(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 16
อารัมภบท เล่ม2
‘โลกนี้ต่างหากที่ผิด-‘ นี่คือวลีที่มักจะใช้กัน
อย่างไรก็ตามสำหรับผม- เลียม เซร่า เบนฟิลด์[Liam Sera Banfield] เชื่อว่าสิ่งที่ผิดไม่ใช่โลก แต่เป็นคนต่างหาก
ในชีวิตที่แล้ว ผมเป็นคนดีและเอาจริงเอาจังในการใช้ชีวิต
แต่เพราะแบบนั้น ภรรยาของผมเลยนอกใจ คนทวงหนี้ก็มักรังควานผม และร่างกายของผมก็ทรุดโทรมลงจนแทบจะพิการ
ผมได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ในขณะที่กำลังจะตาย
สิ่งที่ผิดไม่ใช่โลก แต่เป็นตัวผมเองต่างหาก
เมื่อเข้าใจอย่างนั้น ผมจึงตัดสินใจว่าในชีวิตที่สองของผม ผมจะอยู่เพื่อตัวเองและเติมเต็มความปรารถนาทั้งหมดในชีวิตนี้
นอกจากนี้ยังมี ‘ไกด์’ ผู้อุปถัมภ์ของผมที่ให้โอกาสให้ผมได้มีชีวิตที่สองโดยการจุติมาในจักรวาลแปลกๆแห่งดาบและเวทมนตร์
เวทมนตร์มีอยู่ที่นี่ แต่วิทยาศาสตร์ก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน
มนุษยชาติได้ก้าวเข้าสู่อวกาศแล้ว นี่คือจักรวาลที่มีเรือประจัญบานอวกาศและอาวุธที่มีรูปร่างมนุษย์
โชคดีที่ผมเกิดในบ้านแบนฟิลด์
เป็นบ้านชั้นสูงที่รับใช้ประเทศที่เรียกว่าจักรวรรดิอัลแกรนด์ บ้านที่มีโลกทั้งใบอยู่ภายใต้การปกครอง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาเป็นได้เปรียบในการใช้ชีวิต
ผมเกิดมาพร้อมกับช้อนเงินในปาก คราวนี้ผมสามารถใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งได้อย่างถูกต้อง
โลกไม่ได้ผิด
สิ่งที่ผิดคือตัวผมเอง
ตอนนี้ผมเป็นผู้ปกครองของดาวดวงหนึ่ง
ลอร์ดผู้ชั่วร้ายที่ตระหนักว่าไม่มีความหมายในการเป็น ‘คนดี’
ผมจะอยู่เพื่อตัวเอง
เป้าหมายที่สองของผมในชีวิตนี้คือสนุกกับตัวเองในขณะที่ใช้ชีวิตเป็นคนชั่ว
◇ ◇ ◇
พิธีการบรรลุนิติภาวะสิ้นสุดลงแล้ว
ในที่สุดมันก็จบลง
ตลอดทั้งเดือน ไม่มีอะไรเลยนอกจากพิธีการและงานเลี้ยงที่เกี่ยวข้องกับความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่งเริ่มต้นของผม
ผมคิดว่ามันเสียเวลา แต่อายุขัยของคนในจักรวาลนี้ช่างยาวนาน
ผมอาจจะดูเหมือนเด็กอายุสิบสาม แต่จริงๆ แล้วผมอายุห้าสิบแล้ว
ในจักรวาลนี้คนหนึ่งคน สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายร้อยปี ดังนั้นการที่มองว่าอายุ50ถึงเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
เป็นเรื่องดีที่รู้ว่ามีเวลาเหลือเฟือที่จะสนุกกับทุกสิ่งที่ต้องการในชีวิตนี้
“หลังจากนี้เราวางแผนไว้อย่างไร”
ภายในสำนักงานของผม ข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์ของผมตอบกลับ
คนแรกคือหุ่นยนต์สาวใช้ อามากิ
เธอมีผมสีดำสวยพลิ้วถึงแผ่นหลัง และสวมชุดสาวใช้สไตล์วิคตอเรียนสุดคลาสสิก เธอเป็นสาวใช้ที่สุดยอด
ร่างกายของเธอเหมือนมีชีวิตจริงๆ และเธอมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วที่ไกลเกินกว่าขอบเขตของมนุษยชาติ
เธอเป็นซุปเปอร์เมดที่ดูแลทั้งผมและอาณาเขต
และเหนือสิ่งอื่นใด!
—เธอไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆที่มีเลือดเนื้อ
หลังจากถูกอดีตภรรยาหักหลังในชีวิตที่แล้ว ผมก็ไม่สามารถไว้ใจผู้หญิงที่แท้จริงได้อีกต่อไป
“คุณจะไปเรียนต่อต่างประเทศที่บ้านขุนนาง ก่อนที่คุณจะเข้าโรงเรียนประถมของจักรวรรดิ”
“ชั้นประถมศึกษา… ยุ่งยากจริงๆ”
ขุนนางของจักรวรรดิมีหน้าที่
หนึ่งในนั้นคือการฝึกอบรม
ประการแรก เด็กขุนนางได้รับมอบหมายให้ไปอบรมกับบ้านของขุนนางคนอื่นๆ
ระยะเวลาที่เราใช้ไปที่นั่นไม่สำคัญ ตราบเท่าที่เราเติบโตขึ้นมาอย่างเหมาะสม
ปัจจุบันการรับการศึกษาจากบ้านขุนนางก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนาง
พ่อบ้านของผม ไบรอัน กล่าวเสริม
“การเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาจะเป็นหลังจากที่ลอร์ดเลียมอายุครบหกสิบ เป็นธรรมเนียมที่จะต้องไปฝึกที่บ้านอื่นจนกว่าจะถึงเวลานั้น”
เขาเป็นชายชรามีหนวดมีเคราซึ่งมีผมหงอกแล้ว
ชุดสูทที่เขาสวมได้รับการตัดเย็บอย่างประณีต และหลังของเขาตั้งตรง
“มีบ้านขุนนางคนไหนบ้างที่ยอมรับผม?”
บ้านเบนฟิลด์เป็นบ้านที่ตกต่ำก่อนที่ผมจะขึ้นมาปกครอง
ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่มีความสัมพันธ์กับขุนนางคนอื่นๆ
‘มีบ้านขุนนางคนไหนบ้างที่ยอมรับผม’ เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นคำถามที่ไร้เดียงสา
ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับบรรเทาความกลัวของผม ไบรอันตอบ
“โปรดวางใจ เพราะอามากิได้เลือกบ้านที่เหมาะสมในการศึกษา อาจมีราคาสูงซักเล็กน้อย แต่เป็นบ้านที่ได้รับความนิยมในการฝึกอบรมอย่างแน่นอน”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขายอมรับเด็กชนชั้นสูงเช่นผม เพื่อแลกกับเงินและทรัพยากร
—นี่มัน ธุรกิจอย่างหนึ่งเลยนี่?
“ดูเหมือนว่ามันจะทำเงินได้มาก ผมก็อยากทำเหมือนกัน”
อามากิตอบผมด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยเหมือนสาวใช้หุ่นยนต์
“น่าเสียดาย ที่ทำได้ยากเมื่อพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ ความสำเร็จ และชื่อเสียงในปัจจุบันของเรา”
ไบรอันพูดแทรก
“ยะ…อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสนอจากขุนนางที่มีอำนาจน้อยกว่า จากดินแดนโดยรอบให้ส่งลูกหลานของพวกเขามาที่นี่”
แต่อามากิไม่ได้สนใจในเรื่องดังกล่าว
เธอแค่บอกข้อเท็จจริง
“ไม่มีประโยชน์ที่จะหวังจากบ้านอัศวินหรือบารอน เกี่ยวกับคำพูดของนายท่านหากรับการฝึกอบรมคงต้องเล็งเป้าหมายที่ขุนนางระดับสูงกว่านั้นเพื่อที่จะทำกำไร?(*1)
“แต่ว่าบ้านเบนฟิลด์ไม่มีความน่าเชื่อถือพอสำหรับพวกเขา ที่จะทิ้งลูกหลานไว้กับเราใช่ไหม?”
“ใช่.”
“…สิ่งนี้มันน่าขัดใจ… ผมจะให้เงินคุณ ดังนั้นพยายามพัฒนาในส่วนนั้นด้วย”
ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินด้วยเหตุผลหลายอย่าง
เพราะแบบนั้น ผมจึงสามารถใช้จ่ายเงินได้มากเท่าที่ต้องการ
เป็นเรื่องที่ดีมากที่สามารถใช้ภาษีของประชาชนเพื่อความต้องการส่วนตัวของตัวเองได้!
ได้ยินอย่างนั้นไรอันก็พูดเสริม
“ถ้านั่นคือสิ่งที่นายท่านต้องการ ฉันก็มีคำแนะนำบางอย่าง… พอดีฉันมีเพื่อนคนหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิ เป็น ผู้หญิงที่เคยเป็นสาวใช้ในจักรวรรดิและกำลังเกษียณ เราจะจ้างเธอให้เป็นหนึ่งในผู้สอนของเราดีไหม?”
“นั่นฟังดูดี”
ไบรอันต้องการแนะนำให้เรารู้จักกับคนรู้จักคนหนึ่งของเขา
ผมไม่เห็นปัญหาใด ๆ ถ้ามันเป็นเพียงแค่นั้น
ส่วนอามากิก็พูดต่อ
“ถ้าคุณต้องการการยอมรับ คุณต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับการเสริมการศึกษาที่เหมาะสม
ไม่ใช่แค่นั้น นายท่านต้องรวบรวมทรัพยากรมนุษย์และการลงทุนทางวัฒนธรรมที่จำเป็นด้วย”
เมื่อผมเห็นงบประมาณที่จำเป็นซึ่งคำนวณโดยอามากิ ผมก็ตาโตด้วยความตกใจ
เป็นจำนวนเงินระดับไร้สาระ ดังนั้นผมจึงตรวจสอบเงินส่วนตัวของผมทันทีเพื่อเปรียบเทียบ
ทำไมเป็นเงินส่วนตัวของผมน่ะเหรอ? นั่นเป็นเพราะจำนวนเงินมันเกินกว่ารายได้จากภาษีอาณาเขตของผม
“มีเลขศูนย์มากเกินไปสำหรับผมที่จะนับ มันจะพอไหมเนี่ย?”
“เท่าที่คำนวน นายท่านสามารถจ่ายได้”
ผมรู้สึกโล่งใจเมื่อได้รับคำตอบทันทีและตัดสินใจเตรียมงบประมาณต่อไป
ในอนาคตลูกหลานของขุนนางจะมาที่บ้านของผมเพื่อฝึกฝน
ผมจะมีอำนาจเหนือพวกเขาอย่างสมบูรณ์
“เตรียมตัวให้พร้อมโดยเร็วที่สุด”
ไบรอันกำลังปาดน้ำตา
“ในที่สุด เราก็มีช่องทางที่จะทำงานกับสิ่งเหล่านี้… ลอร์ดเลียม ไบรอันคนนี้มีความสุขมากในขณะนี้”
—อีกครั้งที่ชายคนนี้มองความตั้งใจของผมผิด
ผมไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดนั้น เพราะการตอบสนองของเขาน่าสนใจมาก
“ต่อจากนี้ไป ผมอยากได้ยินเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ที่ผมจะไปฝึก ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะไปบ้านที่ผมสามารถอยู่ได้อย่างสบายๆ”
อามากิพยักหน้า
“รับทราบค่ะ. ดิฉันจะค้นคว้าเรื่องนี้อย่างละเอียดเพื่อค้นหาสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับคุณในการเรียน”
ผมหวังว่าจะไปฝึกอย่างไม่มีปัญหา
◇ ◇ ◇
มีบุคคลที่เลียม เรียกว่า ไกด์
เขาสวมหมวกที่ปิดตาของเขา เสื้อคลุมหางยาว และถือกระเป๋าเดินทาง เขาเป็นผู้ดำรงอยู่ของพลังเหนือธรรมชาติ
แม้ว่าในเวลานี้เขาจะทุกข์ใจกับความกตัญญูของเลียมและอ่อนแอลงจนถึงขั้นที่เขาเป็นได้แค่ภาชนะอันว่างเปล่า
ตอนนี้เขาแนบหูกับผนังในห้องข้างๆห้องทำงานของเลียมเพื่อฟังการสนทนา
“ได้โอกาสล่ะ!”
เลียมคิดว่าชายคนนี้เป็นผู้มีพระคุณ แต่ในความเป็นจริง เขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อความทุกข์ยากของผู้อื่น
เพื่อรออารมณ์ด้านลบที่จะมาถึง เขาได้ลากเลียมเข้ามาในจักรวาลนี้
แต่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา เลียมยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งต่อการทำงานของไกด์
ไกด์อ่อนแอเพราะความซาบซึ้งนั้น
พลังของเขาหมดลงจนแทบจะเดินไปรอบๆ ในจักรวาลนี้ไม่ได้
เพื่อที่จะฟื้นพลังที่หายไป- เขาตัดสินใจว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาต่อจากนี้ไปจะมุ่งไปที่การแก้แค้นของเขากับเลียม
การแก้แค้นของไกด์จะไม่สิ้นสุดจนกว่าเขาจะทำให้เลียมสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตาม…
“แม้ว่าฉันจะรู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว แต่ฉันก็ยังทำอะไรกับมันไม่ได้ บัดซบ…เลียม ฉันควรทำอย่างไรเพื่อดึงความรู้สึกด้านลบจากคุณ”
-เมื่อพลังของเขาอ่อนลง เขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก
ถึงกระนั้นไกด์ก็ไม่ยอมแพ้
“มันต้องมีวิธีบางอย่าง ฉันจะแก้แค้นให้แน่นอน เลียม!”
ไกด์ผู้พยาบาทยังคงแนบหูกับกำแพงเพื่อแอบฟังเลียม
ในขณะเดียวกันก็มีแสงสีขาวเล็กๆ ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา
แสงนั้นลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ยังคงเฝ้าดูไกด์
◇ ◇ ◇
-แขกที่หน้าปวดหัวมาอีกแล้ว
ความจริงแล้วพวกเขาเป็นตัวแทนของโรงงานอาวุธจักรวรรดิแห่งหนึ่งที่ผมติดต่อด้วยบ่อยๆ
มีโรงงานผลิตอาวุธหลายแห่งในจักรวรรดิ
พวกเขาทั้งหมดเป็นองค์กรขนาดใหญ่ในตัวเอง โดยที่คนตรงหน้าผมคือโรงงานผลิตอาวุธที่เจ็ด
โรงงานอาวุธของจักรวรรดิแต่ละแห่งมีความโดดเด่นแตกต่างกัน
โดยเฉพาะโรงงานอาวุธที่เจ็ดมีบุคลิกที่ค่อนข้างแปลก
เป็นโรงงานที่แสวงหาประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวโดยละเลยรูปลักษณ์ภายนอก ทำให้โรงงานนี้ค่อนข้างไม่เป็นที่นิยมในสังคมชนชั้นสูง
อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ออกมานั้นไม่สามารถดูแคลนได้
“ท่านเลียม ไนอัสคนนี้มีผลิตภัณฑ์มานำเสนอ!”
ผู้หญิงผมดำที่ใส่แว่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนสาวคงแก่เรียนได้นำภาพสามมิติขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเริ่มอธิบายเกี่ยวกับสินค้า
รัฐมนตรีอนุญาตให้ผมซื้อเรือประจัญบานระดับเรือธง ซึ่งโรงงานต่างๆก็รีบคว้าโอกาสมาเสนอขายให้ผมทันที
เมื่อผมดูวิดีโอโฮโลแกรมผมก็บ่น
“ประสิทธิภาพของพวกเขาดูดี แต่การออกแบบมันน่าผิดหวังไปหน่อย”
“แต่ครั้งนี้เราทุ่มสุดตัวในการออกแบบเลยนะ!”
“น่าเสียดาย คราวหน้าลองใหม่แล้วกัน”
ไนอัสซึ่งต้องการขายจึงเริ่มถอดเสื้อสูทออก
ฉันมองเห็นสีฉูดฉาดของชุดชั้นในที่เธอสวมใต้เสื้อของเธออย่างเลือนลางได้
“ท่านลอร์ดคะ ได้โปรดซื้อเรือประจัญบานลำนี้ด้วยเถอะค่ะ”
ผมค่อนข้างให้ประเมินเธอไว้สูงในการพยายามดึงดูดลอร์ดที่ชั่วร้ายอย่างผม
แต่ก็ยังคงเป็นสาวที่น่าผิดหวัง
ผมไม่ชอบชุดชั้นในที่ฉูดฉาด
ในความทรงจำของผมเกี่ยวกับอดีตภรรยา จำนวนชุดชั้นในที่ฉูดฉาดของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่เราจะหย่าร้างกัน
ผมรู้สึกอารมณ์เสียเพียงแค่คิดเกี่ยวกับมัน
“คุณทำตัวน่าสมเพชอีกแล้ว”
“ทั้งที่ฉันลงทุนขนาดนี้!”
ไนอัสเริ่มร้องไห้
“ได้โปรดซื้อมัน! ฉันรับปากผู้บังคับบัญชาของฉันไปแล้ว ว่าจะขายได้แน่ ไม่งั้นเขาจะโกรธฉัน! และการประเมินโรงงานกำลังจะมาในเร็วๆ นี้ด้วย!”
เมื่อพูดถึง’การประเมิน’ ในชีวิตที่แล้วของผม คำนั้นทำให้ผมกลัวจนบรรยายไม่ถูก
“…ตกลง ผมจะซื้อเรือประจัญบาน กลับไปซะ”
“คุณปฏิบัติกับฉันเย็นชาเกินไปแล้ว! คุณเบื่อฉันแล้วงั้นเหรอ!”
“หยุดกล่าวหาผมแบบนั้น!”
ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้ใครมาประณามผมในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ
“แล้วทำไมมันถึงยากนักที่จะขายยานระดับสุดยอดของเราให้คุณ!”
“ไม่ นั่นมัน-”
เมื่อผมจะอธิบาย ทหารอีกคนก็เข้ามาในห้อง
เธอมียศร้อยโท แม้ยศจะไม่สูงแต่เธอเป็นทหารอายุน้อยที่มีความสามารถ
ผมสีบลอนด์ของเธอหยักศกเล็กน้อย
มันยาวจนถึงหลัง และดวงตาสีเขียวที่ดูอ่อนโยน
เธอชื่อ ยูลิเซีย โมริซิลล์[Eulisia Morisille]
เธอเป็นสมาชิกของโรงงานอาวุธที่สาม และมาที่นี่เพื่อขายเรือธงให้ผมด้วย
“อย่าทำตัวน่าสมเพชที่นี่กัปตัน”
ไนอัสซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นกัปตันด้านเทคโนโลยี ถูกยูลิเซียมองด้วยสายตาดูถูก
แค่มองก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนไม่ลงรอยกัน
“โรงงานอาวุธที่สาม?! นายท่าน นี่มันหมายความว่ายังไงกัน!?”
“ก็อย่างที่เห็น ผมซื้อยานจากพวกเขาไปแล้ว”
เพราะการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ การออกแบบ และสิ่งต่างๆๆ นั้นค่อนข้างดี ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมอย่างมาก
ผมซื้อของอย่างอื่นอีกมากมายจากพวกเขาด้วย
ไนอัสทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้ชีวิตชีวา
“คุณแย่ที่สุด!”
“…คุณเป็นผู้หญิงที่น่าผิดหวังจริงๆ”
ยูลิเซียสะบัดผมของเธอด้วยนิ้วขณะที่เธอเดินมาหาผม
“ขอบคุณสำหรับการซื้อของคุณ ฉันหวังว่าเราจะสามารถสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีนี้ในการทำธุรกรรมในอนาคตได้เช่นกัน”
ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่จมูกเมื่อเข้าใกล้ยูลิเซีย ผู้หญิงที่มีสเน่ห์ตามธรรมชาติ
โอ้ นี่แหละ
ความงดงามที่ไม่ให้ความรู้สึกน่าสมเพช
“ผมจะซื้อจากโรงงานของคุณอีกค เพียงให้แน่ใจว่าคุณเป็นคนขาย”
“คุณต้องการติดต่อผ่านฉันโดยเฉพาะ? ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก”
ในการสนทนาที่สบายๆของเรา ไนอัสจ้องมาที่ผมด้วยแววตาที่บอกว่าเธอยอมแพ้แล้ว
“…เห…อย่าร้องไห้ ผมเข้าใจ ฉันจะซื้อยานลำอื่นจากคุณ”
“ฉัน…ไม่เป็นไร งั้นอย่างน้อยต้องสามลำนะ”
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความรู้สึกละอายเลย
ยูลิเซียทำหน้าประหลาดใจ
ตรงกันข้าม ขณะที่ผมเซ็นสัญญา ไนอัสเริ่มยิ้มแย้มแจ่มใส
ดูเหมือนว่ายูลิเซียจะพูดไม่ออกสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
—โรงงานที่เจ็ดไหวไหมเนี่ย?
◇ ◇ ◇
-อืม…
พอคิดดูแล้ว ผมกำลังจะเข้าฝึกอบรมเร็วๆ นี้
ไม่ว่ายังไง ผมก็จะไม่อยู่อาณาเขตไปพักหนึ่ง
กลับมาได้เพียงช่วงวันหยุดสั้นๆ
แม้ผมจะซื้อเรือประจัญบานระดับเรือธงมา ผมก็ไม่สามารถใช้งานได้นานหลายทศวรรษ
มันสามารถอธิบายได้ว่าเป็นของเสียเท่านั้น
ผมเพิ่งซื้อมันมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ยานสามลำนั้นไม่ได้มีความจำเป็นเลย”
แค่ลำเดียวก็เพียงพอแล้ว
อามากิถูเกลือเข้าไปในบาดแผลขณะที่บ่นเรื่องนี้
“เมื่อถึงเวลาที่นายท่านกลับมา ยานรุ่นใหม่ๆก็จะออกมาพร้อมคุณสมบัติที่ดีกว่า”
“ผมควรจะรออีกนิดก่อนจะซื้อสินะ”
“ใช่ค่ะ. โปรดระวังจากนี้ไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคุณซื้อมาแล้ว เราจึงอาจนำไปใช้ได้เช่นกัน เรายังสามารถเพิ่มพวกเขาในกองกำลังส่วนตัวของเราได้”
“ถ้าไม่ใช่งานมันก็จะไร้ประโยชน์ไปจริงๆ”
อา… ผมลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์
—–
ช่วงพิเศษท้ายตอน!! ความเจ็บปวดของไบรอัน!!
—–
ไบรอัน (´;ω;`) มันเจ็บปวด… ลอร์ดเลียมติดกับดักความงาม มันช่างเจ็บปวด
—–
เชิงอรรถ
*1) บารอนกับอัศวินเป็นยศต่ำซึ่งอามากิมองว่าคงไม่ได้กำไรในเชิงธุรกิจ