ฝึกทหาร
ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลแผนกลอจิสติกส์(จัดส่งทรัพยากร/สินค้า)ในเมืองหลวง
หลังจากจบการศึกษาจากสถาบันการทหารด้วยเกียรตินิยม ผมก็ได้รับการเลื่อนยศเป็นร้อยตรี
อันที่จริง แผนกนี้ไม่ใช่ที่ที่นักเรียนนายร้อยเกียรตินิยมจะมากัน
ไม่ใช่แผนกที่ดีที่สุด แต่ผมก็พอใจกับมัน
เพราะอะไรน่ะเหรอ?
–เพราะเพียงแค่ทำงานเอกสารที่นี่แค่ปีเดียว ผมจะได้รับการเลื่อนยศเป็นกัปตันกองยานทันที
และเมื่อครบสองปี ยศของผมก็จะถูกเลื่อนขึ้นเป็นร้อยเอก
ขุนนางสามารถก้าวหน้าในอาชีพการงานได้อย่างง่ายดายด้วยการทำงานนั่งโต๊ะในสถานที่ปลอดภัย
นี่มันยอดเยี่ยมมาก
และตอนที่ผมจะได้รับมอบหมายให้ประจำการหลังจากนี้ ผมจะสามารถใช้เวลาประจำการสี่ปีเพื่อผ่อนคลายในกองยานที่เทียเตรียมไว้ให้
การฝึกอบรมสำหรับทหารครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว หลังจากนี้ ที่เหลือก็คือชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยและงานราชการ
ขุนนางสามารถเข้าเรียนหลักสูตรที่ดีที่สุดและก้าวหน้าในชีวิตโดยไม่ต้องพยายามด้วยซ้ำ
สามารถยืนดูผู้ที่ดิ้นรนอยู่ด้านล่างพวกเขาอย่างมีความสุขจากระยะทางที่ปลอดภัย
นี่คือสิ่งที่ผู้ปกครองผู้ชั่วร้ายควรจะเป็น
ในช่วงการฝึกทหารคุณต้องใช้เวลาทั้งหมดในค่าย นั่นคือข้อบังคับ แต่ถ้าเลิกงานคุณสามารถกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมในเมืองหลวงได้
หลังจากเสร็จสิ้นตารางการทำงานตามเวลาปกติ ผมจะกลับออกจากค่ายทหารไปที่โรงแรมและใช้เวลาส่วนตัว
สิ่งนี้ยอดเยี่ยมมากเมื่อเทียบกับขุนนางที่ทำงานหนักในแผนกที่นิยม
ขณะที่ผมยังยุ่งอยู่กับงาน วอลเลซก็เรียกผม
“เฮ้ เลียม ดูเหมือนมีคนบุกเข้ามาในอาคารและเริ่มตะโกนร้องเรียน”
“ร้องเรียน? มีอะไรผิดพลาดงั้นเหรอ?”
แต่ใครจะเป็นคนทำพลาดล่ะ?
เราโยนงานหลายอย่างให้ปัญญาประดิษฐ์ พวกมันไม่น่าจะทำงานพลาด
งานบางอย่างต้องใช้มนุษย์ในการทำงาน ดังนั้นข้อผิดพลาดอาจมาจากพวกเราคนใดคนหนึ่ง
“ไม่… เขามาเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพัสดุที่คุณเป็นคนจัด -เลียม”
“…ห๊า?”
◇ ◇ ◇
แผนกลอจิสติกส์มักจะโดนดูถูกเพราะพวกเขาไม่ได้ออกรบในแนวหน้า
การใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อลดปริมาณงานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่โดนดูถูก
แต่ถ้าใช้มนุษย์อย่างเดียว ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงอย่างมาก
เมื่อคิดว่าจักรวรรดินั้นอวยพวกแนวหน้ายังไง ก็รู้สึกช่วยไม่ได้ที่พวกนั้นจะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า
“ไอ้พวกแนวหลังที่พึ่งพาแต่ปัญญาประดิษฐ์มันกล้าดียังไง ถึงมาปฏิเสธแบบคำร้องของฉัน!”
ผู้ที่มาก่อความโกลาหลตั้งแต่เที่ยงวันคือทหารยศพันเอก
แม้นายพลจัตวาจะเป็นคนออกหน้ารับเรื่อง แต่พันเอกก็ยังคงแสดงท่าทีหยาบคายต่อเขาเพราะเขามาจากตระกูลขุนนางที่เหนือกว่า
“ฉ-ฉันขอโทษ ผู้พัน เราจะแก้ไขในไม่ช้านี้ ได้โปรดใจเย็นๆก่อน”
เนื่องจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลในการทำงาน แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงในแผนกลอจิสติกส์ก็ยังไม่รู้เนื้องานทั้งหมด
ฝ่ายจักรวรรดิไม่ได้ให้คุณค่าแผนกนี้เพราะพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์มากเกินไป แผนกนี้จึงไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะเลือกหากคุณต้องการความรวดเร็วในการไต่ยศ
“นำไอ้คนงี่เง่าที่กำหนดเสบียงสำหรับกองยานของฉันมาเดี๋ยวนี้! ฉันจะสั่งสอนมัน!”
พันเอกหยิบแส้ขึ้นมาพร้อมยิ้มเหี้ยมเกรียม นายพลจัตวาเห็นแบบนั้นจึงรีบร้องห้าม
“ท่านผู้พันคุณทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าคุณทำแบบนั้น-”
“ฉันจะจัดการคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าที่จะต่อสู้ในแนวหน้าเป็นการส่วนตัว หรือว่าคุณต้องการโดนแทนเขา!”
พันเอกดูเหมือนเป็นคนที่ชอบทรมานผู้อ่อนแอ
นายพลจัตวาก้มหน้าถอนหายใจ
“อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนแล้วกัน”
พลจัตวาพูดขึ้น “เรียกผู้หมวดมานี่หน่อย” ได้ยินอย่างนั้น พันเอกตวัดแส้จนเกิดเสียงดัง
“โอ้? มันเป็นเด็กเหลือขอที่ยังอยู่ระหว่างการฝึก? ฉันจะแสดงให้เขาเห็น ว่าความเป็นจริงในกองทัพจักรวรรดิเป็นเช่นไร”
เมื่อเห็นผู้พันสบประมาทเด็กหนุ่ม นายพลจัตวาก็พึมพำ “เด็กสมัยนี้นี่ก็นะ-“
“…-ถ้าคุณสามารถปราบเขาลงได้จริง ๆ ฉันก็หวังว่าคุณจะสอนวิธีการของคุณให้ฉันด้วย”
“คุณพูดอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่า…ไม่มีอะไรหรอก”
จากนั้นก็มีเสียงเคาะประตู ผู้พันก็ตะโกนเรียก
“เข้ามา!”
ประตูถูกเปิดออก คนที่ปรากฎตัวขึ้นคือเลียม
“คุณเป็นคนรับผิดชอบในการกำหนดเสบียงสำหรับยานของฉันใช่ไหม! รู้รึเปล่าว่าทำอะไรลงไป!”
เลียมมองผู้พันที่พูดจาใหญ่โตตรงหน้าพร้อมถอนหายใจ
“คุณเป็นใครกันล่ะเนี่ย?”
“หะ ว่าไงนะ! แกจำยศที่ประดับอยู่นี่ไม่ได้หรือไง!”
“มันบอกว่าคุณเป็นแค่พันเอกของกองยานลาดตระเวน ซึ่งนั่นไม่ได้มีความหมายอะไรกับผม
คุณพันเอก ตอนนี้ผมกำลังยุ่งมาก อย่าเอาเรื่องแค่นี้มารบกวนผม”
เมื่อเลียมกล่าวเช่นนั้น พลเอกก็ตอบกลับ “อวดดีนักนะ ความจริงฉันไม่อยากทำแบบนี้ แต่ครั้งนี้ฉันจะสอนบทเรียนให้คุณ!”
สายตาของเลียมเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“…คุณว่าคุณจะสอนใครนะ?”
“แกไง! ที่สถาบันการทหารมันสอนแกมาน้อยเกินไป!? อย่าคิดว่าวันนี้จะได้กลับบ้าน!”
ขณะที่พันเอกกำลังคิดว่าเขาจะทรมานเลียมอย่างไร จู่ๆ ร่างของเขาก็ปลิวกระเด็น
“อ๊ะ-?!”
หลังจากกระแทกเข้ากับกำแพง หัวของเขาก็มึนงง เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น และนั่นคือตอนที่เขาได้ยินเสียงของเลียม
“นายพลจัตวา คุณติดต่อไปยังหัวหน้าของชายคนนี้ได้รึเปล่า?”
“มะ-ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แต่—”
“คำร้องของผู้ชายคนนี้บอกว่าให้เตรียมเหล้าและของว่างราคาแพงให้กับกองยานของเขาจำนวนมาก
ผมแน่ใจว่าหัวหน้าของเขาต้องอยากได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้
เป็นแค่ทหารไร้ชื่อจากกองยานลาดตระเวน คิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของผม”
สำหรับเลียมที่พูดเช่นนั้น นายพลจัตวาได้แต่ตอบรับ “เข้าใจแล้ว” ก่อนที่จะโทรหาผู้บังคับบัญชาของพันเอก
อีกฝ่ายเป็นผู้รับผิดชอบกองยานลาดตระเวนที่มีหน้าที่ปกป้องพื้นที่รอบเมืองหลวงของจักรวรรดิ
เมื่อรับสาย ชายคนนั้นอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด
“ว่าไง?”
“เฮ้ ผู้การ*1 ลูกน้องของคุณมาหาเรื่องผม ในฐานะผู้บังคับบัญชาของเขา คุณจะรับผิดชอบยังไง?”
“คะ-! เคานต์เบนฟิลด์?!”
พลตรีก็เป็นขุนนางเช่นกัน แต่สถานะของเขาด้อยกว่าเลียมซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าตระกูลเคานต์
ยิ่งไปกว่านั้น เลียมยังมีชื่อเสียงจากเรื่องความขัดแย้งโดยตรงกับตระกูลเบิร์กลีย์ที่แสนอันตราย
พลตรีหน้าเสียทันที
“ละ ลูกน้องของฉันหยาบคายต่อคุณแล้ว เดี๋ยวฉันจะบอกให้เขาถอนตัวทันที”
“ใครบอกให้คุณติดต่อเขา? คุณต้องมาที่นี่เพื่อพาเขากลับไปด้วยตัวเอง
นี่คือการขอโทษที่ดีนะว่างั้นไหม? หรือจะกดดันผมด้วยยศทางทหาร?”
“ขะ ขออภัยด้วย ฉันจะไปรับเขาในไม่ช้า… ไม่สิ ฉันจะไปรับเขาเดี๋ยวนี้!”
“ให้ไว… อีกอย่างนะ คำร้องเรื่องเสบียงของกองยานที่ขอมานั้นมันไร้สาระ อย่าทำให้ผมเสียเวลา ไปทำมาใหม่ซะ
ผมอยากกลับบ้านตรงเวลา คุณเข้าใจใช่ไหม?”
“ดะ ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”
“…มีเรื่องร้องเรียนอะไรอีกไหม? พูดมาตอนนี้เลย”
“มะ-ไม่มีอะไรครับ”
นอกจากการทำงานตามปกติแล้ว การต้องมาจัดการเรื่องอะไรแบบนี้ยิ่งทำให้เสียเวลา
เลียมเกลียดเรื่องแบบนี้
“ดี ผมชอบคนฉลาดอย่างคุณ มานี่แล้วรับผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณไปให้เร็วที่สุด”
“…ครับ”
เมื่อจบการสื่อสารกับพลตรี พันเอกก็สั่นสะท้าน เมื่อรู้ว่าเลียมเป็นเคานต์ที่มีอำนาจมาก
“เอาล่ะ คุณบอกว่าคุณจะสอนบทเรียนให้ผมใช่ไหม? เมื่อเร็วๆนี้ ร่างกายของผมรู้สึกฝืดๆจากการทำงานนั่งโต๊ะ ผมหวังว่าคุณจะช่วยเรื่องนั้นได้”
พันเอกรีบลุกขึ้นทำความเคารพทันที
“ได้โปรดยกโทษสำหรับการล่วงเกินของฉันด้วย!”
เมื่อเขารู้ว่าอีกฝ่ายมีสถานะเหนือกว่าเขา เขาก็ยอมรับผิดทันที แต่มันก็สายเกินไป
เลียมวางมือบนไหล่ของผู้พันแล้วจับไว้แน่น
“ผมไม่ได้เกลียดทัศนคติแบบนั้นหรอกนะ แต่ผมไม่ใช่นักบุญที่จะให้อภัยคุณได้ง่ายๆ เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม?”
ขณะที่พันเอกตัวสั่น เลียมคว้าคอเสื้อของเขาและลากเขาออกจากห้อง
นายพลจัตวามองเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบๆ
“หึๆ… ดูเหมือนว่าการนำเขามาจัดการเรื่องนี้ เป็นคำตอบที่ถูกต้อง”
–เขาพอใจกับความราบรื่นของงานในแผนกนับตั้งแต่เลียมมาถึง
มีทหารหลายคนที่ดูถูกแผนกลอจิสติกส์และยื่นคำร้องที่ไม่สมเหตุสมผลกับพวกเขา
เพราะแบบนั้น เขาจึงต้องการนำขุนนางที่มีอำนาจมากมาที่แผนกของเขา
แต่ถ้าเขานำคนทุจริตอย่างคนในตระกูลเบิร์กลีย์เข้ามา มันก็จะมีแต่สร้างปัญหาให้เขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ขุนนางที่ยุติธรรมอย่างเลียม จะไม่ยอมทนต่อความอยุติธรรม
“ฉันหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยลดจำนวนความต้องการที่ไม่สมเหตุสมผลลงบ้าง”
นายพลจัตวามีความสุขที่ได้เลียมมาทำงาน แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเลียมถึงเลือกมาที่แผนกนี้
◇ ◇ ◇
ที่แนวหน้าของสนามรบ
มารีกำลังฝึกอยู่ที่นั่นในฐานะทหารราบ
“ยัยเนื้อสับนั่น ฉันไม่ยอมยกโทษให้แน่!”
มารีกำลังสวมชุดเกราะหนา เธอกระโดดลงจากเครื่องบินขนส่งขณะพึมพำคำด่าทอใส่เทีย
เธอไม่ได้ใช้ร่มชูชีพ แต่มีบาเรียที่จู่ๆก็ปรากฎขึ้นมาก่อนที่เธอจะถึงพื้น ดูดซับแรงกระแทกก่อนที่มันจะแตกเป็นเสี่ยง
มารีซึ่งตอนนี้อยู่ในป่าทึบกำลังสังเกตุสภาพแวดล้อมรอบๆ
“มารี ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่มีปัญหา”
“รับทราบ ดำเนินการแทรกซึมฐานทัพของศัตรูและช่วยเหลือตัวประกัน มันเป็นงานที่ยาก แต่ฉันรู้ว่าคุณทำได้”
มารีถูกบังคับให้แทรกซึมฐานศัตรูและช่วยตัวประกันเพียงลำพัง กำลังพึมพัมกับตัวเอง
(ฉันจะกลับไปเอาหัวของยัยตัวเมียเนื้อสับนั่นอย่างแน่นอน)
เธอได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยรบพิเศษที่งานหนัก เพราะเทียอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
เทียพูด “พื้นที่ข้างกายท่านเลียมไม่ต้องการคนอย่างคุณ” และเยาะเย้ยเธอ
มารีรีบเคลื่อนที่ผ่านป่าอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอพบศัตรูเธอจะจัดการด้วยมีดทันที
หัวหน้าของเธอที่คอยดูสถานการณ์อยู่ พูดยกย่องความสามารถของเธอผ่านการสื่อสาร
“ทักษะของคุณน่าทึ่งมาก มันทำให้ฉันนึกถึงอดีตลูกน้องคนหนึ่งของฉัน”
“มีคนที่มีความสามารถพอๆกับฉัน? ใครกัน?”
ความสนใจของมารีก่อตัวขึ้น หลังจากได้ยินว่ามีคนอื่นที่มีความสามารถพอๆ กับเธอ
“พวกเขาใช้ชื่ออื่นในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ พวกเขาต่างจากคุณ พวกเขาทำงานเป็นสายลับและต้องการปกปิดตัวตนของพวกเขาไว้เป็นความลับ
พวกเขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อและสามารถบรรลุภารกิจทุกอย่างที่เรามอบหมายได้อย่างง่ายดาย”
“ซักนิดนึงก็ไม่ได้?”
“ผมบอกคุณไม่ได้เพราะข้อบังคับทางทหาร แต่เธอเป็นลูกน้องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
เมื่อเข้าถึงฐานศัตรู มารีหยุดการติดต่อและเริ่มภารกิจแทรกซึม
“ตอนนี้ฉันต้องกลับไปที่ข้างกายของท่านเลียมโดยเร็ว ต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
ในวันนั้นเอง องค์กรอาชญากรรมแห่งหนึ่งก็หายไปตลอดกาล
◇ ◇ ◇
การออกกำลังกายทำให้รู้สึกดี
“วันนี้ก็เสร็จงานตามเวลาเช่นเคย”
ขณะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ วอลเลซแสดงสีหน้าเหนื่อยใจก่อนจะพูดขึ้น
“คุณไม่ควรพูดเสียงดัง คุณเห็นไหม? ตอนนี้ยังมีคนอื่นยังทำงานอยู่เลย”
มีเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ทำงานไม่เสร็จทันเวลาและต้องอยู่ต่อ
แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับผม
เพราะผมทำเสร็จแล้ว
“การทำงานล่วงเวลามันไม่มีประโยชน์”
“นั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่เคยช่วยเหลือคนอื่นเรอะ?”
บางครั้งมีคนงี่เง่าที่ทำงานไม่เสร็จมาขอความช่วยเหลือจากผม
แต่ผมก็ตอกหน้ากลับไปโดยให้พวกเขาจัดการปัญหาด้วยตัวเอง
“จะทำแบบนั้นเพื่ออะไรล่ะ?”
ในชีวิตที่แล้ว ผมทำงานหนักที่สุดเพื่อบริษัท ลูกน้อง และรุ่นน้อง ผมพยายามอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร
เลิกงานให้ตรงเวลาแล้วกลับบ้าน
มันจะไม่เป็นปัญหา ตราบใดที่คุณทำงานหนักเท่ากับจำนวนเงินเดือนที่คุณได้
สังคมและบริษัทต่างๆ อาจเรียกร้องให้คุณทำงานมากกว่านี้ แต่แนวคิดที่เป็นนามธรรม เช่น ‘อุทิศตัวเพื่อส่วนรวม’ ไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับผม
เมื่อเทียบกับความพยายามที่คุณต้องทุ่มเทเพื่อสิ่งนั้น คำว่า “ขอบคุณ” เพียงไม่กี่คำที่พวกเขามอบให้คุณนั้นมันไม่เพียงพอ
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมทำงานเฉพาะสิ่งที่พวกเขามอบหมายให้ผมเท่านั้น
เมื่อเราออกจากอาคารสำนักงาน มีรถลีมูซีนคันใหญ่จอดอยู่ที่ทางเข้า
“โอ้ มีคนสำคัญมาที่นี่งั้นเหรอ?”
คุณสามารถบอกได้อย่างง่ายดายเมื่อมองรถหรูอย่างรถลีมูซีน
แผนกลอจิสติกส์ไม่ใช่แผนกที่ได้รับความนิยม ดังนั้นจึงมีขุนนางประจำอยู่ที่นี่ไม่มากนัก
เมื่อผมคิดอย่างนั้น วอลเลซสังเกตเห็นบางอย่าง
“หืม? ดูเหมือนพวกเขาจะมารับคุณนะเลียม”
“…ห๊ะ?”
ด้วยความสับสนเล็กน้อย ผมค่อยๆเข้าใกล้รถ แล้วประตูรถก็เปิดออกเผยให้เห็นโรเซตต้า
ซึ่งตอนนี้แต่งตัวด้วยชุดปกติ กระโดดออกมาจากรถ
“ที่รัก!”
“โรเซตต้า?!”
ผมจะหลบเธอก็ได้ แต่ถ้าผมทำอย่างนั้นเธออาจจะบาดเจ็บ ผมเลยรับเธอไว้ในอ้อมแขนแทน
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“วันนี้คุณจะไปพักที่โรงแรมใช่ไหม? ตอนนี้ฉันฝึกเสร็จแล้ว เพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับคุณมากขึ้นฉันเลยมารับน่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น วอลเลซก็โดดขึ้นรถลีมูซีนทันที
“โอ้ เยี่ยมมาก ฉันจะได้นั่งรถฟรีทุกวัน – ว้าว เลียม! ข้างในนี้น่าทึ่งมาก! มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของว่างด้วย!”
เมื่อเห็นวอลเลซอยู่ข้างในและกำลังดื่มอยู่ ผมก็พยายามสุดความสามารถเพื่อจะหยุดเขา
“เฮ้ เดี๋ยวก่อน! เราคุยกันว่าจะไปดื่มหลังจากนี้ไม่ใช่เรอะ!”
“เปลี่ยนแผนไปโรงแรมแทนดีกว่า …ฉันหมายความว่า ทำไมเราต้องไปเสียเงินด้วย เงินเดือนฉันน้อยนะรู้ไหม กินของฟรีดีกว่า!”
ไอ้เวรนี่!
โรเซตต้าถอยไปเล็กน้อย จ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่เปียกชื้น
“ที่รัก คุณจะไปเที่ยวเล่นเหรอ? นั่นสินะ ฉันรู้ว่าการรักษาความสัมพันธ์ในที่ทำงานของคุณนั้นสำคัญมาก”
เมื่อเห็นว่าโรเซตต้าดูเศร้าแค่ไหน ผมก็รู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ได้
ในตอนแรก ผมวางแผนที่จะไปกับวอลเลซเพื่อดื่มที่บาร์เท่านั้น ไม่มีคนอื่นเลยสักนิด
“เปล่า… ฉันแค่จะไปกับดื่มกับวอลเลซ”
“จริงเหรอ?! งั้นก็ไปโรงแรมกันเถอะ! มีร้านอาหารมากมายในบริเวณใกล้เคียงที่คุณจะไม่มีวันเบื่อเลย! ฉันจะให้พวกเขาเตรียมเครื่องดื่มทั้งหมดที่คุณต้องการ ที่รัก!”
“อืม…”
ผมเคยคิดว่าเธอเป็นหญิงเหล็ก ราชินีน้ำแข็งที่มีหัวใจไม่แตกสลาย นั่นคือก่อนที่เธอจะกลายเป็นคู่หมั้นของผม
ตอนนี้เธอกระตือรือร้นในการดูแลขณะที่เรียกผมว่า ‘ที่รัก’
จริงๆแล้วผมอยากให้เธอเกลียดผมมากกว่านี้ เพราะผมไม่รู้ว่าจะปฏิบัติกับเธอยังไงไรเมื่อเธอทำตัวแบบนี้
“…แล้ว… โรเซตต้า ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง?”
“ตอนนี้ฉันได้เรียนรู้หลายอย่าง ตอนนี้ฉันกำลังศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเมืองหลวงพร้อมกับลูกสาวของตระกูลขุนนางอื่นๆ มันสนุกมาก”
ฟังดูเหมือนภรรยาสาวที่เข้าเรียนในชั้นเรียนทำอาหารเลย
ผมดีใจที่ดูเหมือนเธอจะสนุก… ไม่ใช่ว่าผมเป็นห่วงเธอหรืออะไรแบบนั้นหรอกนะ
แต่จู่ๆสีหน้าของโรเซตต้าก็เริ่มจริงจัง
“ใช่แล้วที่รัก… มีแขกอยู่ที่โรงแรม พวกเขาต้องการพบคุณ”
“แขกงั้นเหรอ?”
มีคนอยากเจอผมงั้นเหรอ? หวังว่าคงไม่เหมือนพันเอกที่มาเมื่อตอนเที่ยงนะ
———–
ไบรอัน (´;ω;`) “การที่ได้เห็นคนอื่นทำงานอย่างเอื่อยเฉื่อย แต่ท่านเลียมกลับทำงานอย่างจริงจังจนหมดวันนั้น…เจ็บปวด มันเจ็บปวดที่ท่านเลียมยังยิ้มได้แม้จะเป็นแบบนั้น”
———-
*
ผู้หมู่ คือ ผู้บังคับหมู่ (ชั้นประทวน สิบตรี โท เอก)
ผู้หมวด คือ ผู้บังคับหมด (สัญญาบัตร ร้อยตรี-โท)
ผู้กอง คือ ผู้บังคับกอง (ร้อยเอก)
สารวัตร คือ ร้อยเอก หรือ พันตรี หรือ พันโท ที่ผ่านหลักสูตรสารวัตรแล้ว
ผู้กำกับ คือ ระดับพันโทขึ้นไป ที่ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานี
ผู้การ คือ ระดับพลตรีขึ้นไป
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ กสิกร 475-2-65694-8 เมือง บ.
MANGA DISCUSSION