[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka? - ตอนที่ 1
~~~—หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น.. เป็นเช้าที่อากาศหนาวมาก และประเด็นหลักของข่าวในโทรศัพท์ของผม เต็มไปด้วยหัวข้อ อากาศหนาวที่สุดของฤดูกาลได้มาเยือนแล้ว ในช่วงเวลาพักผมได้ดูนักข่าวพูดกันว่าพวกเขาอยากกินหม้อไฟหรืออาบน้ำอุ่นเพื่ออุ่นเพื่ออบอุ่นร่างกาย
หลังอาหารกลางวัน มีอากาศหนาวและฝนก็เริ่มตกปรอยๆ แม้ว่าตอนอยู่ในห้องเรียนอากาศจะอุ่น แต่อากาศเย็นก็ได้พัดเข้ามายังโถงทางเดินและหน้าต่าง
อย่างไรก็ตามพ่อเเม่ของผมไม่ได้อยู่บ้าน พวกเขาไปทำงานที่ต่างจังหวัด….ดั้งนั้น ไม่ว่าวันนี้จะหนาวแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอาหารหม้อไฟที่ทำไว้แบบครอบครัว
อากาศหนาวๆแบบนี้มันยากที่จะผ่านพ้นไปโดยไม่มีหม้อไฟหรือหรืออ่างอาบน้ำอุ่นๆ…`~`
ในขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ อากาศรอบตัวของผมก็ได้เริ่มเย็นลงรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่ค่อยๆแผ่ซ่านเข้ามาเรื่อยๆ
“ฮึกก…หนาวจัง”
ผมรู้สึกได้ว่าผมกำลังเป็นหวัด….ใช่…ผมเป็นหวัด .-.
ตั้งแต่ที่ผมเริ่มใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวในโรงเรียน ปกติผมจะซื้ออาหารตามร้านสะดวกซื้อทั้ง3มื้อ บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ผมเป็นหวัดได้ง่ายในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ผมรู้ตัวดี…ว่านี่เป็นสิ่งไม่ดี
—ผมเหลือเวลาเรียนอยู่2ชั่วโมงก่อนที่จะเลิกเรียน ดังนั้นผมจึงอดทนตัวเองในระหว่างที่ร่างกายของผมนั้นมันบ่นว่าไม่ไหวแล้ว ซึ่งนั่นไม่เป็นความคิดที่ดีเลย..
สัปดาห์นี้คนอื่นๆ ในกลุ่มของผมและกลุ่มของ ซาวะมีหน้าที่กวาดประตูทางเข้าโถงทางเดินและทุกคนก็สนุกไปกับกระเบื้องที่ลื่น ที่หน้ากล่องรองเท้าที่เปียกจากพายุ เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่กําลังสนุกกับ ไม้กวาดราวกับไม้พูดว่า “ฮอกกี้!” ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย และช่วยอะไรไม่ค่อยได้หาย ใจติดๆขัดๆและร่างกายของผมรู้สึกเหนื่อยล้าด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยและผมรู้สึกปวดหัวโดยรวมแล้วอาการของผมรุนแรงมากจนฉันต้องประคองสติเอาไว้…
ในขณะที่ผมกำลังถอนหายใจและทำความสะอาดอยู่ ฮานาเอะ ริโกะ ปรากฏตัว เธอเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมกับถือถังขยะที่หนักอึ้งอยู่คนเดียว
ซาวะและคนอื่นรู้จักเธอดี ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบยืนมองดูเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไปช่วยเธอได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเห็นฮานาเอะ ริโกะ ถือถังขยะด้วยมือสองข้าง และเดินออกไปพร้อมกับร่มที่คล้องคอเธอ พวกเขายังไม่กล้าแม้แต่จะพูดว่า”ขอให้ผมช่วยคุณได้ไหม”
และพวกเขาก็หันกลับมาเล่น”ฮอกกี้”กันอีกครั้งด้วยท่าทางที่สนุกตื่นเต้นกว่าตอนที่เธอจะปรากฏตัว ละยังมีอาบคนที่เหลือบมองไปหาเธอเป็นครั้งคราว
“พวกนี้ทำตัวเหมือนเด็กจังเลยน้าา”
ที่ผมไม่ได้ไปเข้าร่วมกับซาวะและคนอื่นๆส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมรู้สึกไม่สบาย…และอีกอย่างหนึ่งก็รู้สึกกลัวด้วย บางทีถ้าผมทำแบบพวกเขาและบังเอิญสบตากับฮานาเอะ ริโกะ เธอคงจะคิดว่าผมเป็นคนที่เศร้าหมองดูมืดมนที่ดูตื่นเต้นเกินไป
ไม่..ฮานาเอะ ริโกะไม่มีทางคิดอย่างนั้นแน่..
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มีบุคลิกแบบนั้น มันเป็นแค่การจินตนาการของผมเอง
ถึงอย่างนั้นเธออาจคิดว่าผู้ชายน่ารำคาญจริงๆ….
ความคิดในด้านลบของผมตอนนี้มันทำให้ผมรู้สึกป่วยแล้ว
ทันทีที่ผมถอนหายใจอย่างเงียบๆ ทางด้านซาวะเเละเพื่อนๆได้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น
มาโนเอะที่พยายามตีไม้กวาดที่ซาวะเหวี่ยงใส่เขากลับไป
…แต่ไม่ใช่…ด้ามไม้กวาดกระเด็นไปทางฮานาเอะ ริโกะ ในขณะที่เธอกำลังเดินออกไปที่กลางสายฝน และได้กระแทกเข้ากับร่มของเธอ
“อ๊ะ!!!…”
เธอส่งเสียงตกใจออกมาเบาๆ ในขณะที่เธอกำลังเสียการทรงตัวต่อหน้าของผม กระเบื้องที่มีหิมะปกคลุมบางๆเหมือนลานสเก็ต ทำให้เธอเสียการทรงตัวในที่สุด
ผมได้พุ่งเข้าไปจับแขนของเธอและดึงเข้ามาหาตัวเอง แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมช่วยเธอได้อย่างสุภาพบุรุษ แต่น่าเสียดายด้วยความที่พื้นมันดันลื่นทำให้ผมเสียหลักลื่นล้ม ณ จุดนั้น น้ำฝนค่อยๆไหลผ่านตัวผม และเปียกจนไปถึงกางเกง
มันเป็นไปได้ยังไง…นี่มันน่าอายมาก°-°
สิ่งเดี๋ยวที่ทำได้ก็คือผมได้ดึงแขนของเธอไว้ก่อนที่เธอจะล้มลง ดั้งนั้นเธอจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร
ฮานาเอะ ริโกะ จ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น ผมและเครื่องแบบของเธอเริ่มเปียกทีละน้อย ข้างหลังเธอ ซาวะและคนอื่น ๆ ยืนดูด้วยสีหน้าราวกับว่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
ผมมองไปที่ซาวะกับคนอื่นๆ และหันมามองฮานาเอะ ริโกะ ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว
เลิกคิ้วของเธอด้วยท่าทางตะลึงเล็กน้อย
ผมจินตนาการได้เลยว่าสภาพของผมตอนนี้น่าสมเพชขนาดไหน ตัวของผมจะเป็นยังไงก็ช่างแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเปียกแล้ว
“คุณฮานาเอะ รีบหยิบร่มขึ้นมาครับเดี๋ยวจะเปียก!”
เมื่อผมพยายามลุกขึ้นหลังจากบอกเธออย่างงั้น ก็มีอาการรู้สึกเจ็บจี้ดๆขึ้นที่หัว รู้สึกเหมือนจะระเบิดออกมายังไงยังงั้น พอพยุงตัวขึ้นได้ผมทรงตัวไม่อยู่เเละเดินถอยหลังไปเล็กน้อย…คงเกิดจากอาการเมื่อก่อนหน้าละนะ
“คุณนิยามะ…!!!เป็นอะไรมากมั้ยคะ? ไหวรึเปล่า….”
“ม…ไม่ครับผมไม่เป็นไร…อย่าคิดมากไปเลยครับมันแค่เกิดจากอาการเป็นหวัด ทำให้ผมเสียหลักไปแปบนึง”
ผมฝืนยิ้มเจื่อนๆ แต่จริงๆแล้วผมไม่รู้สึกว่าตัวเองจะลุกขึ้นมาได้…อาจเป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะพยายามลุกขึ้นทันทีแต่ด้วยที่ร่างกายของผมอ่อนแอจากความหนาวเย็น ผมอยากโทรหาซาวะ แต่ในหัวผมยังสั่นและไม่สามารถพูดเสียงดังได้…ทันใดนั้นในขณะที่ตาของผมกำลังจะปิดลง ผมได้เห็น ฮานาเอะ ริโกะ เคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ๆ…
ฮานาเอะ ริโกะ เธอเอาแขนทั้งสองข้างมาโอบและพยุงตัวของผมไว้ ผมประหลาดใจกับการกระทำของเธอมาก
“ฉ..ฉันขอโทษด้วยค่ะ….มันเป็นความผิดของฉัน”
“ไม่ ไม่เลยมันไม่ใช่ความผิดของคุณฮานาเอะ”
“แต่คุณเป็นหวัด และฉันต้องทำให้คุณต้องเปียก…ฉันขอโทษจริงๆ”
“อา..อึม….”
…..ทำไมผมต้องพูดออกไปแค่”อึม”??มันคืออะไรกัน? ต้องพูดอะไรอีกสักหน่อย
“จ..จริงด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของผมหรอกนะ”
“ฉันควรทำยังไงดี…ต้องพาคุณไปโรงบาล..ต้องการให้ฉันโทรเรียกรถพยาบาลไหม รึจะไปหาหมอก่อน”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“อย่าหักโหมด้วยค่ะ….ชั้นควรทำยังไงดี ชั้นจะทำยังไงดี?!!”
ในขณะนั้นซาวะก็ได้รู้สึกตัวแล้วว่าควรจะทำอย่างไรแล้วพูดขึ้นว่า”ฉันจะไปตามอาจารย์มานะ!” แล้วก็รีบวิ่งออกไปพร้อมกับคนอื่นๆ ยังมีเพื่อนบางส่วนที่เหลืออยู่ ฮานาเอะ ริโกะกับคนอื่นๆก็ได้ช่วยพยุงตัวของผมเข้าไปในที่หลบฝนข้างในอาคาร
“อ๊ะ…เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ? หรือว่าอยากนอน หรือจะให้นอนหนุนตักก็ได้นะคะ?”
“….”
“ฉันคิดว่าจะอุ้มคุณนิยามะด้วยท่าเจ้าหญิงแล้วพาไปหาหมอ….เอาแบบนั้นดีมั้ยคะ”
“เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ….ได้โปรดอย่าทำแบบนั้นเลยขอร้องล่ะ…”
ไม่มีทางที่ฮานาเอะ ริโกะ ที่มีรูปร่างผอมเพรียวจะสามารถอุ้มผมในท่าเจ้าหญิงได้ แต่ถึงแม่เธอจะทำได้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะทำ
“คุณต้องการให้ฉันทำอะไรให้รึเปล่า คุณนิยามะ คุณมีอะไรที่ฉันพอจะช่วยคุณได้รึเปล่า?”
ฮานาเอะ ริโกะ จับแขนเสื้อผมไว้แล้ว มองมาที่หน้าผมด้วยความเป็นห่วง ระยะห่างของพวกเราใกล้กันมากจนไม่รู้ว่าเสียงลมหายใจของผมไปรบกวนเธอหรือไม่
ใช่แล้ว..ผมกลัวว่าเธอจะคิดว่าผมเป็นพวกที่ไม่มีมารยาท…แต่มันก็พูดไม่ได้ถ้ากลั้นหายใจ
ดั้งนั้นจึงไม่มีทางอื่นนอกจากพยายามหายใจโดยที่จะไม่ส่งเสียงดังมากจนเกินไป ฮายาเอะ ริโกะ ผู้ซึ่งไม่เคยสังเกตุพฤติกรรมที่น่าอายของผมเลย กำลังจ้อมองผม ด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงตลอดเวลา เมื่อผมเห็นสีหน้าแบบนั้น ใบหน้าของผมก็รู้สึกร้อนขึ้นมาทันที….
“คุณฮานาเอะ เอง…ก็น่ารักมากเช่นกันเมื่อเธอมีสีหน้าแบบนี้..”
จบตอน…=)))
คนแปล3ชั่วโมงกว่าคนอ่านไม่ถึง10นาที….มันช่างไม่ยุติธรรมเลย TT