โจรสลัดอวกาศ
ผมอายุเกือบห้าสิบปีแล้ว วัยที่เพียงพอจะถูกยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว กำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ผมใช้เวลาอยู่ในคฤหาสน์อย่างเกียจคร้าน ผมก็ตั้งข้อสังเกตุ
“นี่มันไม่ดีต่อสุขภาพเลย ผมแทบไม่ได้ออกไปนอกคฤหาสน์ ทั้งๆที่ผมได้กลับชาติมาเกิดในจักรวาลไซไฟแบบนี้เนี่ยนะ?”
ผมที่กำลังทำงานอยู่ในสำนักงานในขณะนี้
อามากิตอบคำถามของผมในขณะที่ช่วยประมวลผลเอกสาร โดยไม่สนใจความจริงที่ว่าผมเพิ่งบอกเธอเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดของผม เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ไม่มีปัญหาตราบใดที่คุณออกกำลังกายอย่างเหมาะสมภายในบริเวณคฤหาสน์ และอีกอย่าง ที่นี่ปลอดภัยกว่าข้างนอก ดิฉันไม่แนะนำให้คุณเดินเล่นไปรอบๆ”
เธอยังโกรธที่ผมแอบหนีไปครั้งก่อนหรือเปล่านะ?
ผมแค่ออกไปหาสาวน่ารัก ๆ แต่ไม่เจอใครที่ถูกใจเลย
แล้ว…ผมควรทำยังไงดี?
โดยปกติเมื่อใครสักคน คิดเกี่ยวกับการเป็นลอร์ดชั่วร้าย คุณจะจินตนาการว่าพวกเขาดื่มด่ำกับสุราและหญิงสาวสวย
ถ้าพูดถึงแอลกอฮอล์ ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดที่ดื่มมันด้วยร่างกายปัจจุบันของผม และรสชาติมันก็แย่ด้วย
สำหรับผู้หญิง ผมไม่ค่อยชอบพวกเธอเท่าไหร่ เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถเอาชนะ อามากิได้ ผู้ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนในอุดมคติของผม
หืม? แล้วมันจะมีความจำเป็นต้องทำสิ่งเหล่านั้นตรงไหนล่ะเนี่ย?
“ไม่สิ. ผมตั้งเป้าที่จะเป็นจอมมารในอนาคต ผมจะยอมแพ้ตอนนี้ได้อย่างไร”
“ดิฉันไม่สนหรอกค่ะ ว่านายท่านจะถูกเรียกว่าเป็นจอมมารหรือไม่ แต่คุณต้องการทำอะไรกันแน่ นายท่าน?”
“…ขึ้นภาษีและกดขี่ประชาชนล่ะมั้ง?”
“รายรับภาษีชั่วคราวจะเพิ่มขึ้น แต่ดิฉันไม่แนะนำให้ทำในตอนนี้เพราะจะส่งผลเสียในระยะยาว เมื่อลองพิจารณาสถานะปัจจุบันของอาณาเขตเราอาจลองพิจารณาการเพิ่มภาษีโดยดูจากสถานการณ์ในแต่ละอาณาเขตแทน”
การลดภาษีจะเพิ่มแนวโน้มการซื้อของของประชาชน ซึ่งอาจส่งผลให้รายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นด้วย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
– แต่นี่มันผิดจากที่ผมคิด…ผมไม่ต้องการที่จะทำตามตรรกะทางเศรษฐกิจแบบนี้นี่นา
ผมต้องการที่จะเหยียบย่ำคนอื่น!
ไม่อยากเป็นคนที่ถูกช่วงชิง แต่อยากเป็นคนที่ช่วงชิงสิ่งของของคนอื่น!
“ผมไม่ต้องการที่จะได้ยินความคิดเห็นที่สมเหตุสมผลแบบนั้น! ผมน่ะอยากไปทำสิ่งต่างๆเช่นการปล้น โดยใช้พลังของผมและใช้ความรุนแรง!”
แค่นั้นแหละ.
ฉันจะเป็นโจร และจะเป็นเจ้าแห่งโจร!
ใครจะสนใจรายได้ภาษี!
“ใช่ มาหาสาวสวยในพื้นที่และลักพาตัวเธอมา ในกรณีนี้ ถ้าเป็นคนที่มีเซนส์ด้านการแต่งตัวในแบบที่ผมชอบด้วยยิ่งดี”
อามากิตอบแผนของผมทันที
“ไม่รวมแผนกเทคโนโลยี พนักงานปัจจุบันทุกคนที่ทำงานในคฤหาสน์คือคนที่เข้าเกณฑ์ลักษณะที่คุณชอบ
ทุกคนที่ทำงานที่นี่ได้รับการคัดเลือกจากประชาชนในท้องถิ่นโดยเฉพาะมาก่อนหน้านี้แล้ว”
ได้ยินแบบนี้ผมก็ปวดหัว
แน่นอนว่าคนที่ทำงานในคฤหาสน์นั้นมักจะมีเซนส์ที่ดีในเรื่องแฟชั่น ต่างก็เป็นชายและหญิงที่หน้าตาดี
แต่ดูเหมือนอามากิจะเข้าใจอะไรผิดไป
“นายท่านต้องการคนที่จะแต่งงานด้วยงั้นหรือ?”
“ไม่ ผมไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น”
“ดิฉันแน่ใจว่ามีผู้หญิงจำนวนมากที่เต็มใจ หรือถ้าคุณชอบผู้ชาย เราสามารถจัดให้แทนได้”
“ไม่เฟ้ย…ไม่เอาแบบนั้นแน่นอน”
อามากิ นี่เธอคิดว่าผมสนใจผู้ชายจริงๆเรอะ?
และถ้าผมต้องเลือกลงมือกับประชาชน ผมไม่ต้องการทำกับผู้ที่มาด้วยความเต็มใจ
สิ่งที่ทำให้มันสนุกคือวิธีที่พวกเขาต่อต้าน!
“ถ้าอย่างนั้น เชิญผู้ให้ความบันเทิงท้องถิ่นจากอาณาเขตเข้ามากันเถอะ! การบังคับให้ประชาชนช่วยคลายความเบื่อหน่ายของผมเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างแน่นอน!”
“นายท่าน วงการบันเทิงยังคงพัฒนาอยู่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เมื่อคุณเรียกขาน หลายคนจะอาสาเป็นอาสาสมัครอย่างมีความสุข แม้ว่าจะไม่มีใครมีความสามารถขนาดนั้น… หรือคุณอยากจะพาคนจากนอกอาณาเขตเข้ามา?”
ข้างนอก? หมายถึงใครซักคนจากดินแดนอื่น?
“ผมต้องการได้รับการปฏิบัติเหมือนราชาจากประชาชนของผม! ถ้าพวกเขามาจากที่อื่น พวกเขาจะไม่รู้สึกภักดีต่อผมน่ะสิ!”
ข้อเสนอแนะนั้นถูกปฏิเสธเพราะผมไม่ต้องการที่จะทะเลาะกับดินแดนอื่นโดยไม่มีอำนาจเพียงพอ ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วย
ผมจะเริ่มยุ่งกับพวกเขาหลังจากที่เราแข็งแกร่งกว่านี้
“นายท่านวางใจเถอะค่ะ คุณเป็นเจ้าบ้านเบนฟิลด์ นั่นทำให้คุณเป็นราชาของทั้งกาแล็กซี่ เอ่อ… ราชาแห่งของดาวดวงหนึ่ง”
อึก…ถึงจะเป็นความจริงแต่ก็ไม่ต้องพูดได้ไหม!
ผมหมายความว่า เพราะแบบนั้นน่าสมเพชไม่ใช่เรอะ? เมื่ออาณาเขตของผมครอบคลุมกาแลคซีทั้งหมด แต่มีอณาเขตปกครองแค่ดาวดวงเดียว!
นี่ไม่ใช่ความผิดของผมด้วยซ้ำ! นี่เป็นเพราะพ่อกับปู่ของผมต่างหาก!
บัดซบ… มันยากขนาดนั้นเลยเหรอที่จะเป็นจอมมาร?
อามากิเทเกลือลงบาดแผลของผมตรงๆ มันเหมือนการเตือนเรื่องพื้นฐานที่เรายังไม่ได้แก้ไขมัน
“เรายังต้องคิดเรื่องหนี้ที่ยังไม่ได้แก้ไขอีก”
…หนี้ของเรา
ไม่ว่าดินแดนจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน ผมก็ยังถูกถ่วงเพราะหนี้โง่ๆนี้!
และถ้าผมเพิกเฉยต่อมัน ปัญหาต่าง ๆ จะตามมา
ถ้าผมเลื่อนการชำระเงินออกไปอีก พวกทวงหนี้ก็จะมาเคาะประตูบ้านผม
– อุ…ความทรงจำที่บอบช้ำของชีวิตก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมา
“บัดซบ ไม่มีวิธีจ่ายหนี้ง่ายๆเลยรึไง?”
“มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น หากเรายังชำระเงินต่อไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อีกฝ่ายอาจเริ่ม-”
จู่ๆก็มีการสื่อสารเร่งด่วนมาขัดจังหวะเรา
มาจากไบรอัน
“แปลกแฮะ ถ้าเขามีอะไรจะพูดเขาน่าจะเข้ามาที่ห้องทำงานนี้สิ?”
เมื่อผมรับสาย ภาพฉายของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศ
“ท่านเลียม พวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย! โจรสลัดอวกาศประกาศสงครามกับบ้านเบนฟิลด์แล้ว!”
…ทั้งที่เป็นโจรสลัด แต่มาประกาศสงครามก่อนโจมตี มารยาทดีไปหน่อยไหม?
◇ ◇ ◇
อาคารสถานที่ราชการในอาณาเขตของผมเป็นตึกระฟ้าขนาดใหญ่
เจ้าหน้าที่ที่ช่วยดูแลอาณาเขตกำลังประจำการอยู่ที่นี่ และผมแค่มาปรากฏตัวเป็นบางครั้ง
ถ้ามีปัญหาอะไร ปกติผมจะส่งลูกน้องคนหนึ่งมาติดต่อที่นี่แทน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าครั้งนี้ต้องทำด้วยตัวเอง
บุคคลสำคัญทั้งหมดรวมตัวกันในห้องประชุม พูดคุยอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับการประกาศสงครามของโจรสลัดและข้อเรียกร้องของพวกเขา
เจ้าหน้าที่ในชุดสูทกำลังตรวจสอบเนื้อหาในขณะที่อยู่ในสภาวะตึงเครียด
“พวกโจรสลัดเรียกร้องให้เรามอบทรัพยากรและตัวประกัน ตัวประกันเองก็ถูกจำกัดอยู่แต่ผู้หญิงสวยเท่านั้น”
ผมดูรายชื่อโลหะมีค่าที่พวกเขาต้องการ พวกมันทั้งหมดเป็นปริมาณที่ผมไม่สามารถให้ได้
และตัวประกันก็จำกัดอยู่แค่คนสวย…
– สิ่งนี้ทำให้ผมโกรธ
ทำไมผมต้องให้ของที่เป็นของผมกับคนเหล่านี้?
ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุคลากรทางทหารก็อยู่ที่นี่ด้วย
“นายท่าน เราควรเจรจากับพวกโจรสลัดหรือเราควรเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ดี?”
ทหารรู้สึกรำคาญกับการหารือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งดูเหมือนจะพยายามประณีประนอมกับอีกฝ่าย
“คู่ต่อสู้ของเราคือโกอาซ! เขาเป็นคนมีค่าหัวเป็นจำนวนเงินมหาศาล!”
เขาเป็นโจรสลัดตัวร้ายที่มีมูลค่าเงินมหาศาล
หากเราสามารถเอาชนะกองเรือของเขาได้ เราจะได้รับรางวัลตอบแทนมหาศาล
แต่จะทำยังไงล่ะ?
“คิดว่าเป็นไปได้งั้นรึ? แม้ว่าเราจะรวบรวมกำลังทั้งหมด บ้านเบนฟิลด์มียานทั้งหมดแปดพันลำเท่านั้น ในขณะที่กองเรือของโกอาซมีจำนวนสามหมื่น!”
“ต่อให้ไม่คิดเรื่องจำนวน คุณภาพของอาวุธและทักษะก็ต่างกันเกินไป! แต่เราไม่สามารถยอมจำนนโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้! แล้วประชาชนล่ะ?!”
“ต่อให้หนีก็หนีไม่พ้นอยู่ดี”
“นี่คุณพูดบ้าอะไรออกมา!”
ในขณะที่การโต้เถียงของเจ้าหน้าที่และทหารรุนแรงขึ้น ผมมองไปที่เงินค่าหัวของโกอาซ
ในฐานะขุนนาง เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่
เท่าที่เห็น มันไม่ใช่จำนวนเงินที่เพิกเฉยได้ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะรวยได้ในคราวเดียว
แต่จู่ๆก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น
– เกิดอะไรขึ้น?
ทันใดนั้นทุกอย่างก็เงียบลง และเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมอง ฉากรอบๆ ก็ดูแปลกตา
แม้ก่อนหน้านี้จะทะเลาะกันรุนแรงมาก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่เคลื่อนไหว
พวกเขาดูแข็งทื่อไปหมด
“…นี่คืออะไร?”
ดูเหมือนว่าเวลาจะหยุดลง
จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงที่น่าคิดถึง
“เอาล่ะ ตอนนี้เราควรจะมีเวลาคุยกันสักแปปหนึ่ง ไม่ได้เจอกันมานานแล้วนะ ในชาตินี้ฉันควรเรียกคุณว่าเลียมใช่ไหม”
ผมหันหลังกลับ และไกด์ยืนอยู่ที่นั่น
“ไม่ได้เจอกันซะนาน…แต่สถานการณ์นี้มันคืออะไร? ผมกำลังถูกโจรสลัดกำลังโจมตี”
เขาไม่ได้สัญญาหรอกเหรอว่าจะให้ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุข?
อีกฝ่ายดูเหมือนจะเดาได้ว่าผมจะสื่ออะไร ไกด์ตอบกลับ
“เลียม คุณเข้าใจสถานการณ์ผิด นี่คือของขวัญของฉันสำหรับคุณ”
“ของขวัญ?”
“ช่าย… คุณกำลังจะกลายเป็นผู้ใหญ่ในจักรวาลนี้ใช่ไหม? ก่อนหน้านั้น ฉันต้องการมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายให้คุณก่อนเดบิวต์ในฐานะส่วนหนึ่งของขุนนางอย่างเป็นทางการ ฉันพูดถูกหรือเปล่าว่าอาณาเขตของคุณเป็นหนี้อยู่”
ผมทำได้เพียงตอบกลับอย่างขมขื่น
“ใช่มันเป็นแบบนั้น ผมยังคงชำระหนี้จนกระทั่งวันนี้”
“ฉันรู้เรื่องนี้ ดังนั้นฉันจึงนำโจรสลัดที่มีสมบัติมากมายมายังดินแดนของคุณ ถ้าคุณสามารถเอาชนะพวกเขาได้ มันจะเป็นของคุณทั้งหมด”
“ของผม?”
ไกด์เดินเข้ามาใกล้ผมขณะที่ถูมือเข้าด้วยกัน
“ใช่ ถ้าคุณสามารถเอาชนะพวกมันได้ คุณจะได้รับเกียรติมากมายและสมบัติมากมาย หัวหน้าของพวกเขายังมีเงินค่าหัวมหาศาลอีกด้วย นี่คือของขวัญของฉันสำหรับคุณ”
“- อย่างนั้นเหรอ”
เมื่อผมเริ่มยิ้ม ไกด์ก็ยิ้มให้กับผม…ถึงแม้ผมจะรู้สึกว่ามันน่าขนลุกนิดหน่อย
“ขอบคุณที่เข้าใจ บริการหลังการขายตอนนี้หมดลงแล้ว ผมคงต้องลาคุณไปก่อน”
หลังจากถอดหมวกทรงสูงของเขาและโค้งคำนับ ทันใดนั้นประตูมิติก็ปรากฏขึ้นด้านหลังไกด์
เหมือนเมื่อก่อน ผมไม่เห็นลักษณะในใบหน้าอื่นๆของเขาเลย นอกจากปากของเขา
ผมก้มหัวให้เขา
“ขอบคุณจริงๆ สำหรับทุกสิ่ง”
และผมก็ขอบคุณเขา
ผมรู้สึกเหมือนรอยยิ้มของเขาหายไปในวินาทีนั้น แต่มันก็กลับมาเป็นปกติเกือบจะในทันที
“มันเป็นงานของฉันอยู่แล้ว”
-หลังจากที่ไกด์ผ่านเข้าประตูไปแล้ว ก็หายตัวไปอย่างสมบูรณ์
ทันทีหลังจากนั้น เสียงของการหารือก็ดำเนินต่อ
ผมพยายามยืนขึ้นในลักษณะที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด
เมื่อทุกคนจับจ้องมาที่ผม ผมก็เริ่มออกคำสั่ง
“นี่เป็นโอกาสที่ดี เราจะโจมตีพวกเขาก่อน ทุกคน เริ่มการเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้”
เหล่าทหารตกอยู่ในความตกใจ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองก็เช่นกัน
“นายท่านของฉันนี่มันประมาทเกินไปแล้ว นี่คือโจรสลัดที่มีชื่อเสียงที่ อัศวินจำนวนมากถูกสังหารด้วยมือของเขา และเราไม่มีอัศวินของเบนฟิลด์แม้แต่นายเดียว”*1
ผมไม่มีอัศวินในอาณัติ
และแม้ว่าจะมี ก็ไม่รับประกันว่าพวกเขาจะสามารถสร้างความแตกต่างได้
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
ถ้าไกด์เป็นคนจัดการเรื่องนี้ อย่างนั้นไม่มีทางที่ผมจะแพ้
“ใครสนใจเรื่องนั้นกัน? ผมบอกคุณแล้วว่าเราจะทำอะไร ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อม”
เจ้าหน้าที่ดูราวกับว่าพวกเขายังมีอะไรจะพูด แต่ก็เงียบไป คงจะจำได้ว่าผมเคยกำจัดคนที่คัดค้านผมไปจำนวนมาก
ใช่… แค่หุบปากแล้วทำตามคำสั่งของผม
ผู้ที่ติดตามผมได้รับการปฏิบัติอย่างดี
และบรรดาผู้ที่ต่อต้านจะถูกฆ่า
“เราจะใช้ทุกสิ่งที่เรามีในการต่อสู้ครั้งนี้ ส่วนผมจะขับเอวิทเข้าร่วมด้วย”
ผู้บัญชาการกองกำลังของผม… หรือคือหนึ่งในชายที่ถูกขับไล่โดยกองทัพจักรวรรดิคัดค้านเรื่องนี้
“ท่านลอร์ด ท่านจะร่วมสู้ด้วย? มันไม่สมเหตุสมผลเลย”
“ผมจะไปเป็นทีมบุกทะลวง ผมตัดสินใจแล้วไม่ต้องห่วง จงเชื่อมันในตัวผม… ต่อจากนี้ไป เรามาสนุกกับการล่าโจรสลัดกันเถอะ”
ไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการเล่นเกมที่คุณรู้อยู่แล้วว่ากำลังจะชนะ
โจรสลัดเหล่านี้มาที่นี่เพื่อมอบขุมสมบัติมหาศาลให้ผม
แน่นอนผมจะต้องต้อนรับอย่างสุภาพ
“—เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้”
◇ ◇ ◇
ไบรอันกำลังกระสับกระส่ายอยู่ที่คฤหาสน์
อามากิ รายงานสถานการณ์
“เอวิทถูกส่งไปยังยานอวกาศเรียบร้อยแล้ว ในไม่ช้ามันจะถูกบรรจุลงยานประจัญบานที่นายท่านจะขึ้น”
ไบรอันบีบหัวตัวเอง
“ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้! ในที่สุดดินแดนเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่กลับมีโจรสลัดอวกาศบุกเข้ามา”
การแสดงออกของอามากิไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ดูเหมือนเธอจะกังวลอยู่เช่นกัน
“ตอนนี้เรายังไม่แพ้ และการตัดสินใจของนายท่านก็ไม่ผิด จากข้อมูลที่เราได้รวบรวมเกี่ยวกับโจรสลัด ถึงแม้ว่าเราจะยอมแพ้ มันก็ไม่มีประโยชน์ ฉันได้แจ้งจักรวรรดิไปแล้ว ทางนั้นกำลังส่งกองกำลังมา”
ไบรอันส่ายหัว
“สายไปแล้ว. จะเกิดอะไรกับเราถ้าพวกมันโจมตีด้วยกองกำลังขนาดนั้น”
กองทัพหลักได้รับการติดต่อและส่งกองกำลังตอบโต้กลุ่มโจรสลัดที่บุกรุกพื้นที่จักรวรรดิ
การตอบสนองของพวกเขารวดเร็ว แต่จากที่คำนวนไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ช้าเกินไป
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อาณาเขตจะถูกทำลาย และกองทัพจะมาถึงและเห็นเพียงดาวเคราะห์ที่ถูกทำลาย โดยโจรสลัดที่ได้หลบหนีไปแล้ว
ไบรอันบ่น
“ในที่สุดชื่อของเบนฟิลด์ก็กำลังจะฟื้นคืนความรุ่งโรจน์ในอดีต ถ้าเพียงแต่ลอร์ดเลียมเกิดเมื่อศตวรรษก่อน”
ไบรอันผู้ซึ่งตั้งความหวังไว้กับเลียมกล่าวอย่างโกรธแค้นต่อพวกโจรสลัด
◇ ◇ ◇
ที่ท่าจอดยาน.
มีชายคนหนึ่งเฝ้าดูกองเรือเบนฟิลด์
เขาคือไกด์
เขาสวมใส่ชุดปกติแม้ในอวกาศ
เมื่อยืนอยู่บนยานอวกาศ เขาเริ่มหัวเราะเยาะภาพลักษณ์ของเลียมที่กำลังเตรียมตัวอย่างเร่งรีบ
“ไม่คิดว่าเขาเชื่อฉันจริงๆตอนที่ฉันบอกเขาว่านี่คือของขวัญ ช่างเถอะ…ตราบใดที่มันน่าสนใจ ฉันหวังว่าเขาจะถูกจับและกลายเป็นของเล่นของโจรสลัดซักคนหนึ่ง”
ไกด์ไม่ได้บอกเลียมถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด
เขาไม่ได้บอกเขาว่ากองเรือโจรสลัดของโกอาซแข็งแกร่งกว่ากองเรือทั่วไปมาก
ความลับของความแข็งแกร่งนั้นอยู่ในกล่องที่โกอาสเก็บเอาไว้กับตัวตลอดเวลา
มันเป็นแหล่งเงินทุนที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับโกอาส
ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไม่สิ้นสุดนี้โกอาสก็เสริมแกร่งให้กับกองกำลังของเขา
ไม่นับทักษะของลูกเรือ วัดแค่คุณภาพของอุปกรณ์ซึ่งไม่ได้ต่างจากรุ่นใหม่ล่าสุด
แถมในการต่อสู้ครั้งนี้ โจรสลัดก็มีจำนวนมากกว่ามหาศาลยิ่งทำให้ได้เปรียบ
“สุดท้ายเขาก็รู้สึกขอบคุณฉัน…ฉันตั้งตารอที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในภายหลัง คำขอบคุณของเขาจะจางหายไปและถูกแทนที่โดยความเกลียดชัง และทุกสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขจะถูกเผาต่อหน้าเขาในขณะที่เขาจมอยู่ในความเศร้าโศกและสิ้นหวัง สิ่งนี้จะทำให้ฉันพอใจอย่างแน่นอน”
ไกด์กำลังรอให้ชีวิตของเลียมพังทลาย
นอกขอบเขตการมองเห็นของเขา มีแสงเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น และมุ่งหน้าไปยังเอวิท ซึ่งกำลังบรรทุกเข้าสู่ยานประจัญบาน
มันเข้าไปข้างในเอวิทอย่างรวดเร็วก่อนที่ไกด์จะสังเกตเห็น
ไกด์เริ่มกางแขนออกกว้าง
“ฉันตั้งตารอว่าผลจะเป็นอย่างไร! เลียม! ถึงเวลาที่คุณต้องรู้ความจริงของการกลับชาติมาเกิดของคุณ!”
ทำไมเขาถึงพาเลียมเข้ามาในจักรวาลนี้?
ทำไมชีวิตก่อนหน้านี้ถึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด?
เวลาที่ไกด์รอคอย – ช่วงเวลาที่เขาสามารถบอกเลียมได้ทุกอย่าง ได้มาถึงแล้ว
——————————————-
*1 อัศวิน เป็นกำลังรบระดับสูงซึ่งขุนนางส่วนใหญ่มีไว้เพื่อปกป้องอณาจักร เป็นกำลังรบระดับที่สามารถใช้1ต้าน100 หรือ1000 ได้ด้วยตัวคนเดียว
(คิดซะว่าเหมือนคนขับกันดั้มอะไรแบบนั้น)
MANGA DISCUSSION