(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 35
โรเซตต้า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่ใช่เจ้าชาย ฉันเป็นแค่วอลเลซ!”
หลังจากเป็นลูกน้องของผม วอลเลซขึ้นมาที่ห้องของผมเพื่อทำเอกสาร
เคิร์ทก็มาเยี่ยมด้วย
“คุณดูมีความสุขดีนะ”
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเลียม เพราะคุณ ฉันจึงสามารถหลบหนีจากตำแหน่งของฉันในฐานะราชวงศ์ได้อย่างปลอดภัย”
เขาพูดราวกับว่าเขาเกลียดการเป็นเจ้าชาย
“ผมคิดว่าการเกิดเป็นราชวงศ์จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากกว่า”
วอลเลซขมวดคิ้ว ประหลาดใจกับคำพูดของผม
“นั่นเป็นเพียงเพราะคุณไม่รู้อะไรเลย การมีตำแหน่งเจ้าชายเป็นสิ่งที่อันตรายมาก พี่ชายของฉันกำลังต่อสู้กันเองอย่างต่อเนื่องเพื่อตำแหน่งจักรพรรดิ ซึ่งทำให้เกิดศึกสายเลือดที่น่าสยอดสยอง”
เคิร์ทที่เหมือนรู้อะไรบางอย่างพูดขึ้น
“ฉันได้ยินข่าวลือมามากมายเช่นกัน ผู้คนกล่าวว่าการสืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิ เป็นจุดเริ่มต้นของการสังหารพี่น้องของพวกเขา มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้”
วอลเลซลดเสียงลง
“… พยายามเก็บสิ่งนั้นไว้กับตัวเอง ข่าวลือเหล่านั้นมักจะเป็นความจริง แม้แต่กับพ่อของฉัน คู่แข่งทั้งหมดของเขาดูเหมือนจะเสียชีวิตก่อนที่จะครองบัลลังก์ คุณต้องระวังคำพูดให้ดี”
ใบหน้าของเคิร์ทซีดลง
ส่วนผมนั้นเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้ในชีวิตก่อนหน้า
ความบาดหมางในครอบครัวไม่ใช่เรื่องแปลกในระบบศักดินา
การแสดงออกของวอลเลซไม่แยแส
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันถอนตัวจากการแข่งขันเพื่อเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างปลอดภัยแล้ว”
“ไม่ใช่ว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะสืบทอดบัลลังก์อยู่แล้วรึ?”
“ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป สถานการณ์ในวังมันซับซ้อนกว่าที่คุณคิด… เพราะไม่ใช่แค่ลูกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงที่มาของฝั่งแม่ด้วย… ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มผู้สนับสนุนหรือมีส่วนร่วมจะถูกฆ่าทั้งหมด ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ”
“ขนาดนั้นเชียว?”
“ขนาดนั้นแหละ… วังชั้นในไม่ใช่สถานที่สวยงามที่คนทั่วไปคิดว่ามันเป็น เป็นสถานที่ที่พี่น้องร่วมสายเลือดฆ่ากันเองเพื่อสิทธิในการเป็นจักรพรรดิ โดยเริ่มจากการต่อสู้ที่น่าเกลียดระหว่างแม่ของพวกเขา”
ธงมรณะถูกยกขึ้นโดยที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้
เรียกได้ว่า พระราชวังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความตาย
เจ้าชายเจ้าหญิงทุกคนไม่สามารถดูเบาเรื่องนี้ได้
วอลเลซกล่าวว่าการต่อสู้เพื่อครองบัลลังก์เมื่อสองพันปีก่อนนั้นเลวร้ายอย่างยิ่งและผลกระทบจากความล้มเหลวในการชิงบัลลังก์ยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน
“จักรพรรดิเมื่อสองพันปีที่แล้วนั้นน่ากลัวมาก มีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวข้องกับการทรยศและความตาย เพราะแบบนั้นจะไม่ให้มีความสุขที่หนีจากสถานการณ์แบบนั้นได้ไงล่ะ?”
ในตอนนี้ วอลเลซมีใบหน้าที่สดชื่นเมื่อตัวเขาเองหลุดพ้นจากภาระทั้งหมดที่กล่าวมา
“ในที่สุดฉันก็สามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้ ขอบใจนะเลียม”
ผมทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีความหมายสำหรับเขามากกว่าที่คิด
อดีตเจ้าชายเป็นลูกน้องของผมแล้ว
แค่นั้นผมก็พอใจละ
แต่เหมือนว่าจะมีบางสิ่งที่ผมกังวล
“วอลเลซ… ในทางปฎิบัติ คุณแค่ส่งสินบนเพื่อขอเข้าร่วมกับมกุฎราชกุมารซึ่งจะได้ครองบัลลังก์อย่างแน่นอนไม่ได้เหรอ?”
จักรพรรดิองค์ต่อไปน่าจะถูกวางตัวไว้อยู่แล้ว
วอลเลซที่อาศัยอยู่ในวัง เขาน่าจะคาดเดาได้ว่าตอนนี้ใครจะได้เป็นจักรพรรดิคนต่อไปสิ?
วอลเลซถอนหายใจ
“มีหลายกรณีที่คนที่ได้รับการยืนยันว่าเป็น ‘จักรพรรดิองค์ต่อไป’ ได้เสียชีวิตลง คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องที่ร่วมกลุ่มหรือตีสนิทกับคนคนนั้น”
“พวกเขาจะถูกประหารชีวิต?”
“ความตายนั่นถือว่าเป็นความเมตตา การมีชีวิตอยู่กลายเป็นเรื่องยากเกินจินตนาการสำหรับผู้ที่สนับสนุนบุคคลที่ไม่ได้เป็นจักรพรรดิ… บ้านคลอเดียที่โรเซตต้าคนนั้นอยู่ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเรื่องนี้”
น่าแปลกใจที่ได้ยินชื่อโรเซตต้าขึ้นมากระทันหัน
“โรเซตต้า?”
เมื่อผมถาม เคิร์ทก็หันมาส่ายหัวแสดงออกว่าเขาก็ไม่รู้
ขณะที่เราเอียงศีรษะอย่างสับสน วอลเลซเริ่มอธิบายสถานการณ์ของโรเซตต้า
“ในสมัยนั้น มีเจ้าชายผู้หนึ่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบ้านคลอเดีย…”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของบ้านคลอเดีย
◇ ◇ ◇
ห้องน้ำหญิงในอาคารเรียนที่หนึ่ง
โรเซตตายืนอยู่หน้ากระจกมองดูเงาสะท้อนของเธอ
เธอกำลังพูดกับตัวเอง
“ฉันเป็นธิดาผู้น่านับถือของตระกูลคลอเดีย วันหนึ่งฉันจะเป็นคนยุติความทุกข์ทรมานของเรา”
ตระกูลคลอเดียซึ่งเป็นครอบครัวดยุคที่มีผู้หญิงเป็นผู้ปกครอง เห็นได้ชัดว่าเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อน
พูดง่ายๆก็คือพวกเขาเป็นตระกูลกยุค เพียงแค่ชื่อ
พวกเขาครอบครองดาวเคราะห์ดวงเดียวที่ขอบชายแดน
แต่เดิมพวกเขาถือได้ว่าเป็นขุนนางเล็กๆ แต่จักรวรรดิได้เลื่อนตำแหน่งบ้านคลอเดีย ให้เป็นสถานะดยุค
นั่นคือเมื่อสองพันปีที่แล้ว
สมัยนั้นเป็นยุคมืดของจักรวรรดิ
ย้อนกลับไปตอนนั้น จักรวรรดิอยู่ในความไม่สงบ
มกุฎราชกุมารที่ควรจะเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไปได้สิ้นพระชนม์ก่อนครองราชบัลลังก์
บ้านคลอเดียที่สนับสนุนเจ้าชายคนนั้นโดยการแต่งงานจำต้องถอยเพื่อให้เจ้าชายอีกคนขึ้นครองราชบัลลังก์แทน
แต่เจ้าชาย…ไม่สิ จักรพรรดิองค์นั้นเป็นศัตรูกับพวกเขา
นับแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ต้องตกอยู่ภายใต้ความเกลียดชังที่ไม่รู้จบจากราชวงศ์และขุนนาง
โดยธรรมชาติแล้ว ดยุคที่สนับสนุนเจ้าชายผู้ล่วงลับ จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
บ้านคลอเดียถูกปล้นอาณาเขตของพวกเขา
พวกเขาถูกบังคับให้ไปยังดาวเคราะห์ที่ถูกทำลายซึ่งถูกขับออกไปจนสุดขอบจักรวรรดิ
อย่างไรก็ตาม สถานะของพวกเขายังคงเป็นดยุค
‘ใครก็ตามที่ต่อต้านจักรพรรดิจะต้องลงเอยแบบนี้ ไม่ว่าสถานะของพวกเขาคืออะไร’ – เป็นการแสดงอำนาจแบบนั้น
พวกเขาเป็นขุนนาง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่
มันเป็นชะตากรรมที่โหดร้าย แต่พวกเขาก็ยังรอดชีวิต
หัวหน้าของบ้ายคลอเดียในอดีตได้ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อวันหนึ่งจะหลุดพ้นจากชะตากรรมอันโหดร้ายนี้
และโรเซตต้าก็ต่อสู้กับมันเช่นกัน
◇ ◇ ◇
เหตุผลของโรงเรียนประถมคือการฝึกอบรมเด็กเพื่อให้รู้จักการวางตัวเป็นขุนนาง
ในบางครั้ง อาจมีลูกของขุนนางที่ไม่รู้ว่าจักรวาลเป็นยังไง และนำความอัปยศไปทุกที่ที่พวกเขาไป
เพื่อป้องกันสถานการณ์ดังกล่าว นี่คือการศึกษาขั้นต่ำที่พวกเขาต้องได้รับในโรงเรียนประถมศึกษา
อย่างไรก็ตาม มีเพียงเด็กที่เก่งที่สุดเท่านั้นที่ได้รับมอบหมายให้เรียนที่อาคารเรียนหลังที่หนึ่งเพื่อการศึกษา
ชั้นเรียนมีความยากลำบาก แต่นั่นก็หมายถึงความคาดหวังที่จักรวรรดิมีให้กับขุนนางเหล่านี้
โรเซตตามีความสุขมากเมื่อเธอได้รับมอบหมายให้เรียนที่อาคารเรียนหลังที่หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม…
(…ฉันไม่สามารถติดตามเนื้อหาของบทเรียนได้)
เธอไม่สามารถติดตามความเร็วของบทเรียนในชั้นเรียนได้
บ้านของเธอยากจน และเธอไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอตั้งแต่เธอโตขึ้นมา
จำนวนครั้งที่เธอได้รับการศึกษาจากแคปซูลการศึกษานั้นน้อยมาก
ระดับของเธอนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆให้ห้องเรียนอย่างชัดเจน
เธอทำงานหนัก แต่รู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับกำแพงที่เธอไม่สามารถข้ามไปได้
(ฉันยอมแพ้ที่นี่ไม่ได้ ฉันจะจบห่วงโซ่แห่งความทุกข์นี้และปลดปล่อยพวกเราให้เป็นอิสระ)
ทุกครั้งที่เธอได้ยินคนอื่นพูด คนพวกนั้นก็เอาแต่ล้อเลียนเธอ
เธอกลายเป็นคนหวาดระแวงด้วยทัศนคติในเชิงลบ หลังจากเห็นความแตกต่างระหว่างตัวเองกับสิ่งรอบตัว
(ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องประสบความสำเร็จที่นี่)
โรเซตต้าเป็นคนเดียวที่หมดหวังที่จะเรียนรู้ในชั้นเรียน ขณะที่คนอื่นๆ ใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างสบายๆ
แม้กระทั่งหลังจากที่เธอกลับมาที่หอพักก็เช่นเดียวกัน
เมื่อเธอกลับถึงห้อง ร่างกายของเธอเริ่มกรีดร้องว่ามันอยากจะล้มตัวลงบนเตียงและนอนมากแค่ไหน
แต่แทนที่จะทำตามความต้องการของร่างกาย เธอกลับบังคับให้ตัวเองไปที่โต๊ะเพื่อเรียนหนังสือ
แม้ว่ามันจะไร้ประสิทธิภาพ แต่เธอจะตามไม่ทันยิ่งกว่าเดิมถ้าเธอไม่ทบทวนหัวข้อของบทเรียนในวันพรุ่งนี้ล่วงหน้า
“…ฉันจะไม่แพ้ ถ้าฉันล้มเหลวที่นี่ ลูกสาวในอนาคตของฉันจะต้องผ่านความเจ็บปวดนี้เช่นกัน”
น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด
และในขณะที่สติของเธอค่อยๆ หายไป เธอล้มลงและทรุดตัวลงบนโต๊ะทั้งอย่างนั้น
◇ ◇ ◇
โรเซตต้ากำลังฝัน
มันเป็นความฝันในวัยเด็กของเธอ
จักรวรรดิได้ส่งคำเชิญให้ครอบครัวของเธอไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวัง
โรเซตตาซึ่งยังเป็นเด็กสาวในขณะนั้นรู้สึกตื่นเต้น แต่ท่าทางของคุณยายของเธอบูดบึ้ง
แม่ของเธอร้องไห้ขณะที่เธอกอดเธอ
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงเศร้า
“แม่ คุณย่า ร้องไห้ทำไมกันคะ?”
ทั้งสองยิ้มให้กับความไร้เดียงสาของเธอทั้งๆที่มีน้ำตา
“มันไม่มีอะไรโรเซตต้า มาสนุกกับปาร์ตี้กันเถอะ เราจะสนุกให้มากที่สุด”
“คะ!”
แม่ของเธอยากจน แต่เธอก็ยังเตรียมชุดให้
และคุณยายของเธอได้มัดผมที่สวยงามของเธอให้เป็นลอน
โรเซตต้าชอบทรงผมนี้
แต่ในที่สุดเมื่อเธอได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่เมืองหลวงของจักรวรรดิที่เธอตั้งตารอ – เธอถูกเยาะเย้ย
เธอยังคงจำเสียงของขุนนางในตอนนั้นได้
“อี๋ ดูชุดสกปรกนั่นสิ”
“นี่เป็นตัวตลกอีกคนจากบ้านคลอเดียใช่ไหม?”
“ทำไมพวกเขาถึงกล้าที่จะมาที่เมืองหลวงของจักรวรรดิ?”
ต่างจากปาร์ตี้แสนสนุกที่เธอคาดไว้ เธอได้เรียนรู้ว่าพวกเขาได้รับเชิญเพียงเพื่อที่พวกเขาจะถูกคุกคามและหัวเราะเยาะ
นี่เป็นแผนงานที่จักรพรรดิผู้ล่วงลับได้ตั้งขึ้น
เขาต้องการแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ต่อต้านเขา
เป็นธรรมเนียมที่สืบเนื่องมาเป็นเวลาสองพันปี
ประเพณีนี้ถูกจัดขึ้นเป็นเวลานานเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะยุติมันในตอนนี้ – มันเป็นไปไม่ได้
ขุนนางบางคนรู้สึกสงสารพวกเขา
แต่ก็ไม่มีใครเอื้อมมือไปช่วย
หลังจากที่โรเซตต้ารู้เรื่องราวต่างๆแล้ว คุณแม่ของเธอบอกกับเธอว่า
“จงทำดีกับสุภาพบุรุษที่แสดงความเมตตาต่อเรา ในอนาคตพวกเขาจะเป็นคนที่จะช่วยให้คุณคลอดบุตรได้ แล้วบ้านคลอเดียก็จะยังคงอยู่ต่อไป”
สาเหตุที่บ้านคลอเดียเป็นครอบครัวที่มีผู้หญิงเป็นผู้ปกครองก็เพราะพวกเขาไม่สามารถหาคู่แต่งงานได้
ตราบใดที่ยังเป็นผู้หญิง ก็มีโอกาสที่จะมีลูกได้หลังจากกราบขอร้องผู้ชายบางคน
“โรเซตต้า…โตขึ้นอย่างงดงาม หากคุณทำเช่นนั้น พวกผู้ชายถึงจะสนใจคุณ”
“…?”
“นี่เป็นวิธีเดียวที่บ้านคลอเดียจะมีลูกได้”
–นั่นคือครั้งแรกที่เธอรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่เคยเจอพ่อเลย
อีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมบ้านคลอเดียถึงเป็นครอบครัวที่มีผู้หญิงเป็นผู้ปกครองก็เพราะว่ามันง่าย…
ถ้าหัวหน้าเป็นผู้ชาย คงไม่มีผู้หญิงคนไหนมาเป็นเจ้าสาวของเขา
ผู้ชายยังสามารถสร้างลูกได้ตราบเท่าที่พวกเขามีเงิน
พวกเขาแค่ต้องการซื้อไข่จากผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ปัญหาก็คือเรื่องเงินทุนในการใช้จ่าย
บ้านคลอเดียในตอนนี้ไม่สามารถจ่ายได้
วิธีราคาแพงแบบนั้น เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา ดังนั้นทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือให้ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นคนรับช่วงต่อ
บางคนพยายามที่จะจบชีวิตที่น่าสังเวชนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ที่คอยควบคุมอย่างต่อเนื่องและถูกปฏิเสธ โดยไม่ให้โอกาสใดๆ
ทางเดียวที่โรเซตต้าจะหลุดพ้นจากขุมนรกนี้ได้คือการยกระดับตัวเองให้มีค่า
◇ ◇ ◇
เมื่อเธอตื่นนอน – มันเป็นเวลาเช้าแล้ว
“ไม่ มันเป็นไปไม่ได้!”
หลังจากตื่นนอนอย่างเร่งรีบ เธอก็พบว่าเวลาอาหารเช้าผ่านไปแล้ว
เธอรีบไปที่อาคารเรียนแต่ก็ยังสายอยู่ดี
เครื่องแบบของเธอยับยู่ยี่ และผมของเธอก็พังไม่เป็นทรง
เมื่อเธอเข้าไปในห้องเรียน เพื่อนๆให้ห้องก็เริ่มหัวเราะเยาะเธอ
และเมื่อศาจราจารย์จอห์นเห็นโรเซตตา
“โรเซตต้า อย่ามัวชักช้า คราวหลังก็ตื่นให้ตรงเวลา”
“…ค่ะ ฉันขอโทษ”
เขาไม่ได้รุนแรงกับเธอเหมือนที่เขาทำกับนักเรียนคนอื่นๆ
ปกติแล้ว เขาเป็นครูประเภทที่เริ่มโวยวายใส่นักเรียนที่สาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับโรเซตต้า
เพื่อนร่วมชั้นของเธอจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมต่างๆ การเยาะเย้ย สงสาร ความสนใจ ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขามองเธอเหมือนเธอเป็นสัตว์หายาก
เธอได้ยินเสียงของเด็กชาย
“ต่อให้เธอจะมาสาย แต่เธอจะดูแย่ขนาดนั้นได้ยังไง? หน้าตาแบบนั้นมันคืออะไรกันแน่”
“อย่างน้อยที่สุด เธอก็ควรคิดว่าเธอจะต้องแต่งหน้าก่อนที่จะปรากฏตัวให้ใครเห็นนะ”
“ทรงผมก็ยุ่งเหยิงไปหมด น่าจะห่วงเรื่องหน้าตาของตัวเองบ้าง”
“…เฮ้เพื่อน คำพูดเหล่านั้นจากคุณดูไม่มีน้ำหนักเลย ดูผมของคุณสิ” ชายหนุ่มเบะปากไปยังเพื่อนที่ไว้ผมทรงทอร์นาโดที่พูดก่อนหน้า
เธอรีบร้อนและไม่มีเวลาอาบน้ำ และเมื่อเธอเข้าใกล้ที่นั่งของเธอ-
– สาวๆ เริ่มปิดจมูก
“กลิ่นอะไรแบบนี้เนี่ย”
“จมูกฉันจะหลุดแล้ว”
“ขืนได้กลิ่นนี้ต่อไปมีหวังเรียนไม่รู้เรื่องแน่ๆ”
ถึงเพื่อนร่วมห้องคนนั้นจะพูดแบบนั้นแต่โรเซตต้าก็รู้ว่าเธอแย่ที่สุดในชั้นเรียน
จากนั้นเธอก็เดินผ่านเลียม นักเรียนดีเด่น
(…เบนฟิลด์)
เธอกัดฟัน
เขากำลังมองไปที่กระดานด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
มันเป็นใบหน้าที่บอกว่าเขาไม่สนใจเธอเลย
ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้
เมื่ออายุยังน้อย เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นเคานต์ที่จัดการกิจการในอาณาเขตได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งเชี่ยวชาญในทักษะป้องกันตัว และถือครองใบอนุญาตินักดาบ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้รับกระทั้งชื่อที่สองอย่าง ‘นักล่าโจรสลัด’
สถานะ เกียรติยศ และทักษะ– เขาเป็นเด็กที่มีทุกอย่าง เขาตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง
เลียมเป็นคนเดียวที่จอห์นไม่เคยตะโกนใส่
เพราะมันไม่มีเหตุผล
เกรดของเขาเป็นอันดับต้นๆในชั้นเรียน
ทักษะการวางตัวของเขาก็ยอดเยี่ยมในทุกด้าน
แต่ความสามารถพิเศษที่แท้จริงของเขาอยู่ที่ทักษะการต่อสู้
เขาชนะเสมอแม้กระทั่งกับเคิร์ตที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับสอง
เลียมไม่เคยบุบสลาย ไม่แสดงด้านที่อ่อนแอ และไม่มีใครสามารถต่อต้านเขาได้
เขาเป็นคนเดียวที่ไม่มีใครพยายามต่อสู้ด้วย
เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้
–เขาแตกต่างจากโรเซตต้าอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นคนที่มีทุกอย่าง
เธอช่วยไม่ได้ที่จะเกลียดคนแบบเลียม
(ทำไมถึงมีคนอย่างคุณอยู่กันนะ ฉันเกลียดคนแบบคุณที่มีทุกอย่างในชีวิต มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกลียด)
◇ ◇ ◇
– ตรอกมืดในเมืองหลวงของจักรวรรดิ
ไกด์อยู่ที่นั่น
เขากัดฟันขณะมองดูคนเร่ร่อนสองคนกำลังขุดคุ้ยถังขยะ
“บ้าจริง ฉันมาที่แบบนี้ได้ยังไง”
ไกด์ในปัจจุบันไม่แตกต่างจากพวกเขา
ความสัมพันธ์ของเขากับเลียมแข็งแกร่งมากจนสามารถดูดซับอารมณ์ไม่ว่าเชิงบวกหรือลบที่เกี่ยวข้องกับเลียมได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เพราะแบบนั้นสถานะปัจจุบันของไกด์เทียบเท่ากับเขาดื่มน้ำโคลนจนเต็มถัง
ความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขารู้สึกมันเป็นเพราะเลียม
เขาจับหน้าอกของเขาขณะที่เขาเดินไปรอบๆ รวบรวมอารมณ์ด้านลบที่อยู่รายรอบ
อย่างไรก็ตาม อัตราการดูดซึมนั้นช่างน่าหดหู่
มันไม่มีประสิทธิภาพมากเพราะความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากความกตัญญูของเลียมที่คอยระบายพลังของเขาออก
เหตุผลที่ไกด์ต้องการแก้แค้นเลียม—เพื่อที่เขาจะได้หลุดพ้นจากสถานการณ์นี้และเป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานนี้
เพราะงั้น เขาจึงต้องรวบรวมอารมณ์ด้านลบ
นั่นคือตอนที่คนเร่ร่อนที่อยู่ข้างหน้าไกด์เริ่มต่อสู้กัน
“นั่นคืออาหารที่ฉันพบ!”
“หุบปาก! มันเป็นของฉันเพราะคุณดื่มเหล้าของฉันครั้งล่าสุด!”
อย่างไรก็ตาม เมื่อไกด์เดินผ่านพวกเขา สีหน้าเคร่งขรึมของทั้งสองก็อ่อนลง
“…ขอโทษ ฉันผิดเอง… ฉันก็หิวเหมือนกัน ขอแบ่งครึ่งได้ไหม?”
“ฉันก็ขอโทษเหมือนกัน”
พวกเขาขอโทษและแบ่งปันอาหาร
เป็นผลจากการซึมซับอารมณ์ด้านลบ
ไกด์พูด
“ระวังตัวไวเถอะเลียม ฉันจะส่งคุณไปยังนรกที่ลึกที่สุดเลยคอยดู”
——————
ไบรอัน (´;ω;`) “มันเจ็บปวด สถานการณ์ของโรเซตต้าช่างเจ็บปวดเหลือเกิน… แต่ท่านเลียมก็ลำบากเหมือนกัน รู้ไหม!”
—————–
ปล.ขอพักซักครู่…เห็นการเมืองแล้วปวดจุย จะกลับมาในเร็ววัน
ขอให้สนุกครับ Avolenn