(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 22
การจัดการอาณาเขต
ขุนนางบางคนครองดาวเคราะห์เพียงดวงเดียว
แต่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งก็มีหลายสิ่งหลายอย่างให้จัดการ
มีทั้งทรัพยากร สภาพแวดล้อม และเรื่องยิบย่อยอีกมากมาย
เป็นความรับผิดชอบของผู้ปกครองที่จะต้องศึกษาดาวเคราะห์ในอาณาเขตของตนอย่างละเอียดถี่ถ้วนและจัดการอาณาเขตตามนั้น
จากที่กล่าวมา บ้านราเซลเองก็ครอบครองดาวเคราะห์ทรัพยากรมีค่า ทำให้มีความเชี่ยวชาญด้านการขุดทรัพยากรและการจัดการลำเลียง
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบ้านราเซล จึงนำ ‘อาร์คโคโลยี’ มาใช้”
ทรัพยากรที่ได้จากการขุดในที่สุดก็นำไปสู่การทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้นชนชั้นสูงจึงอาศัยอยู่ในเมืองที่มีการควบคุมสิ่งแวดล้อมที่เรียกว่า ‘อาร์คโคโลยี’
สถานที่ที่พวกเขาอยู่นั้นสวยงาม แต่ที่อื่นดูเหมือนจะกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า
ระหว่างเรียน โต๊ะของผมถูกวางเรียงแนวเดียวกับเด็กคนอื่นๆ ที่กำลังเรียนรู้พื้นฐานของการจัดการอาณาเขต
เคิร์ททำสีหน้างุนงง
เขากำลังคิดที่จะใช้วิธีนี้เพื่อบีบคั้นผู้คนของเขาให้มากขึ้นหรือเปล่า?
อย่างที่คิด เขามีคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นลอร์ดที่ชั่วร้ายอย่างแน่นอน
จากบทเรียนของชั้นเรียนวันนี้ ดูเหมือนเหล่าคนที่ไวเคานต์ปกครองจะทำงานหนักเพื่อย้ายตัวเองเข้าสู่เขตอาศัยที่เรียกว่าอาร์คโคโลยี
แรงงานมนุษย์จำนวนมาทุ่มเทแรงกายเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
แต่ถ้ามองในมุมมองประชาชน พวกเขาล้วนไม่มีทางเลือก
การทำลายสิ่งแวดล้อมโลกเพียงเพื่อรีดทรัพยากรจากดวงดาว มันสุดโต่งไปหน่อยไม่ใช่เรอะ?
ในความคิดของผม ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องดี
ไม่ใช่แค่บ้านของประชาชน แต่เป็นบ้านของลอร์ดด้วย การทำลายสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่นั้นแน่นอนว่าไม่ดี
วิถีของบ้านราเซลไม่ใช่สิ่งที่สามารถนำกลับไปใช้ได้
วิธีจัดการอาณาเขตของพวกเขาอาจกล่าวได้ว่าต้องการให้ผู้คนรวมเป็นปึกแผ่นในจุดศูนย์กลาง ในฐานะขุนนาง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเช่นกัน
แม้ว่าการทำเช่นนั้นจะได้ผลในการรวบรวมทรัพยากรเพื่อเอามาปรนเปรอเหล่าขุนนาง แต่กับประชาชนพวกเขาก็แทบไม่ได้อะไร
เมื่อเรียนเสร็จเคิร์ท ก็หันมาทางผม
“เลียม ฉันว่าแบบนั้นมันไม่โอเคเลย ถ้าทำแบบนั้นเมื่อทรัพยากรหมด ดาวดวงนี้ก็จบสิ้นแล้ว”
“และเมื่อดาวจบสิ้น ผู้คนก็จะจบสิ้น ลอร์ดที่ปกครองก็จะจบสิ้นไปด้วย”
เมื่อได้ยินดังนั้นเคิร์ทก็บ่นพร้อมถอนหายใจ
“และเมื่อนั้นก็จะไม่มีผู้คนหรืออาณาเขตให้ใช้งานอีกต่อไป”
อย่างที่คิดเขาเป็นลอร์ดที่ชั่วร้ายที่บีบบังคับผู้คนของเขาจนหยดสุดท้าย
ตัวผมเองยังไม่มีความคิดที่จะรีด ‘หยดสุดท้าย’ จากผู้คนยังไง แต่คนคนนี้จะทำอย่างแน่นอน
ในความเห็นของผม ผมจะค่อยๆรีดทรัพยากรเพื่อเลี้ยงผู้คน และถ้าเจอ ‘จุดวิกฤต’ ผมก็จะหยุด
“ไม่ใช่ทุกคนที่คิดเหมือนคุณ”
“อ่า…คงจะแบบนั้น”
ถ้าเขาไม่เหลืออะไรให้รีดเขาคงจะโกรธน่าดู
“คุณต้องลองคิดดู คุณควรใช้คลาสวันนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อใช้ในการปกครองดินแดนของคุณ”
“…ใช่ ฉันจะลองคิดดู”
พ่อของเขาเป็นผู้ชายที่สร้างความสำเร็จมากพอที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนาง
ดังนั้นเขาจึงส่งลูกชายมาที่บ้านราเซลเพื่อเรียนรู้วิธีจัดการอาณาเขต
เขาเป็นภาพในอุดมคติของลอร์ดผู้ชั่วร้าย
พ่อของเคิร์ตเป็นบารอนประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านนั้น
โดยคำนึงถึงบทเรียนของบ้านราเซล คำตอบของเคิร์ท แสดงให้เห็นศักยภาพมากมายสำหรับอนาคต
ในตอนแรก การถูกเรียกว่า ‘ลอร์ด’ นั้นยอดเยี่ยม แต่โดยพื้นฐานแล้ว เราก็เหมือนกับโจรสลัด
เราอ้างสิทธิ์ในอาณาเขต ควบคุมผู้อยู่อาศัย และทุบตีพวกเขาหากจำเป็น
การที่เราอยู่ภายใต้จักรพรรดิเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่เราถูกเรียกว่าขุนนาง แทนที่จะเป็นโจรสลัด
แต่โดยพื้นฐานแล้วมันก็เหมือนกัน
ไวเคานต์ดูเหมือนจะจัดการเรื่องอาณาเขตไม่ดีซักเท่าไหร่
แต่ผมยังรู้สึกขอบคุณพวกเขาที่มอบสถานที่ให้ผมได้รู้จักเพื่อนและสอนสิ่งใหม่ๆให้ผม
ในฐานะปัจเจกบุคคล ผมต้องการมีรากฐานที่มั่นคงสำหรับบ้านของผม ด้วยด้วยการศึกษาอย่างรอบด้าน
◇ ◇ ◇
เด็กบางคนที่มาที่บ้านราเซลได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ในหมู่พวกเขา มีบุคคลที่รู้จักกันในชื่อปีเตอร์
ในชั้นเรียนของแรนดอล์ฟ เขากำลังสอนวิธีปกครองในฐานะลอร์ด
เด็กๆ กำลังฟังบทเรียนของแรนดอล์ฟขณะทานอาหารว่างกับเครื่องดื่มและขนมหวาน
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการอาณาเขตคือความสมดุล”
แรนดอล์ฟอธิบายความสำคัญของความสมดุลและยกตัวอย่าง
“บางครั้งการร่วมมือกับพวกอันธพาลหรือโจรสลัดอวกาศก็เป็นสิ่งจำเป็น โจรสลัดส่วนใหญ่จริงๆแล้วเป็นเพียงอดีตพลเรือน
หากคุณพิจารณาถึงต้นกำเนิดของพวกเขา พวกเขาก็เป็นเพียงพลเรือนที่อยากทำมาหากินเท่านั้น หากคุณกวาดล้างพวกเขาก็เท่ากับจัดการกับคนในอาณาเขตของตนเอง
ซึ่งมีขุนนางที่โง่เขลาบางคนที่พยายามทำลายโจรสลัดทั้งหมดอย่างแข็งขัน โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์มหาศาลจากการที่ร่วมมือกัน”
มีเด็กเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการรักษาพิเศษ
พวกเขาส่วนใหญ่ดูมั่นใจหลังจากได้ยินบทเรียนของแรนดอล์ฟ
“หน้าที่ของลอร์ดต้องไม่ขัดแย้งกับโจรสลัด ซึ่งถ้าเป็นไปได้ หากควบคุมพวกแทน มันจะมีประสิทธิภาพสูงสุด”
ปีเตอร์เปิดปากของเขา
“ฉันเข้าใจดีเลยล่ะ บ้านฉันก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน”
แรนดอล์ฟเริ่มยิ้ม
“นั่นค่อนข้างน่าประทับใจ ฉันแน่ใจว่าบ้านของเราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นได้ในอนาคต ยังไงก็ตาม ตอนนี้เรามาดูสิ่งที่คุณต้องระวังเพื่อป้องกันการขาดทุนกัน”
คงจะน่ารำคาญถ้าพวกโจรสลัดโจมตีเรือสินค้าที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจของคุณ
ใช้พวกเขาเก็บค่าผ่านทาง เราได้สินค้า เขาได้เปอร์เซ็นต์ วินวินทั้งสองฝ่าย
“การสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับพวกเขามีความสำคัญสูงสุด”
ภายใต้การปกครองของแรนดอล์ฟ เด็กๆ ถูกทำให้เข้าใจผิดๆ
◇ ◇ ◇
หอการค้าเฮนฟรีย์ได้รับรายงาน
เป็นการขอกู้เงินจากบ้านพีตัค
โทมัสจับศีรษะขณะพยายามคิดหาคำตอบ
“บ้านหลังนั้นกำลังขอกู้เงินเนี่ยนะ?”
เขารู้ว่าบ้านอื่นๆเมื่อเห็นเขาปล่อยเงินกู้แล้วพยายามติดต่อกับเขานั้นมีอยู่มากมาย แต่ความไร้ยางอายของบ้านหลังนี้นั้นน่าทึ่งมาก
พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขาเป็นเหมือนบ้านของเบนฟิลด์ก่อนที่เลียมจะเกิด
พวกเขามีหนี้ก้อนโตและอาณาเขตของพวกเขาก็รกร้าง
และที่เลวร้ายยิ่งกว่าบ้านเดิมของแบนฟิลด์ก็คือกองทัพส่วนตัวของบ้านพีตัค
แทนที่จะเป็นกองทัพ พวกเขาเหมือนโจรสลัดมากกว่าซะอีก
ถ้าโทมัสปฏิเสธเงินกู้ ในข้อความก็ระบุมาชัดเจนว่าจะมีการใช้กำลังเกิดขึ้น
น่าเสียดายเมื่อเขาไปยังดินแดนของไวเคานต์ราเซล เขาก็รู้ได้ทันทีว่า ถ้าเป็นไปได้ให้อยู่ห่างจากบ้านราเซลไว้จะดีกว่า เพราะแบบนั้นจึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือใดๆจากพวกนั้นได้
ลูกน้องคนหนึ่งถามด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมเราไม่ไปพึ่งบ้านของเคาท์ เบนฟิลด์ล่ะ”
เมื่อได้ฟังความคิดเห็นนั้น โทมัสก็ส่ายหัว
“ถ้าเรานำบ้านเบนฟิลด์มา เราอาจจบลงด้วยการทำสงคราม นอกจากนี้ บ้านราเซลที่ลอร์ดเลียมอาศัยอยู่ก็มีทายาทของตระกูลพีตัคอยู่ที่นั่นด้วย ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะเกี่ยวข้องกัน”
ถ้าพวกเขาลากเลียมเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ มันคงจะเป็นสงคราม
เพราะไม่อยากให้เรื่องลุกลามใหญ่โต โทมัสจึงตัดสินใจยอมรับการขอเงินกู้
“แต่ก็ เห็นๆอยู่ว่าพวกเขาจะไม่จ่ายเงินคืน”
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาไม่ให้ยืมเงินในตอนนี้ พวกเขาคงถูกรังควานในการทำธุรกิจ
เลียมก็กำลังอยู่ในการฝึกอบรม
แม้ว่าเขาจะกลับมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาก็จะต้องจากไปอีกครั้งในไม่ช้าหลังจากไปเรียนในเมืองหลวง
เขาอาจจะหายไปนานหลายสิบปี
“…เราจะอดทนกับสิ่งนี้ไปก่อน ฉันแค่หวังว่าลอร์ดเลียมจะไม่ถูกย้อมด้วยค่านิยมผิด ๆ ในขณะที่เขาอยู่กับไวเคานต์”
บ้านราเซลกับบ้านพีตัครวมกัน พาให้โทมัสปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง
◇ ◇ ◇
ย่านบันเทิงที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของไวเคานต์ราเซล
ภายในสถานที่ที่เรียกว่าคาสิโนสีดำ
มีร่างของเด็กขุนนางอยู่ใจกลางโจรสลัดที่ดูเหมือนจะมารวมกันที่นั่น
มีอัศวินสองสามคนปะปนอยู่ในนั้น มันเป็นคาสิโนที่ผิดกฎหมายที่ดำเนินการอย่างลับๆ
ในสถานที่ดังกล่าว ปีเตอร์กำลังเล่นเกมไพ่
เขาโยนการ์ดลง
“ฉันแพ้อีกแล้ว”
ชายในชุดสูทเดินเข้ามาหาปีเตอร์
“ท่านปีเตอร์ วันนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
ปีเตอร์ดื่มเหล้าขณะมีผู้หญิงนัวเนียบนตักของเขา
“ฉันแพ้อีกแล้ว ฉันยังฝากหนี้ไว้ได้เหมือนเดิมไหม?”
“ในขณะที่จำนวนเงินที่คุณเป็นหนี้เราค่อนข้างมาก ฉันอยากให้คุณชำระมันสักครั้ง”
“หืม~ อะไรกัน ถ้างั้นฉันจะไปขอให้ไวเคานต์เคลียร์ได้ใช่ไหม?”
“การทำเช่นนั้นจะทำลายชื่อเสียงของลอร์ดปีเตอร์ เอางี้ดีไหม ฉันขอถามข้อมูลสักเล็กน้อย”
ปีเตอร์ตกลงที่จะชำหนี้ของเขากับข้อมูลบางอย่าง
เขาไม่ได้คิดลึกเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้
“คุณอยากรู้อะไร”
“ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเคาท์ เบนฟิลด์”
หลังจากได้รับข้อมูลภาพ ปีเตอร์มองภาพใบหน้าของเลียมที่ลอยอยู่ในอากาศและหรี่ตาลง
“อืม~ ฉันไม่รู้จักผู้ชายแบบนั้น”
“ฉันได้ยินมาว่าเขากำลังฝึกอบรมอยู่ในบ้านราเซลด้วย คุณไม่รู้จักเขาจริงๆเหรอ?”
“เอาจริงๆ มีเด็กจำนวนมากที่ได้รับการดูแลที่บ้านของไวเคานต์ ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการดูแลพิเศษเหมือนฉัน ก็อาจเป็นแค่ขุนนางชั้นสามที่ไร้ค่า”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชายในชุดสูทก็เริ่มหัวเราะเล็กน้อย
“ท่านปีเตอร์ หากท่านสามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่เราได้ เราจะยินดีให้บริการพิเศษแก่ท่าน ”
ขณะที่ชายในชุดสูทดีดนิ้ว ผู้หญิงสวยกลุ่มหนึ่งก็เริ่มรวมตัวกันรอบๆ ปีเตอร์
ปีเตอร์กางแขนออกและเริ่มหัวเราะ
“ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของฉัน ถ้าคุณต้องการแค่ข้อมูลเกี่ยวกับไอ้หมดนั่น ฉันจะบอกคุณทุกอย่างเลย!”
“ฉันคาดหวังไว้สูงนะ ลอร์ดปีเตอร์”
ชายในชุดสูทยิ้มอย่างมืดมน
◇ ◇ ◇
ผมถูกพาไปที่ร้านขายขนมใกล้ๆชานเมือง
ที่นั่นมีผู้หญิงสองคน คนหนึ่งแก่และอีกคนหนึ่งเป็นวัยกลางคน กำลังขายสินค้าโฮมเมดอยู่
หัวหน้าอัศวินกำลังร้องเพลงในห้องคาราโอเกะ ผมก็เริ่มบ่น
“เมื่อพวกเขาบอกว่าจะพาเราไปเที่ยว ผมคิดว่าพวกเขากำลังจะพาเราไปยังย่านบันเทิงหรืออะไรทำนองนั้นซะอีก”
เคิร์ทดูกังวลกับความคิดเห็นของผม
“เลียม คุณหยาบคายไปแล้ว”
แต่นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกจริงๆ
หญิงชราเริ่มหัวเราะ
“ไม่เป็นไร ร้านเล็กๆ ของเรามักจะไม่เพียงพอที่จะสนองความบันเทิงของขุนนางชั้นสูงเช่นคุณ”
เธอพูดแบบนั้น แต่ขนมที่เธอเอาออกมามันอร่อยเกินไปไม่ใช่เรอะเนี่ย?
หญิงวัยกลางคนมองดูผมและประหลาดใจเล็กน้อย
“ดูเหมือนคุณจะกินไปเยอะเลยนะ”
“ก็…เพราะว่ามันอร่อย”
ขณะที่เราสั่งเพิ่มอีกสองสามอย่าง อัศวินก็ยังคงร้างเพลงต่อไป
ผมคุยกับเคิร์ตต่อไปในขณะที่รู้สึกทึ่งเล็กน้อย
แม้ร้านนี้จะเล็ก แต่พวกรุ่นพี่และรุ่นน้องก็มาเล่นกันที่ร้านนี้
“ไม่มีที่ให้เล่นมากกว่านี้แล้วรึไงเนี่ย? ไม่มีสาวๆแล้วมันน่าเบื่อเกิ๊น”
อย่างย่านบันเทิงหรือสถานที่อื่นๆ อะไรแบบนั้น
เมื่อรู้ว่าผมหมายถึงอะไร เคิร์ทก็เริ่มหน้าแดง
“แม้คุณจะถามฉันก็เถอะ…”
“ฮึ่ม มันเป็นเรื่องปกตินี่? กิน แฮปปี้ และนอน สำหรับมนุษย์แล้วการไม่ได้ทำบางอย่างนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ”
“เอ่อ…ยกเว้นเรื่องนั้นล่ะก็ใช่”
การตอบสนองความต้องการหลักสามประการเป็นสิ่งสำคัญ
ผมไม่ชอบคนที่พูดจาสวยหรูแล้วพลาดโอกาสดีๆไป
ในชีวิตก่อนหน้านี้ ผมพยายามใช้ชีวิตอย่างจริงจัง
ถึงอย่างนั้นก็เคยไปร้านแบบนั้นเมื่อเจ้านายพาไป
แต่ว่าผมก็ไม่ได้สนุกไปกับมันเพราะว่าผมนึกถึงครอบครัว พอตอนนี้มองย้อนกลับไป ผมอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองนั้นโง่มาก
คงจะดีถ้าผมเด็ดขาดมากกว่านี้
ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิต มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสนองความอยาก
และหน้าที่ของลอร์ดคือเตรียมพื้นที่สำหรับสนองความต้องการของตนเอง
ผมชอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้นะ
เป็นธุรกิจที่สามารถทำเงินได้ง่าย
ฟังการสนทนาระหว่างผมกับเคิร์ท หญิงชราดูประทับใจ
“คุณยังเด็ก แต่ดูเหมือนว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าอะไรสำคัญ มีเรื่องราวมากมายในโลกที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยอุดมคติที่สวยงาม แม้ว่าคุณจะบอกว่าผู้ชายจะแปดเปื้อนเมื่อพวกเขาไปที่นั่น แต่ฉันคิดว่ามนุษย์ทุกคนมีด้านมืดที่สกปรกอยู่แล้วโดยไม่ต้องเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่า”
หญิงชราคนนี้เข้าใจประเด็นของผมจริงๆ
“ผมชอบนะ เป็นทัศนคดิที่ดี เด๊่ยวผมจะให้ทิปเพิ่ม”
“ฉันไม่ต้องการหรอก แค่สั่งอาหารเพิ่มก็พอ คุณต้องกินเยอะๆจะได้โตเร็วๆ”
เคิร์ทดูหดหู่เล็กน้อย
“มีอะไรงั้นเรอะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก รู้สึกเหมือนได้ข้อคิดอะไรบางอย่างน่ะ”
เคิร์ทซึ่งคิดเพียงแต่วิธีการบีบบังคับคนของเขา ดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นความสามารถในการผลิตเงินของธุรกิจสีเทานี้แล้ว
-คุณเติบโตขึ้นอีกแล้ว
เมื่อคนเราเครียดก็ต้องปลดปล่อย
สิ่งนั้นสำคัญมาก
อย่างไรก็ตาม เคิร์ทยังดูไร้เดียงสาเกินไปเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
“เฮ้ เสียซิงแล้วหรือยัง?”
“อุ๊ฟ?!”
เคิร์ทเริ่มไอกับคำถามของผม
แม้ว่าผมจะรู้ว่าการถามอาจไม่เหมาะสมสักหน่อย แต่ตรงนี้มีแค่เรานะรู้ไหม
“ค-คุณกำลังพูดถึงอะไรน่ะเลียม! ในอนาคตเราจะมีคู่หมั้น ถึงตอนนั้นเราค่อยจริงจังกับเรื่องนั้นเอาซี่!”
“ถึงตอนนั้นค่อย ‘จริงจัง’… เฮอะ?”
นั่นเป็นคำเดียวที่ผมเชื่อมั่นน้อยที่สุดในจักรวาลนี้
ผมเคยใช้ชีวิตอย่างจริงจัง สิ่งที่รออยู่คือชีวิตที่โหดร้าย
“กะ…ก็ไม่ได้มีอะไรผิดนี่! มีชีวิตจริงจังมันก็ดีนะ มันไม่ผิดสักหน่อยนิเลียม”
“คร้าบๆ”
เขาไร้เดียงสา จริงๆใช่ไหมเนี่ย?
ลอร์ดผู้ชั่วร้ายควรจะรู้เรื่องผู้หญิงมากมาย ผมเดาว่าเขาเป็พวกที่ฉลาดด้านการบีบคั้นจากคนของเขา มากกว่าเรื่องผู้หญิง
เขาแตกต่างจากลอร์ดผู้ชั่วร้ายที่อยากทำอะไรก็ทำอย่างผม
เคิร์ทถามราวกับว่าเขาข้องใจ
“ล-เลียม… หมายความว่าคุณ… มีประสบการณ์กับผู้หญิงแล้วงั้นรึ”
ฮะ? แน่นอน… เดี๋ยวนะ… ผู้หญิงที่สนิทที่สุดที่ผมมีปฏิสัมพันธ์ด้วยในชีวิตนี้คืออามากิ
ผมยังไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับผู้หญิงจริงๆในชีวิตนี้…
“ก็…ไม่อ่ะ…”
“เฮ้! แม้ว่าคุณจะพูดโอ้อวดขนาดนั้น แต่จริงๆ แล้วคุณอยู่ในระดับเดียวกับฉัน เลียม!”
คนรอบข้างเราเริ่มพึมพำ “เวอร์จิ้น?” “เขายังบริสุทธิ์” “เดี๋ยว ฉันคิดว่าเขา… หรือว่าพวกเขาเป็นแบบนั้นกันเหรอ? ” ด้วยเสียงกระซิบและเงียบ
ไม่โว้ย! ผมอาจไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงจริงๆ ในชีวิตนี้ แต่จริงๆ แล้วผมมีประสบการณ์มาก่อนนะเว้ย!
“พวกแกทุกคนหุบปาก! ผมตัดสินใจแล้ว! เฮ้ย เคิร์ท หลังจากนี้เราไปย่านบันเทิงกัน!!”
“เอ๊ะ! ไม่ เดี๋ยวดิ…”
เคิร์ทซึ่งเสียงเบาลงเรื่อยๆ ผมเริ่มยิ้ม
“พูดไปก็เท่านั้นเรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ! ตราบใดที่เราเงียบไว้จะไม่มีใครรู้!”
“ตะ… แต่-”
ใบหน้าของเคิร์ตแดงขึ้น เขาเริ่มจินตนาการไปไกล
ขณะเรากำลังตัดสินใจ หัวหน้าอัศวินที่ร้องเพลงเสร็จพอดีมานั่งลงข้างๆ เรา
“คุณสองคนใจเย็นๆ ฉันว่าเรื่องนี้พักไว้ก่อนก็ดี”
“ผมเป็นขุนนาง ผมจะเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ที่ผมต้องการ ทำไมต้องฟังความเห็นของคุณ?”
อัศวินดูกังวลเล็กน้อยขณะอธิบายช้าๆ
“เอาจริงๆถ้าวัดจากตำแหน่งของคุณ คุณต้องแน่ใจว่าไปสถานที่ดีๆ ไม่งั้นหากคุณไปติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มันคงจะยุ่งยากแน่”
“เหอะ…ก็แค่โรคติดต่อ-”
“อย่าชะล่าใจไป… มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จำนวนมากที่ไม่สามารถรักษาด้วยการรักษาแผนปัจจุบันได้ โรคต่างๆมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อก่อนอาจรักษาได้แต่ตอนนี้ใครจะรู้?”
หัวหน้าอัศวินบอกว่าขณะนี้มีการระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในอาณาเขตของไวเคานต์
ไวรัสดูเหมือนจะมีวิวัฒนาการอย่างมากไม่ว่าคุณจะอยู่ในจักรวาลไหนก็ตาม
โรคระบาดทางเพศสัมพันธ์ที่ปรากฎเมื่อไม่นานมานี้ เป็นประเภทที่ทำให้ท่อนที่หว่างขาของคุณระเบิด! มันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ร้ายแรง
ในระยะแรกมันจะพองตัวและใหญ่ขึ้น
ผู้ชายส่วนใหญ่จะพอใจกับขนาดที่โตขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นก็เป็นสีดำแล้วก็… โพล๊ะ….
พวกมันจะระเบิดอย่างรุนแรง
ยิ่งกว่านั้น แม้หลังการรักษา การงอกใหม่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ หากไม่ใช้น้ำยาอิลิกเซอร์
มันเป็นโรคที่แสดงผลกับผู้ชายเท่านั้น
ส่วนที่แย่ที่สุดคือผู้หญิงที่เป็นพาหะไม่แสดงอาการใดๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้หากไม่ได้รับการตรวจ
แทนที่จะเป็นโรคภัย นี่มันเหมือนกับคำสาปมากกว่าไม่ใช่เรอะ?
“…เคิร์ท กลับที่พักกันเถอะ”
“…อืม”
จิตใจของเราไม่แข็งแกร่งพอที่จะไปเที่ยวเล่นต่อหลังจากได้ยินเรื่องนี้
—————————–
ไบรอัน (´;ω;`) ปาดหงื่อ “ฉันรู้สึกโล่งใจที่ลอร์ดเลียมไม่เสี่ยงที่จะไปเที่ยวแบบนั้น ไม่เช่นนั้นบ้านเบนฟิลด์คงจบสิ้นแน่”
อามากิ ( ゜д゜) “เอาจริงๆ ฉันเป็นห่วงว่านายท่านไม่ได้สนใจผู้หญิงจริงๆสักคนเลยมากกว่า!”
ไบรอัน (´;ω;`) “…มันช่างเจ็บปวด…”
—————————–
——————————
ดำน้ำเยอะมากกกกกกกกกกกกก ต้นฉบับก็ดี อิ้งก็ก็ดี แปลได้ไม่เข้าใจเลยเฟร้ย !!