(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 20
หัวหน้าสาวใช้
ขณะที่เลียมกำลังฝึกอบรม มีการเคลื่อนไหวในบ้านแบนฟิลด์
“ไบรอัน คุณแก่ไปมากตั้งแต่ฉันเจอคุณครั้งสุดท้าย”
“คุณเองก็เหมือนกัน”
ไบรอันเชิญผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับมารยาทและความประพฤติ
เธอเคยทำงานในราชสำนัก เธอเป็นผู้หญิงที่เขาพบในยุครุ่งเรืองของบ้านเบนฟิลด์
เธอมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสาวใช้ เป็นครูฝึกของเหล่าสาวๆขุนนาง
ตอนนี้เธอเกษียณแล้ว หลานและเหลนของเธอก็ดำรงตำแหน่งแทน
แม้ตอนนี้เธอจะแก่ตัวลง แต่ความสามารถที่คอยดูแลอาณาจักรมาอย่างยาวนานก็เป็นของจริง
ไบรอันเชิญเธอไปเพราะเขาต้องการให้เธอสอนมารยาทของชนชั้นสูงของจักรวรรดิที่บ้านของเลียม
ทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ซึ่งจำเป็นสำหรับอนาคต
ในอนาคตทางเราก็ต้องเปิดรับเด็กที่เป็นชนชั้นสูงในการฝึกอบรมเพื่อฟื้นความสัมพันธ์กับครอบครัวอื่นๆ
ต้องสอนพฤติกรรมและมารยาทอย่างเคร่งครัด
“ยกเว้นลอร์ดอลิสแตร์ เจ้านายของคุณเป็นคนโง่”
“ฉันยอมรับเรื่องนี้จริงๆ”
อลิสแตร์เป็นปู่ทวดของเลียม
ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้บ้านเบนฟิลด์มาถึงตำแหน่งปัจจุบัน
“แต่เมื่อฉันเห็นคฤหาสน์ฉันก็เข้าใจ เด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่คุณเรียกว่าเลียมดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น”
“คุณรุนแรงเหมือนเคย แต่ลอร์ดเลียมไม่ใช่คนแบบโง่”
“นั่นเป็นเรื่องของฉันที่จะตัดสินใจ ต่อให้คุณอวดความสามารถในการต่อสู้กับโจรสลัดมากแค่ไหน มันก็ยังไม่เพียงพอ”
ไบรอันถามผู้หญิงคนนั้น
“แล้วคุณคิดว่าไง? สนใจไหม”
หญิงชราคนนั้นหัวเราะ
“ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมากแค่มาที่นี่เพื่อดูหน้าคุณ แต่ฉันเปลี่ยนใจแล้ว พาผู้หญิงทั้งหมดมาหาฉัน ฉันจะฝึกพวกเธอเอง”
ท่าทีของหญิงชราเปลี่ยนไป เมื่อมองไปที่หัวหน้าสาวใช้คนใหม่ ไบรอันก็เริ่มยิ้ม
“ฉันขอฝากเรื่องนี้กับคุณ ฉันรู้สึกอุ่นใจที่รู้ว่าคุณจะอยู่ที่นี่”
“ภายในทศวรรษหน้า ฉันจะเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นบ้านที่เหมาะสมกับการรับลูกๆ ของครอบครัวอื่นๆ คุณฝากเรื่องภายในของบ้านให้ฉันได้ แต่ฉันไม่ช่วยอะไรอย่างอื่นนอกจากนี้”
เหล่าคนของครอบครัวเบนฟิลด์มีหน้าที่ในการเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและการเตรียมการอื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อรองรับลูกหลานขุนนาง
-ทั้งที่ควรจะเป็นแบบนั้น แต่ผู้ที่ควบคุมทุกอย่างมีแค่อามากิ
“แค่นั้นก็พอแล้ว”
หลังได้ยินคำตอบของไบรอัน หัวหน้าสาวใช้แสดงสีหน้าสนใจ
“สำหรับนายที่ทำหน้าแบบนั้น เลียมต้องเก่งมากแน่ๆ น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถพบเขาในขณะที่เขาเรียนอยู่ต่างประเทศ”
“นี่ก็หนึ่งปีแล้ว อีกแค่สองปี เขาจะกลับมา”
“คุณส่งเขาไปที่ไหน”
“เราส่งเขาไปที่บ้านของไวเคานต์ราเซล”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวหน้าสาวใช้ก็แสดงอาการฉงนอย่างเห็นได้ชัด
“ม-มีอะไรเหรอ?”
“คุณเลือกบ้านราเซล สำหรับพวกนั้นสถานที่รับเด็กได้กลายกับการทำธุรกิจไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาค่อนข้างเป็นที่นิยม แต่ไม่ใช่บ้านที่ฉันอยากแนะนำ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเหรอ?”
“น่าเสียดายที่ไม่มีทางเลือกมากนัก สถานะปัจจุบันของบ้านไม่มีความสัมพันธ์ใดๆที่เราพึ่งพาได้”
หัวหน้าสาวใช้ตอบ
“บ้านราเซล จะเปลี่ยนแผนการสอนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพวกเขาคิดว่าเด็กมีคุณค่าในการสานสัมพันธ์ พวกเขาก็จะถูกจัดให้อยู่ในหลักสูตรที่ผ่อนคลายซึ่งแทบไม่ได้ฝึกฝนเลย ในกรณีนั้น บ้านหลังอื่นน่าจะดีกว่า”
การให้ความบันเทิงแก่เด็กแทนการสร้างวินัย ทำให้บางกรณีที่เด็กจบจากการฝึกอบรมแล้ว แย่กว่าก่อนเข้าไปซะอีก
เนื่องจากเธอเคยทำงานในเมืองหลวง เธอจึงมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
“ขนาดนั้นเชียว? แต่เหมือนพวกเขาจะไม่ได้มีชื่อเสียงแย่ขนาดนั้น…ใช่ไหม?”
“ด้านที่ได้รับการฝึกจริง ๆ คงอาจจะมีบ้าง แต่เมืองหลวงของจักรวรรดิก็ไม่ได้ให้การประเมินไว้สูงเท่าไหร่ ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ ฉันจะแนะนำให้คุณรู้จักกับอีกที่หนึ่งแทน”
การแสดงออกของหัวหน้าสาวใช้เต็มไปด้วยความเอือมระอา
ไบรอันหน้าซีด เขารีบติดต่อหาเลียม
◇ ◇ ◇
“ท่านเลียม การอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไร”
“เป็นยังไงเหรอ? เอ่อ… ปกติดี? ไม่มีงานเอกสาร มันเลยง่ายไปหน่อยล่ะมั้ง?”
“หืม…ง่ายก็ดีแล้ว…ไม่สิ! นอกเหนือจากนั้นคุณทำอะไรบ้าง?”
“ก็ไม่มีอะไรนะ…โอ๊ะ!โทษที ผมต้องไปทำงานแล้ว แค่นี้ก่อนนะ”
“เดี๋ยว โปรดรอสักครู่! งานอะไรหรือครับ!”
“เรากำลังย้ายเครื่องจักรกลหนักไปยังดาวเคราะห์ทรัพยากร ตอนนี้ผมกำลังเป็นฝ่ายขุดเจาะที่ดาวนั้นอยู่น่ะ”
ใบหน้าของไบรอันซีดจนเลียมสังเกตุได้
มันน่าแปลกใจงั้นเชียว?
เคิร์ทที่ตอนนี้สวมชุดอวกาศเรียกผม
“เลียม ถึงเวลาที่เราต้องไปแล้ว!”
“ผมกำลังไป! ไบรอัน ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดการเครื่องจักรกลหนักแล้ว”
เหมือนว่าไบรอันกำลังพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ผมก็วางสายเพราะถึงเวลาที่เราจะต้องตอกบัตรแล้ว
◇ ◇ ◇
“ท่านเลียม! รอเดี๋ยว! ไม่! นี่มันผิด! งานขุดเจาะกับจักรกลหนัก มันไม่ใช่หน้าที่ที่ลอร์ดต้องทำ!”
หัวหน้าสาวใช้เข้ามาพยุงไบรอัน ที่กำลังล้มลงเพราะเสียใจจากการสื่อสารที่ถูกตัดขาดไป
“ไหวไหม?”
“ด…ด้วยเงินบริจาคและทรัพยากรที่เราให้ การดูแลนี้มันหยาบเกินไป ประท้วง!…ฉันขอประท้วง! ถ้าฉันท้วงเรื่องนี้เร็วพอ เราสามารถปรับปรุงการปฏิบัติตัวของไวเคานต์กับท่านเลียมได้!”
แต่หัวหน้าสาวใช้ก็ปฏิเสธ
“ฉันไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น”
“ทำไม?! ฉันไม่มีทางยอมให้การดูแลแบบนี้ดำเนินต่อไป!”
“ไม่ เราจะปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน แล้วค่อยฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากเขาในภายหลัง เป็นเรื่องดีที่เขาได้เรียนรู้วิถีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้ ฉันค่อนข้างประทับใจกับวิธีที่เขาทนต่อการดูแลดังกล่าวได้โดยไม่บ่น จากเรื่องนั้นเพียงอย่างเดียว ฉันคิดว่าเขาดีกว่าคนทั่วไปซะอีก”
ไบรอันกำลังเช็ดน้ำตาของเขา
“พวกเขาปฏิบัติต่อลอร์ดเลียมที่ล้ำค่าของฉันเช่นนั้น ฉันจะไม่ให้อภัยพวกเขา!”
“ฉันเห็นด้วย แต่การเรียนรู้บางอย่างในขณะที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วย นี่อาจเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับเด็กคนนั้น”
การได้เห็นว่าเลียม ยังมีความสุข ไบรอันเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
แต่ก็นั่นแหละ
มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะยกโทษให้กับบ้านไวซ์เคานต์
หัวหน้าสาวใช้เริ่มหัวเราะ
“ช่างเป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆ ฉันค่อนข้างชอบเขา ดังนั้นฉันจะช่วยคุณจัดการเรื่องนี้”
◇ ◇ ◇
การทำงานในอวกาศ
ขณะขับอุปกรณ์ขุดเหมืองขนาดใหญ่ ผมอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดกับชุดอวกาศขนาดใหญ่ที่พวกเขาให้…มันเคลื่อนไหวยาก
“กลิ่นก็อับ แถมล้าสมัยอีกต่างหาก”
ขณะที่ผมบ่น เคิร์ทซึ่งทำงานอยู่ใกล้ๆก็หันมาตอบ
“ใช่ มีผู้คนจำนวนมากยังคงทำงานในสภาพที่เลวร้ายแบบนี้”
ผมหวนคิดถึงตัวเอง
สภาพแวดล้อมการทำงานในชีวิตก่อนหน้านี้ของผมมันน่าจะแย่กว่านี้
ผมเลยไม่ได้รู้สึกเห็นใจเท่าไหร่
“อย่างน้อยก็ขอเรื่องกลิ่นไว้เรื่องหนึ่ง ไม่ไหวจริงๆ”
“ฮ่าๆ…ใช่เลย”
เราตัดหินด้วยเครื่องจักรกลหนัก
จากนั้น เราขนส่งและทิ้งส่วนที่ตัดลงในเครื่องที่สร้างขึ้นเพื่อขนย้ายทรัพยากร
ชีวิตแบบนี้ดำเนินมาเป็นเวลาสามเดือนแล้ว
“บัดซบ ตอนนี้ผู้คนที่อยู่บนพื้นผิวกำลังปาร์ตี้กันอยู่หรือเปล่านะ?”
มี ‘ปาร์ตี้’ เพียงไม่กี่แห่งที่เราได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
พวกเขาดำเนินการเดือนละครั้งเพื่อสอนมารยาทแก่เรา แต่อาหารและเครื่องดื่มก็ไม่ได้เยอะ
ในทางกลับกัน คนที่ได้รับสิทธิพิเศษสามารถอยู่บนพื้นผิวและสนุกกับปาร์ตี้ขนาดใหญ่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
“ฉันว่าแบบนี้ก็ดี ฉันไม่ถนัดเรื่องปาร์ตี้เท่าไหร่”
เคิร์ทดูเหมือนจะเป็นลอร์ดชั่วร้ายประเภทเก็บตัวไม่เหมือนกับผม
ผมก็ชอบเวลาที่อยู่คนเดียวนะ แต่ปาร์ตี้ก็สนุกเหมือนกัน
อาหารและเครื่องดื่มสุดหรูที่มาจากเงินภาษีของประชาชนนั้นอร่อยมาก
“เฮ้ๆ ตอนนี้คุณเป็นขุนนางแล้วไม่ใช่เหรอ? คุณต้องทำตัวให้ชินกับปาตี้ หากคุณยังทำตัวแบบนี้คุณจะลำบากเมื่อได้ไปปาตี้ถังนะ”
“ฉันไม่คิดว่าบ้านที่มีสถานะอย่างฉันจะสามารถเข้าร่วมปาร์ตี้ถังได้หรอก”
ปาตี้ถังมีก็ดังอยู่เหมือนกันแฮะ
เข้าใจยากจริงๆ
ทั้งผู้จัดและผู้เข้าร่วมที่ได้รับเชิญต้องมีสถานะระดับหนึ่ง
ผมอยากจะลองจัดปาร์ตี้ถังซักวันหนึ่งเหมือนกัน
ระหว่างที่เราคุยกัน งานของวันนั้นใกล้จะจบลงแล้ว
เมื่อผมลุกขึ้น หัวหน้าอัศวินที่ดูแลพวกเราก็เรียกผม
“เลียม คุณมีทักษะพิเศษในการจัดการเครื่องจักรหนัก หากคุณประสบปัญหาเรื่องเงิน ฉันสามารถหางานให้คุณได้นะ”
เขาพูดติดตลก ผมเลยเล่นกับเขา
“ถ้าถึงเวลานั้นผมคงหวังพึ่งคุณแล้ว ด้วยสถานะอดีตเคาท์ โปรดสัญญาว่าสภาพการทำงานที่ดี อาหารสามมื้อต่อวันและมีเวลางีบหลับเพียงพอ”
“โอเค จะลองคิดดูละกัน แต่ค่าแรงต่ำสุดนะ”
“งั้นก็ขอปฎิเสธ”
หลังจากพูดเล่นๆ แบบนั้น ผมก็กลับไปที่เรือ
◇ ◇ ◇
– มีบางอย่างผิดปกติ
บนหลังคาคฤหาสน์ของไวเคานต์
ไกด์ที่ยืนยันสถานการณ์ปัจจุบันของเลียมรู้สึกงุนงง
“ทำไมเขาถึงสนุกนักล่ะ! เขาควรจะไม่พอใจกับการดูแลแบบนี้สิ!”
เงินและสิ่งของที่เลียมสะสมไว้ได้กลายเป็นของที่มอบความสบายให้กับคนอื่น
แต่เลียมก็ดูเหมือนเขากำลังสนุกสนาน แม้ว่าเขาจะได้รับการปฏิบัติที่แย่กว่าที่ควรจะเป็น
นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ไกด์หวังเลยซักนิด
ความสุขของเลียมไม่ใช่ความสุขของเขา
อันที่จริง หัวใจของเขาเจ็บปวดขึ้นทุกที
แขนขาของเขาก็ชาเช่นกัน
“ด้วยความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้ ฉันต้องผลักดันเลียมให้สิ้นหวังให้ได้”
แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้นเลย
ไกด์คิดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ ตอนนี้เขาสูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปแล้ว ดังนั้นทางเลือกของเขาจึงมีจำกัด
“มีอะไรบ้างที่ฉันสามารถทำได้? อะไรก็ได้-”
นั่นคือตอนที่ปีเตอร์เข้าสู่สายตาของเขา
ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านของไวเคานต์ แต่เขาก็ทำตัวราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของสถานที่
“ถ้าลองใช้เขากับเลียม… ไม่อ่ะ… ไม่มีทางที่คนแบบนี้จะชนะเลียมได้”
ไกด์ยอมแพ้ทันทีหลังจากเห็นปีเตอร์
“ฉันต้องทำอย่างไร?! ฉันจะทำให้นายไม่มีความสุขได้ยังไง เลียม!”
ไกด์จมอยู่กับความเสียใจและเริ่มหลั่งน้ำตา
◇ ◇ ◇
ในขณะที่ผมกำลังทำงานขุดเหมืองเหมือนทุกวัน
“นั่นอะไร? แสงสีขาวนั่น?”
ผมเห็นแสงสีขาวบนจอภาพ
เครื่องมือไม่ได้มีการตอบสนองใด ๆ สัญญาณผิดพลาดเหรอ?
ผมคิดอย่างนั้นจนกระทั้ง…สัมผัสได้ถึงบางอย่าง
ผมออกไปตรวจดูตรงจุดที่ขุด พบว่ามีจี้อยู่ที่นั่น
“อะไรละเนี่ย”
ทีแรกนึกว่าเป็นแค่ขยะ
แต่หลังจากหยิบขึ้นมาแล้วผมก็ค่อนข้างชอบมัน
“งานขุดก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”
แต่ถ้าเป็นทองคงจะดีกว่านี้
หลังจากใส่จี้ลงในกระเป๋าแล้ว ผมก็กลับไปทำงานต่อ
◇ ◇ ◇
มหาวิทยาลัยของเมืองหลวงจักรวรรดิ
มีชายหญิงจำนวนมากรวมตัวกันให้ห้องจัดงานของเทีย
นักศึกษามหาวิทยาลัยจากอาณาเขตของบ้านเบนฟิลด์ที่กำลังศึกษาได้รวมตัวกันเพื่อจัดงานเลี้ยง
เทียหยิบแท็บเล็ตของเธอขึ้น และหลังจากอ่านข้อความ เธอถอนหายใจ
“มีอะไรเหรอเทีย?”
เพื่อนคนหนึ่งของเธอถาม
เธอเป็นสหายที่รอดชีวิตจากขุมนรกนั้นมาด้วยกัน
“กองยานของบ้านเบนฟิลด์ดูเหมือนจะมีความกระตือรือร้นมากขึ้นในการล่าโจรสลัด”
สำหรับกองทัพส่วนตัวของเลียม โจรสลัดเป็นเพียงแค่กระเป๋าเงินที่มีชีวิตให้พวกเขาล่า
บางครั้งพวกเขาก็ไปช่วยเหลือดินแดนของลอร์ดที่อยู่ใกล้เคียง
ข้อความดังกล่าวมีอีกเรื่องราวความสำเร็จของพวกเขา
“มันคือกองยานไหน?”
“กองยานที่1 พวกเขาเพิ่งได้รับยานประจัญบานระดับสุดยอดจากลอร์ดเลียม ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มไปด้วยพลังและแรงจูงใจ”
พลเรือเอกได้รับยานประจัญบานประสิทธิภาพสูงลำใหม่ ช่วยไม่ได้ที่มันทำให้เขารู้สึกกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
เพราะแบบนั้นเทียที่เข้าใจความรู้สึกเหล่านั้นดี เธอจึงไม่บ่น
เหตุผลที่เธอถอนหายใจคือ-
“ฉันหวังว่าจะได้เป็นอัศวินเร็วๆ นี้ ฉันอยากจะออกไปปราบโจรสลัดด้วย…
ทุกคนที่เข้าร่วมปาร์ตี้ล้วนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตที่เลวร้าย
ทุกคนในที่นี้ล้วนมีความเกลียดชังต่อโจรสลัดไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
เพื่อนของเธอพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันเข้าใจ เทีย ฉันเข้าใจแน่นอน! แต่สำหรับตอนนี้ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้คุณสมบัติอัศวินก่อน แถมเรายังต้องเตรียมทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่ลอร์ดเลียมจะมาถึง”
“ใช่ฉันรู้. มันเป็นแค่… ฉันอยากสัมผัสความรู้สึกของการฆ่าโจรสลัดด้วยมือของฉันเอง”
ท่านเลียมได้ประทานร่างกายใหม่แก่พวกเขา ชีวิตใหม่ของพวกเขา
พวกเขามีทุกวันนี้ได้เพราะเลียม ทุกสิ่งที่ทำจะทำเพื่อเลียม
ทุกคนเข้าใจตรงกัน
ภายในห้องถูกประดับประดาด้วยรูปลอยของเลียม
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปในขณะที่ถูกล้อมรอบด้วยภาพโฮโลแกรมนับไม่ถ้วนของเขา
◇ ◇ ◇
คฤหาสน์ของบ้านราเซล
“พวกแฟนคลับ?”
“ใช่ พ่อของฉันประสบความสำเร็จจากการขี่อัศวินขับเคลื่อน ดังนั้นในบรรดานักบินอัศวินขับเคลื่อนเขาค่อนข้างมีชื่อเสียง”
ขณะที่คุยกับเคิร์ทในห้องของเรา บทสนทนาก็เปลี่ยนไปเรื่องเกี่ยวกับ พวกแฟนคลับ…ได้ยังไงล่ะนั่น
เนื่องจากเขาสร้างชื่อเสียงในฐานะอัศวิน ทำให้มีเจ้าหน้าที่หลายคนเสนอตัวทำหน้าที่ภายใต้เขา
ซึ่งตรงกันข้ามกับผม ที่มีคนไม่เพียงพอให้ใช้งาน
ถ้าเทียบกับขนาดของตระกูลเคาท์ คนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาผมยังไม่เพียงพอ
“แล้วมันเป็นยังไง?”
“มันเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ!”
เคิร์ทตะโกนใส่ฉัน
“ถึงพ่อฉันไม่ได้ขี้เหร่ แต่เขาก็ไม่ได้หล่อขนาดนั้น”
เมื่อนำภาพขึ้นมา สิ่งที่แสดงให้เห็นคือภาพของชายที่ดูธรรมดาในวัยสามสิบของเขา
หน้างี้ไม่น่าจะเป็นคนดังได้…
“ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ก็มีโฟโต้บุ๊กที่ปล่อยออกมามาสักพักแล้ว แถมมีฉันอยู่ในนั้นด้วย!”
“ฮะ?”
“พ่อฉันอาจจะยินยอมในการทำโฟโต้บุ๊ก แต่ฉันไม่! ตอนนั้นฉันรู้สึกหงุดหงิดกับงานเอกสารทั้งหมดที่ฉันต้องทำ
เลยเซ็นเอกสารไปแบบส่งๆไม่ได้ดูเนื้อหา ตอนนี้ในโฟโต้บุ๊กมีรูปของฉันด้วย!”
ดูเหมือนว่าเขาจะเซ็นเอกสารโดยไม่ดูเนื้อหาที่เห็นว่าไม่สำคัญ
เอาจริงๆ สำหรับผมมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร แม้แต่ผมเองก็ยินยอมเซ็นเอกสารอะไรแบบนั้นเหมือนกัน
แค่ยอมให้ลูกน้องของผมถ่ายรูปชีวิตประจำวัน กับวิดีโอนิดหน่อยก็จบ
ซึ่งมันขายได้ค่อนข้างดีในดินแดนของผม
กำไรที่ผมไม่สามารถดูถูกได้ และดูเหมือนว่าบารอนจะขายสินค้าชนิดเดียวกัน
เคิร์ตกำลังพูดถึงโฟโต้บุ๊กของเขาในขณะที่ร้องไห้
“เอาน่า ผมก็มีเหมือนกันนะแปลกตรงไหน?”
ไหล่ของเคิร์ทตกลงไปในทันใด
“ฮะ…”
ในกรณีของเขามันน่าจะขายดีเพราะเขาหน้าสวยอย่างกับผู้หญิงไม่ใช่เรอะ? นั่นคือสิ่งที่ผมคิด…แต่ผมพูดออกมาไม่ได้หรอก เพราะเขาต้องโกรธแน่
แต่อย่างว่าแหละ…ผมไม่สามารถเข้าใจกระบวนการคิด ของคนที่จะซื้อโฟโต้บุ๊กของชายชราได้เลยจริงๆ
พวกแฟนคลับก็น่ากลัวเหมือนกัน
—————————————–
ไบรอัน (´;ω;`) “มันสายเกินไปแล้ว… มันสายเกินไปแล้วท่านเลียมT-T”
เทีย ( ゜∀゜) “แค่มองรูปภาพท่านเลียมเราก็กินข้าวได้สามถ้วย!’ เราจะทำอย่างนั้นใช่ไหม! [YEAH!] ฉันไม่ได้ยินคุณ! [YEAH!!!] ถ้าอย่างนั้นมาทำกันเลย!!! [YESSSS!!!!!!]”
ไบรอัน (´;ω;`) “…มันเจ็บปวด”