จิตวิญญาณเหล็กกล้า
โรเซตต้ากำลังตกอยู่ในความสิ้นหวัง
เช่นเดียวกับที่ยายและแม่ของเธอได้เผชิญ โรเซตต้าก็ค่อยๆหมดแรงในการเรียนที่โรงเรียนประถม
“ฉัน… ฉันแค่… ต้องการหนีจากชีวิตที่น่าสังเวชนี้…”
เธอต้องการออกจากนรกที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี่
แต่ความเป็นจริงนั้นโหดร้าย
ในทุกๆวัน เธอเห็นถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับเพื่อนในห้อง
เมื่อปีที่สองของเธอกำลังจะสิ้นสุด เธอก็ตามเพื่อนๆไม่ทันอีกต่อไป
เธอไม่สามารถเข้าใจบทเรียนในชั้นเรียน
ในระหว่างการฝึกศิลปะการป้องกันตัว เธอไม่สามารถแม้แต่สูสีกับเด็กผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่าเธอ
และไม่ว่าเธอจะทำงานหนักแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เธอถึงกับสงสัยว่าเธอเป็นมนุษย์เหมือนคนอื่นๆ หรือเปล่า
เธอล้มลงบนเตียงของเธอ
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว… ถ้าฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ มันคงจะดีกว่าถ้าฉันไม่ได้เกิดมา”
เธอจำใบหน้าเศร้าหมองของแม่และยายของเธอได้เมื่อพวกเขาส่งเธอมาที่โรงเรียนประถม
มันเป็นการแสดงออกที่เจ็บปวดเพราะพวกเธอรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แต่ว่าทั้งสองคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งเธอไปเรียน พวกเธอบอกโรเซตต้าว่า “จะยอมแพ้ก็ได้นะ”
แต่โรเซตต้ารับไม่ได้
เธอไม่ต้องการที่จะยอมแพ้และยอมจำนนต่อโชคชะตา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มาเรียนชั้นประถม เธอก็รู้ว่าเธอไม่มีโอกาสเลย แม้เธอจะพยายามซักเท่าไหร่
จิตวิญญาณของโรเซตต้ากำลังแตกสลาย
ถ้าเธอมีสิ่งใดมาก่อนที่เธอจะมาที่นี่ มันก็แตกสลายไปหมดแล้ว
◇ ◇ ◇
ณ ห้องประชุมของโรงเรียนประถมศึกษา
คณะครูกำลังประชุมกันอยู่
“สำหรับกรณีของคลอเดีย…”
ศาสตราจารย์จอห์นกำลังขอคำปรึกษากับครูคนอื่นๆ
“ตอนนี้เธอกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามทำดีกับเธอ”
ที่โรงเรียนประถม โรเซตต้าไม่ได้ถูกรังแกอย่างรุนแรงเท่ากับที่โลกภายนอกทำกับบ้านคลอเดีย
อย่างไรก็ตาม อดีตของบ้านคลอเดียก็ยังมีผลที่นี่
และเหนือสิ่งอื่นใดคือความจริงที่ว่า เธอมีระดับความเข้าใจแตกต่างจากนักเรียนคนอื่นๆ อย่างชัดเจน
มันไม่ใช่ปัญหาของบุคคล แต่เป็นเรื่องที่เรียบง่ายเช่นความแข็งแกร่งทางการเงินและสถานะ
ไม่มีใครตำหนิเธอภายใต้สถานการณ์นี้
หรือยิ่งกว่านั้น พวกเขารู้ว่าเธอพยายามอย่างหนักแล้ว
ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะปฏิบัติต่อเธอดีกว่าคนอื่น
พวกเขาไม่สามารถโกรธเธอได้
มันไม่ใช่ความผิดของเธอ
แต่ดูเหมือนว่าโรเซตต้าจะมองว่าเป็นการละเลย
ครูอีกคนให้คำแนะนำ
“ทำไมเราไม่ปล่อยให้เธอพักซักหน่อยล่ะ? เช่นการพักการเรียน?”
ศาสตราจารย์จอห์นส่ายหัว
“เจ้าหน้าที่ที่คอยเฝ้าติดตามจะเริ่มร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนั้น สถานการณ์มันซับซ้อนน่ะ”
บรรดาผู้ที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของบ้านคลอเดียมานับพันปีนั้นไร้ความปราณี
พวกเขาคิดอยู่เสมอว่าพวกเขาจะทำลายจิตวิญญาณของคลอเดียได้อย่างไร
ผู้คนเหล่านั้นรวมตัวกันเพื่อทำเช่นนั้นจนถึงทุกวันนี้
เมื่อใดก็ตามที่ครูพยายามให้โรเซตตาหยุดพัก เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามก็จะเริ่มบ่น
‘คุณกำลังขัดคำสั่งของจักรพรรดิผู้ล่วงลับไปแล้วงั้นรึ?’
ภัยคุกคามดังกล่าวไม่สามารถช่วยเหลือได้โดยครูเท่านั้น
ดังนั้นพวกเขาจึงถูกห้ามไม่ให้ยื่นมือเข้าช่วย
“มีวิธีใดที่เราสามารถช่วยเธอได้บ้างนะ”
พวกเขาทำอะไรไม่ได้
ทันใดนั้นครูอีกคนก็บุกเข้ามาในห้องประชุมของเหล่าครู
“เรามีปัญหาแล้ว!”
ศาสตราจารย์จอห์นหันไปหาผู้ที่เข้ามา
“มีอะไรเกิดขึ้น?”
“มันเกี่ยวกับทัวร์นาเมนต์อัศวินขับเคลื่อนที่จะจัดขึ้น! เดอร์ริกเข้าร่วมการแข่งขัน …แต่เลียมก็เข้าแข่งด้วย!”
บรรดาอาจารย์ต่างก็ยืนขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ร-เราต้องไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น!”
เลียมกำลังจะฆ่าเดอร์ริค
แม้ว่าเขาจะเป็นคนใจเย็นและดูโตเกินวัย แต่เลียมก็มีชื่อเสียงในเรื่องไร้ความปราณีต่อโจรสลัด
ปัญหาจะเกิดขึ้นแน่นอนถ้าเลียมและเดอร์ริกต่อสู้กันด้วยอัศวินขับเคลื่อน
“ลองพูดกับเลียมว่าเขาสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมในครั้งนี้ได้ไหม ไม่งั้น…”
อย่างไรก็ตาม ครูที่นำข่าวมาส่ายหัว
“เป็นเดอร์ริกเองที่อยากให้เลียมเข้าร่วมการแข่งขัน ถ้าเราไม่อนุญาต เขาบอกว่าเราจะต้องเสียใจที่ทำแบบนั้น”
ศาสตราจารย์จอห์นรีบไปรายงานผู้บังคับบัญชาของเขาทันที
“เขาคิดอะไรอยู่กันเนี่ย”
◇ ◇ ◇
เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับรายงานจากโรงเรียนประถม
“…อืม เรื่องนี้น่าสนใจ คุณคิดว่าฉันควรทำยังไง?”
และผู้ใต้บังคับบัญชาที่นำรายงานมาให้เขาคือ– เทีย
เธอได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีในฐานะเจ้าหน้าที่
“หากเรื่องนี้ดำเนินต่อไปท่านเลียมจะพอใจมากกว่าค่ะ”
ขณะมองดูเทียที่ยิ้มกว้าง นายกรัฐมนตรีคิดที่จะเชิญเธอให้มาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง
นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าเทียมีความสามารถมาก
“คริสเตียน่า คุณเคยคิดที่จะเป็นข้าราชประจำของทางการของจักรวรรดิไหม?”
เทียตอบกลับทันที
“ไม่ค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นายกรัฐมนตรีก็ยอมแพ้
“เฮ้อ…ขอโทษที่ถามแบบนั้น โดยส่วนตัวแล้วฉันต้องการผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“นายเหนือหัวเพียงคนเดียวของฉันคือลอร์ดเลียมค่ะ”
“การได้รับความภักดีจากอัศวินที่มีความสามารถเช่นคุณ เขาเป็นคนที่พิเศษจริงๆ”
“แน่นอนค่ะ”
เทียซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ ได้รับการยอมรับจากนายกรัฐมนตรีเพราะความสามารถของเธอ
เขาอยากจะเชิญเธอมาเป็นผู้ช่วยของเขาในศตวรรษหน้า ดังนั้นนายกรัฐมนตรีรู้สึกผิดหวังกับการปฏิเสธของเธอ – เธอเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ
“ตอนนี้บ้านเบนฟิลด์ และตระกูลเบิร์กลีย์ กำลังจะเริ่มต่อสู้อย่างจริงจังในไม่ช้า คุณพร้อมรึยัง?”
เทียนั้นมั่นใจว่าพวกเขาจะชนะเสมอ
“แน่นอนค่ะ ฉันไม่เคยสงสัยการตัดสินใจของลอร์ดเลียม แม้ว่าเขาจะเลือกผิด แต่ฉันมั่นใจว่าเราจะชนะ”
(เธอมีความสามารถ แต่ตามืดบอดไปหน่อย)
เทียให้บรรยากาศที่อันตรายขณะที่เธอพูดถึงสิ่งที่เธอเชื่ออย่างสุดใจว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
“ก็ดี คุณสามารถอาละวาดได้เต็มที่ จักรวรรดิจะยอมรับใครก็ตามที่เป็นผู้ชนะ”
สงครามระหว่างบ้านเบนฟิลด์และตระกูลเบิร์กลีย์
ใครจะชนะ?
แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่รู้
(ในแง่ของจำนวน มันเป็นชัยชนะที่ท่วมท้นของตระกูลเบิร์กลีย์ แต่เบนฟิลด์นั้นชนะการต่อสู้โดยที่จำนวนน้อยกว่ามาโดยตลอด โดยส่วนตัวแล้วฉันอยากจะเชื่อว่าครั้งนี้จะเป็นแบบนั้น)
เขาเชียร์บ้านเบนฟิลด์ แต่เขาต้องเป็นกลางในฐานะนายกรัฐมนตรี (TL: ตอนก่อนไม่พูดงี้)
(ต่อจากนี้ไปจะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน)
สงครามระหว่างขุนนางนั้น
ช่วงแรกจะเป็นการต่อสู้ที่เงียบๆ
การต่อสู้จะเริ่มขึ้นจริงๆก็ตอนที่กองกำลังทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง
ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากชัยชนะของตระกูลเบิร์กลีย์ จะสนับสนุนพวกเขาในช่วงสงคราม
หากเป็นแบบนั้น เลียมก็ไม่มีโอกาสชนะ
ไม่ว่าเลียมและบ้านของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็จะพ่ายแพ้
(—คำถามคือบรรดาขุนนางจะมีผู้ใดกล้าสนับสนุนเบนฟิลด์ในครั้งนี้)
เพื่อให้เขาชนะ การสนับสนุนของขุนนางและพ่อค้าที่ต่อต้านตระกูลเบิร์กลีย์นั้นจำเป็น
◇ ◇ ◇
“กระผมขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ!”
ในจอภาพไบรอันกำลังก้มหัวขอโทษ
ผมฟังรายงานในขณะที่ขยี้ตา
“หัวหน้าบ้านคลอเดียและบรรพบุรุษของเธอสงสัยในเจตนาของคุณ และการเจรจาเกี่ยวกับการหมั้นก็ไม่คืบหน้าเลย”
ผมไตร่ตรองเรื่องนี้ขณะมองไบรอันที่กำลังเช็ดเหงื่อของเขา
โดยทั่วไปแล้วไบรอันเป็นคนนุ่มนวล
ผมไม่คิดว่าเขาจะใช้ทัศนคติที่ดูถูกอีกฝ่ายแบบ “ทำไมคนพวกนั้นถึงไม่ยอมรับการหมั้น!”
ที่อีกฝ่ายคิดแบบนั้น หรือคิดว่าเราไม่จริงใจพอ?
จิตวิญญาณเหล็กกล้าของบ้านคลอเดียไม่เสื่อมสลายไม่ว่าพวกเขาจะตกต่ำแค่ไหน – นี่มันยอดเยี่ยมที่สุด!
“ดำเนินการเจรจาต่อไปอย่างระมัดระวัง พูดคุยย่างสุภาพเพื่อทำให้พวกเขาผ่อนคลายทีละเล็กทีละน้อย แบบนั้นจะดีกว่านะไบรอัน”
“น- แน่นอน แต่ปัญหาคือ… บ้านคลอเดียไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงอยากให้เลดี้โรเซตต้าเป็นภรรยาของคุณ พวกเขาคิดว่านี่เป็นแผนการอะไรบางอย่าง”
‘แม้ว่าคุณจะตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่คุณกำลังดูถูกเราด้วยข้อเสนอการแต่งงานแค่นี้งั้นเหรอ?! เราเป็นบ้านดัชเชสที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนะ!’
– อะไรแบบนั้นใช่มะ?
โอ้ บ้านคลอเดีย คุณช่างน่าสนุกเสียจริง
“ท่านเลียม…คุณจะรับเลดี้โรเซตต้าเป็นภรรยาจริง ๆ ใช่ไหม?”
เมื่อมองไปที่ไบรอันที่ดูกังวล ผมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
ลอร์ดผู้ชั่วร้ายอย่างผมจะสู่ขอลูกสาวของตระกูลคลอเดีย บ้านที่เหมือนกลุ่มก้อนความยุติธรรมที่เต็มไปด้วยด้วยจิตวิญญาณแห่งเหล็กกล้า
ครอบครัวคลอเดียเป็นครอบครัวใหญ่
พวกเขาต่อต้านคำสั่งของจักรพรรดิผู้ชั่วร้ายในสมัยนั้นและทนต่อการถูกทรมานมาสองพันปี
นอกจากนั้น พวกเขายังเป็นบ้านที่ผู้หญิงเป็นผู้ปกครองซึ่งคิดว่าผู้ชายทุกคนเป็นขยะ (TL: หือ!)
การทำให้บ้านหลังนี้ยอมจำนนต่อผมนั้นน่าสนใจอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
ยิ่งกว่านั้น ผมต้องการดูว่าพวกเขาจะทนได้นานแค่ไหน
“ไบรอัน คุณไม่พอใจกับการตัดสินใจของผมรึเปล่า?”
โดยปกติแล้ว ผมไม่อนุญาตให้ใครบ่นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมตัดสินใจไปแล้ว
แต่ผมรู้จักไบรอันมานานกว่าใคร
ผมจะยกโทษให้ถ้ามันเป็นเพียงคำบ่นไม่กี่คำ
“…ถ้าฉันพูดอย่างเป็นกลาง ฉันไม่พอใจ หนี้ที่บ้านคลอเดียมีนั้นมากกว่าบ้านเบนฟิลด์ในสมัยก่อนด้วยซ้ำ ไม่มีผลตอบแทนอะไรเลยสำหรับการสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา”
แต่นั่นเป็นปัญหาที่ผมสามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน
อันที่จริงอามากิบอกผมว่าการพัฒนาในอาณาเขตคืบหน้าไปอย่างราบรื่นในช่วงที่ผ่านมา ต่อให้ปล่อยไว้เฉยๆหนี้ของบ้านเบนฟิลด์ก็จะถูกชำระจนหมดในเวลาไม่นาน
เมื่ออามากิเป็นคนพูดนั่นคือความจริงแน่นอน
“แต่นี่คือสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้ว”
ไหล่ของไบรอันตกลงเมื่อผมพูดแบบนั้น
“กระผมเข้าใจขอรับ และโดยส่วนตัวแล้ว… ไบรอันคนนี้สนับสนุนคุณ ท่านเลียม”
การติดต่อสิ้นสุดลง
ผมยืนขึ้นและบิดขี้เกียจ
“ในที่สุดไบรอันก็เรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของผม แม้ว่าผมจะคิดว่าเขากำลังเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง แต่นั่นเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา”
◇ ◇ ◇
ในขณะนั้น หุ่นรบต้นแบบกำลังถูกทดสอบที่โรงงานอาวุธที่เจ็ด
มารีเป็นผู้ขับหุ่นรบต้นแบบที่ถูกสร้างจากวัสดุราคาแพง
ในอวกาศ – เธอกำลังบินผ่านความมืดและขยะอวกาศด้วยความเร็วสูงสุด
ไนอัสที่กำลังดูการทดสอบจากภายในยานรู้สึกทึ่ง
“เยี่ยมมาก อัศวินขับเคลื่อนที่สร้างขึ้นจากวัสดุราคาแพงนั้นดีที่สุด”
เครื่องที่สร้างขึ้นโดยใช้โลหะหายากจำนวนมหาศาลโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับงบประมาณนั้นเป็นงานศิลปะมากกว่าหุ่นรบ
มารีซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการทดสอบกลับมาที่ยาน
“คุณไนอัส ความเร็วในการตอบสนองมันช้าเล็กน้อย คุณคิดว่าท่านเลียมจะพอใจกับระดับแค่นี้จริงๆ เหรอ?”
ในฐานะนักบินทดสอบ มารีเป็นนักบินทดสอบระดับเฟิร์สคลาสแน่นอน
แม้ว่าจะมีปัญหามากมายเกี่ยวกับบุคลิกภาพของเธอก็ตาม
เธอเป็นนักบินระดับสุดยอดที่สามารถจัดการกับเครื่องบินที่ขับได้ยากลำบาก ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเธอเอง
ไนอัสตอบขณะใช้งานแท็บเล็ต
“ฉันจะระมัดระวังมากขึ้นตอนปรับความเร็วปฏิกิริยาของเอวิท”
“ระวังการปรับจูนของเด็กคนนี้ด้วย เด็กคนนี้จะกลายเป็นอัศวินขับเครื่องส่วนตัวของฉัน”
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงต้นแบบ แต่มารีก็ชอบมัน
“โดยส่วนตัวแล้ว… ฉันต้องการเก็บไว้เป็นเครื่องทดลอง”
“มันไม่เป็นไรถ้าคุณจะผลิตพวกเขาจากชิ้นส่วนของเรา แต่อย่าได้โลภเกินไป… ไม่งั้นเราจะไม่สนับสนุนคุณอีก ฉันต้องการให้เด็กคนนี้ทาสีขาวและสีม่วงใหม่ นั่นคือสีส่วนตัวของฉัน”
การย้อมสีหุ่นรบเป็นสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้นั้น
เป็นหนึ่งในสิทธิพิเศษของนักบินระดับเฟิร์สคลาส
แต่ไนอัสก็พูดขัดขึ้นมา-
“โอ้ มารี…ฉันขอโทษ แต่นั่นเป็นสีสันส่วนตัวของคริสเตียน่า แล้ว”
บรรยากาศของมารีเปลี่ยนไปทันที
เธอพูดจาสุภาพมาจนถึงตอนนี้แต่—
“ยัยเนื้อสับนั่น! หล่อนใช้สีส่วนตัวของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต!ฮึ่ม ฉันจะเปลี่ยนยัยกากนั่น ให้กลับเป็นร่างเดิม!”
เธอเริ่มพูดจาสาปส่งเทียอย่างรุนแรง
“เอ่อ… มารี?”
“อ๊ะ ขอโทษที อืม… ยัยผู้หญิงที่ไร้มารยาทคนนั้น ดันประกาศตัวเองว่าเป็นหัวหน้าอัศวินของท่านเลียม แต่เธอไม่คู่ควรกับตำแหน่งนั้นเลยสักนิด ไม่คิดงั้นเหรอ?”
เลียมยังไม่ได้ประกาศด้วยตัวเองว่าจะแต่งตั้งใครเป็นหัวหน้าอัศวิน เพราะแบบนั้นมารีจึงไม่สามารถยอมรับได้
(ฉันสงสัยว่าฉันควรตอบเธออย่างไร…ยิ่งไปกว่านั้น หากเธอรู้ว่าลอร์ดเลียมกำลังจะหมั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ)
แต่มันไม่มีทางเลือก
“ที่สำคัญกว่าเรื่องนั้น ดูเหมือนว่าลอร์ดเลียมจะพบผู้หญิงที่เขาสนใจในโรงเรียนประถม เขาได้ประกาศความตั้งใจที่จะหมั้นกับเธอแล้วตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ในระหว่างเจรจา”
“โอ้ อย่างนั้นเหรอ! ฉันอยากรู้จังว่าเป็นใคร? แม้ว่าคุณจะค้นหาทั่วทั้งจักรวรรดิ คุณจะไม่พบคนที่เหมาะสมกับลอร์ดเลียมได้ง่ายๆ”
‘เธอมองเลียมแบบไหนกันแน่’–ไนอัสประหลาดใจ
“อืม… จริงๆ แล้วเป็นท่านหญิงโรเซตต้า ของบ้านดัชเชส คลอเดีย”
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น มารีก็ร้องขึ้น
“เยี่ยมมาก! ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองทันที!!”
“ฮะ? คุณไม่โกรธเหรอ?”
“ลอร์ดเลียมเป็นเจ้านายในอุดมคติของฉัน การที่เขาเลือกลูกสาวของบ้านคลอเดีย มันต้องเป็นโชคชะตา”
ไนอัสพูดไม่ออก
เธอปล่อยให้มารีตื่นเต้นอยู่คนเดียว ส่วนเธอเริ่มใช้แท็บเล็ต
ภาพที่ฉายบนนั้นเป็นภาพของเอวิทกำลังได้รับการปรับปรุงใหม่
มันถูกอัพเกรดโดยใช้โลหะหายากกองเท่าภูเขา
เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังน้ำลายไหลเมื่อเห็นมัน
“อ่า~ นี่มันยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะชิ้นส่วนนี้และกลไกนี้นี่มันดีที่สุด ฉันจะตรวจสอบคุณเมื่อฉันกลับถึงบ้าน”
ไนอัสหลงไหลในเอวิท ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยทุกอย่างที่โรงงานผลิตอาวุธที่เจ็ดสามารถทำได้
-มันให้ความรู้สึกว่าเธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดที่เห่อลูก
เมื่อเห็นสภาพตื่นเต้นของไนอัสและมารี พนักงานคนอื่นๆ ก็มองด้วยสายตาเวทนา
“สองคนนั่นยังปกติอยู่ไหมนั่น?”
“ไปหมดแล้วสมงสมอง”
“ไนอัสพูดถึงเอวิท ราวกับว่าเป็นลูกของเธอเอง”
การปรับปรุงเอวิท ดำเนินไปอย่างราบรื่น
ไนอัสน้ำลายไหลบนแท็บเล็ตของเธอ
“อ่า~ ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าเลย เมื่อได้ดูความแวววาวของมิธริลนั้น”
——————-
ไบรอัน (´・ω・) “การเจรจาต่อรองกับบ้านคลอเดียนั้นยาก แต่ไบรอันคนนี้จะไม่ทำให้ลอร์ดเลียมผิดหวัง!”
ไบรอัน (`・ω・´) “ไบรอันคนนี้สาบานเลย! ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อลอร์ดเลียม!”
—————–
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ
กสิกร 475-2-65694-8 นายเมือง บ.
ขอบคุณสำหรับโดเนทของทุกท่าน ที่ทำให้ผู้แปลมีกำลังใจทำต่อไป มีเหตุติชมอะไร อินบ็อกซ์ถามได้ที่เพจเฟสบุ๊ค Avolenn channel ครับ
MANGA DISCUSSION