(WN) The Revenge of My Youth: My Re Life with a Girl Who Was Too Much of an Angel - ตอนที่ 2 เมื่อตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นเด็กอายุ 16 ไปซะแล้ว
- Home
- (WN) The Revenge of My Youth: My Re Life with a Girl Who Was Too Much of an Angel
- ตอนที่ 2 เมื่อตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นเด็กอายุ 16 ไปซะแล้ว
“เด็กขนาดนี้…น่าจะสมัยตอนม.ปลาย…ใช่ไหมนะ?”
เมื่อลุกจากที่นอนก็กลายเป็นเด็กไปแล้ว…ลองเอามือจับตามใบหน้าดูอีกทีเพื่อความแน่ใจ แต่ไม่ว่าจะดูยังไงมันก็เด็กลงจริงๆอยู่ดี
“กลับมาเป็นเด็ก…อยู่ในห้องที่ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว…ไม่จริงนา…”
ในฐานะของคนที่ชอบหนังสือไลท์โนเวล ผมสามารถคาดการถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทันที
ไม่น่าเป็นไปได้ แต่…ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็…
“จริงสิ มือถือไง มือถือ!อุหว่า!? เป็นรุ่นฝาพับที่ชวนให้คิดถึงอดีตเลยแฮะ!”
ถ้าเปิดฝาพับนี่ขึ้นมาก็จะสามารถดูวันที่ปัจจุบันได้สินะ
และสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของผมก็คือ—-
“สะ 14 ปีก่อน…!? สมัยตอนที่อยู่ม.ปลายปี 2 นี่นา!?”
ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว
ถ้านี่ไม่ใช่ภาพลวงตาหลังความตาย นั่นก็หมายความว่าผมย้อนเวลากลับมาในอดีตอีกครั้ง
เหมือนกับการโหลดเซฟของเกมที่เคยเล่น โดยที่ตัวเองยังมีประสบการณ์และความทรงจำของอนาคตอยู่
“เรื่องแบบนี้…บ้าน่า…”
ผมตกใจกับสถานการณ์ที่เหมือนกับว่าภาพลวงตากลายเป็นความจริงขึ้นมา
“แต่นี่มันดูสมจริงเกินกว่าที่จะเป็นความฝันนะ..แต่…”
แต่…ถ้านี่มันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันล่ะ?
“…ถ้าเป็นตอนนี้…ถ้าย้อนกลับมาตอนช่วงเวลานี้ได้จริงๆ…ก็หมายความว่าฉันสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งใช่ไหม?…”
ผมเดินไปที่หน้าต่างก่อนที่จะเปิดมันออก
สายลมอันแสนสดชื่นในยามเช้าที่พัดเข้ามาสัมผัสกับใบหน้าของผมมันช่างสมจริง
ภาพของย่านที่อยู่อาศัยที่แสนคุ้นตา ภาพของนักเรียน และพนักงานออฟฟิศที่กำลังเดินไปตามถนน
ภาพที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเห็นมันอีกครั้งในชาตินี้
“จะอะไรก็ช่างมันแล้ว…ในเมื่อได้ย้อนกลับมาพร้อมกับ[ความเสียใจ]ทั้งหมดนั่น…ดังนั้นคราวนี้แหละ”
คราวนี้ผมจะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องรู้สึกเสียใจแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่ 2
จะไม่ละความเพียรพยายามที่จะฝึกฝนตัวเอง และจะต่อสู้จนสุดชีวิตเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการมาให้ได้
“และคราวนี้…จะต้องบอกความรู้สึกของตัวเองกับชิโจอินซังให้ได้…! ว่าผมชอบเธอ!”
ในเมื่อประกาศความตั้งใจไปแล้ว
สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือการก้าวไปข้างหน้า
“โธ่ หนวกหูจริงเลยชินอิจิโร่! เอะอะโวยวายอะไรตั้งแต่เช้าแบบนี้เนี้ย!”
ทันทีที่เจ้าของเสียงบ่นเปิดประตูเข้ามาในห้อง—ผมตัวแข็งทื่อและรู้สึกตกใจมากกว่าตอนที่รู้ว่าตัวเองย้อนเวลากลับมาเป็นร้อยๆเท่า
“มะ…แม่…”
“? อะไร? ยังละเมออยู่รึไง?”
ยังมีชีวิตอยู่
ยังมีชีวิตอยู่และยังพูดได้ด้วย
แม่ที่เป็นห่วงผมจนตัวเองล้มป่วยและสุดท้ายก็เสียไปคนนั้น…
“มะ แม่ครับ! มุแงงงงงงงงง!” (TL:เห็นละอดมุแงไม่ได้จริงๆครับ)
“เดี๋ยวสิ นี่ลูกเป็นนักเรียนม.ปลายแล้วนะ! หรือเผลอกินอะไรแปลกเข้าไป!?”
ผมกอดแม่ที่กำลังสับสนแล้วร้องไห้ออกมา
น้ำตาแห่งความคิดถึงและห่วงหาเอ่อล้นออกมาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด
(ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในชีวิตนี้จะได้มีโอกาสเจอแม่อีกครั้ง…)
หลังจากผ่านไปสักพัก ผมที่กำลังร้องไห้อย่างหนักหลังจากที่ได้เจอแม่อีกครั้งก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง และผมอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองร้องไห้กับแม่ว่า 「เพราะฝันร้ายว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้แม่ตาย」
หลังจากที่แม่ได้ฟังก็ตอบกลับมาว่า「โธ่ อย่าไปใส่ใจกับฝันอัปมงคลแบบนั้นสิ」แล้วแม่ก็ยังลูบหัวผมเพื่อปลอบโยน
แต่การที่แม่ปลอบผมเหมือนกับสมัยตอนที่ผมยังเป็นเด็กๆก็เกือบจะทำให้ผมร้องไห้ออกมาอีกรอบ แต่ผมก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ซึ่งอาจจะเป็นเพราะจิตใจที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วของผมนั่นเอง
(โอกาสได้มีชีวิตใหม่ครั้งนี้…ฉันจะเดินไปในทางที่ถูกต้อง จะไม่ทำให้แม่ต้องคอยมาเป็นห่วงอีกแล้ว จะได้พาแม่ไปกินของอร่อยๆด้วยกันแล้วก็จะพาไปเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุขให้ได้)
ในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้ ตัวผมในตอนนี้ก็กำลังเดินไปโรงเรียนตามเส้นทางที่อยู่ในความทรงจำที่ไม่ได้เดินมานานกว่า 12 ปีเป็นครั้งแรก
(อา…ที่นี่มันคือโลกในอดีตจริงๆสินะ…)
เพียงแค่เดินไปตามถนนก็สามารถมองเห็นความแตกต่างของสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาได้อย่างชัดเจน
สิ่งที่ผู้คนกำลังถืออยู่ในมือในตอนนี้ไม่ใช่สมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆแต่เป็นโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ
และอาจจะเป็นเพราะในตอนนี้ยังไม่มีแอปพลิเคชั่นสำหรับการแชทหรือเกมกราฟฟิคสวยๆ จึงทำให้มีคนน้อยมากที่จะใช้มือถือในขณะที่กำลังเดินอยู่
หรือพวกร้านสะดวกซื้อที่น่าจะควบรวมกิจการกันไปแล้ว ในขณะนี้ก็ยังมีร้านแยกกันอยู่
(ชุดนักเรียนกับกระเป๋าของโรงเรียนนี่ชวนให้คิดถึงจังเลยนะ…)
เมื่อผมได้ใส่ชุดนักเรียนอีกครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ละทิ้งความเป็นผู้ใหญ่แล้วกลับมาเป็นเด็กม.ปลายอีกครั้ง
(ทั้งๆที่เมื่อก่อนรู้สึกไม่อยากจะมาโรงเรียนเลยแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องน่าสนุกซะอย่างนั้น ไม่ว่าเรื่องไหนๆก็อยากจะทำให้ดีที่สุดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องกีฬา หรือพวกกิจกรรมของโรงเรียนก็ด้วย การได้คาดหวังกับอนาคตนี่มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆเลยนะ…)
“อ๊ะ นิอิฮามะคุง อรุณสวัสดิ์!”
เสียงทักทายอันแสนสดใสดังขึ้นโดยไม่ทันคาดคิด และเมื่อผมหันไปมองตามเสียงนั้น…ก็ได้พบกับเธอที่อยู่ตรงนั้น
อัญมณีแสนล้ำค่าที่ผมไม่มีวันลืมแม้เวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนก็ตาม
การได้ข้ามผ่านกาลเวลากลับมาพบกับเธอที่ผมเฝ้าใฝ่ฝันถึงอีกครั้ง–ในช่วงเวลานี้…ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องราวของตัวเองที่ควรจะจบไปแล้ว มันได้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแล้วจริงๆ…
★★★★★★★★★★★★★★★★★★
Durimtok