(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 42
นักล่าโจรสลัดและขุนนางโจรสลัด
โรงจอดยาน
เมื่อนำซากอัศวินขับเคลื่อนของโรเซตต้าเข้ามา มารีซึ่งกำลังรออยู่ก็เริ่มให้คำแนะนำกับพวกลูกน้องที่รออยู่รอบๆ
“ลูกสาวของบ้านคลอเดียกำลังจะเป็นภรรยาตามกฎหมายของท่านเลียม เราต้องปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพสูงสุดเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง”
สาวใช้พยักหน้าและอัศวินก็จัดแถวเรียงกันเป็นแนว
ส่วนพวกทหารก็รีบปูพรมแดง
“เฮ้ หมออยู่ไหน!”
“หมอกำลังมา!”
“เธอต้องเปลี่ยนชุด! ใครก็ได้เอาเสื้อผ้ามาให้เธอเปลี่ยน!”
โรงจอดยานอยู่ในความโกลาหล
มารีตะโกน
“อย่ามัวแต่เล่นไอ้พวกโง่!”
โรเซตต้าดันตัวออกจากห้องนักบินของหุ่นรบ
เธอได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทั้งซ้ายและขวาโดยอัศวินหญิง
เธอท่าทางอิดโรย ดวงตาของเธอแดงก่ำและบวม
อัศวิน ทหาร และสาวใช้ต่างเข้าแถว อัศวินดึงดาบออกมาต้อนรับเป็นซุ่มดาบ
ทหารทำความเคารพ และสาวใช้ก็ทักทายเธอด้วยการโค้งคำนับ
ในฐานะภรรยาตามกฎหมายของเลียม เธอเป็นเจ้านายของทุกคนที่นี่
มารีคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ
(ฉันไม่เคยคิดเลย ว่าฉันจะกลับมามีส่วนร่วมกับบ้านคลอเดียหลังจากผ่านไปนานขนาดนี้)
“ท่านหญิงโรเซตต้า เรามารับคุณ แต่ก่อนอื่น เรามาทำการรักษาพยาบาลกันก่อนเถอะค่ะ”
โรเซตต้าอยู่ในสภาวะสับสน
มารีรู้ว่าโรเซตต้าไม่เคยถูกปฎิบัติแบบนี้มาก่อน
เธอลุกขึ้นยืนยิ้ม
“ไม่ต้องกลัวค่ะ ทุกคนที่นี่เป็นคนรับใช้ของท่านเลียม –เฮ้ คุณตรงนั้น พาท่านหญิงโรเซตต้าไปหาหมอ”
อัศวินหญิงช่วยพยุงโรเซตต้า ขณะที่พวกเขาพาเธอไปหาหมอด้านใน
เหล่าสาวใช้เดินตามไป และเมื่อพวกเขาหายไปจากสายตา อัศวินก็เก็บดาบเข้าฝัก
“เอาละ เรียบร้อยไปอีกเรื่อง…”
ขณะที่มารีกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป คุคุริก็ปรากฏขึ้นจากเงามืด
“มารี มีเหตุเกิดขึ้น”
“ฉันจะจัดการกับมันในภายหลัง ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่กับคำสั่งของท่านเลียม”
เธอพยายามเมินเขา แต่คุคุริไม่ยอม
“ท่านเลียมกำลังถูกโจมตีโดยตระกูลเบิร์กลีย์”
เส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หน้าผากของมารี และรูม่านตาของเธอหดแคบลง
ออร่าแห่งการฆ่าละกลิ่นอายกระหายเลือดคละคลุ้งเต็มอากาศ อัศวินที่อยู่รายรอบถอยหลังออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบเมื่อเห็นออร่าที่น่าเกรงขามของเธอ
“…ว่าไงนะ?”
“ดูเหมือนว่าพวกคนที่เฝ้าระวังบ้านคลอเดียได้ตัดสินใจกำจัดนายท่านเพราะไปขวางทางพวกเขา”
◇ ◇ ◇
ณ ถิ่นทุรกันดารซึ่งเป็นสนามประลอง
รอบตัวผมมีอัศวินโจรสลัดหลายสิบคน
ในหมู่พวกเขาเดอร์ริคเป็นหนึ่งในนั้น
ดูเหมือนว่าเขาเตรียมรุ่นใหม่พิเศษสำหรับตัวเอง
“เลียมมม~! ฉันรอคอยวันนี้มานานแล้ว~!!!”
เดอร์ริกพยายามทำให้ตัวเองดูน่าเกรงขาม แต่เขาเป็นคนที่หนีหน้าจากผมที่โรงเรียนประถมตลอดเวลา
ผมแค่อยากจะ’เล่น’กับเขา แต่เขาก็หลบหนีผมอยู่เสมอ
แต่เอาจริงๆ- ต่อให้เล่นกับเขา มันก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่ายของผมเลยซักนิด
“คราวนี้อย่าหนีก็แล้วกัน”
“หึ ฉันขอชมเชยที่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งในสถานการณ์นี้ แต่อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้คุณตายไปง่ายๆ อย่าหวังว่าจะได้การช่วยเหลือ เพราะไม่ใช่แค่ฉัน! ยังมีเหล่าผู้เฝ้าระวังบ้านคลอเดียที่ตัดสินใจกำจัดตัวน่ารำคาญอย่างคุณด้วย!”
ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องการร้องขอความช่วยเหลืออะไร แต่ส่วนหลังผมเข้าใจอยู่บ้าง
ผมได้ยินมาว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลบ้านคลอเดีย และถ้าผมกับโรเซตต้าแต่งงานกัน พวกเขาก็คงตกงาน
ผมแน่ใจว่าสิ่งนี้ทำให้พวกเขาลำบากใจ จนถึงขั้นที่พวกเขาทำตัวไร้สาระแบบนี้
“เอาล่ะๆ ผมคิดว่าตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว…แล้ว…แค่นี้จะพอเหรอ?”
“ฮะ?”
จำนวนหุ่นรบที่อยู่รอบตัวผมมีไม่ถึงร้อย
“ผมถามว่ามาแค่นี้งั้นเหรอ? พอดีผมเพิ่งปรับจูนเอวิทเมื่อไม่นานมานี้ แต่ไม่สามารถหาสถานที่ทดสอบได้จริงๆเลย มาเถอะ…ให้ผมได้ขยับตัวสักหน่อย”
“อ-อย่าดูถูกฉันนะไอ้บ้าเอ้บ! เล่นงานเขา!”
อัศวินโจรสลัดพุ่งเข้ามาหาผมตามคำสั่งของเดอร์ริค
การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูเหมือนจะค่อนข้างดี
พวกมันดูเหมือนหุ่นรบของโจรสลัด แต่จริงๆแล้วพวกมันอาจเป็นรุ่นใหม่จากโรงงาน
“อาหะ มาแบบนี้ผมก็สามารถทดสอบประสิทธิภาพของเอวิท ได้นิดหน่อยละมั้ง”
เมื่อผมคว้าคันบังคับและสั่งให้เอวิทเคลื่อนไหว หุ่นรบที่อยู่รอบๆ ก็ปลิวออกไป
“โอ้ นี่มันน่าทึ่งจริงๆ”
ผมประทับใจ เพราะเอวิทสามารถสร้างประกายแสงได้ดีกว่าเมื่อก่อน
“ผมควรจะขอบคุณไนอัสในภายหลัง”
ขณะที่ผมพิจารณาว่าจะให้รางวัลอะไรกับเธอ เหล่าโจรสลัดต่างพุ่งตัวเข้ามา
เมื่อผมตรวจสอบสภาพหลังการเคลื่อนไหวของเอวิท ผมอดไม่ได้ที่จะประทับใจกับความราบรื่นของการเคลื่อนไหว เมื่อเข้าปะทะกับคู่ต่อสู้
“เอาล่ะเอวิท! ไปกันเถอะ!”
ผมรู้สึกดีที่ได้ทดสอบประสิทธิภาพเอวิทกับกลุ่มโจรสลัดของเดอร์ริก
พวกเขาจัดการยากกว่าพวกโจรสลัดที่ผมเคยเจอมา
แต่ก็แค่นั้นแหละ
ในขณะที่ผมไล่ฆ่าพวกมันเรียงตัว มีคนหนึ่งพยายามหลบหนี
“เหอะ! คิดจะไปไหน!”
หลังจากผมพุ่งตัวไล่ตามและเสียบดาบเข้ากับหุ่นรบที่กำลังหลบหนี หุ่นที่เหลือก็หยุดนิ่ง
แม้แต่เดอร์ริคก็พูดไม่ออก
“มาสิ มาให้ความบันเทิงกับผมยิ่งกว่านี้!”
◇ ◇ ◇
ในยานโจรสลัดหลายร้อยลำ เหล่าโจรสลัดกำลังสั่นสะท้านขณะดูภาพที่พวกเขาเห็น
“…เขา เขาเป็นตัวอะไรกันแน่”
บางคนพึมพำ
“เขาคือปีศาจ”
การปรากฏตัวของเลียมที่มีความสุขขณะไล่เชือดอัศวินโจรสลัดนั้น ดูไม่ต่างจากปีศาจสำหรับพวกเขา
อัศวินขับเคลื่อนถูกทำลายทีละตัว ทีละตัว
กัปตันตะโกน
“ร-เราต้องถอย! หากเรายังอยุ่ที่นี่ เราจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการล่าของเขา!”
กัปตันผู้ตัดสินใจทิ้งเดอร์ริกและกำลังหลบหนี ถูกเจ้าหน้าที่สั่งหยุด
“แล้วข้อตกลงของเราล่ะ! คุณจะไม่ช่วยเราฆ่าเลียมแล้วรึไง!”
“เราจะไปฆ่าปีศาจแบบนั้นได้ยังไงกัน! พวกแกก็ไปฆ่ามันเองสิวะ!”
เจ้าหน้าที่ที่สับสนโพล่งออกมา
“ก็เพราะเราล้มเหลวในการลอบสังหารเขามาก่อนแล้ว เราจึงขอความช่วยเหลือจากคุณ!”
ทันใดนั้น เงาร่างสวมหน้ากากในชุดสีดำสนิทหลายสิบคน โผล่ขึ้นมาจากเงาของพวกเขา
พวกเขาออกมา และเริ่มไล่ฆ่าพวกโจรสลัด
“อะไรวะเนี่ย!?”
มือใหญ่ของคุคุริบีบหัวของเจ้าหน้าที่
“โอ้- ช่างบอบบางเสียนี่กระไร โจรสลัดในสมัยโบราณแข่งแกร่งกว่าตอนนี้มากนัก เอาล่ะคุณเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ฉันมีบางอย่างที่อยากจะถามนิดหน่อย”
“ปล่อยฉันนะๆ! ฉ-ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ของจักรวรรดินะโว้ย!”
คนของคุคุริกลับมารวมตัวกัน หลังจากฆ่าโจรสลัดรอบข้างจนหมดแล้ว
“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดอะไรบางอย่างที่ฉันปล่อยผ่านไม่ได้… คุณหมายความว่ายังไงเมื่อคุณพูดว่า ‘เราล้มเหลวในการลอบสังหารเขามาก่อนแล้ว’ ใครคือ ‘เรา’?”
ลูกน้องคนหนึ่งของคุคุริหัวเราะเย็นขณะที่เขาแทงต้นขาของเจ้าหน้าที่ด้วยมีด
“อ๊าก ขาฉัน!!!”
คุคุริจับหัวเจ้าหน้าที่ที่ร้องไห้แน่นขึ้น
“โอ้ โปรดยกโทษให้ลูกน้องของฉันด้วย ขนาดฉันยังรู้สึกไม่สบายใจเวลาพวกเขากระหายเลือด เอาล่ะกลับมาที่คำถาม ใครเป็นคนออกคำสั่งฆ่า?”
แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะกรีดร้อง ก็ไม่มีความช่วยเหลือใดๆมาถึง
เมื่อมองไปที่จอมอนิเตอร์ เขาสามารถเห็นยานของพวกเขาถูกโจมตีโดยกองยานของบ้านเบนฟิลด์
“ก-แกรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่กำลังสั่นกลัว คุคุริเริ่มอธิบาย
“โอ้ เรื่องนั้นรึ? พวกเรารู้อยู่ตลอดนั่นล่ะ เมื่อเราบอกลอร์ดเลียมเกี่ยวกับแผนของคุณ เราได้รับคำสั่งให้ปล่อยเหล่าอัศวินขับเคลื่อนไปหานายท่านเพราะเขาคิดว่ามันน่าสนใจ ดูเหมือนว่าพวกมันเหมาะสำหรับการทดสอบเอวิทที่ได้รับการปรับจูนใหม่ ฉันหวังว่าพวกรุ่นใหม่นั้นคงจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง”
หลังจากที่พวกเขาแทรกซึมเข้ามาในยานโจรสลัด พวกเขา’ได้รับอนุญาต’ให้ปล่อยพวกหุ่นรบรุ่นใหม่นั้นไปหาเลียม
ถ้าพวกโจรสลัดวิ่งหนีหรือยกเลิกแผนการณ์ พวกมันจะถูกฆ่า ทางเดียวที่เหลือสำหรับพวกโจรสลัดคือการต่อสู้กับเลียม
เมื่อดูที่จอมอนิเตอร์ มันกำลังแสดงภาพของเลียมที่กำลังเล่นกับอัศวินโจรสลัดผู้น่าสงสาร
ซากหุ่นรบรุ่นใหม่ที่ถูกทำลายถูกกองรวมกัน
เป็นที่น่าถกเถียงกันว่า เอวิทยังสามารถเรียกว่าเป็นอัศวินขับเคลื่อนอยู่หรือไม่ ประสิทธิภาพและรูปลักษณ์ของมันแตกต่างไปจากอัศวินขับเคลื่อนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
แม้จะเป็นพวกรุ่นใหม่ก็ไม่สามารถเทียบได้
“ข-ขอร้องล่ะ”
“หืม~?”
“ได้โปรดเมตตาด้วย! ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง! ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ!”
คุคุริยิ้มให้กับคำพูดของเจ้าหน้าที่
“แย่จัง~ ที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก เราไม่สามารถให้อภัยคุณได้ อันที่จริง เราได้ตรวจสอบข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่คุณรู้ไปหมดแล้ว ดังนั้นเราจึงไม่ต้องการคุณตั้งแต่แรก ตอนนี้ให้ฉันบอกลาคุณ”
คุคุริบีบหัวเจ้าหน้าที่จนแตก
◇ ◇ ◇
ภายในโรงจอดยาน
เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าระวังโรเซตตากำลังตื่นตระหนก
“เฮ้ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?”
“ไอ้โจรสลัดพวกนั้นไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าเลียม!”
“ยังไงก็ตาม เราต้องเข้าถึงตัวโรเซตต้าให้ได้! ตราบใดที่เรามีเธอเป็นตัวประกัน พวกเขาจะไม่สามารถแตะต้องเราได้!”
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือด ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงเดินมาทางพวกเขา
กึก…กึก… เสียงที่แผ่วเบา แต่กลับส่งไปถึงหูพวกเขาอย่างน่าประหลาด
นั่นคือเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นผู้หญิงซึ่งเต็มไปด้วยสีม่วงที่ปรากฏตัวใกล้พวกเขา
“ก-แกเป็นใคร!?”
ขณะที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกน หัวของเขาก็ขาดกระเด็น
ผู้หญิงที่เข้ามานั้นถือดาบอยู่ในมือแต่ละข้าง
ในทีแรกพวกมันดูเหมือนมีดทำครัว – แต่พริบตามันก็ขยายเป็นขนาดของดาบยาว
“ฉันละประหลาดใจที่คำสั่งโง่ ๆ ของไอ้หมอนั่นยังคงดำเนินต่อไปหลังจากผ่านไปสองพันปี ฉันยังคงจำใบหน้าของเขาที่กำลังหัวเราะ ในขณะที่ทำให้ฉันกลายเป็นหินได้อยู่เลย”
เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดถึง
เมื่อพวกเขาพยายามชักอาวุธ แขนของพวกเขาถูกตัดออก
“ย-ยัยบ้า! อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะหนีไปได้—”
เขาพยายามจะบอกว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของจักรวรรดิ แต่เธอบอกว่าเธอรู้แล้ว
หลังจากแทงดาบเข้าไปในหนึ่งในนั้น เธอคว้าขากรรไกรของหัวหน้าของพวกเขาด้วยมือเปล่า – และบีบมันอย่างแรง
“อ๊าาาาาาาาาาา!!!”
“ไม่ต้องพูดเยอะ ยังไงพวกแกก็ต้องตายที่นี่ – ฉันล่ะดีใจจริงๆที่สามารถฆ่าลูกน้องของชายที่ทำให้ฉันทุกข์ทรมานกว่าสองพันปีได้”
ผู้หญิงบ้านี่ไม่ฟังพวกเขาเลยสักนิด
หนึ่งในนั้นตะโกน
“พ- พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของจักรพรรดิผู้ล่วงลับไปแล้ว!”
“ฉันรู้! และนั่นคือเหตุผลที่ฉันฆ่าคุณ!”
เจ้าหน้าที่เสียชีวิตหลังจากถูกหญิงสาวผ่าร่างออกเป็นสองส่วน
การผ่านั้นสวยงามและเรียบเนียน
“ด้วยความเคารพต่อความจงรักภักดีที่พวกคุณทำตามคำสั่งของไอ้โง่นั่น ฉันจะส่งพวกคุณทั้งหมดไปยังนรกที่เขาอยู่ อย่าลืมส่งข้อความของฉันไปให้เขาด้วยว่า ‘มารีกลับมาแล้ว’ ”
เจ้าหน้าที่ที่เหลือตัวสั่น
พวกเขารู้ความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองพันปีก่อน
“…มารี? เป็นไปไม่ได้… มารีหนึ่งในสามอัศวิน?!”
ต่อหน้าร่างของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่ถูกผ่าร่าง ละอองเลือดจากศพสูบฉีดย้อมผู้หญิงคนนี้ให้เต็มไปด้วยสีแดง
“ฉันดีใจมากที่ได้รับใช้ท่านเลียม ฉันรู้สึกว่าสองพันปีแห่งความทุกข์ทรมานมีเพื่อช่วงเวลานี้ นี่จะต้องเป็นโชคชะตา”
ขณะที่จมอยู่ในความอิ่มเอมใจ ผู้หญิงคนนั้นยังคงทำการฆ่าของเธอต่อไป
◇ ◇ ◇
ไม่มีศัตรูเหลืออีกต่อไป
บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเศษซากที่ถูกทำลายอัศวินขับเคลื่อนของเดอร์ริกที่ถูกตัดขาเป็นคนเดียวที่ยังรอดชีวิต
“ฮึก- ได้โปรด! ฉันจะทำทุกอย่าง! อะไรก็ได้! ปล่อยฉันไปเถอะ!”
แม้จะมีการคุกคามทั้งหมดที่เขาทำก่อนหน้านี้ พอมาตอนนี้ทำได้แค่ร้องขอชีวิต ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน
ผมขว้างซากอัศวินขับเคลื่อนที่ถืออยู่และเหยียบหุ่นของเดอร์ริค
แต่การได้เห็นเดอร์ริกพยายามหนีด้วยแขนของเขาอย่างสุดชีวิตเป็นเรื่องตลกจริงๆ
“ตอนนี้ผมควรทำอย่างไรกับคุณดี”
“ฉ-ฉันจะไม่ต่อต้านคุณอีก! ดังนั้นได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย! ฉันยังไม่อยากตาย!”
“คุณไม่ต้องการที่จะตาย? งั้นก็ได้ บอกผมหน่อยว่าทำไมผมต้องปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่?”
เดอร์ริกเริ่มพูดรัวๆเมื่อผมให้ความหวังแกเขา
“คุณอยากได้อะไร อะไก็ได้! จะเงินหรือผู้หญิง อยากได้อะไรก็เอา! ช-ใช่ แล้วน้ำน้ำยาอีลิกเซอร์ล่ะ? คุณต้องการมันบ้างไหม?”
เขามีน้ำยาอีลิกเซอร์?
“…น่าสนใจ”
“ฉันมีอุปกรณ์พิเศษในการรวบรวมมัน! คุณจะเอาเท่าไหร่ก็ได้ ฉันสามารถเตรียมพวกมันได้มากเท่าที่คุณต้องการ!”
ผมรู้สึกดีขึ้นที่ได้เห็นเดอร์ริกเสนอสิ่งแปลกเปลี่ยน
แต่ผมไม่สนใจข้อเสนอของเขา
ในท้ายที่สุดไกด์จะเตรียมทุกอย่างที่ผมต้องการ
เช่นเดียวกับกล่องแปรธาตุหรือดาบลึกลับ ทุกสิ่งที่ผมต้องการ มาอยู่ในมือของผมอย่างเป็นธรรมชาติราวกับโชคชะตา
ผมไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขา
นอกจากนี้ น้ำยาอีลิกเซอร์ยังสามารถซื้อได้ด้วยเงิน
“อืม… พอดีผมมีอยู่เยอะทีเดียว ทีนี้ก็ตายได้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อน นี่ต่างจากสัญญาของเรา!”
“…ผมจำไม่ได้ว่าไปสัญญาตอนไหน?”
ในชีวิตที่แล้ว ผมถูกคนทวงหนี้หลอกและถูกทำให้ทุกข์ทรมาน
พวกเขาไม่รักษาสัญญา
แล้วทำไมผมต้องทำ?
“จะฆ่าฉันจริงๆเหรอ! เมื่อกี้คุณขอเหตุผลเพื่อไว้ชีวิตฉันไปนี่!”
“อ่อ นั่นโกหกน่ะ ผมไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้คุณรอด คงจะลำบากน่าดูหากคุณถูกรักษาด้วยน้ำยาอีลิกเซอร์ เพราะงั้น ผมจะบดให้ละเอียดละกัน”
“ย-อย่าาาา อ๊าาาาาาาาาา!!!”
“เป็นความผิดของคุณที่มาเป็นศัตรูกับผม”
เมื่อดาบของผมเจาะเข้าไปในห้องนักบินของอัศวินขับเคลื่อน เสียงของเดอร์ริกก็หายไป
เมื่อผมยกหุ่นรบที่ติดกับดาบของผมขึ้น การสื่อสารก็กลับคืนมา
เวลานั้นเหมาะเจาะ การสื่อสารกลับมาช่วงเวลาการอาละวาดสิ้นสุดพอดี
ถ้าการต่อสู้ครั้งนี้ถูกถ่ายทอดสด ผมคงถูกดุอย่างแน่นอน
เมื่อคิดอย่างนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดี
ครูโรงเรียนประถมคนหนึ่งเริ่มตะโกนด้วยใบหน้าซีด
“ใครก็ได้ เรียกทีมกู้ภัย!”
ดูเหมือนพวกเขาจะสับสนกับสถานการณ์ แต่ก็ช่วยไม่ได้
“ศาสตราจารย์ มันสายเกินไปแล้ว พวกเขาตายไปแล้ว”
เป็นกฎที่รู้กันดีว่าคุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับความตายเมื่อคุณเข้าร่วมการแข่งขัน
ไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมหากเดอร์ริกเสียชีวิต และผมก็ไม่กลัวการตอบโต้ของบ้านบารอนบ้านนอกอย่างบ้านเบิร์กลีย์
ผทเหวี่ยงใบมีด โยนหุ่นรบของเดอร์ริกลงไปที่พื้น
แล้วบดขยี้มันจนแหลกด้วยฝ่าเท้า
“แม้ว่าปลาตัวเล็กจะรวมตัวกัน แต่สุดท้ายก็ยังเป็นแค่ปลาตัวเล็ก”
ขณะที่ผมหัวเราะ พวกครูตกตะลึง
รอบๆ ตัวผมเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง มันช่วยไม่ได้ เพราะผมได้ทำลายอัศวินขับเคลื่อนนับร้อย
เพราะแบบนั้น มันทำให้ผมรู้สึกประทับใจกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเอวิท
เป็นการทดสอบที่ดี
ผมต้องขอบคุณเดอร์ริกในสิ่งนั้น
◇ ◇ ◇
ที่นั่งผู้ชม
มีคนถามขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น…ทำไมพวกเขาถึงสู้กัน? ”
นั่นคือความคิดแรกที่เหล่าขุนนางคิด
ครอบครัวเบิร์กลีย์เป็นที่รู้จักในชื่อขุนนางโจรสลัด
ในขณะที่บ้านเบนฟิลด์ได้รับชื่อนักล่าโจรสลัด
หากทั้งสองต่อสู้กันมันจะเป็นหายนะ
เจ้าหน้าที่โรงงานอาวุธต่างๆเมื่อเห็นภาพในสนามประลองนั้นต่างพากันเงียบ
ต่างจากไนอัสที่ดูเหมือนจะเริ่มหัวเราะได้ทุกเมื่อ
“มันน่าผิดหวังที่ฉันไม่สามารถเห็นพวกรุ่นใหม่ของโรงงานผลิตอาวุธที่หนึ่งถูกทำลายโดยเอวิท แต่เท่านี้ก็เห็นความห่างชั้นมากเกินพอแล้ว”
คำพูดนี้กระทบผู้แทนทุกโรงงาน ไม่ใช่แค่โรงงานที่หนึ่ง ตัวแทนทุกคนต่างลุกหนีออกจาที่นั่ง
วอลเลซหันไปหาไนอัส
“วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ทุกคนจะมองว่าคุณเป็นภัยคุกคาม คุณกำลังจะมีปัญหาในอนาคตนะรู้ไหม? คุณประกาศสงครามกับพวกเขาโดยตรง เหมือนกับที่เลียมทำกับตระกูลเบิร์กลีย์”
สำหรับวอลเลซผู้ซึ่งเริ่มคาดเดาถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา เคิร์ทพูดขึ้น
“แต่เลียมที่ฉันรู้จัก เขาจะบังคับตัวเองไปสู่ชัยชนะเสมอ”
“แน่ใจนะ?”
“ที่สำคัญกว่านั้น…แล้วการแข่งขันจะยังไงต่อ?”
เคิร์ทดูเหมือนจะกังวลว่างานจะถูกยกเลิก
ทางโรงเรียนได้พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถดำเนินการต่อในสถานะปัจจุบันได้
ไหล่ของไนอัสตกลง
“ไม่น๊า~! ฉันอยากเห็นร่างที่สง่างามของเอวิทมากกว่านี้!”
วอลเลซประหลาดใจที่เธอรู้สึกผิดหวังกับสิ่งนั้น
“ …อย่างที่คิด คนที่เกี่ยวข้องกับเลียมนั้นแปลกจริงๆ”
วอลเลซส่ายหัว
——————
ไบรอัน (´;ω;`) “หากจะบอกว่ามีแต่คนแปลกๆมารวมตัวกันรอบๆนายท่านเลียม… วอลเลซ คุณเองก็เป็นคนแปลกๆ เหมือนกันไม่ใช่เรอะ? นี่มัน… เจ็บปวด”
—————–
ใครกัน…ใครกันที่โดเนทมา! เอาตอนใหม่ไปซร้าาาาาา ขอบคุณครับ
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ
กสิกร 475-2-65694-8 นายเมือง บ.
ขอบคุณสำหรับโดเนทของทุกท่าน ที่ทำให้ผู้แปลมีกำลังใจทำต่อไป มีเหตุติชมอะไร อินบ็อกซ์ได้ที่เพจเฟสบุ๊ค Avolenn channel ครับ