ผิดคาด
โรเซตต้า… คุณทำให้ผมผิดหวัง
“ที่รัก คุณคิดว่าชุดนี้ดูดีไหม”
“…เอ่อ อืม”
“ดีจริงๆที่ให้อามากิเป็นคนเลือกให้ฉัน”
“…นั่นสินะ”
โรเซตต้าไม่มีเสื้อผ้าหรือสมบัติที่เหมาะสมกับสถานะใหม่ของเธอ ผมจึงให้โทมัสนำสินค้าต่างๆให้เธอเลือก
ผมบอกให้เธอเลือกอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ และเธอก็เลือกสิ่งต่างๆ ด้วยความยินดี
และตอนนี้เธอกำลังเลือกเสื้อผ้าใหม่ให้ผมดู
ผมคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตวิญญาณแห่งเหล็กกล้า แต่เธอกลับพลิกกลับอย่างง่ายดาย นี่คือ’ซึนเดเระ’ที่ผมเคยได้ยินมาเมื่อชีวิตที่แล้วใช่ไหม?
ถึงอย่างนั้น – ผมก็รับไม่ได้-!
โรเซตต้าสวมชุดและหมุนไปรอบๆเพื่ออวด
ผมของเธอที่ถูกมัดไว้ก่อนหน้านี้ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมที่ม้วนเป็นลอน และยิ่งมองดูเธอนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งดูสวยขึ้นเท่านั้น
เพราะชุดหรือว่าการแต่งหน้า? –ผมได้ยินมาว่าเธอโตมาในสภาพที่ยากจน ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยแต่งตัว
ผมก็ไม่รู้รายละเอียด
เพราะผมไม่สนใจ
มีการจัดงบประมาณเตรียมไว้สำหรับโรเซตต้า ผมคิดว่ามันไม่มีปัญหาอะไรถ้าเธอไม่ใช้จ่ายเกินตัว
ตอนนี้พิธีหมั้นที่เร่งรีบจบลงแล้ว เราจะกลับไปโรงเรียนประถมเร็วๆ นี้
โทมัสยังเตรียมอุปกรณ์การเรียนพิเศษเหมือนผมให้เธอด้วย
โรเซตต้าพยายามชวนคุยเรื่องต่างๆกับผม
“โอ้ ที่รัก เรื่องของวันพรุ่งนี้—”
“คุณกำลังจะไปเยี่ยมหลุมฝังศพใช่ไหม? ผมจะไปกับคุณ.”
หลังจากได้เห็นช่วงเวลาที่สวยงามของโรเซตต้าในชุดแต่งงาน คุณยายของเธอก็จากไปอย่างสงบ
โรเซตต้าร้องไห้ในตอนนั้น
ถึงดูเหมือนเธอจะยอมรับได้แล้ว แต่เธอก็มักจะร้องไห้ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมหลุมศพ
…อีกอย่างหนึ่งก็คือ ทัศนคติของครอบครัวของเธอที่มีต่อผมนั้นน่าหนักใจจริงๆ
–แม่ของโรเซตต้ารู้สึกขอบคุณผมขณะร้องไห้ ในขณะที่โรเซตต้าเองก็ปฎิบัติราวกับเป็นคนรักด้วยการเรียกผมว่า ‘ที่รัก’
ถึงมันจะรู้สึกดีอย่างคาดไม่ถึงที่ได้รับคำขอบคุณก็ตาม
มันเพราะอะไรกันนะ? ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น จอภาพขนาดใหญ่ในห้องก็เริ่มออกอากาศซีรีส์ทางโทรทัศน์
ใบหน้าของโรเซตตาแดงก่ำเมื่อมองดู
“โอ้ ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาฉายพอดี”
มันเป็นละครที่คนแสดงเป็นโรเซตต้า เป็นนางเอกหลัก
ถ้าเป็นตามที่ผมคิด ตัวโรเซตต้าเองจะรู้สึกอับอาย
คุณคงไม่คิดว่านั่นคือตัวเอง มันไม่ใช่ตัวคุณเลยใช่ไหมล่ะ?
แสดงความต่อต้านสิ! เริ่มร้องไห้และร้อง “นี่ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เป็นแบบนี้!”
“เธอดูเหมือนเจ้าหญิง นั่นดูไม่ใช่ฉันเลย”
นักแสดงที่รับบทเป็นโรเซตต้าสวยมาก
ในขณะที่ตัวเธอเองดูเหมือนจะโอเคกับมัน… ผิด นี่มันผิดมาก!
บนโซฟาที่ผมกำลังนั่งอยู่ โรเซตต้านั่งลงข้างผมอย่างอายๆ
ระหว่างเรายังห่างกันเล็กน้อย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน
…สาวเหล็กจากโรงเรียนไปไหนแล้ว?
แม้ว่าผมเป็นคนเดียวที่เรียกเธอแบบนั้น แต่เธอไม่เปลี่ยนไปเป็นหญิงสาวที่มีความรักรุนแรงเร็วไปหน่อยเหรอ?
ระหว่างดูละคร โรเซตต้าหน้าแดง
“บ้านฉันไม่ใช่คฤหาสน์ใหญ่โต”
เนื่องจากตอนนี้ยังคงเน้นที่ชีวิตความยากจนของเธอ ผมเลยไม่รู้จะพูดอะไร
แต่ในฉากต่อมา นักแสดงที่หล่อเหลามาเล่นบทของผม
ฉากนี้ดูเหมือนเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนที่ผมจะไปโรงเรียนประถม ขณะที่ผมยังอยู่ที่คฤหาสน์
เขาดูเท่และสง่าอย่างไร้สาระ
บทละครเขียนขึ้นให้ดูเหมือนลอร์ดผู้ใจดีที่ห่วงใยอาณาเขตของเขา …เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับผมไปไกล
ผมเข้าใจว่านี่เป็นความปรารถนาของผู้คนที่หวังว่าผมจะเป็นอย่างนั้น
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ผมไม่ใช่ผู้ปกครองที่ทรงคุณธรรม
ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำ
“หืม? นี่มันดูคล้ายกับคฤหาสน์ผมเลย…”
ไบรอันเข้ามาในห้องพร้อมกับรถเข็นของว่างขณะที่ผมแสดงความเห็นว่าพวกเขาสามารถสร้างคฤหาสน์ได้ใกล้เคียงของจริงแค่ไหน
วันนี้ไบรอันดูมีความสุขมาก
“ขอประทานอภัยที่ขัดจังหวะ ขอให้กระผมได้เตรียมของว่างไว้ให้พวกคุณ”
ผมชี้ไปที่จอภาพ
“เฮ้ ไบรอัน ดูสิ นี่มันเหมือนคฤหาสน์ของเราเลย”
ไบรอันหัวเราะตอบผมขณะเตรียมชา
“แน่นอนครับ เราให้เช่าพื้นที่ส่วนหนึ่งของคฤหาสน์เพื่อถ่ายทำ อันที่จริงไบรอันคนนี้เคยใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงมาก่อน ดังนั้นกระผมจึงยินยอมให้ใช้สถานที่ แลกกับการมีบทบาทเล็กน้อยในการแสดงด้วย”
ไบรอันมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย?
คุณที่เป็นอดีตนักผจญภัยแต่ก็อยากเป็นนักแสดงด้วย ดูเป็นพวกไม่จริงจังเลยนะ
เขาเขินเล็กน้อยและพูดเสริมอย่างมีความสุขว่า “กระผมยังได้รับลายเซ็นจากนักแสดงที่กระผมเป็นแฟนตัวยงด้วย”
…ก็…ดีใจด้วย
กลับไปที่ละคร โรเซตต้า หญิงสาวผู้เข้มแข็งที่เอาแต่ใจ กำลังได้พบกับทายาทของตระกูลขุนนางในโชคชะตา นั่นคือ—ตัวผมเอง และการออกอากาศก็จบลง
มีหลายสิ่งที่ผมอยากจะออกความคิดเห็น
สำหรับโรเซตต้าเธอทั้งมีความสุขทั้งเขินอาย หน้าของเธอแดงก่ำ
และเมื่อละครจบลง เธอก็หันมาที่ผม
–ดูเหมือนเธอคาดหวังอะไรบางอย่าง แต่ผมไม่รู้ว่าต้องตอบสนองอย่างไร
ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น จู่ๆ วอลเลซก็บุกเข้ามาในห้อง
“เลียม ไปโรงเรียนกันเถอะ!”
“อีกสามวันถึงจะเดินทาง”
เมื่อผมตอบกลับทันควัน สีหน้าของวอลเลซก็พังทลายลงอย่างสิ้นหวัง
โรเซตต้าหันไปทางวอลเลซ มองด้วยสายตาเย็นชา
“มีอะไรเร่งรีบหรือไง?”
ผมถามเขาเพื่อขอคำอธิบาย แต่คำตอบนั้นค่อนข้างน่าสมเพช
“เซเรน่า! เธอจะกลายเป็นปีศาจเมื่อใดก็ตามที่มารยาทของฉันไม่ถึงมาตรฐานของเธอ! ฉันคิดว่าชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไปหลังจากออกจากวัง แต่สิ่งต่าง ๆ ก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลย!”
เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงต้องการกลับไปโรงเรียนเพื่อที่เขาจะได้หนีจากเซเรน่า
เขาเป็นคนโง่
เซเรน่าจะไม่บ่น ตราบใดที่คุณระวังเรื่องมารยาทของคุณ
ถึงผมจะโดนบ่นบ่อยๆว่าปากไม่ดีก็เถอะ แต่ก็นั่นแหละ
“เป็นโอกาสที่ดี คุณควรฝึกมารยาทของคุณให้หนักขึ้นในสามวันที่เหลือ”
“คุณกำลังทรยศฉันใช่ไหม เลียม!”
“ผมทำเพื่อคุณเลยนะ วอลเลซ”
จากนั้นเหล่าสาวใช้ก็เข้ามาในห้อง ก้มหัวคำนับให้ผมก่อนที่จะคว้าตัววอลเลซและลากออกไป
“ฉันเกลียดคุณ~!!!”
ผมดื่มชาขณะฟังเสียงร้องของวอลเลซ
มันเป็นการตัดสินใจของผม ที่อยากจะรับเจ้าชายมาเป็นลูกน้อง แต่วอลเลซไม่เหมือนเจ้าชายเลยซักนิด
ในจักรวาลนี้ เขาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของผม
จากนั้น ไบรอันบอกผมเรื่องบางอย่างที่น่าสนใจ
“ใช่แล้วครับ ท่านเลียม เราได้รับรายงานจากดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกว่าพวกเขาได้ค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจ”
“มีอะไรน่าสนใจ?”
“ครับ ถึงแม้มันจะเป็นของปลอม แต่นายท่านรู้จักอุปกรณ์พัฒนาดาวเคราะห์ไหมครับ?”
อุปกรณ์พัฒนาดาวเคราะห์
พวกมันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปรับสภาพดาวเคราะห์บุกเบิกให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับผู้คน
“ผมเคยได้ยินมาบ้าง แล้วมันเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ว่ายังไง”
“ดูเหมือนว่าอุปกรณ์ที่อารยธรรมโบราณใช้นั้นเหนือกว่าเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน มีรายงานระบุว่าเราพบวัตถุที่คล้ายกับเครื่องมือนั้น กระผมเข้าใจว่านายท่านชอบของแบบนี้ กระผมเลยส่งมันมาที่คฤหาสน์”
ผมเอามือจับคางครุ่นคิด
เหมือนว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
นี่มันเหมือนรูปแบบที่ไกด์เคยใช้ เพื่อมอบความมั่งคั่งให้ผม
“ผมต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ทันที”
เมื่อผมยืนขึ้น โรเซตต้าบอกว่าเธอจะไปด้วย แต่ผมปฎิเสธและให้เธอพักผ่อน
◇ ◇ ◇
วัตถุทรงกลมสีน้ำเงินถูกนำมาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์
มันมีขนาดประมาณลูกฟุตบอล และมีเส้นเรืองแสงหลายเส้นอยู่รอบๆ ทำให้เกิดภาพที่สวยงาม
ไบรอันเริ่มอธิบายขณะยืนอยู่ข้างผม
“หลังจากวางอุปกรณ์นี้ไว้ที่ดาวเคราะห์ มันจะค่อยๆเปลี่ยนดาวเคราะห์ให้กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่ผู้คนสามารถอาศัยอยู่ได้ มันเป็นเครื่องมือสำหรับทีมบุกเบิก ของเลียนแบบยังคงถูกสร้างขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้”
“นี่มันช่างน่าสนใจ”
“ในขณะที่มันมีพลังในการทำให้ดาวเคราะห์มีความอุดมสมบูรณ์หากใช้อย่างไม่เหมาะสม แต่มันก็มีพลังที่จะทำลายดาวเคราะห์ด้วย โดยเปลี่ยนพลังงานที่ปล่อย เป็นพลังการดูดกลืนเพื่อเปลี่ยนพลังงานเหล่านั้นให้เป็นน้ำยาอีลิกเซอร์ มันเป็นอุปกรณ์ที่น่ากลัวซึ่งเป็นการล่มสลายของดวงดาวหลายดวงในอารยธรรมโบราณ”
มันสามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดาวเคราะห์ที่ถูกทำลาย แต่ก็ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามได้เช่นกัน
เมื่อผมสัมผัสมัน วัตถุทรงกลมนี้ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
“โอ้ หายากที่มันจะมีแสงสีแดง โดยปกติแล้ว พวกมันจะถูกสร้างให้เรืองแสงเป็นสีน้ำเงินเท่านั้น”
“…อย่างนั้นเหรอ?”
นี่อาจจะเป็นโชคครั้งใหญ่
มีความเป็นไปได้ที่สิ่งนี้จะเป็นของจริง
“ไบรอัน บอกผมเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้อุปกรณ์นี้หน่อย”
“ดูเหมือนนายท่านสนใจเรื่องราวสมัยที่ผมได้ไปผจญภัยเมื่อครั้งวันวานสินะครับ ไบรอันผู้นี้มีความสุขเหลือเกิน ถ้าเป็นไปตามสิ่งที่บันทึกไว้ใน อารยธรรมโบราณแล้วละก็—”
หลังจากเรียนรู้ขั้นตอนการใช้งานจากไบรอัน ผมก็ออกจากพื้นที่สู่อวกาศทันที
◇ ◇ ◇
ขณะที่เลียมขึ้นไปยังอวกาศ
โรเซตต้ากำลังคุยกับอามากิ
อามากิก็ยังมีสีหน้าไร้อารมณ์เช่นเคย
“มีอะไรที่คุณต้องการหรือเปล่า ท่านหญิงโรเซตต้า?”
“ฉันได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ของที่รักจากไบรอันและเซเรน่า เรื่องจริงงั้นเหรอที่หลังจากเขาถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง คุณรับหน้าที่เป็นแม่ของเขาแทน”
อามากิพยักหน้า
“พ่อแม่ของนายท่านและปู่ย่าตายายทิ้งเขาไปใช้ชีวิตในเมืองหลวง พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะเลี้ยงลูก
ดังนั้นดิฉันจึงถูกซื้อมาเพื่อดูแลนายท่านแทนพวกเขา”
อามากิกล่าวต่อไป
“ดิฉันเข้าใจว่าการปรากฏตัวของดิฉันนั้นน่ารังเกียจ แต่ดิฉันไม่สามารถขัดกับคำสั่งของนายท่านได้”
การเก็บแอนดรอยไว้ข้างกายถือเป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเลียม
แต่สำหรับโรเซตต้า—
“เดี๋ยว! ฉันไม่ได้จะบ่นเรื่องนั้น!”
“ค่ะ ท่านหญิงโรเซตต้า?”
โรเซตต้านำสร้อยข้อมือเชือกถักมามอบให้อามากิ
“นี่เป็นสิ่งที่ฉันทำขึ้นเอง ฉันขอโทษที่ไม่สามารถให้คุณได้มากกว่านี้”
มันไม่ใช่ของที่ซื้อมาจากอาณาเขตของบ้านเบนฟิลด์ และไม่ใช่ของที่ซื้อมาจากโทมัส
เธอทำมันขึ้นมาเอง
“คุณแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นหรือ?”
“แน่นอน เพราะคุณเป็นคนสำคัญของที่รักไม่ใช่เหรอ?”
อามากิยิ้ม แต่ก็ดูเศร้าเล็กน้อย
“ใช่ค่ะ”
เธอขอบคุณโรเซตต้าสำหรับสร้อยข้อมือ
“–ขอบคุณค่ะ นายหญิง*”
เมื่อได้รับการเรียกว่าเป็นภรรยาของเลียม โรเซตต้าก็เขินอาย
◇ ◇ ◇
ณ พื้นที่อวกาศที่เต็มไปด้วยเศษซาก
ผมมาที่นี่ด้วยเอวิท เพื่อใช้อุปกรณ์ที่เพิ่งได้รับมา
“เอาล่ะ มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น…”
อุปกรณ์พัฒนาดาวเคราะห์ถูกย้อมเป็นสีแดงและเริ่มซึมซับสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นพลังชีวิต
เศษซากที่ล่องลอยอยู่บริเวณนี้เป็นซากของโจรสลัดที่พยายามจะโจมตีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกในดินแดนของผม
เห็นได้ชัดว่าอุปกรณ์นี้ดูดซับพลังชีวิต หรือที่ไบรอันเรียกมันว่า ‘วิญญาณ’ เพื่อผลิตน้ำยาอีลิกเซอร์
ผมลังเลที่จะใช้มันกับคนของผม แต่ถ้าเป็นพวกโจรสลัด ก็ไม่มีปัญหา
วัตถุทรงกลมถูกย้อมเป็นสีแดงอย่างสมบูรณ์และแสงก็หยุดนิ่งเหมือนมันซึมซับมาหมดแล้ว
ผมนำทรงกลมเข้าไปในห้องนักบินและเริ่มตรวจสอบ
“เอาละ…ถ้าผมทำแบบนี้…”
ของเหลวหกออกจากวัตถุทรงกลมในขณะที่ผมกำลังยุ่งอยู่กับมัน
ของเหลวหยดใส่เข่าของผม และจับตัวเป็นของแข็ง ก่อนที่จะตกลงไปที่พื้น
“อ๊ะ หกไปนิดหน่อยแฮะ”
ผมพยายามหยิบมันขึ้นมาแต่ก็หามันไม่เจอ
ช่างมันเถอะ
ผมหยิบขวดออกมาแล้วเทน้ำยาอีลิกเซอร์ลงไป
“…ก็เยอะอยู่นะเนี่ย”
ผมหยิบขวดที่เต็มไปด้วยน้ำยาอีลิกเซอร์แล้วเขย่า
“เช่นเคย มันเป็นของจริง ผมต้องขอบคุณไกด์อีกครั้ง”
สมบัติกำลังถูกรวบรวมให้เป็นของฉันทีละอย่าง
อย่างที่คิด ต่อให้ไม่รับขอเสนอของเดอร์ริกก็ไม่มีปัญหา
แต่ผมอดไม่ได้ที่จะสังเกตุว่า ไกด์ไม่ได้ปรากฎตัวเลยในช่วงนี้ – เขายังสบายดีไหมนะ?
ไม่สิ ผมไม่ควรกังวลเกี่ยวกับเขา
เขาใช้ความพยายามหลายอย่างเพื่อผม และการติดตามผลหลังการขายก็สมบูรณ์แบบ
ผมแน่ใจว่าเขาสบายดี
“ครั้งสุดท้ายที่เจอกันเขาคงอายจริงๆ บางที…เขาคงอายเกินกว่าที่จะแสดงตัวให้ผมเห็นละมั้ง? ผู้ชายคนนั้นน่ารักอย่างน่าประหลาด”
แต่สิ่งสำคัญคือต้องแสดงความขอบคุณต่อเขาสำหรับสิ่งต่างๆ
ผมหวังว่าความรู้สึกเหล่านี้จะส่งถึงเขา
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง – คุณทำให้ผมมีความแข็งแกร่งมากขึ้น”
แต่-
แม้ว่าผมจะมีความสุขที่ได้อุปกรณ์ที่ใช้ทำน้ำยาอีลิกเซอร์ แต่ผมก็สามารถซื้อมันได้เสมอ
เงินที่ใช้ในการซื้อนั้นสามารถสร้างขึ้นด้วยกล่องเล่นแร่แปรธาตุ ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ก็ไม่ได้ลำบากนัดแม้ว่าผมจะไม่มีมัน
“…ผมควรฝากสิ่งนี้ไว้กับยานระดับป้อมปราการแล้วใช้มันเพื่อพัฒนาดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกน่าจะดีกว่า”
แม้ว่ามันจะเป็นยานประจัญบานที่ซื้อมาจากไนอัสแต่ปัจจุบันผมใช้เป็นฐานป้องกันชั่วคราว
ในขณะที่ยานลำนี้ถูกใช้งานบนดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก มันควรใช้งานด้านการฟื้นฟูดวงดาวมากกว่า
การใช้งานตามปกติ อุปกรณ์พัฒนาดาวเคราะห์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตมากกว่าดูดซับ
ไบรอันบอกว่ามันไม่เป็นอันตราย
“เอาละ…ผมต้องเตรียมดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกใหม่สำหรับเป็นอาณาเขตของวอลเลซด้วย ผมควรส่งมันไปพร้อมกับยานระดับป้อมปราการด้วย”
หากฝังสิ่งนี้ไว้ในรูปปั้นหินเพื่อซ่อนไว้จะไม่มีใครรู้
สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมาก ถ้าใช้มันตามที่ควรจะเป็น
“การส่งเครื่องมือที่มีประโยชน์เหล่านี้มาทีละชิ้น ไกด์นี่เป็นคนดีจริงๆ”
◇ ◇ ◇
ในช่วงเวลานั้น ไกด์กำลังกางแขนออกอย่างยินดีไปทางเมืองหลวงของจักรวรรดิ
“ฟุฮะฮะฮะ! อารมณ์ด้านลบที่สะสมมานานนับพันปี กำลังทำให้ความแข็งแกร่งของฉันฟื้นคืน!”
แม้ว่ามันจะไม่ถูกดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีอารมณ์เชิงลบมากมายอยู่ที่นั่น
เขาสามารถฟื้นพลังของเขาได้อย่างง่ายดายในที่แห่งนี้
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเทียบไม่ได้กับความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ของเขา
เพราะความกตัญญูของเลียมทำให้เขาหมดแรง
“ตอนนี้ฉันก็สามารถเขี่ยไอ้หมอนั่นลงนรกได้แล้ว รอก่อนเถอะ เลียม!”
ในขณะที่ไกด์กำลังสงสัยว่าจะทำอย่างไรต่อไป–
แสงรูปสุนัขที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเขาก็หันมองขึ้นบนฟ้า
ท้องฟ้ารอบเมืองหลวงได้รับการป้องกันโดยชั้นของโลหะ
อย่างไรก็ตาม หอกสีทองแสดงความกตัญญูของเลียมก็ปรากฏขึ้น พุ่งตรงมายังไกด์ที่กำลังหัวเราะ และแทงทะลุแผ่นหลังของเขา
“อะ-เหื้ออออ?!”
ไกด์ร้องออกมาจากแรงกระแทกอย่างกะทันหัน
เขาถูกหอกแทงจนจมลงไปในดิน
“อะ… น่ะ-น่ะ- นี่มันอะไรกัน!?”
ไกด์ที่กำลังสับสนคว้าหอกเพื่อจะดึงมันออกมา – แต่เมื่อเขาสัมผัสหอกมือของเขาก็เริ่มไหม้
ควันออกมาจากที่ที่เขาสัมผัสมัน
“อ๊ากกกก!!! น-นี่คือความกตัญญูของเลียม?! ทำไมกัน?! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย!”
ความรู้สึกขอบคุณอย่างล้นหลามกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว มันกำลังเสียบไกด์และปล่อยให้เขาต้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด
“ม-มันกำลังกระจายออกไป พลังที่ฉันกู้คืนมา… กำลังกระจายออกไปหมดแล้ว… เป็นไปได้ยังไงกัน! บ้าเอ๊ย…บ้าเอ๊ย!!! เลียมมมมม!!!!”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยในครั้งนี้ แต่ไกด์ก็รับรู้ถึงความกตัญญูของเลียม(แบบเจ็บปวด)
————
ไบรอัน (`・ω・´) “ไบรอันคนนี้ได้รับลายเซ็นจากนักแสดงชื่อดังด้วยละ! กระผมมีความสุขมากเหลือเกิน!”
ไบรอัน(・ω・` ) “อืม…ไกด์เองก็น่าสงสารเหมือนกันนะ”
————
*ท่านหญิง / นายหญิง / คุณผู้หญิง / คุณนาย ….ช่างเถอะ
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ
กสิกร 475-2-65694-8 นายเมือง บ.
MANGA DISCUSSION