[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 66 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม - ผู้แข็งแกร่งปริศนา
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 66 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม - ผู้แข็งแกร่งปริศนา
โน้ตจากผู้แต่ง : ไม่ได้เจอกันนานเลย
ตอนนี้เป็นมุมมองของโอโตฮะนะ
“นี่ โอโตฮะ เราจะทำแบบนี้กันจริงๆ เหรอ?”
พวกเราเดินตัวผ่านถนนตอนกลางดึกที่เงียบสงัด พอได้ยินเสียงของโอรันที่ดังมาจากข้างหลัง ฉันก็หันกลับไปหาเจ้าของเสียงเลย
“ถ้างั้นนะโอรัน นายยกโทษให้ชายคนนั้นได้เหรอ? ชายคนนั้นที่พยายามจะฆ่าคุณคุโระน่ะ ทำได้เหรอ?”
“คือผมก็เข้าใจนะ แต่ว่า…”
“คุณคุโระน่ะใจดีเกินไปแล้ว เพราะแบบนั้น เรื่องนี้ เราก็เลยจะต้องจัดการเองไงล่ะ”
ใช่แล้ว ต่อให้คุณคุโระจะไม่ต้องการก็ตาม
“อีกอย่าง ต่อให้เราจะเอาเรื่องส่วนตัวออกไปก่อน เจ้าผู้ชายคนนั้นก็ต้องโดนจัดการอะไรซักอย่างอยู่ดี”
“หมายความว่ายังไงน่ะ?”
“คิดถึงเรื่องที่เจ้านั่นยังทำงานเป็นทหารรับจ้างอยู่ได้ยังไงดูให้ดีๆ สิ”
“…?”
โอรันดูจะยังไม่เข้าใจนะ เขาเอียงคอไปทางด้านข้างเลย
เป็นน้องชายที่หัวช้าซะจริงๆ
“ต่อให้ทหารรับจ้างมักจะต้องทำงานที่ยากลำบากอยู่ตลอด แต่ถ้าเกิดมีเรื่องที่พวกนั้นใช้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ มาเป็นเหยื่อล่อ แล้วปล่อยให้เด็กคนนั้นต้องตาย — ถึงจริงๆ แล้วเธอจะยังไม่ตายก็เถอะ แต่ถึงอย่างนั้น — ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาล่ะก็ ยังไงพวกนั้นก็ต้องถูกยึดใบอนุญาตประกอบอาชีพทหารรับจ้าง และต้องโดนจับตัวไปลงโทษแน่นอน
ต่อให้สีผมของเธอจะดำแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าได้รู้ว่าพวกนั้นทำกับเด็ก 5 ขวบยังไงล่ะก็ เรื่องที่ต้องเกิดขึ้นตามมามันก็แน่อยู่แล้ว”
“พอพูดแบบนั้น มันก็จริงนะ งั้นก็แปลว่า ทหารรับจ้างพวกนั้นปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้สังคมภายนอกรู้น่ะสิ”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ แต่การที่เหยื่อในเรื่องนี้อย่างคุณคุโระยังมีชีวิตอยู่ ก็แปลว่ามีโอกาสที่อาจจะมีใครซักคนไปเจอความผิดพลาดในอดีตของเจ้าพวกนั้นก็ได้นะเจ้าคะ ทีนี้ เธอเข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อแล้วใช่ไหม?”
โอรันขมวดคิ้วเลย ดูท่าทางเขาจะเข้าใจสิ่งที่ฉันกลัวแล้วสินะ
“เธอจะหมายความว่า มีโอกาสที่ชายคนนั้นอาจจะพยายามฆ่าคุณคุโระเพื่อปิดปากก็ได้งั้นสินะ”
“ถูกต้องตามนั้นเลย”
“ไม่สิ แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้นะ ตอนนี้คุณคุโระเป็นคนสนิทของท่านโนอามารีนะ ไม่มีทางที่ชายคนนั้นจะไม่รู้เรื่องนักเวทย์แสงสว่างเพียงคนเดียวในโลกอยู่แล้ว แล้วก็อีกอย่าง ผมไม่คิดว่าเขาจะโง่ถึงขนาดที่จะไปทำอะไรกับผู้ติดตามของขุนนางหรอก”
“เรื่องนั้นฉันเข้าใจดีเจ้าค่ะ แต่ต่อให้มันจะเป็นโอกาสแค่ 0.1% พวกเราก็ควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนสิเจ้าคะ”
ชีวิตของผู้ชายคนนั้น กับชีวิตของคุณคุโระน่ะเหรอ มันเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ฝั่งนึง เป็นไอ้เลวระยำที่โยนคุณคุโระ อาจารย์และผู้มีพระคุณของพวกเราเอาไว้ในรังงูเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก
อีกฝั่งนึง เป็นคนที่รับใช้คุณหนูสุดที่รักของฉันมาตั้งแต่ 9 ปีก่อน แถมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็เป็นคนที่คุณหนูไว้ใจที่สุดเสมอด้วย
“ฉันไม่ได้จะฆ่าชายคนนั้นหรอก ก็เพียงแค่ทำให้มั่นใจว่าพิษของฉันจะทำให้เขาไม่อาจต่อสู้ได้อีกไปตลอดชีวิต เมื่อคิดถึงการพยายามฆ่าที่ชัดเจนของเจ้านั่นแล้ว นี่ออกจะเป็นโทษสถานเบาเสียด้วยซ้ำ แต่เพราะคุณหนูสั่งเอาไว้ว่าห้ามฆ่าเขาล่ะนะ”
“…”
“เป็นอะไรไป ทำไมถึงจ้องกันแบบนั้นล่ะ?”
“เปล่าหรอก ฉันแค่เพิ่งจะสังเกตว่าเธอคิดเรื่องถี่ถ้วนได้ด้วยน่ะ โอโตฮะ”
“ถ้านายจะมาหาเรื่องกัน ฉันก็พร้อมสนองนะ”
ระหว่างที่ฉันกับโอโตฮะคุยกันอยู่เงียบๆ พวกเราก็มาจนถึงโรงแรมที่เรามาสำรวจกันก่อนหน้านี้ ที่พักของชายคนนั้นยังไงล่ะ
“ทีนี้ เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“มีคนมองมาอยู่นะ มันจะดีจริงๆ เหรอ?”
“ไม่ต้องห่วง เราก็แค่ใช้แก๊สยาสลบทำให้ทุกคนหลับไปซะก็พอ”
“เธอนี่มีฝีมือกับเรื่องพวกนี้จริงๆ เลยนะ”
โอรันพูดชื่นชมออกมาแบบนั้น แต่ฉันอยากให้คุณหนูเป็นคนพูดคำนั้นกับฉันมากกว่านะ
ฉันเปิดประตูทางเข้าของโรงแรมให้แง้มนิดหน่อย ก่อนจะส่งแก๊สยาสลบง่ายๆ ที่ฉันตั้งเอาไว้ให้เบากว่าอากาศกระจายเข้าไปข้างในนั้น
เพราะแก๊สนี้มันทำได้แค่ทำให้ง่วงและอยากนอน ต่อให้จะกระจายออกไปขนาดไหนก็ยังปลอดภัย แถมผ่านไปไม่กี่นาที แก๊สนี้ก็สลายตัวหมดแล้ว ฉะนั้น ไม่เป็นอันตรายกับชาวบ้านในละแวกเดียวกันนี่แน่นอน
พวกเรารอกันอยู่อีกพักนึง รอฟังเสียงข้างในนั้นให้เบาลงไป
ดูเหมือนทุกคนจะหลับกันไปหมดแล้วนะ
“เอาล่ะ ไปกันเถอะโอรัน”
“เอาเถอะ มาถึงขนาดนี้ สงสัยคงจะต้อง-… โอโตฮะ! ข้างบน!”
“!?”
จู่ๆ เสียงกระจกหน้าต่างแตกก็เกิดดังขึ้นมาจากด้านบน ต่อด้วยร่างคนร่างนึงจะกระแทกลงมา
ฉันหลบมันได้ทันพอดี และรีบหุ้มมือขวาของตัวเองเอาไว้ด้วยเวทมนตร์ ตั้งท่าเตรียมตั้งรับแล้ว
“พวกแกสินะที่เป็นคนปล่อยแก๊สแปลกๆ เข้าไปน่ะ เจ้าพวกเด็กน้อย?”
“พูดเรื่องอะไรน่ะ? พวกฉันแค่-”
“อย่ามาทำไขสือ คนที่ขยับตัวได้แถวนี้นอกจากข้าก็มีแค่พวกแก มันก็ชัดพอแล้วว่าพวกแกต้องปล่อยแก๊สนั่นด้วยเหตุผลบางอย่างแน่”
ใครกันเนี่ย?
มืดเกินไปจนไม่เห็นหน้าตาหรือสีผมเลย แต่ฟังจากเสียงก็รู้แล้วล่ะว่าเป็นผู้ชายแน่
ร่างกายดูจะผอมเพรียวนะ แต่ก็สูงพอควรเหมือนกัน
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกับที่เจอกันเมื่อเช้า
แต่ว่า เขาต้านทานแก๊สของฉันได้ยังไงน่ะ?
“ผมสีชมพู กับสีเขียวอมเหลืองเรอะ แสดงว่าใช้เวทมนตร์กันไม่ได้ งั้นแกใช้ทริคอะไรกันแน่เนี่ย?”
“(โอรัน รีบจัดการเจ้านี่และทำภารกิจของเราต่อกันเถอะ)”
“(เข้าใจแล้ว)”
วิธีการจะยังไงก็ไม่สำคัญหรอก
เรามีงานแค่อย่างเดียวที่ต้องทำให้สำเร็จ และชายคนนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องกังวล
ฉันกับโอรันมองตากับแวบนึง ก่อนจะเริ่มขยับตัวกันทันที
โอรันเสริมการป้องกันของตัวเองด้วยเวทต้านทาน พุ่งตรงเข้าหาชายคนนั้น ในขณะที่ฉันลอบหลบเข้าไปอยู่หลังเงา เข้าประชิดตัวของฝ่ายนั้นด้วย
โอรันย่อตัวลงอย่างลื่นไหล ส่วนฉันก็ใช้นิ้วที่หุ้มด้วยกรดทิ่มใส่แขนของชายคนนั้น ต่อด้วยการฉีดยาสลบใสกระแสเลือดเข้าโดยตรงเหมือนกับเข็มฉีดยาเลย―――
“ช้าไป”
“อั๊ก!?”
“คิย้า…!”
แต่ชายคนนั้นกลับเคลื่อนไหวได้ในแบบไม่อยากจะเชื่อเลย
เขาหลบนิ้วเรียวยาวของฉันในความมืดสนิทแบบนี้ได้อย่างแม่นยำ แถมยังถีบตัวโอรันให้มากระแทกใส่ฉันอีกต่อได้อีกต่างหาก
“คิดว่าแค่เพราะพวกแกเป็นเด็กน้อยแล้วข้าจะประมาทรึไง? แย่หน่อยนะ ข้าไม่มีทางประมาทกับสิ่งที่ยังไม่รู้แน่ชัดหรอก”
“หมอนี่…”
“ยิ่งกว่านั้น ยัยหนูนี่แผ่ความกระหายเลือดออกมาแรงเชียวล่ะ”
“อย่ามาเรียกฉันว่ายัยหนูนะ! {พาราไลซ์แอร์โรว์ (ศรพิษอัมพาต)}!”
ฉันยิงลูกธนูที่หุ้มไปด้วยพิษที่จะแค่โดนถากๆ ก็ทำให้เป็นอัมพาตได้เลย แต่ขนาดระยะแค่นี้ ชายคนนั้นก็ยังบิดตัวหลบมันได้อย่างพริ้วไหว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ฉันด้วยมือเปล่า
“เป็นพวกเส้นผมชั้นต่ำที่ใช้เวทมนตร์ได้เรอะ? เป็นพวกผ่าเหล่ารึไงนะ? จะยังไงก็ช่าง ในเมื่อแกเปิดก่อน ก็เตรียมใจกัดฟันทนเจ็บซักตุบซะดีๆ!”
“หมอนี่ เก่งชะมัด…!?”
โอรันใช้เวทมนตร์ต้านทานช่วยป้องกันหมัดของเจ้านั่นเอาไว้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น แรงกระแทกมันก็รุนแรงพอจะทำให้เขาตัวเซได้เลย
แถมที่แย่กว่า คือหมัดนั่นมันตามมาด้วยการซัดใส่ต่อเนื่องเป็นชุดเนี่ยสิ
“โอโตฮะ! ใช้พิษคลุมเป็นอาณาเขตรอบตัวเราเอาไว้เลย! เดี๋ยวผมใช้การต้านทานป้องกันได้!”
“ลองแล้ว! แต่หมอนั่นมันเร็วไปจนหาจังหวะไม่ได้เลยน่ะสิ!”
“อะไรเล่า! มีน้ำยากันแค่นี้รึไง!”
เจ้านี่ ขนาดไม่ได้ใช้เวทมนตร์แท้ๆ ทำไมถึงได้แกร่งขนาดนี้ได้เนี่ย…!?
“ดูท่า อีกฝ่ายจะกุมความได้เปรียบเอาไว้ซะแล้วนะ”
ในจังหวะที่ฉันชะงักไปพักนึง หมอนั่นก็พุ่งตรงเข้ามาหาฉันเลย
“หลับไปซะ!”
“ขอปฏิเสธเจ้าค่ะ! {ดรังค์มิสต์ (สายหมอกเมามาย)}!”
ก่อนที่หมอนั่นจะซัดฉันให้สลบ ฉันก็ร่ายเวทออกไปได้เร็วกว่าจังหวะนึงพอดี
หมอกที่อัดแน่นด้วยไอระเหยของแอลกอฮอล์ถูกกระจายไปทั่ว ทำเอาใครก็ตามที่สูดเข้าไปจะเมาแอ๋ทันทีจนยืนไม่อยู่ เดินโซซัดโซเซเหมือนก๊งมามากเกินไปเลยล่ะ
“โอรัน!”
“อ้า!”
ชายคนนั้นโดดถอยไป แต่โอรันที่เสริมตัวเองด้วยเวทต้านทานเรียบร้อยก็โผไปข้างหน้า กำดาบในมือแน่น ชูขึ้นพร้อมจะซัดสันดาบใส่แล้ว
“อ่อน หัด!”
“หวา!?”
แต่ว่า เพราะอะไรไม่รู้ ชายคนนั้นถึงได้ตั้งหลักกลับมายืนอย่างมั่นคง แถมเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ด้านข้างใบดาบได้อีกต่างหาก
ดาบของโอรันเลยโดนปัดออก แถมเพราะกำดาบเอาไว้แน่น เขาเลยถูกดันให้ผงะถอยไปพร้อมกับตัวดาบด้วย
“ม- ไม่ได้ผลเลยเหรอ!?”
“โทษทีนะ แต่พอรู้สึกว่าในอากาศมันแปลกๆ ข้าก็กลั้นหายใจทันทีเลยน่ะสิ”
นี่แปลว่า เหตุผลที่หมอนั่นต้านผลของแก๊สได้ก่อนหน้านี้ มันเป็นแค่เพราะไม่ได้หายใจเข้าไปเฉยๆ เลยเนี่ยนะ
“จะว่าไปเนี่ย รู้สึกว่าช่วงนี้ข้าจะได้ยินข่าวลือแปลกๆ มาด้วย เรื่องคุณหนูตระกูลเทียไลท์จากต่างแดนเพิ่งรับคำขอแต่งงานจากตระกูลวาเลนไทน์ไป คุณหนูคนนั้นเป็นนักเวทย์แสงสว่าง แล้วก็มีผู้ติดตามเป็นพวกเส้นผมชั้นต่ำอีก 4 คนนี่นา”
ชายคนนั้นยังจับตามองอยู่ที่พวกเรา ระแวดระวังอยู่ตลอดไม่ยอมเปิดช่องว่างเลย แต่อยู่ดีๆ เขาก็ขำคิกคักขึ้นมา
“เห็นเขาว่าพวกเส้นผมชั้นต่ำ 4 คนนั่นจะมีชื่อว่อนอยู่ในเมืองหลวงด้วย เรื่องที่พวกนั้นใช้เวทมนตร์แปลกประหลาดที่มองไม่เห็น แบบนี้นี่เอง ในที่สุดก็เข้าใจซักทีว่าพวกแกเป็นอะไรกันแน่”
“…!”
“ทำยังไงดีล่ะโอโตฮะ? ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องของพวกเราแล้ว”
“ทำให้เขาสลบ ลากไปที่คฤหาสน์ แล้วเดี๋ยวให้สแตเปลี่ยนความทรงจำเขาซะก็พอ”
“นี่กะไปพึ่งคนอื่นเขาเต็มที่เลยเหรอเนี่ย”
กลายเป็นว่าตอนนี้ พวกเรายิ่งจะไปแพ้ให้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เข้าไปอีก
แต่ว่า จะทำยังไง―――
“ว่าแล้วเชียว อยู่กันที่นี่จริงๆ ด้วย…”
เสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นดึงความสนใจของฉันไป พอฉันเงยหน้าขึ้นไปดูที่หลังคาโรงแรม ก็เจอคนที่ยืนอยู่บนนั้นคือ…
“คุณคุโระ! สแต!”
โล่งอกไปที ถ้าทั้ง 2 คนอยู่ที่นี่ล่ะก็ มันไม่ต่างจากมีคนมาช่วยซักกองร้อยนึงแล้ว
“ฉันลำบากกับเจ้าหมอนี่นิดหน่อย! ถ้าคุณช่วยซักหน่อยก็ดีมากเลยนะเจ้าคะ!”
“ลืมจุดประสงค์หลักของเราไปแล้วเหรอโอโตฮะ!? การที่คุณคุโระมาที่นี่ก็แปลว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วต่างหากเล่า! มันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะครับคุณคุโระ ผมแค่โดนลากมาเอี่ยวด้วยเท่านั้นเอง…”
“พอ รีบๆ จัดการแก้เรื่องความต้านทานของโอโตฮะได้แล้ว”
“ค- ครับ!”
เอ๊ะ? ทำไมโอรันถึงลนลานแบบนั้นล่ะ?
จุดประสงค์หลักของพวกเรา?
นั่นสินะๆ เรามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้คุณคุโระ―――
อยู่ดีๆ ภาพตรงหน้าฉันมันก็ตัดไป ก่อนที่จะเห็นว่าคุณหนูกำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน
แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย?
อ้อ จริงด้วย คุณหนูเรียกให้ฉันมานี่นา
‘โอโตฮะ’
‘ค่ะ! คุณหนู!’
‘ขอโทษนะ แต่ฉันไม่เคยมีความคิดจะมาใช้ชีวิตกับคนอย่างเธอเลยซักนิด ฉันไปแต่งงานกับลุคเซียดีกว่า ลานะจ๊ะ’
พื้นดินที่ฉันยืนอยู่พังทลาย ทุกอย่างกลายเป็นสีดำสนิท พร้อมๆ กับสติสัมปชัญญะของฉันที่ขาดหายไปในตอนนั้นเลย
TN: เด็กไม่ดีต้องโดนอะไรเอ่ย…?
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r