(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 7
พ่อค้าผู้ชั่วร้าย
พ่อค้าเอจิโกะยะ*1 เป็นที่มาของความชั่วร้าย…
ไม่คุ้นกับวลีนี้บ้างเหรอ? (TL: ไม่อ่ะ แต่เดี๋ยวจะอธิบายไว้ท้ายตอนละกัน)
เมื่อพูดถึงวลีนี้ มันสื่อภาพลักษณ์ของเอจิโกะยะในอดีต
พวกเขาเป็นกลุ่มชั่วร้ายที่ขึ้นชื่ออย่างยิ่งจนมีตำนานเป็นของตัวเอง
ผมต้องการสิ่งนั้น
ก่อนที่ผมจะเป็นลอร์ดผู้ชั่วร้ายได้อย่างแท้จริง ผมต้องการ ‘เอจิโกะยะ’ ของตัวเอง
ขอแนะนำให้รู้จักผู้ชายคนนี้
ชายร่างท้วมและมีหนวดมีเคราซึ่งดูเหมือนพ่อค้าชั่วร้ายนั่งอยู่ข้างหน้าของผมคือ โทมัส เฮนฟรีย์[Thomas Henfrey]
หลังจากที่ผมดูแลและพัฒนาอาณาเขตของผมอยู่นั้น เขาก็เข้ามาหาผมโดยตั้งใจจะทำธุรกิจร่วมกัน
เขาเป็นพ่อค้าที่จัดการกับสินค้าระหว่างดวงดาว
ตอนแรกผมไม่คิดว่าพ่อค้าที่เดินทางท่องเที่ยวในอวกาศมีความจำเป็นใดๆ แต่ผมนั้นคิดผิด
พวกเขาบินไปมาระหว่างดวงดาว ไม่เพียงแต่ในจักรวรรดิเท่านั้น แต่ยังบินไปยังดาวในระบบกลุ่มดาวอื่นๆ เพื่อซื้อและขายสินค้าด้วย
พวกเขาซื้อทรัพยากรและสินค้าที่พบเฉพาะในดาวที่อยู่ห่างไกล และขายมันในดินแดนของผม
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้แตกต่างจากพ่อค้าคนอื่น ๆ ที่ทำธุรกิจในดินแดนของผม
เขาเป็นพ่อค้าคนพิเศษสำหรับบ้านหลังนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นพ่อค้าคนสำคัญสำหรับดินแดนของผมและครอบครัวแบนฟิลด์
ขณะที่เรากำลังนั่งอยู่ด้วยกันที่ห้องรับแขก ผมถามโธมัสว่า
“คุณเอาขนมสีเหลืองที่ผมชอบมาหรือเปล่า?”
หลังจากเช็ดเหงื่อแล้ว โธมัสก็มอบกล่องที่เต็มล้นด้วยทองคำแท่งให้ผม
“แน่นอนครับ ได้โปรดสนุกกับมันนายท่าน”
เมื่อผมหยิบมันขึ้นมา น้ำหนักที่หนักมากในมือก็ทำให้ใบหน้าของผมมีรอยยิ้ม
“พ่อค้าเอจิโกยะเป็นที่มาของความชั่วร้ายอย่างแท้จริง!”
“ไม่ ไม่ ท่านลอร์ด กลุ่มของฉันถูกเรียกว่า ‘หอการค้าเฮนฟรีย์’ ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้ว”
เมื่อการทักทายตามปกติของเราสิ้นสุดลง ผมรู้สึกว่าเขาเป็นพ่อค้าที่ชั่วร้ายที่เข้ากันได้ดีกับผม
ผมต้องการพ่อค้าที่ทุจริตอย่างโธมัสอยู่เคียงข้าง
หลังจากได้รับสินบนแล้ว ผมก็เริ่มฟังคำขอของเขา
“แล้วคุณต้องการอะไร”
“ฉันกำลังวางแผนที่จะผจญภัยไปในพื้นที่อันตราย และฉันต้องการยืมกองเรือของคุณมากับฉันด้วย”
เขาต้องการยืมทหารของผมไปเป็นหน่วยคุ้มกัน
ผมคิดว่าแผนการชั่วร้าย ที่เขาต้องการทำขึ้นนั้นคงต้องใช้กำลังทหารในการทำให้บรรลุผล
ซึ่งผมคิดว่าผมสามารถอนุญาตได้ตราบใดที่มันทำกำไร
“คุณกำลังจะไปที่อันตรายอย่างงั้นรึ?”
“จุดหมายปลายทางไม่ได้อันตราย แต่มีฐานโจรสลัดมากมายระหว่างการเดินทางไปที่นั่น มีรายงานหลายฉบับที่บอกว่ามีพ่อค้าถูกโจมตีเรื่อยๆ”
โจรสลัดอวกาศเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ
พวกเขาเป็นกลุ่มที่รวมคนประหลาด
พวกเขาเป็นกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งบางคนเป็นทหารหนีทัพ และบางคนเป็นหัวขโมยที่หลบหนีไปหลังจากขโมยเทคโนโลยีทางการทหาร
บางครั้งพวกเขายังทำงานเป็นทหารรับจ้างเนื่องจากประสบการณ์การต่อสู้ที่มากมาย
พวกเขาน่ารำคาญมาก
หลังจากที่ผมหันไปมองอามากิซึ่งอยู่ข้างหลัง ผมรู้สึกว่าเธอรู้ว่าผมต้องการจะพูดอะไร
“หากเป็นเวลาเพียงสามเดือน เราสามารถเตรียมเรือได้หลักร้อยลำทันที หากต้องการมากกว่านั้นคงต้องรีบเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ”
ผมยิ้มแล้วหันกลับไปหาโทมัส
“อย่างที่เธอบอก ไม่เป็นไรใช่ไหมคุณโทมัส?”
โทมัสดูโล่งใจ และยิ้มอย่างมีความหมายในขณะที่ดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
“โอ้… ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนคุณยังไง ไม่สิ ฉันจะเตรียมขนมสีเหลืองให้คุณในครั้งต่อไป”
“แน่นอน แต่ที่สำคัญกว่านั้น เราจะสามารถทำกำไรได้หรือไม่”
ถ้าเขาเกิดลังเล ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะให้กองกำลังของผมกับเขา
“แน่นอนที่สุด!”
“เยี่ยมมาก! อามากิ เริ่มเตรียมการได้เลย”
“รับทราบค่ะ”
พยายามทำเงินให้ดีที่สุดเอจิโกะยะของผ- ไม่สิ หอการค้าเฮนฟรีย์ ของผม
◇ ◇ ◇
เรือขนส่งขนาดใหญ่ที่โทมัสใช้ จอดทอดสมออยู่ที่ท่าเรือ
หลังจากเข้าสู่วงโคจรโดยลิฟต์อวกาศแล้ว โธมัสกำลังเดินผ่านเส้นทางไร้แรงโน้มถ่วงเพื่อขึ้นยานของเขา
เขาถูกล้อมรอบด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้คุ้มกันในขณะที่เขาถือกระเป๋าเดินทางของเขา
หนึ่งในคนของเขาเอ่ยขึ้นในขณะที่มองดูดาวเคราะห์ในระยะไกล
“อาณาเขตของบ้านแบนฟิลด์ได้พัฒนาไปมากเมื่อเร็วๆนี้ เด็กคนนั้นน่าทึ่งมากด้วยอายุแค่นี้”
ขณะที่โธมัสทำธุรกิจ ดูเหมือนเขาจะแวะมาที่อาณาเขตของบ้านแบนฟิลด์โดยเฉพาะบ่อยครั้ง
พูดตรงๆ ดาวดวงนี้ไม่ได้มีความพิเศษใดๆ แต่มันเป็นดาวเคราะห์ที่มีระดับการเติบโตแบบทวีคูณในทศวรรษที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
“เขาแตกต่างจากขุนนางที่ฉันเคยเห็นมาเล็กน้อย เขาดูแปลกไปหน่อย แต่เขาเป็นผู้ปกครองที่ดี”
โธมัสคิดว่าเด็กชายที่ขอ ‘ลูกกวาดสีเหลือง’ อยู่เสมอเป็นผู้ปกครองที่มีคุณธรรม
บรรยากาศรอบตัวของเขาบอกแบบนั้น
แม้ว่าเขาเองจะสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับ…
“แต่ทำไมเขาถึงขอทองคำ? มันไม่ใช่ทรัพยากรที่หายากในดินแดนของเขาใช่ไหม?”
โทมัสยังงงงวยเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน ทำไมต้องเป็นทอง? ก่อนหน้านั้นฉันพยายามเสนอมิธริลและอัญมณีเวทมนตร์แก่เขามาก่อน
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นทองคำ มันกลับทำให้เขามีความสุข”
“บางทีเขาอาจไม่รู้?”
เหตุผลที่เลียมถามหาทองคำอยู่เสมอ เพราะเขามองว่าทองคำมีค่าและมีราคาแพง
ทำไมทองคำถึงมีราคาแพง? นั่นเป็นเพราะว่าบนโลก การมีอยู่ของมันมีอยู่อย่างจำกัด
ในจักรวาลนี้มันก็ยังมีราคาสูงอยู่ก็จริง แต่ก็มีดาวเคราะห์ทอง ที่สามารถพบมันได้ในปริมาณมาก
ดังนั้นทรัพยากรและโลหะบางชนิดมีค่ามากกว่าทองคำ เช่น มิธริล เป็นต้น
มันเป็นเงินชนิดหนึ่งที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ถือว่ามีประโยชน์และมีค่ามากกว่าทองคำมาก
“ไม่หรอก เขาเป็นคนถ่อมตัว”
เขาจ่ายสินบนเพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาล ที่มาพร้อมกับการเป็นพ่อค้าคนพิเศษของบ้านแบนฟิลด์
เขารู้สึกน้ำตาไหลเมื่อคิดดังนั้น
หลังจากเดินไปอีกเล็กน้อย ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยาน
“เขาทำได้ดีทีเดียว”
โทมัสมองย้อนกลับไปที่ยานอวกาศ
ท่าเรือที่สร้างขึ้นใหม่นี้เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับการใช้งาน เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพ่อค้า
“ฉันได้ยินมาว่าเขาใช้ภาษีที่เขาได้ส่วนใหญ่ไปกับการลงทุน และดูเหมือนว่าจะเป็นความจริง น่าทึ่งมากที่เขาทำสำเร็จด้วยวัยแค่นี้
ถ้าบ้านแบนฟิลด์ไม่ได้เป็นหนี้มากขนาดนี้ สถานที่แห่งนี้จะน่ามหัศจรรย์ขนาดไหน”
เมื่อโทมัสพึมพำคำเหล่านี้เสร็จ เขาก็หันกลับมามองคนของเขา
“การซื้อขายครั้งนี้อันตรายกว่าปกติ แต่มันจำเป็นสำหรับบ้านแบนฟิลด์ มาทำเงินกันเยอะๆ และสนับสนุนพวกเขาในฐานะพ่อค้ากันเถอะ”
การซื้อขายครั้งนี้มีความสำคัญต่อบ้านเบนฟิลด์ แต่โธมัสไม่ได้ทำเพื่อตัวบ้านเบนฟิลด์
โธมัสทำถึงขนาดนี้เพราะเขาต้องการช่วยเลียม
—ตัวเขาไม่ได้เป็นพ่อค้าที่ชั่วร้ายเลยสักนิด
◇ ◇ ◇
เป็นการยากที่จะคาดเดาว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ในวัยเด็ก ผมฝันถึงรถยนต์ที่บินได้ในอนาคตอันไกลโพ้น ในขณะที่เทคโนโลยีต่างๆพัฒนาขึ้น
แต่หลังจากที่ผมโตขึ้น สามัญสำนึกก็บอกให้ผมรู้ว่ารถยนต์ที่บินได้ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะคาดหวังให้เกิดขึ้น
แม้ว่าตอนนี้ผมจะอาศัยอยู่ในอาณาจักรอวกาศ แต่วิวตึกระฟ้าที่สามารถมองเห็นได้จากโรงแรมหรูก็ไม่ต่างจากชีวิตที่แล้วของผมมากนัก
อันที่จริง มันพัฒนาไปไกลกว่าเมืองใหญ่ที่ผมเคยอยู่มาก่อน
แม้ว่าจะมีอาคารสูงหลายแห่ง แต่คนก็ไม่ได้เยอะมากจนแออัด
ไม่ต้องพูดถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่รอบตัวเรา มีดินแดนที่ยังไม่พัฒนามากมาย
“อาณาเขตของผมแทบไม่พัฒนาเลย…”
ขณะที่ผมบ่น อามากิซึ่งอยู่ใกล้ๆ ก็พูดขัดขึ้น
“นายท่าน เมื่อเทียบกับตอนที่ท่านเข้ายึดครองครั้งแรก พื้นที่นี้เติบโตขึ้นอย่างมาก มันกำลังพัฒนาในอัตราที่คนส่วนใหญ่จะไม่เชื่อถ้าเขาเห็นตัวเลขเหล่านี้”
“แต่นั่นเป็นเพียงตัวเลข และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะสื่อ ผมกำลังพูดถึงบางสิ่งที่แตกต่างออกไป เกี่ยวกับความรู้สึกของแฟชั่นของคนที่นี่มันแย่มาก”
ผมเคยลองเดินดูรอบๆ บริเวณมาก่อน และผมก็ตกใจมากกับสิ่งที่เห็น
ผู้คนเริ่มใช้จ่ายเงินมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
น่าจะเป็นเรื่องปกติที่สามารถเห็นสาวน่ารักๆ ออกไปซื้อของใช่ไหม?
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
คุณเห็นสไตล์ที่ผมใช้กับอามากิไหม… ผมพบว่าตัวเองชอบผู้หญิงที่มีการแต่งตัวสไตล์เรียบร้อย
ถึงแม้ว่าผมจะมองหาผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูและดูดี แต่ทุกคนกลับแต่งตัวเหมือนสาวแกล*2หรือ โกธิคโลลิต้า* 3
ผมไม่รู้สึกพึงพอใจเลยเพราะพวกเขาไม่ใช่สเป็คของผม!
“เราไม่มีความคืบหน้าด้านนั้นเลย”
“คงต้องมีการแนะนำหลักสูตรแฟชั่น เราสามารถใช้สมมติฐานที่ว่า ‘นี่จะเป็นสิ่งที่ท่านลอร์ดชื่นชอบ’”
ก่อนอื่น วัฒนธรรมแฟชั่นนั้นแตกต่างกันไประหว่างดวงดาว
แม้พวกเขาทั้งหมดมีจุดร่วมที่เรียกว่า ‘จักรวรรดิ’ แต่พวกมันก็ยังแตกต่างกันไป
ดาวเคราะห์บางดวงเป็นสไดล์อุดมคติของผม แต่ก็มีอีกหลายดวงที่วัฒนธรรมแฟชั่นดูแปลกๆ
“ผมจะเปลี่ยนสิ่งนี้ยังไง? ผมควรเริ่มนำนักออกแบบแฟชั่นเข้ามาและเริ่มลงทุนในด้านสุนทรียศาสตร์?
มันคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่ถ้าผมปล่อยให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไป”
แม้ชุดปกติจะเป็นที่เข้าใจได้ แต่แฟชั่นชายหาดในพื้นที่ กลับมีแต่ชุดว่ายน้ำแบบรัดรูปเต็มตัว
คิดว่าผมจะปล่อยให้สถานการณ์โง่ ๆ แบบนี้ดำเนินต่อไปงั้นเรอะ! ไม่มีทางที่ผมจะยอมรับในฐานะผู้ปกครองสถานที่นี้หรอก
“เอานายแบบและเซเลปเข้ามา! ถ้าประชาชนได้ดูสิ่งสวยงาม ความคิดของพวกเขาอาจจะเปลี่ยนไป!”
อามากิมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยในขณะที่ผมเริ่มพูดถึงแผนการต่างๆ ที่มีอยู่ในใจ
หุ่นยนต์สาวใช้แสดงสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“น่าเสียดายที่เรายังมีหนี้อยู่มาก รายได้จากภาษีมากขึ้นพร้อมกับการพัฒนา แต่ในทางกลับกัน จำนวนการชำระคืนหนี้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”
หนี้ก้อนโตที่บ้านเบนฟิลด์ถือครองอยู่
ผมไม่สามารถทำอะไรหลายอย่างเพราะหนี้ก้อนนี้
ยานอวกาศบินผ่านท้องฟ้าเมื่อผมหันไปทางหน้าต่าง
เมื่อไหร่กันนะที่ผมชินกับสถานที่ท่องเที่ยวล้ำยุคเช่นนี้?
แน่นอนว่ามันค่อยๆ เปลี่ยนไปตั้งแต่ผมเข้ามาปกครองมันตอนอายุห้าขวบ แต่ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงาเล็กน้อย
◇ ◇ ◇
ประตูสู่มิติอื่นเปิดออก
เมื่อไกด์กลับมายังจักรวาลนี้และยืนยันสภาพปัจจุบัน เขาเกือบจะสาปแช่ง
“…ถ้ายังเป็นแบบนี้เขาคงไม่ได้ทำอะไรแน่”
ไกด์คิดว่าเลียมจะทำอะไรตามใจตัวเอง แต่เขาไม่ได้นอนกับผู้หญิงหรือดื่มเหล้าแม้แต่ครั้งเดียว
เขาไม่ดื่มเหล้าเพราะอายุร่างกายของเขา
นอกจากนี้ เขายังหลีกเลี่ยงผู้หญิงเพราะความบอบช้ำในอดีต และเนื่องจากความจริงที่ว่าไม่มีใครถูกใจเขาเลย
ดังนั้นก่อนที่เขาจะรู้ตัว เขาก็แค่ทำงานเป็นผู้ปกครองที่ดีตามปกติ
“นี่แม่งโคตรน่าผิดหวัง ฉันคิดอยู่แล้วเชียวว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น แต่ฉันก็ยังรู้สึกถูกหักหลังเล็กน้อย
ทำไมคุณถึงเป็นลอร์ดที่มีคุณธรรมเช่นนี้เมื่อคุณตั้งเป้าที่จะเป็นวายร้าย?”
นอกจากนี้ เขายังใช้ชีวิตแบบประหยัดและใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย เพราะเขายังคงมีความรู้ด้านเศรษฐกิจจากชีวิตที่แล้วของเขา
ที่แย่ไปกว่านั้น เขายังโอเคกับชีวิตของเขาอย่างที่เป็นอยู่
ส่วนหนึ่งของจิตใจของเขาส่งความรู้สึกขอบคุณมาที่ไกด์โดยไม่รู้ตัว
และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือความนิยมของเลียมในหมู่ประชาชน และความกตัญญูที่พวกเขามอบให้กับเขา
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับไกด์
ปวดท้อง ปวดหัว คลื่นไส้ และน่าสะอิดสะเอียน ทั้งหมดไกด์สามารถทนได้ แต่เขาก็ยังอยากจะหลีกเลี่ยงถ้าเป็นไปได้
สำหรับตอนนี้ มันยังโอเคสำรับความกตัญญูของเลียม
เพราะในท้ายที่สุดไกด์จะโยนเลียมไปที่หลุมลึกที่ไร้ซึ่งความหวังและทำให้เขาตกนรก
แต่ว่าไกด์ไม่ยอมให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแบบนี้ต่อไป
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ชีวิตของเลียมก็จะจบลงด้วยการที่เขาถูกยกย่องว่าเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่
“นี่มันน่าผิดหวัง ฉันจะมีความสุขถ้าทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องโกหก”
ผู้คนจะสร้างความไม่พอใจต่อเผด็จการเลียม
ทหารจะก่อกบฏ
สาวสวยที่เขารวบรวมไว้จะพยายามฆ่าเขา ไกด์ต้องการเห็นฉากแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนต่างยกย่องเขาอย่างมาก ว่าเป็นทั้งคนดีและเป็นผู้ปกครองที่ดีเนื่องจากวิถีชีวิตที่ติดดินและการใช้ชีวิตของเขา
ทหารมีความจงรักภักดีและจะยอมทำทุกอย่างภายใต้กระบวนการคิดที่ว่า “ถ้าเพื่อท่านลอร์ดแล้วล่ะก็…”
และสุดท้ายไม่มีผู้หญิงรายล้อมเขาเลย เป็นไปไม่ได้ที่ไกด์จะจัดการกับความสัมพันธ์ของมนุษย์เพื่อกระตุ้นความชอกช้ำในอดีตของเขา
เขาตั้งใจจะเป็นจอมปีศาจจริงๆไหมเนี่ย?
ไกด์ดูมาพอแล้ว ถึงเวลาโยนเลียมผู้ผิดหวังลงสู่ขุมนรก
“อย่างน้อยที่สุด เรามาเผาอาณาเขตที่เขาทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างมันขึ้นมากันเถอะ ไหนดูซิ… โอ้! มีโจรสลัดอวกาศอยู่แถวนี้ซะด้วย แบบนี้ยิ่งง่าย”
ควันดำเริ่มเปล่งออกมาจากไกด์ที่หงุดหงิดในขณะที่มันวนไปรอบ ๆ ตัวเขา
เขาเริ่มพูดอย่างเย็นชา
“อย่างน้อยก็นำความบันเทิงมาให้ฉันในตอนจบ จนกว่าจะถึงเวลานั้น เพลิดเพลินกับสิ่งที่คุณสร้างขึ้นไปก่อนเถอะ”
◇ ◇ ◇
บนดาวเคราะห์ที่ห่างไกลจากอาณาเขตของเบนฟิลด์
ขีปนาวุธหลายลูกพุ่งชนดาวเคราะห์ ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า
พื้นผิวดาวถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้โจรสลัดคนหนึ่งกำลังหัวเราะด้วยความวิกลจริต ในขณะที่ดวงดาวถูกเผาต่อหน้าเขา
ผู้บัญชาการกองเรือโจรสลัดที่แข็งแกร่งกว่า 30,000 ลำ เป็นโจรสลัดที่รู้จักกันในชื่อ โกอาส[Goaz] เขาเป็นผู้ชายป่าเถื่อน
มีเคราดำหนา ทรงผมสกินเฮดเต็มไปด้วยบาดแผล และมีกล้ามเป็นมัดๆ
ปากของโกอาซโค้งด้วยรอยยิ้มกว้าง
เขาดื่มเหล้าที่ถืออยู่ในมือซ้ายขณะมองดูช่วงเวลาที่ชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนหายไป
“ช่วงเวลาแบบนี้แหละรสชาติของเหล้าถึงจะดีที่สุด!”
พวกโจรสลัดต่างเกรงกลัวโกอาซที่กำลังหัวเราะเสียงดัง
แต่ก็มีหนึ่งในนั้นก็เปล่งเสียงถามออกมา
“บอส เราต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
ทันทีที่ได้ยิน โกอาสวางมือที่ใหญ่ผิดปกติของเขาบนหัวของโจรสลัดที่กำลังตั้งคำถาม
โจรสลัดในบริเวณใกล้เคียงหันหน้าหนี ในขณะที่คนอื่นๆ มองด้วยสีหน้าเวทนา ‘ไอ้โง่เอ้ย’
“ใครอนุญาตให้มึงออกความเห็นกันวะ? อย่ามาขวางความสนุกของกู”
“เดี๋ยว! บอส ได้โปร-!”
หัวของลูกน้องคนนั้นถูกโกอาสบีบจนแหลกในทันที
มือของเขาถูกลูกน้องอีกคนเช็ดล้างทันทีหลังจากนั้น
ขณะที่คนเริ่มเคลียร์ศพและเริ่มทำความสะอาด โกอาสยังคงเฝ้าดูดาวเคราะห์ที่เขาเพิ่งทำลายไปบนจอมอนิเตอร์ของยาน
มีกล่องสีทองในมือขวาของเขาซึ่งเขาจับอย่างระมัดระวัง
เขาเก็บกล่องที่มีลวดลายแปลกๆนี้ไว้กับตัวตลอดเวลา
ปกติแล้วเขาแค่พกมันไว้ในซองหนังแบบพิเศษ
เขาลูบกล่องครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่ากลัวมันจะหายไปในอากาศ
“ครั้งนี้มันก็เป็นงานง่ายๆเช่นเคย”
ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาได้ทำลายล้างดาวเคราะห์และคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย
ผู้ชายคนนี้เป็นจอมวายร้ายที่แท้จริง
โกอาสเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพิเศษ เพราะเงินรางวัลก้อนโตสำหรับค่าหัวของเขา
หากมีใครสามารถจัดการโกอาสและเหล่าโจรสลัดของเขาได้ พวกเขาก็จะได้รับเงินจำนวนมหาศาลพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปตลอดชาติ
เขาเป็นคำจำกัดความของอันตราย
ลูกน้องผู้ช่วยของโกอาสเอ่ยเรียกเขา
“เราทำการสังหารในครั้งนี้ไปมาก แล้วคุณจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้? คุณมองหาคนมาแทนที่แล้วหรือยัง ตอนนี้เธอใกล้จะพังแล้ว”
โกอาสยิ้ม
ฟันในรอยยิ้มนั้นเหลืองและสกปรก
“จริงสิ ฉันเล่นกับเธอมานานแล้ว หวังว่าฉันจะได้ของเล่นใหม่เร็วๆ นี้”
ลูกน้องยิ้มตอบ
“ในฐานะคนที่กลายมาเป็นของเล่นของบอส มันวิเศษมากที่เธอสามารถรักษาความรู้สึกของตัวเองได้นานขนาดนั้น
ตอนนี้เราจะไปที่ไหนกันต่อดีครับบอส?”
ทันทีที่โกอาสเริ่มไตร่ตรองคำถามนี้ ควันสีดำก็เริ่มม้วนรอบตัวเขา
แต่แค่ชั่วพริบตาเดียว มันก็หายไป
“หืม…เดี๋ยวนะ”
“ครับบอส?”
“ดูเหมือนจะมีดินแดนที่เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้ ฉันคิดว่ามันถูกปกครองโดยเด็กเหลือขอที่ชื่อเบนฟิลด์?
ฉันได้ยินมาว่าเขาทำได้ดีแม้จะอยู่เขตชายแดนของจักรวรรดิ”
ผู้ช่วยก็จำข่าวลือนี้ได้
“ใช่…ฉันก็ได้ยินมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นเหยื่อรายต่อไปของเราคือเขตแดนของเบนฟิลด์?”
โกอาสไม่เกรงกลัวบรรดาขุนนาง
เพราะโกอาสมีกองกำลังจำนวนมหาศาล
“สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้สนุกคือการทำลายคนที่ควรค่าแก่การทำลาย หวังว่ามันคงจะไม่น่าเบื่อเกินไป”
ผู้ช่วยตอบรับ
“งั้นก็ยืนยัน… เหยื่อรายต่อไปของเราคือเด็กเหลือขอเบนฟิลด์”
โกอาสเลียริมฝีปากของเขา
“ฉันจะทำลายเด็กคนนั้นให้ละเอียด”
——————————————————-
ปล. หลังจากอ่านอิ้งกลับไปกลับมาหลายรอบ สุดท้ายก็ไปอ่านญี่ปุ่น…
ทำไมเนื้อหามันแตกต่างกันงี้ล่ะ?
งั้นถือโอกาสนี้ดำน้ำเป็นสไตล์ผมแล้วกันต่อจากตอนนี้ไป เหอะๆ
——————————————————-
เชิงอรรถแบบงูๆปลาๆ
*1 พ่อค้าเอจิโกะยะ – เป็นพ่อค้าที่ชั่วร้ายในอดีต ตามบทละครมักจะเห็นเขาวางแผนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงย้อนกลับไปในสมัยเอโดะ พ่อค้าจำนวนมากใช้ชื่อร้านของพวกเขาจากจังหวัดที่พวกเขามาจาก Echigo หรือ Echigonokuni เป็นชื่อเก่าของจังหวัด Niigata ดังนั้น Echigoya จึงเป็นพ่อค้าจากจังหวัดนั้น แต่มีห้างสรรพสินค้าชื่อเอจิโกะยะ เช่นกันก่อนจะเปลี่ยนเป็น มิซึโกชิ (Mitsukoshi)
*2 สาวแกล – มักถูกมองว่าเป็นสาวรักสนุก พูดคุยเก่ง และอิงจากสไตล์ตะวันตก แกลจากโตเกียวเป็นวัฒนธรรมย่อยแบบคลาสสิกที่รู้จักกันจากผิวสีแทนเข้มและผมสีบลอนด์ ความหมายของคำว่า Gal ตามภาษาอังกฤษก็คือ หญิงสาว ส่วนใหญ่จึงเป็นสไตล์ผู้หญิง แต่ก็มีผู้ชายเข้าร่วมตามสไตล์นี้ด้วย แกลมีจุดเเริ่มต้นในปลายทศวรรษที่ 1970 แต่ขึ้นถึงจุดสูงสุดในยุค 90 และต้นยุคปี 2000 สไตล์ได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่องค์ประกอบหลักของสไตล์แกลก็ยังคงอยู่ เช่นเดียวกับวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่นอื่น ๆ มีชุดย่อย ๆ ที่กว้างขวางมากมายขึ้นอยู่กับสไตล์และเพศ โดยมีรูปแบบมาตรฐานที่เรียกว่า Gyaru-kei
*3 โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) – จะประกอบด้วยสีขาวและดำบ่อยครั้งจะเห็นว่าเป็นสีดำ มีลูกไม้สีขาว ตกแต่งด้วยริบบิ้นและแต่งด้วยลูกไม้กระโปรงมีความยาวในระดับเข่า และอาจจะมีผ้าซับในแข็งๆ ด้านใน(Crinoline) หรือไม่ก็เป็นกระโปรงชั้นใน (Petticoat) ที่ช่วยทำให้กระโปรงพองออก อย่างแฟชั่นญี่ปุ่นถุงเท้าหรือถุงน่องแบบเหนือเข่า (Over-knee socks/stockings) เป็นที่นิยม เสื้อรัดรูปสีขาวหรือดำนั้นเป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับพวกเขา รองเท้าบู๊ท รองเท้า rockinghorse หรือรองเท้าที่มีสไตล์แบบเด็กๆ อย่างเช่นยี่ห้อ แมรี่เจน (Mary Janes) ช่วยทำให้การแต่งกายดูสมบูรณ์แบบขึ้น Victorian Blouse ที่มีขอบลูกไม้ มีจีบย่นก็เป็นที่นิยมในหมู่โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เช่นกัน