้ค่ะ”
“โอ้ ช่วยได้มากเลยล่ะ”
หลังจากที่อดทนมาได้จนถึงตอนนี้ ฉันก็ขยับให้สแตเดินเข้าไปข้างในกับฉันด้วย
“เดี๋ยวก่อนนะ แดดดี้”
“หือ อะไรเหรอ?”
ผู้ชายที่น่าสนใจคนนั้น―――หรือ ออร์เกอร์หยุดดูที่พวกเรา
“ดูเหมือนจะมีพวกไม่เข้ากาลเทศะมาอยู่ที่นี่ด้วยแน่ะ”
TN: ถ้านับ First Impression ที่มาเจอสาวคู่หมั้นครั้งแรกนะ พ่อหนุ่ม นายทำได้ดีมาก 555