(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 43
คู่หมั้น โรเซตต้า
เมื่อโรเซตต้าตื่นขึ้น- เธอสวมชุดนอนที่เธอไม่เคยใส่มาก่อน
ขณะที่เธอตรวจดูชุด สาวใช้ที่รออยู่ก็ทักเธอ
“ท่านหญิงโรเซตต้า มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ?”
เธอหันไปมองสาวใช้
“เอ่อ… อ่า…”
เธอตกอยู่ในความงุนงงจนพูดไม่ออก
ทำไมถึงมีสาวใช้ในห้องของฉัน?
ราวกับอ่านใจได้ สาวใช้ก็พูดกับเธอ
“ท่านหญิงยังไม่หายดี ดิฉันเลยอยู่ที่นี่เพื่อดูแลคุณ อย่ากังวลเลยค่ะ ดิฉันได้รับอนุญาตจากโรงเรียนให้อยู่ที่นี่แล้ว”
โรเซตต้าพยักหน้าเงียบๆ ราวกับหวาดกลัว
ผมของเธอที่ปกติมักจะม้วนเป็นลอน ตอนนี้มันถูกปล่อยให้ตรง
“เอ่อ… คุณช่วยบอกฉันเกี่ยวกับการแต่งงานได้ไหม”
แม่บ้านอธิบายทุกอย่างอย่างอ่อนโยน
“ทางดัชเชสคลอเดียยอมรับข้อเสนอหมั้นแล้ว หลังจากที่ลอร์ดเลียมสำเร็จการศึกษา คุณสองคนก็จะได้แต่งงานกันค่ะ”
ฟังคำพูดเรื่องการแต่งงาน โรเซตต้ายังรู้สึกสับสน
บ้านของเธอเต็มไปด้วยหนี้สิน
สถานะขุนนางของบ้านเธอเหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น และเลียมก็ไม่มีเหตุที่จะช่วยพวกเขา
“อ่า นั่นสินะ เขาบอกว่าเขาต้องการสถานะดยุค มันเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เขาทำมาจนถึงตอนนี้—”
สาวใช้ส่ายหัว
“เมื่อไม่นานมานี้ ทางบ้านเบนฟิลด์ก็มีหนี้ก้อนโตเช่นกัน เขาไม่มีเหตุผลที่จะสร้างสายสัมพันธ์ที่จะส่งตัวเองกลับไปอยู่จุดเดิม ท่านหญิงโรเซตต้า ท่านไม่ทราบเรื่องนี้หรือคะ?”
พวกเขาเคยเป็นบ้านที่น่าสงสารซึ่งมียศแค่ในนามเท่านั้น
โรเซตต้าเข้าใจว่ามันช่างเจ็บปวด
“แต่เลียม– ไม่สิ ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของเคานต์เลย ทำไมต้องเป็นฉัน?”
สาวใช้หัวเราะออกมาเล็กน้อย
“อะ-อะไร?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ดิฉันแค่คิดว่าคุณอยู่ในตำแหน่งที่น่าอิจฉาจริงๆ ท่านหญิงโรเซตต้า คุณเป็นผู้หญิงจริงๆคนแรกที่ท่านเลียมต้องการ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โรเซตต้าก็รู้สึกว่าแก้มของเธอแดงระเรื่อ
“อ-อย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ค่ะ อันที่จริง ข้าราชบริพารทุกคนในดินแดนต่างพากันกังวลเรื่องนี้ เพราะว่าเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงเลย”
โรเซตต้าหลังจากที่ได้รับการดูแลจากสาวใช้ก็เอนตัวนอนลง
ขณะนี้ชั้นเรียนถูกระงับเนื่องจากโรงเรียนกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการกับผลที่ตามมาของการแข่งขัน
ยังไม่มีประกาศว่าจะกลับไปเรียนปกติตอนไหน
จนกว่าจะถึงตอนนั้น เธอเธอสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้ ดังนั้นโรเซตตาจึงผลอยหลับไปอย่างมีความสุข
(หากนี่คือความฝัน ได้โปรดให้มันยาวนานกว่านี้อีกซักนิด)
◇ ◇ ◇
ณ ห้องประชุมชั้นประถมศึกษา
ผมกำลังถูกสอบปากคำโดยเหล่าครู
แม้ว่าควรจะเป็นการสอบปากคำ แต่เหล่าลูกน้องที่อยู่ข้างผมก็ปฏิเสธทุกอย่างที่พวกครูพูด
โดยการตอบโต้ของมารีนั้นน่าสนใจเป็นพิเศษ
“คุณไม่ควรฆ่าเขา”
หนึ่งในครูพูดขึ้น มารีเลยตอบกลับ
“คุณจะพูดว่าต้องปล่อยให้เขาฆ่าเรางั้นเหรอ? ในสถาบันที่คุณควรสอนนักเรียนถึงความภาคภูมิใจของชนชั้นสูง
คุณกล้าดียังไงถึงพูดแบบนั้นออกมา แทนที่จะปกป้องตัวตลกนั่น คุณควรยกย่องจิตวิญญาณการต่อสู้ของท่านเลียมมากกว่า นอกจากนั้น
ฝ่ายตรงข้ามก็ควรยอมรับข้อตกลงตั้งแต่ก่อนสมัครการแข่งขัน ว่าอาจจะมีการตายเกิดขึ้นหาเขาเข้าร่วม เพราะแบบนั้นเราไม่เห็นจำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรสักหน่อย”
ไม่ว่าเหล่าครูจะพูดอย่างไร แต่มารีก็ตอบโต้ได้เสมอ
ผมดูการโต้ตอบเหล่านี้อย่างเงียบ ๆ ขณะดื่มชา
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้มีคนที่ขุ่นเคืองบ้านเบนฟิลด์เพิ่มขึ้นแน่”
ผมตอบกลับคำพูดนั้น
“แล้วยังไง? มันก็แค่เพิ่มความขุ่นเคืองอีกนิดหน่อยกับพวกที่เป็นศัตรูอยู่แล้ว แต่ประเด็นทั้งหมดนี้คืออะไร คุณจะเอาอะไรกับผม? คุณควรจะดีใจที่ผมเป็นคนหยุดเดอร์ริกให้มากกว่า”
มารีกล่าวพร้อมพยักหน้า “อย่างที่ท่านเลียมพูดเลยค่ะ”
เธอเป็นลูกน้องที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
“เลียม การกระทำของคุณจะนำปัญหามาสู่โรงเรียน ต่อให้เรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรก็ตาม แต่ครั้งนี้คุณทำเกินไป คุณควรแสดงการขอโทษ—”
ดูเหมือนผมพอจะรู้แล้วว่าเขากำลังพูดอะไร ผมจึงยิ้มออกมา
“เท่าไร?”
“เอ๊ะ?”
“ผมถามว่าคุณต้องการเท่าไหร่? ผมต้องใช้เงินมากแค่ไหนเพื่อปิดปากพวกคุณ ไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้อีก?”
ครูหลายคนเริ่มลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ แต่นั่งลงทันทีหลังจากถูกมารีจ้องด้วยจิตสังหาร
– ผู้หญิงคนนี้คือตัวอะไรกันแน่? บรรดาอาจารย์ตัวสั่นสะท้าน
ผมเดาว่ามันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากซื้อความไม่พอใจของพวกเขาตอนนี้
“ผมพูดตรงเกินไปสินะ ขออภัย นั่นเป็นนิสัยเสียของผม อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าคุณจะบอกว่าผมต้องแสดงความสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป แต่สำหรับเรื่องนั้น ผมเองก็ไม่คิดว่าตัวเองทำผิดจนต้องสำนึกเหมือนกัน
เอาแบบนี้ไหม ผมจะเพิ่มจำนวนเงินบริจาคที่ส่งในปีหน้าเป็นสองเท่าเพื่อเป็นการขอโทษก็แล้วกัน”
“ต-แต่ นั่นมันไม่ใช่วิธี—”
“นี่— คุณคิดว่ามันจะจบเพียงแค่คุณจ่ายเงินก้อนโตหรือไง? คุณไม่คิดถึงฝั่งพวกเราบ้าง?”
อาจารย์ใหญ่ยกมือขึ้นห้ามพวกครู
“–คุณเลียม เราจะถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากสิ่งที่เกิดขึ้น โปรดเข้าใจด้วย”
ทางโรงเรียนประถมเองก็คงถูกตักเตือนมาสินะ ตอนนี้พวกเขากำลังแสดงจุดยืนงั้นสิ?
พวกเขาจะรับเงินและหุบปากไปเลยก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องน่าอายหากพวกเขาทำแบบนั้น ในทางปฎิบัติพวกเขาจึงต้องแสดงท่าทีปฏิเสธในที่สาธารณะไว้ก่อน
รายละเอียดปลีกย่อยพวกนั้นเราจะเก็บไว้คุยกันทีหลัง เพราะผู้ชายที่มีเงินนั้นถูกต้องเสมอไม่ใช่เหรอ?
เพราะว่าเงินเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่สามารถผลิตออกมาได้ไม่รู้จบ หากสามารถจบเรื่องนี้ได้ด้วยเงินยังไงก็คุ้มค่า
“เอาละ ถ้างั้นผมต้องขอตัวก่อน”
เมื่อผมออกจากห้องประชุม พวกครูก็ต่างพากันปวดหัว
◇ ◇ ◇
ห้องประชุมหลังเลียมออกไป
ศาสตราจารย์จอห์นนั่งกอดอก
(เขาชัดเจนในความตั้งใจของเขา เพราะแบบนั้นจะให้เราพูดอะไรได้?)
ถ้าพวกเขาระวังมากกว่านี้ บางทีเหตุการณ์แบบนั้นคงไม่เกิดขึ้น
เพราะแบบนั้น พวกเขาเองจึงเป็นฝ่ายลำบากใจ
อาจารย์ใหญ่เองก็เจ็บปวด เพราะเลียมพูดว่าเขาจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง
“ฉันจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง”
เมื่อครูคนหนึ่งพูดอย่างนั้น คนที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วย
ในตอนนี้เลียมได้หยุดสิ่งต่าง ๆ ก่อนที่พวกมันจะบานปลาย
แม้ว่าพวกครูจะรู้ว่าฝ่ายเดอร์ริกผิด แต่พวกเขาไม่สามารถประกาศความผิดให้ทางนั้นฝ่ายเดียวได้
เพราะบุคคลที่เลียมเลือกต่อสู้ด้วยคือเดอร์ริกของตระกูลเบิร์กลีย์ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางโจรสลัด
ทางโรงเรียนต้องยิ่งระมัดระวังเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
“ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกว่าเด็กอัจฉริยะ เขามีความสามารถมากกว่าพวกผู้ใหญ่ซะอีก”
พออาจารย์ใหญ่พูดอย่างนั้น เขาก็ถอนหายใจด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
ศาสตราจารย์จอห์นก็รู้สึกอยากถอนหายใจเช่นกัน
(เป็นเรื่องดีที่เขาสามารถเอาตัวรอดได้ แต่เหล่าครูก็ลำบากใจเมื่อพวกเขาเก่งเกินไป)
◇ ◇ ◇
ตกกลางคืน
ผมอยู่ในสวนของหอพักและถือดาบที่หนักมาก
เนื่องจากร่างกายของผมอ่อนแอลงจากคาบพลศึกษาของโรงเรียนที่สบายเกินไป ผมจึงฝึกส่วนตัวเป็นบางครั้งเพื่อชดเชย
ขณะที่ผมกำลังปาดเหงื่อ คุคุริก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังต้นไม้
“มีอะไรรึเปล่า?”
“ท่านเลียม กระผมได้สำรวจกลุ่มที่เรียกว่าผู้เฝ้าระวังของบ้านของดัชเชส และดูเหมือนว่าองค์กรของพวกเขาจะใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มาก พวกเขาต่างจับจุดอ่อนของบ้านหลังอื่นๆ เพื่อขู่กรรโชกบ้านเหล่านั้นเหมือนที่ทำกับบ้านคลอเดีย”
“ได้อะไรอีกไหม”
“กระผมได้ดึงข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นายท่านจะให้กระผมทำอะไรกับข้อมูลพวกนี้ครับ”
จากสิ่งที่พวกเขารวบรวมมา มันเป็นข้อมูลที่สามารถทำลายบ้านขุนนางเหล่านั้นได้ทันที
หากใครได้มันไปคงต้องจัดระเบียบขุนนางกันใหม่
“ส่งข้อมูลพวกนั้นกลับไปที่อาณาเขตและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากไบรอัน เขาควรรู้วิธีใช้พวกมันอย่างมีประสิทธิภาพ”
“รับบัญชา”
คุคุริจมลงไปในเงามืดและหายตัวไป
เวทมนตร์แบบนั้นดูสะดวกจริงๆ
“เอาล่ะ มาออกกำลังกายเพิ่มกันดีกว่า ร่างกายของผมยังฟิตไม่พอเลย”
ผมเริ่มสังเกตสิ่งนี้เมื่อผมขับเอวิท ในจังหวะที่ร่างกายของผมไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของเอวิทได้
ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องออกกำลังมากขึ้นเป็นสองเท่า
◇ ◇ ◇
มีอัศวินของบ้านเบนฟิลด์รายล้อมโรเซตต้าขณะที่เธอไปเยี่ยมหอพักชาย
พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้หญิง
พวกเขามีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการคุ้มกันเธอ – พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อป้องกันการปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น
เมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กผู้ชายเข้ามาใกล้ อัศวินก็จะชักดาบออกมาทันทีโดยไม่ถาม
โรเซตต้าจะมาคุยกับเลียมเพื่อที่จะไม่เอาคนคุ้มกันที่อันตรายเช่นนี้
แต่เลียมไม่ได้อยู่ในห้องของเขา
เมื่อเธอถามวอลเลซ เขาตอบว่า “ฉันไม่รู้” และเมื่อเธอกังวลว่าต้องทำอย่างไร เคิร์ทก็บอกเธอว่าเลียมอยู่ที่ไหน
เคิร์ทนำทางเธอไปหาเลียม ที่ตอนนี้เหงื่ออกำลังไหลท่วมตัวขณะที่เขาฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก
เมื่อเธอพยายามเข้าใกล้เขา เคิร์ทและอัศวินก็หยุดเธอไว้
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเขา”
“ตอนนี้ไม่ได้ จะดีกว่าถ้าไม่เข้าไปใกล้”
เคิร์ทชี้นิ้วออกไปที่ใบไม้ที่ตกลงมาใกล้เลียม ทันใดนั้นมันก็ถูกผ่าครึ่ง
อัศวินที่เห็นต่างก็กลืนน้ำลาย
เคิร์ทอธิบาย
“ถ้าคุณพยายามเข้าใกล้เขาตอนนี้ คุณจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆก่อนที่คุณจะรู้ตัว …คุณไม่สามารถเข้าใกล้เลียมในขณะที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับการฝึก”
“ข-เขาทำอะไรน่ะ”
แม้ว่าเลียมจะดูเหมือนออกกำลังกายธรรมดา แต่เมื่อมีอะไรเข้าไปใกล้ จะถูกตัดขาดทันที
โรเซตต้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอเห็น
“ไม่แปลกเลยที่คุณจะสงสัย ตอนแรกฉันก็แปลกใจเหมือนกัน แต่เลียมฝึกฝนอยู่หลายปีเพื่อให้ถึงระดับนั้น”
โรเซตต้าคิดในใจ
(ความพยายามของฉัน…เทียบกับเขาไม่ได้เลย)
เลียมซึ่งเธอคิดว่าได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องพยายามอะไร จริงๆแล้วฝึกฝนหนักกว่าตัวเองมาก
เมื่อรู้แบบนั้น เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอายกับความไม่รู้ของเธอ
(แม้จะอย่างนั้น ฉันก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากเขา)
โรเซตตารู้สึกละอายใจเกินกว่าจะพบเลียมในเวลานี้ และจากไป
◇ ◇ ◇
คฤหาสน์ของตระกูลเบนฟิลด์
เซเรน่ารีบติดต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อรายงานเกี่ยวกับเอกสารที่ส่งถึงพวกเขา
“มีเรื่องด่วนอะไร?”
“รัฐมนตรี! นี่คือเอกสารจากบุคคลที่เรากำลังสืบสวน! พวกเขาไม่ได้แค่เฝ้าระวังแค่บ้านคลอเดีย แต่พวกเขากำลังทำอะไรที่อุกอาจกว่านั้น!”
เมื่อนายกรัฐมนตรียืนยันข้อมูล เขาก็เบิกตากว้าง
สิ่งที่เขียนไว้ที่นั่นระบุว่า แม้แต่เขาเองก็ถูกจับตามองจากกลุ่มผู้เฝ้าระวังเช่นกัน
“…ดูเหมือนว่าฉันปล่อยให้พวกเขาทำตามที่พวกเขาพอใจมานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะจัดการเรื่องต่างๆ แล้วเอกสารต้นฉบับล่ะ?”
“วางใจเถอะ ฉันจะลบข้อมูลของคุณ รัฐมนตรี”
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันมีงานต้องทำมากขึ้นอีกแล้ว ฉันจะขอบคุณในภายหลัง”
“ฉันควรทำอย่างไรกับเอกสารที่เหลือ”
“ปฏิกิริยาของเคานต์เป็นอย่างไรบ้าง”
“เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้”
“…มอบมันให้กับจักรวรรดิ ฉันจะรับเรื่องพวกนี้เอง นี่เป็นโอกาสของเราที่จะเข้าถึงจุดอ่อนของขุนนางจำนวนมาก ถ้าพวกมันมีช่องโหว่ ฉันต้องไม่พลาดที่จะเรียนรู้พวกมันไว้บ้าง”
“คุณทำหน้าชั่วร้ายอีกแล้ว”
“อ๊ะ อะแฮ่ม อย่างไรก็ตามบุคคลที่กล่าวถึงในเอกสารเหล่านี้จะถูกรวบรวมและทางนี้จะจัดการให้ บอกท่านเคานต์ว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป”
“เข้าใจแล้ว”
◇ ◇ ◇
หลังจากงานศพและพิธีปิด ในที่สุดผมก็เข้าสู่ปีที่สี่แล้ว
และวันหยุดยาวที่ผมรอคอยก็มาถึง
“ถึงจะผ่านไปสามปี บ้านก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลย”
ผมดีใจที่ได้กลับมา แต่ทิวทัศน์เกือบจะเหมือนกับที่จำได้
เมื่อสองสามปีก่อน มันเคยอยู่ในสภาพที่ปรับนู้นแต่งนี่อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ สิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางแล้ว
วอลเลซมองขึ้นไปที่คฤหาสน์ของผมขณะถือกระเป๋าเดินทางของเขา
เขามาที่นี่เพราะว่าเขาไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เจ้าชายอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกลับไปที่วังได้
“อา~ ฉันเหนื่อยจากการเดินทางไกลเหลือเกิน หากฉันอยู่ที่นี่ ฉันต้องการทั้งแม่บ้านและสาวใช้ส่วนตัว จะดีมากหากพวกเธอสวย ฉันอยากทานอาหารมื้อใหญ่ที่ประกิบไปด้วยเนื้อสัตว์เยอะๆ”
สำหรับลูกน้อง เขากลับทำตัวราวกับเป็นเจ้านายที่นี่
ในขณะที่ผมกำลังจะตีเขา—
“ไม่ได้เจอกันนานแล้วสินะคะ เจ้าชายวอลเลซ”
–เซเรน่าเข้ามาหาเราด้วยรอยยิ้ม
วอลเลซตัวสั่น และใบหน้าของเขาซีดเผือด
“มันโผล่มาแล้ว!!!”
ขณะที่เขากรีดร้องราวกับว่าเขาเห็นผี สีหน้าของเซเรน่าก็หัวเราะสง่างาม
“โฮ่ๆ เจ้าชาย ท่านไม่มีพฤติกรรมรุนแรงเกินไปหน่อยหรือคะ? ทำราวกับเห็นดิฉันเป็นผี”
จู่ๆ วอลเลซก็หลบอยู่ข้างหลังผม
“แม้แต่ผีก็ยังดีกว่า! เลียม หัวหน้าสาวใช้มาที่นี่ทำไม!”
“ก็ไม่ทำไมหรอก เพราะผมจ้างเธอมาทำงานให้ผมน่ะสิ”
“อะไรนะ?!”
สำหรับวอลเลซที่หวาดกลัว ดูเหมือนว่ามันจะน่าสนใจถ้าปล่อยให้เขาไปอยู่ในความดูแลของเซเรน่า
หลังจากนั้นไม่นานโรเซตต้า ก็มาถึงคฤหาสน์เช่นกัน
ข้างหน้าผมคือดัชเชสคนปัจจุบันและบรรพบุรุษของเธอ – แม่และยายของโรเซตต้า
“ท่านเคานต์ ฉันไม่รู้จะขอบคุณคุณอย่างไรดี”
“ฉันแค่ดีใจที่ได้พบคุณในที่สุด”
มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ได้เห็นพวกเขาสองคนแสดงท่าทีสุภาพต่อผม แต่พวกเขาก็เทียบไม่ได้กับโรเซตต้า
–หยุดเถอะ คุณควรทำตัวเย่อหยิ่งกว่านี้หน่อย
ผมยกคางขึ้นและส่งสัญญาณให้เซเรน่า
เซเรน่านำทางพวกเขาไปหาโรเซตต้า
เมื่อทั้งสามกลับมารวมกันอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปนาน – พวกเขากอดกันทันทีและเริ่มร้องไห้
…เดี๋ยวก่อน นี่มันต่างจากที่ผมคิดไว้นิดหน่อย?
ผมคิดว่าจะมีบทพูดประมาณว่า ‘ฉันขอโทษที่ทำให้สถานะดัชเชสของเราถูกขโมยไป! แม่ คุณย่า ฉันขอโทษ!’ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะมีความสุขมากเมื่อได้พบกันอีกครั้ง
“อืม อาจจะต้องรอดูอีกนิด”
หลังจากแยกวอลเลซที่กำลังสั่นเทาไปให้เซเรน่าแล้ว ไบรอันก็เข้ามาหาผมทั้งน้ำตา
“ในที่สุดท่านเลียมก็ตัดสินใจแต่งงาน ไบรอันคนนี้มีความสุขมากจนอยากจะร้องไห้ออกมาเลยทีเดียวครับ”
“หยุดเลย ตอนนี้คุณก็กำลังร้องไห้อยู่นี่ หยุดเลย”
“การตอบสนองที่เย็นชาแบบนี้! ต้องเป็นของท่านเลียมเท่านั้นจริงๆ!”
ผมทิ้งไบรอันซึ่งดูเหมือนกำลังมีความสุขอยู่คนเดียว และเรียกอามากิซึ่งยืนอยู่อย่างเงียบๆ
เธอไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น?
“อามากิ กลับห้องกันเถอะ”
“…คุณแน่ใจเหรอคะนายท่าน?”
“อะไรล่ะ?”
อามากิดูสับสน
◇ ◇ ◇
วอลเลซตกตะลึงเมื่อเห็นเลียมกลับมาที่ห้องของเขา
“เรื่องจริงหรือเนี่ยที่เขาสนใจแต่ตุ๊กตา”
เซเรน่ากระแอมไอ ก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจริงจังกับวอลเลซ
“ท่านวอลเลซ ถ้าท่านไม่อยากตายในบ้านหลังนี้ ดิฉันขอแนะนำว่าอย่าเรียกอามากิเป็นแอนดรอยด์หรือตุ๊กตาเช่นนั้นอีก ท่านเลียมจะไม่มีวันให้อภัยใครก็ตามที่พูดจาเช่นนั้นกับเธอ นี่ไม่ใช่เรื่องตลก หัวของคุณจะถูกโยนทิ้งไปได้ง่ายๆ”
เมื่อวอลเลซได้ยินเช่นนั้น เขาก็พยักหน้า
(เคิร์ทก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน)
“แน่นอน เขาเป็นผู้อุปถัมภ์คนสำคัญของฉันนี่นะ”
“ดิฉันจะเชื่อคำพูดของคุณ ถึงอย่างนั้น ท่านเลียมนี่ก็ชอบทำอะไรแปลกๆ แม้กระทั่งยอมเป็นผู้อุปถัมภ์ของคนอย่างคุณ ซึ่งไม่มีประโยชน์ทั้งดีหรือร้าย”
วอลเลซคิดในใจ
(ห๊ะ การประเมินของเซเรน่าที่มีต่อฉันไม่ต่ำไปหน่อยเหรอ?)
“เซเรน่า อดีตเจ้านายของคุณคือครอบครัวของฉันนะรู้ไหม”
“ใช่ แต่ตอนนี้ดิฉันรับใช้ท่านเลียม ก็ไม่แปลกที่ดิฉันจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือไม่มีต่อบ้านเบนฟิลด์ใช่ไหมคะ?”
“ค-ครับ”
วอลเลซมีลางสังหรณ์อันมืดมนว่าการพักร้อนที่ยาวนานของเขาจะอึดอัดอย่างไม่น่าเชื่อ และเขาพูดถูก
———————-
ไบรอัน (´;ω;`) “แม้ว่าคุณจะมอบเอกสารลับพวกนั้นให้ฉัน ไบรอันคนนี้ก็จัดการมันไม่ได้หรอกนะท่านเลียม!! “ฉันปวดท้องมากเพราะเหตุนี้”
———————-
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ กสิกร 475-2-65694-8 เมือง บ.
ขอบคุณสำหรับโดเนทของทุกท่าน ที่ทำให้ผู้แปลมีกำลังใจทำต่อไป มีเหตุติชมอะไร อินบ็อกซ์ได้ที่เพจเฟสบุ๊ค Avolenn channel ครับ
พอมีคนมาป่วนแชทแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองแมสขึ้นมานิดนึง