เริ่มฝึกอบรม
วันที่ผมจะออกจากอาณาเขตเพื่อเริ่มการฝึกก็มาถึง
ยานประจัญบานยาวหกร้อยเมตรถูกเตรียมการและพร้อมสำหรับการออกเดินทางของผม
เมื่อผมดูมัน – ผมอดไม่ได้ที่จะไม่พอใจ
“ไม่เอาน่า… ผมต้องการใช้เรือประจัญบานระดับเรือธงของผมแทนไม่ได้เหรอ?”
เรือประจัญบานระดับเรือธงที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งพันเมตรจะโดดเด่นกว่าด้วยขนาดของมัน
เพราะผมซื้อมันมาสามลำ แต่ก็ไม่มีประโยชน์หากไม่เคยใช้เลย
อามากิปฏิเสธความคิดเห็นของผม
“การฝึกลูกเรือยังไม่เสร็จสิ้น นอกจากนั้น ยังมีการตัดสินว่ายานประจัญบานนั้นมีขนาดเหมาะสมที่สุดที่จะใช้สำหรับรับส่งไปยังบ้านไวเคานต์ราเซลถ้าเราส่งยานออกไปมากกว่านี้ เราจะถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม”
กองเรือที่เตรียมไว้สำหรับการเดินทางของผมประกอบด้วยยานสามร้อยลำ
สำหรับผมที่มียศเคาท์ คิดว่าสิ่งนี้ไม่เพียงพอ…แต่ผมเข้าใจเพราะถ้าเป็นผม คงไม่ต้องการให้กองเรือขนาดใหญ่มาเคาะที่ประตูหน้าบ้านของผมเช่นกัน
“แต่ผมต้องการเพิ่มจำนวนเพื่อแสดงพลังอำนาจของผมนี่”
“อย่าสร้างปัญหากับคนที่จะดูแลคุณนายท่าน ได้เวลาออกเดินทางแล้ว”
รอบๆ นั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มามาส่งผม
เจ้าหน้าที่ ทหาร แม่บ้าน ไบรอันที่ร้องไห้เหมือนเดิม
“ท่านเลียม ฉันหวังว่าคุณจะเติบโตอย่างยอดเยี่ยม”
เขามักจะร้องไห้เป็นประจำ ทั้งทีผมจะไปแค่สามปีเท่านั้น
จากความคิดเห็นส่วนตัว ผมสงสัยว่าจะเติบโตได้มากขนาดไหนในเวลาสามปี
เพราะนี่จะเป็นเพียงการฝึกอบรมแค่ชื่อเท่านั้น ผมจะถูกเอาอกเอาใจในขณะที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา
“ผมจะพยายามตอบสนองความคาดหวังของคุณไบรอัน”
“ท่านเลียม!”
ไบรอันร้องเรียกชื่อผม แต่ผมไม่สนใจเขาและหันไปหาอามากิ
“–ผมจะฝากทุกอย่างไว้ให้คุณในตอนนี้”
อามากิยิ้ม
“รับทราบค่ะ”
◇ ◇ ◇
ที่อยู่อาศัยของตระกูลราเซล
คนใช้เข้าแถวต้อนรับปีเตอร์จากบ้านพีตัค
ผมสีชมพูของเขาจัดทรงค่อนข้างฉูดฉาด และผิวของเขาเป็นสีแทน
เขาดูไม่เหมือนทายาทของขุนนางชั้นสูง
ร่างกายของเขาผอมและดูเหมือนไม่ได้ผ่านการฝึกฝน
“เฮ้~ นี่คือคฤหาสน์ที่ฉันจะพักอยู่เหรอ? ค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับไวส์เคานต์”
ด้วยน้ำเสียงที่ยืดยาดและไม่เป็นทางการของเขา เขาดูเหมือนกำลังดูถูกแรนดอล์ฟ
แรนดอล์ฟรู้สึกว่าอารมณ์ของเขาพุ่งสูงขึ้น
(ดูเหมือนเขาจะงี่เง่าไปหน่อย แต่ฉันต้องอดทนสำหรับการติดต่อในอนาคต ทั้งหมดนี้เพื่อศักดิ์ศรีของบ้าน ราเซล)
แรนดอล์ฟซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของเขาและตอบปีเตอร์ด้วยรอยยิ้ม
“ฉันดีใจที่คุณชอบ เรากำลังจัดงานปาร์ตี้เพื่อฉลองการมาถึงของคุณ มันคงเป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะพักผ่อนก่อน”
“เข้าใจแล้ว ฉันจะอนุญาตให้คุณนำทางฉันไปยังที่พักของฉัน”
แรนดอล์ฟไม่ลังเลใจกับทัศนคติของปีเตอร์
เหตุผลก็เพราะภูเขาแห่งบรรณาการที่พ่อแม่ของเขาส่งมาให้
เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ส่งมา ทัศนคติในระดับนี้ก็ยังเป็นที่ยอมรับได้
“ถูกต้อง ฉันกำลังคิดว่าจะให้ลูกสาวของฉันเป็นไกด์ส่วนตัวของคุณตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”
ลูกสาวของเขาจะต้องเป็นคนนำทางของปีเตอร์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปูแนวทางการแต่งงานของทั้งสองคน
แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่เห็นคุณค่าในตัวปีเตอร์ แต่เขายังต้องการสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัวพีตัก
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจยกลูกสาวให้เป็นเจ้าสาว
ข้อดีอย่างหนึ่งของการรวบรวมขุนนางในสถานที่ฝึกอบรมนั้นคือการหาคู่ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นคู่หมั้นในอนาคตได้อย่างง่ายดาย
ผู้คนจะมาสร้างสัมพันธ์ภายใต้การแสร้งทำเป็นฝึกอบรม
ดังนั้น การพูดคุยเรื่องการแต่งงานและสิ่งที่คล้ายกันจึงจะจบลงอย่างราบรื่นในเวลาไม่นาน
ปีเตอร์ตอบหลังจากได้ยินสิ่งนี้
“ลูกสาวของไวซ์เคานต์? เธอสวยรึเปล่า?”
– ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจ
แต่แรนดอล์ฟหัวเราะและให้อภัยเขา
(ผู้ชายแบบนี้จะง่ายสำหรับลูกสาวของฉันที่จะจัดการ)
เจ้านี่เป็นขยะ แต่ครอบครัวของเขาเป็นสิ่งที่เขาต้องการเชื่อมโยง
นั่นคือสิ่งที่แรนดอล์ฟคิด
◇ ◇ ◇
ที่อยู่อาศัยของบ้านราเซลนั้นกว้างขวาง
แต่เมื่อเทียบกับคฤหาสน์ของผม มันค่อนข้างเล็กกว่า แต่ก็ยังใหญ่อยู่ดี
หลังจากที่ลงมาจากท่าเรือยานอวกาศแล้ว ผมก็มาที่บ้านพร้อมกับลูกขุนนางคนอื่นๆ
อัศวินแห่งบ้านไวเคานต์ทำหน้าที่เป็นคนนำทางของเรา
แม้ว่าพวกเขาจะมีตำแหน่งอัศวิน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ใช่อัศวินของจักรวรรดิอย่างเป็นทางการ
“ที่นี่จะเป็นที่อยู่อาศัยของคุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
พวกเขาพาเราไปที่ห้องเตียงคู่
ทุกคนตะโกนว่า “นี่มันบ้าไปแล้ว!” แต่อัศวินไม่สนใจพวกเขา
“คุณไม่ใช่แขก คุณมาที่นี่เพื่อฝึกฝน ดังนั้นคุณควรปฏิบัติตามนโยบายของเรา”
แม้จะเป็นห้องที่ค่อนข้างสะอาด แต่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่เด็กผู้สูงศักดิ์เหล่านี้จะพอใจ
ส่วนผมคิดยังไงน่ะเหรอ?
ห้องที่ผมอยู่ก่อนตายในชีวิตที่แล้วแย่กว่านี้เยอะ
ผมคิดว่าพวกเขาจะเอาอกเอาใจเรา แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะจริงจังกับการฝึก
อัศวินขึ้นเสียงของเขา
“วางกระเป๋าไว้ที่นี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเริ่มวิ่ง! ไป!”
เมื่อผมเข้าไปในห้องเพื่อวางสัมภาระ มีชายคนหนึ่งจากบ้านบารอนที่ชื่อ เคิร์ท เซรา เอ็กซ์เนอร์[Kurt Sera Exner]
ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นเพื่อนร่วมห้องของผม
—ฮ่าๆ ผมชนะ บ้านของผมมียศสูงกว่าเขา
อัศวินเริ่มตะโกนเมื่อผมคิดถึงเรื่องพวกนี้
“เร็วเข้า!”
ขุนนางเด็กคนหนึ่งเริ่มโวยวายตอบโต้
“อย่าคิดว่าจะรอดจากสิ่งนี้ได้ คุณเป็นแค่อัศวินผู้ต่ำต้อย คุณไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นลูกชายคนที่สองของ-”
“ใครจะไปสนล่ะ! นี่คืออาณาเขตของไวเคานต์เรเซล! บ้านของคุณไม่สำคัญ!”
เด็กที่ต่อต้านถูกเฆี่ยนตี และเด็กคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง
แน่นอน ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่ลานฝึก
“มาอยู่ที่นี่ลืมชื่อบ้านของคุณไปซะ!”
อัศวินเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ดูเหมือนว่าไม่มีชีวิตหรูหรารอผมอยู่ในบ้านราเซล
“ให้ตายสิ นายไม่คิดว่านี่มันแตกต่างจากที่บ้านบอกเราเหรอ?”
เมื่อผมบ่น ผมอดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าเพื่อนร่วมห้องของผมมีหน้าตาค่อนข้างดี
เขามีผมสีบลอนด์สั้น
ดวงตาของเขาเป็นสีม่วงหน้าตาเขาละอ่อนหน้าเรียวราวกับผู้หญิง
ใบหน้าของเขาไร้ที่ติ
—ผมอารมเสียหน่อยๆแฮะ
อัศวินรออยู่นอกหอพักยืนอยู่หน้าสวนของอาคาร ซึ่งสนามหญ้าหน้าหอกลายเป็นที่วิ่งของพวกเรา
“ก่อนอื่นเลย เราจะสร้างความแข็งแกร่งของคุณด้วยการวิ่งทุกวัน! คุณได้ยินรึเปล่า?! จากนี้ไปเราจะทำแบบนี้ทุกเช้า!”
อามากิ…ไบรอัน ทำไมคุณสองคนถึงส่งผมมาที่นี่?
‘การฝึกอบรม’ ที่ผมจินตนาการ ได้หายไปตั้งแต่วันแรก
◇ ◇ ◇
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตั้งแต่พวกเด็กๆชุดล่าสุดมาถึง
แรนดอล์ฟได้เรียกรวมอัศวินที่ดูแลด้านการศึกษา และรับฟังการประเมินของเด็กทั้งหมดในปีนี้
แน่นอนว่าคนที่คะแนนต่ำสุดคือปีเตอร์
“ท่านลอร์ดแรนดอล์ฟ ท่านต้องตักเตือนเขา เขางีบหลับระหว่างเรียนเพราะเขาเล่นกับผู้หญิงในห้องของเขาทุกคืนจนถึงเช้า”
ปีเตอร์กำลังเรียนร่วมกับเด็กขุนนางคนอื่นๆ ที่ไวเคานต์ต้องการสร้างความสัมพันธ์ด้วย
ระบบการฝึกอบรมของพวกเขาคนละส่วนกับของเลียม
“อืม ผมจะคิดดู”
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาถือว่าปีเตอร์เป็นคนโง่อยู่แล้ว แรนดอล์ฟจึงไม่สนใจเท่าไหร่
เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับปีเตอร์ในฐานะปัจเจกบุคคล
“แล้วเด็กคนอื่นๆ ที่เรารับเข้ามาล่ะ?”
อัศวินที่ดูแลเลียมรายงานว่า
“ฉันต้องใช้กำลังเล็กน้อยในวันแรก แต่ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็เงียบลง การศึกษาส่วนบุคคลมีความแตกต่างกันอยู่เสมอในแต่ละบ้าน
แต่พวกเขาน่าจะพร้อมสำหรับการศึกษาจริงๆภายในหนึ่งปี”
แรนดอล์ฟลดเสียงลงเป็นกระซิบ
“มีเด็กคนไหนที่โดดเด่นเป็นพิเศษไหม”
“คนแรกคือ เคิร์ทจากบ้านเอ็กซ์เนอร์ พรสวรรค์และบุคลิกภาพของเขาค่อนข้างน่าชื่นชม แล้วมี เลียมจากบ้านเบนฟิลด์ เขาค่อนข้างน่าสนใจ”
แรนดอล์ฟตอบว่า
“บ้านเบนฟิลด์เหรอ?”
แรนดอล์ฟจำได้ว่าพวกเบนฟิลด์ได้ส่งเด็กมาคนหนึ่ง
พวกเขาโอ้อวดตัวเองโดยการนำกองยานมาสามพันลำ ทั้งยังจอดยานเพื่อขอค่าบำรุงรักษาทั้งหมดจากบ้านไวเคานต์ของเขา
คุณภาพของยานก็ห่วยแตก และระดับความสามารถของลูกเรือนั้นแย่
ไม่มีอะไรให้ดูที่นั่น
ในทางกลับกัน บ้านพีตัคดูเหมือนจะเป็นยานรุ่นล่าสุด อย่างที่คิด บ้านพีตัคเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องในการเชื่อมความสัมพันธ์จริงๆ
บ้านพีตัคนำกองยานมาประมาณสามร้อยลำ
ทันทีที่ส่งปีเตอร์ พวกเขาก็รีบกลับไปยังอาณาเขตของตนอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้แรนดอล์ฟต้องแบกรับค่าเสบียงและค่าบำรุงรักษา
การตอบสนองที่รวดเร็วและทักษะของลูกเรือนั้นทำให้เขาประทับใจมาก
กองยานของเบนฟิลด์อาจจะเป็นกองกำลังส่วนตัวของขุนนาง แต่ดูเหมือนจะได้รับการฝึกระดับเดียวกับโจรสลัดเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แรนดอล์ฟอดไม่ได้ที่จะชื่นชมกองกำลังของตระกูลพีตัค ซึ่งมีทั้งคุณภาพและทักษะเทียบได้กับกองทัพจักรวรรดิ
เมื่อเปรียบเทียบทั้งคู่ที่กำลังเรียนอยู่ที่บ้านเรเซล…
“เข้าใจแล้ว ให้การศึกษาพวกเขาทั้งสองอย่างเคร่งครัด”
“เข้าใจแล้ว!”
แรนดอล์ฟไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากเด็กคนอื่นๆ
คนเดียวที่สำคัญคือปีเตอร์
—ที่จริงแล้วกองยานทั้งสามร้อยลำเป็นของบ้านเบนฟิลด์แต่ไวเคานต์เข้าใจผิดว่าเป็นของบ้านพีตัค
◇ ◇ ◇
สามเดือนผ่านไปตั้งแต่ผมเริ่มฝึก
“อืม… นี่มัน…ง่ายกว่าที่คิด”
ทุกๆวันผมใช้ชีวิตด้วยการออกกำลังกาย เรียนหนังสือ และทำงานรับใช้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
แต่ผมก็สงสัย
—มันง่าย
ไม่จำเป็นต้องดำเนินการกับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในสำนักงาน และไม่จำเป็นต้องจัดการกับบุคคลที่มีปัญหา
การฝึกร่างกายประจำวันก็ไม่ได้ยากเลยสักนิด
การฝึกฝนประกายแสงของอาจารย์นั้นยากกว่ามาก
เมื่อการออกกำลังกายตอนเช้าจบลง ผมจึงเริ่มรับประทานอาหารเช้าในโรงอาหารขณะพูดคุยกับรุ่นพี่
ระยะเวลาการฝึกอบรมนี้ใช้เวลาสามปี
ผมสามารถพบปะกับลูกขุนนางคนอื่นๆ ที่มารับการฝึกอบรมในครอบครัวไวเคานต์ และสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องกับพวกเขา
“คุณได้ยินรึเปล่า? พวกคนรวยกำลังจะจัดงานเลี้ยงอีกแล้วในวันนี้”
“ปีที่สามต้องเป็นคนจัดงานสินะ”
“พวกเขายังต้องบริการพวกนั้นด้วย”
ปีแรกทำงานบ้าน ในขณะที่ปีที่สองจะเริ่มการศึกษาอย่างจริงจัง
ในปีที่สาม พวกเขาจะเข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในบ้านไวเคานต์
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในฐานะแขกรับเชิญ
“เฮ้ เลียม นั่นเพื่อนร่วมห้องของคุณไม่ใช่เหรอ”
เมื่อหันไปทางมุมโรงอาหาร ผมเห็นเคิร์ทกินข้าวคนเดียว
—ผมไม่ชอบทัศนคติที่เขาใช้เลยจริงๆ เขาทำตัวเหมือนเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ
“ผมไม่ได้คุยกับเขาเลย”
ขณะที่ผมพูดอย่างนั้น พวกปีสามก็พูดต่อ
“เขาเป็นทายาทของบ้านบารอนไม่ใช่เหรอ? ผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่?”
“พวกนายระวังคำพูดหน่อย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาตัดสินใจที่จะแก้แค้นหลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งของเขา? ระวังไว้เถอะ”
“ไม่หรอก… งานของเขาคงยุ่งเกินกว่าจะใส่ใจ”
เคิร์ทออกจากโรงอาหารทันทีหลังจากทานอาหารเสร็จ
◇ ◇ ◇
สนามซ้อม
อาจารย์อัศวินก็ตะโกนใส่เราเหมือนเคย
คาแรคเตอร์เขาเป็นนักกีฬาเลือดร้อนหรืออะไรทำนองนั้น?
“จากนี้ไปเราจะฝึกกันเป็นคู่! ถึงเวลาแสดงความสามารถพิเศษของคุณแล้ว!”
ในฐานะขุนนาง เราต้องรู้จักศิลปะการต่อสู้
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงมีสิ่งที่พวกเขาสามารถกล่าวได้ว่าเป็น ‘ความสามารถพิเศษ’ ของพวกเขา
แน่นอน ผมเลือกดาบไม้เป็นอาวุธ
ซึ่งเคิร์ทมาเป็นคู่ซ้อมกับผม
ดาบไม้ที่เขาเลือกเป็นดาบสองคมแบบตะวันตก
ท่าร่างที่เขาแสดงนั้นค่อนข้างสง่างาม
เคิร์ตหันมามองผม
“ฉันยั้งมือไม่ค่อยเก่ง ดังนั้นฉันต้องขอโทษล่วงหน้า”
เมื่อได้ยินแบบนั้นผมก็…
“กำลังดูถูกผมอยู่เรอะ? ผมที่เป็นผู้สืบทอดของโรงฝึกประกายแสง?”
เคิร์ทเอียงศีรษะของเขา
“ประกายแสง? ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับรูปแบบดาบนั้นมาก่อน เป็นโรงฝึกขนาดเล็กงั้นเหรอ?”
ผมรู้สึกได้ว่ามือขวาจับดาบไม้แน่นขึ้น
เมื่ออัศวินให้สัญญาณ เหล่าเด็กๆทุกคนก็เริ่มการต่อสู้กับคู่ของตนเอง
ผมพยายามล้มเขาทันทีด้วยดาบเดียวขณะที่ครูฝึกละสายตา
“กึก?!”
—ผู้ชายคนนี้สามารถรับการโจมตีของผมได้
ผมอึ้งไปครู่หนึ่งหลังจากที่เขาขัดการโจมตีของผม จากนั้นเราก็เว้นระยะออกจากกัน
เกือบไปแล้ว! ถ้าผมกะแรงผิดและโจมตีเขาอย่างจริงจัง ผมอาจจะทำให้เขากลายเป็นเนื้อสับได้
แต่เขาไม่ใช่คนประเภทที่ฉันสามารถเอาชนะได้ด้วยความเร็วเพียงอย่างเดียว
เคิร์ทจับดาบของเขาไว้มั่นและจ้องมาที่ผมอย่างเงียบ ๆ
– ผมบอกได้เลยว่าเขามีฝีมือ
◇ ◇ ◇
—จิตใจของเคิร์ทตื่นตระหนกอย่างรุนแรง
(ผู้ชายคนนี้แกร่งมาก)
หลังจากเผชิญหน้ากับเลียม ความรู้สึกนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นไปอีก
เขาคิดว่าเลียมมีความแข็งแกร่งอยู่บ้างแต่นี่มันเกินกว่าที่เขาคิด
(ฉันคิดว่ามันเป็นแค่รูปแบบการใช้ดาบระดับต่ำ แต่การโจมตีเมื่อกี้คืออะไร! ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่คล้ายกับมันในโรงเรียนอื่นๆ…)
เคิร์ท เซรา เอ็กซ์เนอร์ เป็นทายาทของบ้านเอ็กซ์เนอร์
บ้านเอ็กซ์เนอร์ ถูกยกให้เป็นชนชั้นสูง แต่หัวหน้าของบ้านระดับบารอนคนนั้น เป็นอัศวินที่แข็งแกร่งพอที่จะถูกเรียกว่าปรมาจารย์ดาบ
เขาแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องดินแดนของตนในฐานะอัศวินเพียงหนึ่งเดียวในดินแดนของเขา
เป็นธรรมดาที่เคิร์ททายาทของเขานั้นถูกฝึกฝนมาตั้งแต่อายุยังน้อย
ด้วยการฝึกฝนที่คล้ายกับการเอาตัวรอดในสนามรบแบบต่างๆ
เคิร์ทผู้ซึ่งได้ถูกนำตัวให้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนดาบที่มีชื่อเสียงและได้รับการฝึกจากปรมาจารย์ รู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและเป็นกันเองของสถานที่ฝึกอบรม
ครึ่งปีผ่านไปด้วยความสงสัยว่านี่คือการฝึกจริงๆ หรือเปล่า
แต่-
“–นั่นคือเทคนิคลับของโรงฝึกของคุณ?”
เลียมตอบกลับไป
“มันชื่อประกายแสง จำไว้”
“อืม… ผมจะจำไว้”
—เลียมเริ่มยิ้ม
เมื่อเห็นท่าทางของเขาเคิร์ทเริ่มเหงื่อตก
(หากขยับตัวพลาดละก็ ฉันจะแพ้ทันที)
หัวใจของเคิร์ตเต้นระรัว
ก่อนที่พวกเขาจะสังเกตเห็น ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองก็พุ่งสูงขึ้น เหมือนเขาเล่นเกมจ้องตากัน
เคิร์ทปฏิเสธที่จะกระพริบตาเพื่อไม่ให้พลาดแม้แต่การเคลื่อนไหวเดียวของเลียม
(คุณจะโจมตีตรงไหน ไม่สิ ฉันไม่คิดว่าดาบของคุณจะฟันฉันได้ในระยะนี้)
ทั้งสองคนยังคงอ่านกันต่อไปโดยค่อยๆขยับเขยื้อน
พวกเขาอยู่ใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ
แล้ว-
“เล่นอะไรกันอยู่ฟะพวกแก!”
อัศวินผู้รับผิดชอบบทเรียนใช้หมัดเคาะหัวทั้งสองคน
————————————————–
ไบรอัน (´;ω;`) “มันเจ็บปวด… การได้เห็นทุกอย่างที่เราเตรียมไว้สำหรับลอร์ดเลียม ถูกคิดว่าเป็นทรัพย์สินของผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวด… บ้านราเซลเต็มไปด้วยคนโง่!”
ปล.เล่มสองนี่เป็นช่วงที่เนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบๆชิวๆ แต่หวังว่าจะสนุกกันครับ
MANGA DISCUSSION