[WN] เรื่องราวของการซื้อตัวเพื่อนร่วมชั้นสัปดาห์ละครั้ง - ตอนที่ 5 วันนี้มิยางิก็ให้เงิน 5,000 เยนกับฉัน (2)
- Home
- [WN] เรื่องราวของการซื้อตัวเพื่อนร่วมชั้นสัปดาห์ละครั้ง
- ตอนที่ 5 วันนี้มิยางิก็ให้เงิน 5,000 เยนกับฉัน (2)
เดิน เดิน แล้วก็เดิน
เราสองคนค่อย ๆ เดินไปอย่างเงียบ ๆ
ฉันไม่ค่อยถูกโฉลกกับความเงียบ
เนื่องจากเราอยู่ด้วยกันสองคนฉันเลยอยากหาอะไรมาชวนคุยบ้าง ฉันไม่รู้ว่าที่เธอเงียบเพราะฉันไปทำให้เธอโกรธหรือเปล่า ฉันไม่ได้สนใจหรอกว่ามิยางิจะโกรธอะไร แต่มันทำให้คาใจว่าฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธมา นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันอยากให้เธอพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ยังคงเงียบสนิท
ฉันหาทางพูดกับเธอด้วยความระวัง
แต่ไม่ว่าฉันจะทำยังไงเธอก็ไม่พูดเลย ดังนั้นฉันเลยเดินออกจากร้านหนังสือมาแบบเงียบ ๆ
รู้งี้กลับบ้านดีกว่า
ฉันไม่ควรคิดที่จะไปบ้านของมิยางิ
ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ฉันเดินไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับรู้สึกเสียใจในความสะเพร่าของตัวเองจนมาถึงแมนชั่นที่ดูแพง
ให้จ่าย 5,000 เยนซะยังดีกว่า
แมนชั่นนี่มันสวยงามมาก จนฉันนึกขึ้นได้ว่ามันอยู่ค่อนข้างใกล้กับบ้านของฉัน แค่เดิน 15-20 นาทีก็คงถึงแล้ว ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีเพื่อนจากห้องเรียนเดียวกันอาศัยอยู่ใกล้ขนาดนี้
แต่ถ้าลองนึกดูดี ๆ แล้วมันก็เมกเซนส์
เราบังเอิญเจอกันที่ร้านหนังสือระหว่างทางเดินกลับบ้าน ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เธอจะอยู่ห่างจากบ้านของฉัน
“ห้องฉันอยู่ชั้น 6”
มิยางิพูดขณะที่เธอเดินเข้าไปในลิฟต์
“งั้นเหรอ”
ฉันบอกเธอไม่ได้ว่าบ้านของฉันอยู่ใกล้ที่นี่มาก
มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันอยากพูด และฉันไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าใกล้มิยางิด้วย ดังนั้นจึไม่มีเหตุผลที่ต้องบอกเธอ
ฉันจ้องหน้าจอแสดงผลของลิฟต์ ตัวเลขถูกเปลี่ยนเป็น 4 ,5 ,6 จากนั้นก็หยุด
ฉันเดินตามมิยางิ
เธอเปิดประตูหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างใน จากนั้นก็เชิญฉันเข้ามา
“นั่งตรงนั้นสิ เดี๋ยวฉันไปเอาอะไรมาให้”
“ไม่ต้องก็ได้”
ห้องของเธอมีขนาดพอ ๆ กับห้องของฉันหรือใหญ่กว่านั้น สำหรับห้องของเด็ก ม.ปลาย แล้วจัดว่าใหญ่ ห้องเป็นระเบียบ มีเตียงใหญ่โตบ้าบอเกินเหตุ และชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือ
เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ชั้นวางหนังสือด้วยความสงสัยว่ามีหนังสือประเภทไหนบ้าง ประตูก็ถูกเปิดออกดังลั่น พอหันกลับไปก็เห็นมิยางิวางแก้วน้ำใส ๆ ไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ
“อ่านการ์ตูนด้วยเหรอ”
เมื่อฉันถามขณะที่มองสันหนังสือ มิยางิก็ตอบกลับมาห้วน ๆ ว่า “อ่านสิ” จากนั้นจู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นเสียงดังว่า “จริงด้วย”
“ให้อ่านการ์ตูนก็ได้นี่นา มานั่งตรงนี้สิ คุณเซนได”
มิยางิพูดแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็มาหาฉันที่หน้าชั้นหนังสือ แล้วก็ตบไหล่ฉันพร้อมกับพูดว่า “ไปตรงนั้น”
ฉันรู้สึกสงสัยว่าเรื่องงานไปไหนแล้ว ฉันนั่งลงบนโต๊ะและดื่มของเหลวสีไส จากนั้นปากของฉันรู้สึกซ่า เมื่อรู้ว่ามันคือเลม่อนโซดาฉันก็วางแก้วลง
ฉันไม่ชอบดื่มน้ำอัดลม
ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าสถานการณ์แบบนี้คนปกติไม่น่าจะเอาเลม่อนโซดามาเสิร์ฟ มิยางิก็นั่งลงตรงข้ามฉัน
“อ่านนี่หน่อย”
สิ่งที่ฉันได้รับมาคือหนังสือการ์ตูนที่มีผู้ชายแต่งตัวดูดี และผู้หญิงท่าทางขี้อายอยู่บนปก หลังจากลองอ่านไปไม่กี่หน้าก็ดูเหมือนจะเป็นการ์ตูนรัก
ให้ 5,000 เยนเพื่อให้อ่านอะไรแบบนี้เนี่ยนะ
ฉันไม่เข้าใจความคิดของมิยางิเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันพลิกหน้ากระดาษอย่างเชื่อฟังคำสั่ง มิยางิก็พูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่ใช่อย่างนั้นสิ อ่านออกเสียงด้วย”
“อ่านออกเสียง?”
“ใช่ นี่คืองานสำหรับเงิน 5,000 เยน หรือมากกว่านั้นก็คือคำสั่ง”
“ไม่ใช่งานแต่เป็นคำสั่งเหรอ”
“ใช่”
ฉันไม่รู้ว่างานมันกลายเป็นคำสั่งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จะให้ถามว่าทำไมมันก็คงไม่มีประโยชน์ มิยางิคงไม่ได้คิดอะไรเยอะหรอก เธอคงแค่พูดออกไปตามสิ่งที่คิดตรงหน้าเท่านั้นแหละ
“จะเป็นงานหรือคำสั่งก็ช่างเถอะ แต่จะให้ 5,000 เยนกับเรื่องง่าย ๆ อย่างอ่านหนังสือเนี่ยนะ”
ฉันรีบเข้าเรื่องเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้กลับบ้านไว ๆ
“ใช่ แต่ช่วยอ่านจนถึงหน้าสุดท้ายด้วยนะ”
“โอเค~”
ถ้าแค่ให้อ่านการ์ตูนออกมาดัง ๆ ละก็ มันก็แค่เรื่องง่าย ๆ
ฉันตอบเธอกลับไปอย่างเนือย ๆ แล้วอ่านประโยคที่ทำให้หวานเลี่ยน เช่น ฉันรักเธอ หรือไม่ก็ เธอเป็นคนเดียวของฉัน
ถ้าถูกขอให้อ่านนิยายฉันคงหัวเสียกว่านี้ แต่เนื่องจากมันเป็นการ์ตูนที่มีตัวละครน้อย มันจึงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ทว่าในไม่ช้าฉันก็รู้สึกเสียใจกับความสะเพร่า
“…หนังสือเล่มนี้มันไม่ลามกไปหน่อยเหรอ”
ฉันหยุดอ่านออกเสียงและตรวจสอบเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้น และได้พบว่าตัวละครในเรื่องเปลือยเกือบจะทั้งเรื่องแม้ว่าจะแค่พลิกอ่านแค่ผ่าน ๆ
แค่ฉากบนเตียงก็แทบจะครึ่งเรื่องแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นบทสนทนายังมีแต่จำพวกเสียงครางด้วย
เนื้อหามันเข้มข้นมากซะจนฉันสงสัย ว่าในหัวมิยางิคิดอะไรอยู่ตอนที่บอกให้อ่านออกเสียงกับอะไรแบบนี้
ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบเรื่องลามก แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะอ่านออกเสียง ให้พูดจริง ๆ ก็คงไม่ค่อยมีใครอยากอ่านหรอก เป็นเรื่องประหลาดที่แม้แต่ผู้หญิงจืด ๆ อย่างมิยางิก็ยังอ่านอะไรแบบนี้ แต่มากกว่านั้นคือฉันรู้สึกเสียใจ
“อื้ม ก็เป็นหนังสือโป๊นี่”
มิยางิกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เธอยังจะให้ฉันอ่านต่ออีกเหรอ”
“อ่านสิ”
“หรือว่าจริง ๆ แล้วงานอดิเรกของเธอจะเป็นการฟังเสียงลามก”
“ไม่ใช่งานอดิเรกหรอก ฉันแค่นึกคำสั่งอื่นไม่ออกน่ะ”
“ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องสั่งเลยไม่ใช่รึไง แค่ฉันให้เงินทอนเธอแล้วคืนเงินที่เหลือพรุ่งนี้ก็พอแล้วนี่นา”
ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่ยอมรับเงิน มิยางิช่างเป็นคนน่ารำคาญจริง ๆ ทั้งดื้อรั้นและรับมือยาก
“ฉันไม่สนใจเงิน 5,000 เยนหรอก แล้วก็ไม่ต้องการให้เธอเอามาคืนด้วย รีบ ๆ อ่านไปได้แล้ว”
มิยางิดูไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินและเร่งรัดฉัน
ฉันไม่มีหน้าที่ต้องมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่ต้องการรับเงิน 5,000 เยนจากเธอ นอกจากนี้ฉันยังสัญญากับเธอไว้ว่าจะทำงานเพื่อเงิน 5,000 เยน ดังนั้นฉันจึงต้องทำตามสัญญา
ใช่ ฉันเองก็เป็นคนน่ารำคาญเหมือนกัน
“…เข้าใจแล้ว”
ทั้งแรงกว่านี้บ้างล่ะ จะเสร็จแล้วบ้างล่ะ
หรือไม่ก็เสียง อ๊าง อื๊อ อะไรแบบนั้นบ้างล่ะ
มีแต่ประโยคที่ฉันไม่อยากพูดจนน่าเวียนหัวเต็มไปหมด
ที่ฉันกำลังทำอะไรอยู่กันนะ
ฉันกำลังอ่านอะไรอยู่ก็ไม่รู้ต่อหน้ามิยางิ เพื่อนร่วมชั้นที่ไม่เคยคุยด้วยมาก่อน
มิยางิต้องเป็นคนวิตถารแน่ ๆ
ไม่ผิดแน่ นี่มันคนวิตถารโรคจิตชัด ๆ
ถ้าจำไม่ผิดผลการเรียนของเธอ…
ผลการเรียนของเธอเป็นยังไงกันหว่า
ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับมิยางิเท่าไหร่
“คุณเซนได เสียงเบาจัง”
สติของฉันหลุดไปจากหนังสือ มิยางิก็เลยเตือนฉัน
“นี่มันไม่ใช่อะไรที่ควรอ่านเสียงดังไม่ใช่รึไง”
“วันนี้ไม่มีใครอยู่ ต่อให้เสียงดังไปก็ไม่เป็นไรหรอก”
ไม่เป็นไรก็แย่แล้ว เป็นชัด ๆ
วันนี้เลวร้ายชะมัด ดวงซวยชัด ๆ
กระเป๋าเงินก็หาไม่เจอ แถมยังต้องมาอ่านการ์ตูนโป๊ออกเสียงอีก
ขณะที่บ่นอยู่ในใจ ฉันก็อ่านออกเสียงต่อไปเรื่อย ๆ จนคอแห้ง สุดท้ายก็ดับกระหายด้วยน้ำอัดลมที่ไม่ได้อยากดื่ม
“แย่จนน่าตกใจเลยล่ะ อย่างกับท่อนไม้แน่ะ เห็นเธอชอบเที่ยวเล่น นึกว่าจะเก่งเรื่องแบบนี้ซะอีก”
“ฉันเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์นะ แล้วก็ไม่ได้เที่ยวเล่นด้วย”
ฉันแก้ไขคำพูดหยาบคายของมิยางิ
“ที่เธอทำตัวแบบนั้นก็เพื่อไว้อ่อยผู้ชายล่ะสิ”
“ไม่ใช่แล้ว”
ที่ฉันทำตัวสะอาดบริสุทธิ์ไม่ใช่เพื่อไว้อ่อยผู้ชาย แต่เพื่อให้คุณครูประทับใจต่างหาก
“ถึงจะบอกตัวเองบริสุทธิ์ แต่จริง ๆ แล้วก็เที่ยวเล่นล่ะสิ”
“นั่นคือภาพลักษณ์ของฉันที่เธอเห็นเหรอ”
ฉันไม่รู้เลยว่าพวกมิยางิกับคนในกลุ่มอื่น ๆ คิดว่าฉันเป็นพวกชอบเที่ยวเล่น หรือว่าจะมีข่าวลือแบบนี้อยู่ด้วย เป็นความจริงที่ทำให้ฉันไม่สบายใจเลย
“ถ้างั้น คำสั่งก็หมดแล้วใช่มั้ย”
ฉันหยุดคิดเรื่องข่าวลือที่ทำให้ตัวเองเสื่อมเสียไว้ก่อน และถามมิยางิ
“หมดแล้ว”
“แล้วจะทำอะไรต่อดีล่ะ”
“จะกลับบ้านไปก็ได้ หรือว่าไม่กลับก็ได้ แล้วแต่ที่คุณเซนไดชอบเถอะ”
“งั้นฉันจะกลับบ้าน แล้วก็ขอยืมหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ด้วยได้มั้ย พอดีว่ามันน่าสนใจดีน่ะ”
ตรงสันปกมันเขียนไว้ว่าเล่ม 1 ก็แปลว่าต้องมีเล่ม 2 ต่อ ฉันไม่ได้มีงานอดิเรกเป็นการอ่านออกเสียงหรอก แต่ฉันอยากรู้เนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ต่อ ทว่ามิยางิกลับพูดต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ได้”
“หวา ขี้เหนียว ทำไมหนังสือการ์ตูนแค่นี้ถึงให้ยืมไม่ได้ล่ะ”
“5,000 เยน”
“อะไรนะ นี่เธอจะเอาเงิน 5,000 เยนสำหรับการเช่าการ์ตูนแค่เรื่องเดียวเนี่ยนะ ซื้อเองยังถูกกว่าอีกไหม”
“เปล่า ฉันจะให้คุณเซนไดน่ะ”
“ฮะ”
คำพูดที่ไม่คาดคิด ทำให้ฉันเผลอส่งเสียงงี่เง่าออกมา
“หลังเลิกเรียนฉันจะซื้อตัวคุณเซนไดครั้งละ 5,000 เยน จากนั้นพอมาที่นี่เธอค่อยอ่านเล่มที่เหลือ”
การขอซื้อตัวเพื่อนร่วมชั้นด้วยเงิน 5,000 เยนนั้นเป็นเรื่องที่เหนือจริงมาก
ไม่นานนี้เธอก็ให้คำสั่งเข้าใจยากอย่างให้ฉันอ่านการ์ตูนโป๊มาแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะบอกว่าเธอกำลังเพ่งเล็งร่างกายฉัน
“ฉันไม่ขายหรอกนะ นี่เธอจะทำอะไรกับฉันกัน เซ็กส์เหรอ? 5,000 เยนนี่มันถูกเกินไปหรือเปล่า* อีกอย่างฉันไม่สนใจผู้หญิงหรอก” *//5,000 เยนประมาณ 1,200 บาทปลาย ๆ ยังไม่ถึง 1,500 เลยด้วยซ้ำ ยิ่งที่ญี่ปุ่นค่าครองชีพสูงด้วย//*
ฉันรีบปัดข้อเสนอที่คาดไม่ถึงทิ้ง
“ฉันจะทำอะไรกับคุณเซนไดเหรอ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องแบบนั้นกับคุณเซนไดหรอก”
“แล้วจะให้ทำอะไร เธอคิดจะทำอะไรกับฉันด้วยเงิน 5,000 เยน”
“ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง มาที่บ้านของฉันหลังเลิกเรียนแล้วก็เชื่อฟังฉัน เหมือนกับวันนี้”
มิยางิมองมาที่ฉันโดยไม่แม้แต่จะยิ้ม
“เธอจะให้ฉันอ่านการ์ตูนโป๊อีกเหรอ”
“นั่นก็อย่างหนึ่ง นอกจากนี้ก็มีพวกช่วยทำการบ้านอะไรด้วยน่ะ”
“อะไรกันน่ะ อ๊ะ… แบบพวกรับจ้างจุกจิก* สินะ” *//มาจากคำว่า ‘benriya便利屋 ’ อาชีพเดียวกับพระเอกเรื่อง Benriya Saitou-san Isekai ni Iku ซึ่งซับไทย bilibili แปลเป็นช่างฝีมือ ซึ่งความหมายผิดไปไกลเลย)//*
ถ้าเกิดบอกใครไปว่าฉันขายตัวเองด้วยเงิน 5,000 เยนมันคงเป็นปัญหาแน่ แล้วฉันก็ไม่คิดว่าควรบอกใครว่าทำการบ้านให้คนอื่นด้วยเงิน 5,000 เยนด้วย
แม้ว่าการช่วยทำการบ้านด้วยราคานี้มันก็ไม่ได้เลวเลยก็เหอะนะ
“ต่างกันนิดหน่อย ฉันจะออกคำสั่งให้เธอทำน่ะ”
“ออกคำสั่งอะไร ฉันไม่ยอมโดนเธอทุบตีหรอกนะ แล้วฉันก็ไม่ยอมมีเซ็กส์ด้วย”
ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหัวของมิยางิ ดังนั้นฉันจึงคาดเดาไม่ได้ว่าเธอจะพูดอะไรต่อ เพราะงั้นฉันก็เลยชิงประกาศไว้ก่อนว่าจะไม่ขายร่างกายของตัวเองหรอกนะ
“ฉันเองก็ไม่ชอบความรุนแรงหรอก แล้วฉันก็ไม่ได้อยากมีเซ็กส์กับคุณเซนไดเหมือนกันนั่นแหละ”
“ถ้าฉันตอบว่าไม่เอาด้วย เธอจะไปขอคนอื่นอีกหรือเปล่า”
“ไม่หรอก ขืนไปบอกใครเขาว่าฉันจะออกคำสั่งด้วยเงิน 5,000 เยน เขาต้องคิดว่าฉันเป็นพวกบ้า ๆ แน่ ๆ”
ไม่อะ ไม่อะ แค่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็บ้าบอคอแตกพออยู่แล้วปะ
ตอนนี้ในหัวของฉันบันทึกไปโดยอัตโนมัติว่า “มิยางิเป็นคนอันตราย” แล้วเรียบร้อย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่สนใจซะทีเดียวหรอกนะ ที่โรงเรียน ฉันซื้อนิตยสารที่ฉันไม่อยากอ่านเพื่อที่จะได้ตามสมาชิกในกลุ่มทัน และพยายามทำให้พวกเขาอารมณ์ดี แทนที่จะทำแบบนั้น สู้ไปทำเรื่องน่าสนใจที่กำลังเกิดขึ้นน่าจะดีกว่า
“เป็นฉันดีแล้วเหรอ”
“ดีไม่ดีก็ชวนไปแล้วล่ะนะ”
“เอาเถอะ ถือว่าฆ่าเวลาก็ได้ ฉันจะรับฟังคำสั่งเธอ 5,000 เยนต่อครั้ง ถึงวันหยุดคงจะไม่ได้ แต่ถ้าเป็นหลังเลิกเรียนก็โอเค”
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ฉันก็ไม่ได้อยากโดนบังคับให้อ่านการ์ตูนโป๊นักหรอก แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นขีดจำกัดสูงสุดของคำสั่งแล้ว ดังนั้นลองเล่นด้วยสักพักก็ไม่เลวล่ะนะ
นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกสนใจคนที่ชื่อมิยางิด้วย
ฉันรู้สึกอยากรู้ว่าเธอคนนี้จะสั่งให้ฉันทำอะไรอีกบ้าง นอกจากนี้ถ้าเกิดไม่ชอบจริง ๆ ค่อยคืนเงิน 5,000 เยนเธอไปก็ได้…ถึงเธอคงไม่คิดจะยอมรับก็เถอะนะ
“แล้วก็อีกอย่าง ที่โรงเรียนฉันจะไม่คุยกับเธอนะ ฉันขอติดต่อเธอทางโทรศัพท์ได้มั้ย”
“ได้สิ”
ฉันยอมรับข้อเสนอของมิยางิไปอย่างย่ามใจ แม้ว่าอาจจะต้องเสียใจอีกครั้ง
จากนั้นเราก็แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อและออกไปจากห้องของเธอ
ฉันโบกมือให้กับมิยางิซึ่งพาฉันไปที่ทางเข้าแมนชั่นตามมารยาทและกลับบ้าน
ฝนไม่ได้ตก
ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดครึ้ม และก่อนที่ฉันจะรู้ตัวเมฆก็หายไปเสียแล้ว