การเตรียมการ
ไกด์กำลังมีความสุข
“ปีเตอร์! คุณนี่มันสุดยอด”
ไกด์ชมปีเตอร์ ที่ลากบ้านพีตัคมาเข้าร่วม
ไกด์ยินดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม อะไรก็ดีตราบใดที่มันพยายามทำร้ายเลียม
“ตอนนี้พวกโจรสลัด บ้านพีตัค และบ้านราเซลต่างก็ร่วมมือกันเพื่อโจมตีเลียม! สุดยอด!”
เมื่อเขาเฝ้าดูสถานการณ์ เขาตัดสินใจว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้พลังของเขา
พื้นที่ข้างหน้าของเขาบิดเบี้ยวเมื่อเขาเอื้อมมือออกไป
ตรงจุดนั้น พลังของมัคคุเทศก์ก็ระเบิดออกมาเพื่อเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์
“ครั้งนี้คุณโดนดีแน่ เลียม!”
อย่างไรก็ตาม พลังของไกด์ไม่ได้เหลือเยอะมากพอ ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้มากนัก
ในสถานะปัจจุบันของเขา เขาทำได้เพียงก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีความสุขที่สามารถขัดขาเลียมได้
“สักวันพลังฉันจะฟื้นกลับมา และคราวนี้จะเป็นคุณที่รู้สึกเจ็บปวด เลียม! ฟุฮะๆๆๆ!”
แสงสีขาวมองดูไกด์หัวเราะก่อนจะหายตัวไป
◇ ◇ ◇
…ระยะเวลาการฝึกกำลังจะสิ้นสุดลง
แม้ว่าพวกเขาจะเรียกมันว่าการฝึกอบรม แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ทำงานง่ายๆ ให้กับบ้านของไวเคานต์
แม้ว่าผมจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษใดๆ แต่ก็สนุกดี
ถึงอย่างนั้นผมก็เบื่อ นโยบายของครอบครัวราเซลที่จริงจังเกินไป
ผมอยากเที่ยวเล่นมากกว่านี้…แต่มันค่อนข้างไม่ปลอดภัยอ่ะ
หลังจากที่ผมกลับไปยังอาณาเขตของ ผมสาบานว่าจะลงทุนในกิจการย่านบันเทิงมากขึ้น
“เร็วเข้า! แขกคนสำคัญหลายคนจะมาร่วมงานนี้นะ!”
ขณะที่ผมกำลังช่วยจัดห้องจัดเลี้ยง ผมก็คุยกับเคิร์ตขณะทำงานไปด้วย
“เขาดูกระตือรือร้นจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ได้ยินมาว่าครั้งนี้แขกมาเยอะ เนื่องจากบ้านปีเตอร์แห่งพีตักอยู่ที่นี่ กองกำลังทหาร ผู้แทนโรงงานอาวุธ และหัวหน้าหอการค้าต่างๆ ก็จะมาด้วย”
เมื่อผมทำพิธีบรรลุนิติภาวะ ผู้คนยังไม่เยอะเท่านี้
แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ ขุนนางที่แท้จริงที่มีอำนาจและประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า ผู้คนจำนวนมากจะแห่เข้าหาพวกเขาโดยธรรมชาติโดยหวังว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ผมอิจฉานิดหน่อย
สักวันหนึ่ง ผมอยากจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ได้ทุกวัน พร้อมดื่มด่ำรสชาติของชีวิต
“แม้ว่าพวกเขาจะบอกให้เราจัดสถานที่จัดปาร์ตี้ แต่เขารื้อสถานที่สร้างใหม่เลยไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้สำคัญสำหรับพวกเขามากน่ะสิ”
พื้นของสถานที่ถูกรื้อออกและเปลี่ยนใหม่ ในขณะที่มีการเตรียมน้ำพุไว้ตรงกลาง
การหมั้นของปีเตอร์และแคทเทอรีน่าจะมีการประกาศในงานปาร์ตี้นี้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจว่าเกือบทุกอย่างควรถูกสร้างใหม่และปรับปรุงให้ทันสมัย
มีคนงานก่อสร้างมากมายที่นี่ แต่เราก็ต้องช่วยด้วย
อย่างแรกเลย สถานที่จัดงานมันกว้างมาก
นี่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีคนเข้าร่วมกี่คน?
ขณะที่ผมคิดเรื่องนี้ ผมก็สังเกตเห็นว่ามีสนามประลองก็เตรียมไว้ที่นี่ด้วย
“นั่นคือเวทีประลองเรอะ?”
“ฉันคิดว่างั้นนะ คุณจะไม่เข้าร่วมใช่ไหมเลียม?”
“การประลองถูกจัดฉากไว้ก็จริง แต่ผมยอมให้ตัวเองแพ้ไม่ได้ ในฐานะผู้ใช้ทักษะดาบประกายแสงเพียงคนเดียวที่นี่”
นี่เป็นเพียงงานเล็กๆ เพื่อแสดงผลของการฝึกอบรม
ดูเหมือนว่าเคิร์ทจะเข้าร่วมและจะต้องแกล้งแพ้อย่างเหมาะสม
เรื่องมันยุ่งยาก
“ฉันอาจจะคิดถึงที่นี่นิดหน่อย”
เคิร์ทดูเศร้าเล็กน้อย
“ไม่มีเวลาให้ซึมหรอกนะ อีกไม่นานเราจะต้องไปโรงเรียนประถม ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องทำหลังจากนี้”
“ก็จริงนะ”
ขณะที่เคิร์ทตอบด้วยรอยยิ้มแหย อัศวินฝึกสอนก็เข้ามาหา
“เคิร์ท มีการติดต่อจากที่บ้านน่ะ!”
“ครับ ฉันกำลังไป!”
เคิร์ทจึงออกจากสถานที่
ขณะที่ผมทำงานตัวเองต่อไป ผมเหลือบเห็นเหมือนหางอยุ่ที่มุมโต๊ะ
-มันดูเหมือนสุนัข
“หลงทางมมาเหรอ? แกหาทางออกอยู่รึเปล่า?”
ขณะที่ผมพยายามจะเข้าใกล้มัน ทันใดนั้น สัตว์ที่เหมือนสุนัขก็หนีไปทางด้านหลังของห้อง
ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมก็ไล่ตามไปจนถึงโถงทางเดินใกล้ทางออก
“หืม? มันไปไหนแล้วล่ะ? ช่างเถอะ…หวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ?”
ตราบใดที่มันออกจากสถานที่จัดเลี้ยงก็ไม่มีปัญหา
แต่เมื่อผมหันหลังจะเดินกลับ ผมได้ยินเสียงของเคิร์ต
“–คุณมาไม่ได้เพราะพวกโจรสลัดเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้? ครับ ฉันเข้าใจ… ครับ”
คนที่เขาคุยด้วยน่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว
ฟังดูเหมือนพวกโจรสลัดเคลื่อนไหวในอาณาเขตของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมารับเคิร์ทได้
เคิร์ตมีสีหน้ากังวล
เมื่อเขาวางสาย ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน เมื่อเขาสังเกตเห็นผม
“คุณฟังอยู่เหรอ?”
“อ่า ผมขอโทษ ผมกำลังไล่ตามสุนัขจนมาถึงนี่ แล้วบังเอิญได้ยินน่ะ”
“ไม่เป็นไร. ตอนนี้ครอบครัวของฉันกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันจึงไม่สามารถกลับไปได้อีกสักพัก ฉันจะต้องถามไวเคานต์ว่าเป็นไรไหมถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย”
ดูเหมือนว่าสถานะการณ์ทางบ้านทำให้เขาวิตกกังวล
ผมคิดว่าสามารถช่วยเขาได้ ในฐานะเพื่อของจอมวายร้าย
“ถ้ากังวลขนาดนั้น ให้ผมช่วยส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน”
“จริงรึ?! ไม่… นั่นมันไม่ได้หรอก ที่นั่นมีโจรสลัด-”
“เคิร์ท โจรสลัดเป็นเพียงกระเป๋าเงินที่มีชีวิตเท่านั้นแหละ”
“ฮะ?”
“หลังจากเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ผมจะเอาของที่ริบมาเจ็ดส่วน และคุณก็รับไปสามส่วน”
“เดี๋ยว อย่าพูดอย่างกับว่าเป็นเรื่องง่ายๆสิ! คุณต้องไปคุยกับคนของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน แถมถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้-”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมมีอำนาจเบ็ดเสร็จภายในอาณาเขต พวกเขาจะฟังทุกสิ่งที่ผมพูดทุกอย่าง จำไว้ว่านี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการเป็นจอมวายร้าย ต่อให้ของสิ่งนั่นเป็นสีขาวแต่ถ้าผมบอกว่ามันสีดำมันก็จะเป็นสีดำ
ดังนั้นถ้าผมสั่งให้พวกเขาเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปฏิเสธได้”
เคิร์ตมองมาที่ผมในขณะที่ตกตะลึง
ยังไร้เดียวสาอยู่ล่ะนะ
ผมคิดว่าต้องติดต่ออามากิซะแล้วสิ
◇ ◇ ◇
คฤหาสน์เบนฟิลด์
ภายในอาคารสำนักงาน อามากิกำลังคุยกับเลียม
ภาพฉายของเลียมลอยอยู่ในอากาศ
“-ส่งกองยานไปรับ? ได้ค่ะ แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่จะส่งไปยังดินแดนของไวเคานต์”
“ผมต้องการกิงยานเพื่อช่วยพาเพื่อนกลับบ้าน ผมจะไปล่าโจรสลัดอีกครั้ง”
“อ้อเข้าใจแล้ว… นายท่านทำเพื่อช่วยเพื่อนใช่ไหม?
“เพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลอร์ดผู้ชั่วร้าย ผมจึงต้องรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้”
“ดิฉันดีใจกับคุณด้วย.”
อามากิแสดงสีหน้าอ่อนโยน ขณะที่เธอคิดว่าเลียมอาจเข้าใจผิดอะไรบางอย่างอีกครั้ง
“แล้วคุณต้องการกองยานมากแค่ไหน”
“ส่งมาได้เท่าไหร่?”
เมื่อไม่นานมานี้ดินแดนเบนฟิลด์ถูกโจมตีโดยกองยานโจรสลัดของโกอาส
เพราะแบบนั้น ผมจึงลงทุนเล็กน้อยในการขยายกองเรือ
“ดิฉันสามารถเตรียมยานได้ประมาณ 12,000 ลำ”
“นั่นก็น่าจะพอ โอ้ และอย่าลืมพาเอวิทของผมมาด้วย”
เอวิทเป็นอัศวินขับเคลื่อนส่วนตัวของเลียม
มันใหญ่กว่าอัศวินทั่วไป เป็นเครื่องคุณภาพสูงที่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถขับได้
“ทำไมไม่พักผ่อนซักหน่อยล่ะ? คุณไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง”
“มันเป็นความฝันของเด็กผู้ชายที่จะต่อสู้ในหุ่นยนต์! ครั้งนี้น่าจะได้กำไรไม่น้อย”
“…ถ้าเป็นอย่างนั้น ดิฉันจะติดต่อกับบารอน เอ็กซ์เนอร์”
“ต้องฝากเรื่องนี้ให้คุณแล้ว”
ทันทีที่เลียมวางสาย อามากิก็เริ่มติดต่อกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันที
“–พอดีเลย ฉันควรให้พวกเขาทำงานด้วย”
◇ ◇ ◇
โรงงานอาวุธที่สาม
ต่อหน้าอัศวินขับเคลื่อนจำนวนมากที่เรียงรายอยู่ที่นั่น – เทีย มองดูหุ่นรูปร่างมนุษย์
เธอเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย
หลังจากรวบรวมหน่วยกิตที่จำเป็นสำหรับการสำเร็จการศึกษา เธอก็จบหลักสูตร
ต่อจากนี้ไป สิ่งที่รอเธออยู่คือการฝึกเป็นข้าราชการ แต่ก่อนหน้านั้นเธอกำลังจะกลับไปยังดินแดนของเลียม
สาวๆ ที่สมัครเป็นอัศวินก็กลับมาเช่นกัน
–พวกเขาทั้งหมดต้องการมีส่วนร่วมในการล่าโจรสลัด
ยูลิเซีย ซึ่งทำงานในโรงงานอาวุธที่สาม กำลังอธิบายคุณสมบัติอัศวินรุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขา
“รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในกองกำลังพิเศษของกองทัพจักรวรรดิ”
จากการออกแบบ อัศวินขับเคลื่อนควรจะมีขนาดใหญ่ แต่เครื่องที่อยู่ด้านหน้าเทียถูกสร้างขึ้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย
พวกมันมีหุ่นเพรียวบางและรูปลักษณ์สวยงาม
“สเปกที่ระบุไว้ในแค็ตตาล็อกก็ไม่เลว”
ยูลิเซียที่ได้ยินคำชมของเทียก็ยิ้มออกมา
“ฉันมีความมั่นใจในคุณภาพของพวกมันมาก แต่ท่านเคานต์ก็สุดยอดมาก มีขุนนางไม่กี่คนที่สามารถซื้ออัศวินจำนวนมากพร้อมกันได้ขนาดนี้”
เป็นการซื้อรุ่นใหม่หลายร้อยเครื่อง
ในขณะที่ชื่นชมอัศวินขับเคลื่อนเครื่องใหม่ของเธอ เทียได้ร้องขอไปยังยูลิเซีย
“ฉันอยากให้สีเครื่องของฉันเป็นสีขาวและสีม่วง มันเป็นสีประจำตัวของฉัน”
“สีประจำตัวสำหรับผู้สมัครอัศวิน? คุณต้องมีความมั่นใจในตัวเองมาก”
เทียหัวเราะกับสิ่งนี้และยิ้ม
“ก็คงงั้น นับจากนี้ไปฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ”
เมื่อผู้สมัครอัศวินของบ้านเบนฟิลด์ เข้าไปในเครื่องของตัวเอง สายตาของอัศวินขับเคลื่อนทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยแสงจ้าขณะที่พวกเขาเดินเครื่อง
เทีย เริ่มพูดกับทุกคน
“ทุกคนจงสรรเสริญ! ลอร์ดเลียมให้โอกาสที่ดีที่สุดแก่เราในการพิสูจน์คุณค่าของเรา! ถึงเวลาล่าโจรสลัดแล้ว!”
◇ ◇ ◇
การฝึกอบรมของเราในต่างแดนใกล้จะสิ้นสุดแล้ว
ก่อนที่เราจะออกจากบ้านราเซล มีการจัดแสดงศิลปะการต่อสู้โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษามาเข้าร่วม
ผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษจะชนะการแข่งขันครั้งแล้วครั้งเล่า และสถานที่จัดงานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ตอนนี้มันเป็นการแข่งขันระหว่างเคิร์ทและปีเตอร์
“-อุ!”
“หืม? เป็นอะไรไป? เราต่างก็เป็นนักดาบของโรงฝึกอาเรส ดังนั้นมันคงดูไม่ดีที่คุณไม่สามารถทำอะไรฉันได้~”
ปีเตอร์ที่เป็นฝ่ายเหนือกว่าในการแข่งขัน เขาเริ่มเยาะเย้ยเคิร์ท
ผมค่อนข้างแปลกใจกับความโหดร้ายที่เกินความจำเป็น
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างปกติ แต่จู่ๆปีเตอร์ก็ทำให้เรื่องมันยากขึ้นด้วยการแกล้งอ่อนข้อ ทำให้ศึกนี้ยาวโดยไม่จำเป็น
ปีเตอร์แกล้งอ่อนข้อหนักมาก จนแม้แต่เคิร์ทก็ยังดูงุนงงไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
“นั่นสินะ…”
ในขณะที่พูดแบบนั้น เคิร์ทก็แกล้งแพ้โดยตั้งใจทำดาบตก
แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่ นี่มันผิดปกติเกินไปละ…ไม่น่าจะแกล้งอ่อนข้อ… ผู้ชายคนนี้เป็นทายาทของบ้านที่มีคุณธรรมจริงดิ?
แบบนั้นใช่มะ? แบบที่ลูกกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทั้งๆ ที่พ่อแม่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนั้น?
หลังจากทิ้งดาบของเขา เคิร์ทก็ทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่ง
“…ฉันยอมแพ้”
บรรยากาศของสถานที่จัดงานดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย แต่ก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่
ปีเตอร์กระทืบไปที่เคิร์ทที่คุกเข่าอยู่
“แสดงว่าคุณยอมรับความสามารถของฉันแล้วสินะ?”
“…ใช่.”
แค่ดูท่าทางของเคิร์ทผมก็สงสารเขาแล้ว
ถึงอย่างนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจที่ปีเตอร์มีคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นลอร์ดชั่วร้ายที่ดีในอนาคต
ขณะที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ปีเตอร์ก็หันดาบมาทางผม
“นายน่ะขึ้นมาสู้กับฉันซะ! มันคงจะน่าเบื่อถ้าจบแค่นี้ มาเร็วๆเข้า ไอ้ผู้ฝึกดาบผู้น่าสงสาร”
เมื่อปีเตอร์ประกาศเช่นนั้น ไวเคานต์ก็สั่งให้ผมขึ้นไปที่ลานประลองพร้อมกับทำหน้าลำบากใจ
หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนเริ่มขอโทษผม
“ฉันขอโทษ เขาเป็นแขกคนสำคัญของเรา ดังนั้นฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณออกไปซักหน่อย”
“เขากล้ามากที่ดูถูกโรงฝึกของผม เฮ้– จะเป็นไรไหมถ้าผมจะเอาจริง”
หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนยิ้มให้ผมเล็กน้อย
“ก็เขาไม่ยอมรามือเองนี่? ฉันไม่เคยชอบเรื่องตลกแบบนี้ตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม อย่าฆ่าเขาล่ะ”
มีเพียงส่วนที่ไม่ฆ่าเขาเท่านั้นที่พูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง
ก็แน่นอนผมจะไม่ฆ่าเขา
“อย่ากังวลไป ผมอาจไม่ได้ฝึกฝนการอ่อนข้อไว้มากนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเคิร์ท ผมสามารถหาวิธีแก้ไขเพื่อทำให้วิชาดาบของผมอันตรายน้อยลง”
“จริงรึ?”
เพื่อตอบคำถามให้กับอัศวินที่สงสัย ผมขอนำเสนอ ค้อนของเล่นส่งเสียงปิ๊ดๆ
ทั้งในจักรวาลนี้และในชีวิตก่อนหน้าของฉัน นี่คือค้อนของเล่นที่ส่งเสียงมื่อใดก็ตามที่มันกระทบบางสิ่ง
มันจะไม่เจ็บมากถ้าผมตบเขาด้วยสิ่งนี้
“เดี๋ยวนะ คุณไม่คิดว่านั่นจะดูหมิ่นไปหน่อยเหรอ?”
“ถ้าผมไม่ใช้สิ่งนี้ ผมอาจจะฆ่าพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้”
เมื่อผมเข้าสู่สนามประลองด้วยค้อนของเล่น ปีเตอร์เริ่มหัวเราะเยาะผม
ไวเคานต์ราเซล จ้องมาที่ผมราวกับว่าฉันเพิ่งตอกตะปูสุดท้ายในโลงศพ
ปีเตอร์หันมาหาผม
“พูฮะฮะ! ดูเหมือนแกจะยากจน จนไม่มีเงินซื้อดาบสินะ แกรู้ไหมว่าฉันสามารถซื้อของเหล่านั้นได้มากเท่าที่ฉันต้องการ”
ขณะที่ฟังเขาพูดพล่อยๆ ผมก็รอสัญญาณเริ่มต่อสู้
ผู้ตัดสินมองไปที่ไวเคานต์ราเซล และดูเหมือนจะลังเล แต่ในที่สุดก็ยอมปล่อยหลังจากได้รับคำสั่ง
“เตรียมพร้อม… เริ่ม!”
พริบตาหลังจากนั้น
ค้อนที่ผมเหวี่ยงลงบนหัวของปีเตอร์ก็ส่งเสียง ‘ปิ๊บ’ ดังลั่น เขาทรุดตัวลงกับพื้นดัง ‘ป๊าบ!’
ทันทีที่การแข่งขันเริ่มต้น ผมก็ประชิดตัวทันทีแล้วเหวี่ยงค้อนลงไป ทำให้ปีเตอร์ล้มลงไปกองกับพื้น
ผมมองเห็นสีขาวในดวงตาของเขา
“…ก็แค่นี้เอง”
ผมเขย่าค้อนเพื่อตรวจดูสภาพ ดูเหมือนว่าจะยังไม่หัก
มันทนทานมากสำหรับของเล่น
ขณะที่ผมยืนอยู่คนเดียวในสนามประลอง เด็กรอบๆที่ได้รับสิทธิพิเศษก็ประณามผม
“ค-คุณโกง! อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว ไม่ยุติธรรมเลย!”
“ถ้ามีเรื่องจะบ่นก็ขึ้นมาสิ”
ผมจะสอนความจริงของจักรวาลนี้ให้สักหน่อยนะ
ในจักรวาลนี้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่ถูกต้อง!
ถึงเหล่าขุนนางผู้มีคุณธรรมในอนาคต ผมจะสอนความจริงทั้งหมดให้คุณเอง!
“มันน่ารำคาญที่จะสู้กับพวกคุณทีละคน ดังนั้นมาพร้อมกันทั้งหมดนั่นแหละ!”
“แกมันก็แค่ขยะจากโรงฝึกดาบเล็กๆ อย่ามาอวดดีนะ!”
สำหรับพวกโง่ที่ปีนขึ้นมาบนสังเวียน ผมส่งเขาบินออกจากสังเวียนทันที
“มันไม่ใช่ ‘โรงฝึกเล็กๆ’ มันคือโรงฝึกประกายแสง ผมจะสลักชื่อนี้ลงไปในหัวของคุณเอง”
พวกที่ชนะการแข่งขันเริ่มปีนขึ้นมาบนเวทีและแห่เข้ามาหาผม
ผมเป่าพวกมันทั้งหมดออกจากวงแหวนด้วยค้อนของเล่นขณะหัวเราะ
เมื่อยืนอยู่ใจกลางเวที ผมเริ่มเล่าความจริงของสถานที่นี้ให้พวกเขาฟัง
“อย่าเพิ่งเหลิงเพียงเพราะคุณชนะการแข่งขันที่กำหนดชัยชนะไว้แล้ว! คุณมันเป็นแค่นักดาบตัวเล็กๆเท่านั้นแหละ!”
ไม่ใช่แค่คนที่ท้าทายผม แต่แม้แต่ไวเคานต์ราเซล ก็จ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าสีแดง
ผมคิดว่าอาจจะทำมันเกินไปหน่อย แต่นั่นก็เพราะผมไม่คิดว่าจะมีส่วนร่วมอะไรกับพวกเขาอีก
อย่างน้อยมันก็สดชื่น
——————————
ไบรอัน ( ´・ω・`) “ท่านเลียมน่าทึ่งมาก!”
เทีย ( ゜∀゜) “ลอร์ดเลียมสุดยอดเลยค่ะ!”
MANGA DISCUSSION