[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 57 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - แนะนำเวทมนตร์หายาก
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 57 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - แนะนำเวทมนตร์หายาก
วันนี้ พวกเรายังคงศึกษาเวทมนตร์อยู่ในห้องสมุดใหญ่กันเหมือนอย่างทุกที
ตามปกติ ตั้งแต่ที่โอโตฮะกับโอรันเข้ามาอยู่กับพวกเรา มันก็ค่อนข้างเอะอะเสียงดังกันนะ แต่พอเป็นเรื่องเวทมนตร์เหมือนอย่างตอนนี้แล้ว ทุกคนจะจริงจังกันหมด เพราะฉะนั้นมันก็เงียบสนิทเลยล่ะ
เสียงที่มีตอนนี้ก็มีแค่เสียงติ๊กต๊อกของนาฬิกากับเสียงพลิกหน้ากระดาษของหนังสือเวทมนตร์ แล้วก็เสียงของปากกาที่จดบันทึกลงกระดาษอยู่เป็นครั้งคราวเท่านั้นเอง
จนกระทั่งโอโตฮะได้พังความเงียบนี้ลง
“คุณหนูเจ้าคะ นี่อาจจะเป็นแค่คำถามง่ายๆ นะเจ้าคะ แต่”
“อะไรเหรอ?”
“คุณหนู ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกสินะเจ้าคะ?”
“ก็นะ ถึงในท้ายที่สุด ฉันจะแพ้ให้กับรูช จนต้องก้าวลงมาเป็นผู้ที่แกร่งเป็นอันดับ 2 ก็เถอะ”
“แบบนี้ก็แปลว่า เวทมนตร์สายแสงสว่างกับเวทมนตร์สายความมืดถือเป็นเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างนั้นเหรอเจ้าคะ?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ของโอโตฮะ ท่านโนอะก็ได้ปิดหนังสือลงก่อนจะเอียงหัวคิด
“เป็นคำถามที่ตอบยากอยู่นะ เวทมนตร์ที่เป็นที่รู้กันเลยว่า ‘แข็งแกร่งที่สุด’ น่ะมันไม่มีอยู่หรอก เวทมนตร์ทุกแบบต่างก็มีทั้งข้อได้เปรียบเสียเปรียบของตัวเอง ทั้งหมดมันขึ้นกับผู้ใช้งานล่ะนะ”
“แต่ก่อนหน้านี้ คุณหนูเคยพูดถึงเวทมนตร์ของโอรันเอาไว้ว่า [i]‘เป็นหนึ่งในเวทมนตร์หายากที่แข็งแกร่งที่สุด 5 อันดับแรก’[/i] นี่เจ้าคะ?”
“นั่นเป็นเพราะเวทมนตร์หายากนั้นได้ถูกจัดหมวดอันดับเอาไว้อย่างคร่าวๆ ยังไงล่ะ เวทมนตร์สายต้านทานนั้นก็แค่เป็นหนึ่งในเวทมนตร์อันดับสูงสุดเท่านั้นเอง และอีกอย่าง เวทมนตร์สายความมืดและสายแสงสว่างเองก็อยู่ในหมวดนี้ด้วยเหมือนกันนะ”
“แล้วเวทมนตร์สายจิตใจของสแตล่ะเจ้าคะ? นั่นก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากเหมือนกัน”
“อืม ฉันคิดว่า แข็งแกร่ง”
“เวทมนตร์สายจิตใจน่ะมีคุณสมบัติที่ยุ่งยากเสียหน่อยตรงที่ว่าความแข็งแกร่งจะเหวี่ยงไปตามสภาพจิตใจของผู้ใช้ด้วย อีกทั้งยังไม่มีผลใดๆ กับผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งมากๆ ด้วย ด้วยข้อด้อยสำคัญเหล่านี้ ทำให้มันถูกจัดอันดับเอาไว้อยู่แถวๆ กลางค่อนบนน่ะ”
กล่าวคือ สำหรับคนอย่างสแตที่มีอารมณ์ค่อนข้างนิ่งไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว นี่ก็เลยเป็นเวทมนตร์ที่ใช้งานได้ง่ายกว่าสินะ
กลับกัน เกิดเป็นใครที่มีอารมณ์หรือความคิดในแง่ลบมากๆ ล่ะก็ นี่คงเป็นเวทมนตร์ที่ใช้ได้ยากกว่ากันมากโขเลย
“งั้น ถ้าท่านโนอามารีจะรับนักเวทย์หายากคนต่อไปมาร่วมกับพวกเรา ท่านอยากได้เวทมนตร์แบบไหนเหรอครับ?”
“นั่นเองก็เป็นคำถามที่ตอบยากเหมือนกันนะ ว่าตามตรง เพราะจะเวทมนตร์หายากไหนต่างก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว ฉันเลยยินดีรับทั้งหมดนั่นแหละ แต่ว่า――― [เวทมนตร์สายผนึก] [เวทมนตร์สายมิติ] [เวทมนตร์สายเส้นด้าย] [เวทมนตร์สายศาสตรา] [เวทมนตร์สายคุ้มกัน] [เวทมนตร์สายพินาศ] [เวทมนตร์สายวิญญาณ] [เวทมนตร์สายเสริมพลัง] [เวทมนตร์สายรังสรร] ฉันคิดว่าที่โดดเด่นก็น่าจะเป็นเวทมนตร์เหล่านี้ล่ะนะ”
พอมาลองคิดดูแล้ว เวทมนตร์หายากนี่มีเยอะเหมือนกันแฮะ
ดูจากที่หนังสือเวทมนตร์ส่วนมากที่เก็บเอาไว้ที่นี่ก็มีแต่ที่เกี่ยวกับเวทมนตร์หายากทั้งนั้น มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่นะ
“แล้วก็ยังมีเวทมนตร์หายากอีกมากทีเดียวที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เพราะฉะนั้น ฉันก็ช่วยอ้างอิงอะไรให้ไม่ได้หรอก แม้แต่ในตอนนี้เองก็อาจจะมีเวทมนตร์หายากใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาก็ได้นะ ไม่คิดยังงั้นเหรอ?”
“เรื่องแบบนั้นจะมีจริงๆ น่ะเหรอคะ?”
“ไม่รู้สิ แต่โอกาสที่จะมีเวทมนตร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก็ไม่ใช่ 0 นี่จริงมั้ย?”
เวทมนตร์ที่ไม่มีใครรู้จักและยังไม่ได้รับการยืนยัน งั้นเหรอ
แค่การขาดข้อมูลแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาได้แล้วนะเนี่ย
“ฉันอยากจะเห็นน่ะ เวทมนตร์ใหม่ๆ”
“คุณหนู สนใจเวทมนตร์มากเลย”
“ถึงแม้ว่าตามปกติท่านจะเกียจคร้านอยู่ตลอด แต่ก็ละโมบต้องการองค์ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์มาครอบครองสินะคะ”
“คุโระ ที่เธอว่านั่นเป็นคำชม? หรือคำหมิ่นฉันกันแน่น่ะ?”
ฉันขอไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้มันมากเรื่องมากความแล้วกันนะว่าส่วนใหญ่ ฉันก็ตำหนิท่านอยู่ประมาณ 1:9 นั่นแหละ
“เมื่อพันปีก่อน นักเวทย์หายากไม่ได้มีน้อยเหมือนอย่างทุกวันนี้หรอกนะ มีเวทมนตร์ที่แตกต่างมากมายหลายแบบไปหมด ไม่จำเจเลยล่ะ แต่ในทุกวันนี้ อาจจะเหลือแค่พวกเราที่อยู่ที่นี่แล้วก็ได้ ก็ออกจะน่าเบื่ออยู่บ้างนิดหน่อยล่ะนะ”
“วางใจได้เลยเจ้าค่ะคุณหนู! ฉันจะมอบบรรยากาศสดชื่นให้ท่านเดี๋ยวนี้ล่ะเจ้าค่ะ! เริ่มจาก ลองเอาริมฝีปากสัมผัสกันเบาๆ ดูซักนิดแล้วกันนะเจ้าคะ!”
“สแต ทำให้เด็กคนนั้นเงียบไปซักพักที”
“อืม”
“อ๊าา รอเดี๋ยวก่อ- มมมมมม”
ด้วยผลจากเวทจิตใจของสแต โอโตฮะที่ลืมวิธีการพูดไปก็เลยกลับไปนั่งที่อย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนที่เธอจะเริ่มเรียนต่อไปอย่างเงียบๆ
“เออ ผมขอถามด้วยได้หรือเปล่าครับ?”
“ได้สิ”
“ผมเข้าใจแล้วล่ะครับว่าไม่มีเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ว่า แล้วในบรรดาเวทมนตร์หายากที่ท่านเคยเห็นมาในชาติก่อน ท่านคิดว่าเวทมนตร์ไหนน่าสนใจที่สุดยังงั้นเหรอครับ ท่านโนอามารี?”
โห
อันนี้ ฉันเองก็สนใจเหมือนกันแฮะ
“อื~ม นั่นสินะ อาจจะเป็นเวทแสงสว่างก็ได้? ไม่สิ เวทความมืดของฉันเองก็เกินต้านทานเหมือนกัน―――อ้อ เดี๋ยวนะ นั่นไงล่ะ”
“มันคืออะไรเหรอครับ?”
ท่านโนอะยื่นหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ให้โอรันดู
“[เวทมนตร์สายกาลเวลา] ?”
“ใช่แล้ว นี่แหละ”
“เป็นเวทมนตร์แบบไหนงั้นเหรอครับ?”
“ก็ตามชื่อเลย มันเป็นเวทมนตร์ที่สามารถควบคุมเวลาได้ตามต้องการ แล้วก็ นั่นน่ะคือหนังสือเวทมนตร์ของเวทมนตร์กาลเวลาเพียงเล่มเดียวที่มีอยู่ในโลกเลยด้วยนะ”
จะว่าไป เมื่อนานมาแล้ว ท่านก็เคยให้ฉันดูมาแล้วครั้งนึงด้วยนี่นา
“ทำไม มีอยู่ อันเดียว?”
“ในบรรดาเวทมนตร์หายากน่ะ เวทมนตร์สายกาลเวลาถือเป็นเวทมนตร์หายากที่หายากที่สุดแล้ว หายากยิ่งกว่าเวทมนตร์สายแสงสว่างกับสายความมืดรวมกันเสียอีก ว่ากันว่าผู้ครอบครองเวทมนตร์สายกาลเวลานั้นจะปรากฏขึ้นมาในประวัติศาสตร์ทุกๆ 2,000 ปีเท่านั้นเอง”
““2,000 ปี!?””
“สุดยอด”
“มมมมมม―!”
2,000 ปีนี่ แทบจะเท่ากับปีคริสต์ศักราชในชาติก่อนของฉันเลยนะนั่น
“ว่าแต่ ท่านโนอะคะ จากวิธีที่ท่านพูดนี่ เหมือนกับว่าท่านเคยได้เจอกับนักเวทย์กาลเวลามาก่อนเลยนะคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ อันที่จริง เธอเป็นผู้ติดตามของฉันเลยล่ะนะ”
“เอาจริงเหรอคะเนี่ย”
“จริงสิ เธอเป็นเด็กที่ตั้งใจเอาการเอางานมากเลยนะ เธอเรียนรู้เวทมนตร์สายกาลเวลาจากข้อมูลที่มีอย่างจำกัดเพียงน้อยนิด แถมยังถึงขนาดสร้างเวทมนตร์ของตัวเองขึ้นมาเลยด้วยนะ”
“แต่ว่า ถึงจะหายากขนาดนั้น แต่เวทมนตร์สายกาลเวลาก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องแข็งแกร่งที่สุดสินะคะ?”
“ไม่รู้เหมือนกันนะ มันพูดยาก เพราะก็ขึ้นกับว่าจะใช้ด้วยวิธีไหน ด้วยข้อมูลที่น้อยนิด มันเลยถือเป็นข้อยกเว้นในบรรดาเวทมนตร์หายากไปเลยน่ะ”
ถ้าเวทกาลเวลาสามารถควบคุมได้แม้แต่เวลาของโลกทั้งใบเลยล่ะก็ มันก็ต้องเป็นเวทมนตร์ที่สุดยอดมากจริงๆ นั่นแหละ
ไม่ว่าจะทำผิดพลาดไปกี่ครั้ง ก็สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ตลอดตามที่ต้องการเลย
“ฉันแพ้ให้กับรูชก่อนที่จะทันได้เห็นเข้าถึงศักยภาพเต็มกำลังของเวทมนตร์สายกาลเวลา นั่นแหละคือเรื่องที่ฉันรู้สึกเสียดายเพียงเรื่องเดียวในชาติก่อนน่ะ”
“ถ้าคาดการณ์จากวัฏจักรทุก 2,000 ปีล่ะก็ การจะได้เจอกับนักเวทย์กาลเวลาในยุคนี้ดูจะต่ำมากเลยนะคะ”
“ใช่ อ่าาา อยากจะรู้จังเลยน้า”
ท่านโนอะดูจะรู้สึกผิดหวังจากก้นบึ้งของหัวใจท่านเลยแฮะ
“มมม! มมมมมม—!”
“ดูเหมือนเธอจะอยากพูดอะไรซักอย่างนะคะ”
“สแต คลายเวทที่ร่ายไว้ได้แล้ว”
“อืม”
“ฟุฮ่าาา!”
โอโตฮะที่ดูเหมือนว่าจู่ๆ เธอก็จะจำได้วิธีการพูดได้แล้วก็คว้ามือของท่านโนอะมา ก่อนที่จะ
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณหนู ต้องขออภัยด้วยนะเจ้าคะกับเรื่องนักเวทย์กาลเวลา แต่อย่างน้อยที่สุด เรื่องความฝันของท่านอย่างการครอบครองโลกที่ครั้งหนึ่งเคยไม่สำเร็จนั้น จะไม่มีทางเป็นแค่เรื่องน่าเบื่อแน่นอนเจ้าค่ะ”
“…!”
“โปรดอย่าพูดเรื่องน่าเศร้าอย่าง ‘น่าเบื่อ’ เลยนะเจ้าคะ อย่างน้อยที่สุด พวกเราจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้คุณหนูต้องรู้สึกเบื่อหน่ายเลยค่ะ ทั้งหมดนั้นก็เพื่อคุณหนูที่ช่วยพวกเราเอาไว้”
…
“อะไรน่ะ? ทำไมทุกคนถึงมองฉันกันแบบนั้นล่ะ?”
“เปล่าหรอกค่ะ จะว่ายังไงดี”
“กำลังคิดว่าเธอเองก็พูดอะไรที่มีประโยชน์ได้ด้วยน่ะ”
“หมายความว่ายังไงเนี่ย!?”
“ตามนั้นเลยล่ะ”
“ฉันขอค้านเจ้าค่ะ!”
แต่ว่า ก็นะ
ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าโอโตฮะจะพูดอะไรมีเหตุมีผลแบบนี้ได้ด้วย
นึกว่าความคลั่งไคล้ที่เธอมีต่อท่านโนอะมันออกจะจริงจังมากเลยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แต่ดูท่าฉันจะต้องคิดใหม่ซักหน่อยแล้วสิ
“ฮุฮุ”
“ค- คุณหนูเจ้าคะ?”
“ขอบใจนะโอโตฮะ ช่วยปัดความเศร้าในใจฉันออกไปได้บ้างเลยล่ะ”
“ถ้าเป็นฉันพอจะมีส่วนช่วยได้ งั้นนั่นก็เป็นสิ่ง-… เอะ?”
ว่าแล้วเชียว
อยู่ๆ ท่านโนอะก็กอดโอโตฮะเอาไว้
“ฉันทำให้เธอได้เท่านี้ล่ะนะ”
“โอ้ ดีจังเลยนะ โอโตฮะ”
“…”
“โชคดีจังเลยนะคะ คุณโอโตฮะ”
“อื้ม”
“…”
“โอโตฮะ?”
ท่านโนอะรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ ก่อนที่ท่านจะผละตัวออกมาจากโอโตฮะ
โอโตฮะยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับออกจากตรงที่เธอยืนเลยแม้แต่นิ้วเดียว
สิ่งเดียวที่ขยับก็มีแต่เลือดที่ไหลหยดติ๋งๆ จากจมูกเธอ ส่วนสีหน้าของเธอก็แสดงความพอใจผ่องใสออกมาอย่างชัดเจนราวกับว่าเธอได้เข้าถึงอะไรซักอย่างเลย
“…เป็นลมไปแล้วนี่”
อยากเอาช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกอ่อนไหวไปเมื่อกี้กลับมาจังเลยแฮะ
โน้ตจากผู้แต่ง : เล่าเสริมเป็นเรื่องราวเบื้องหลังนะ ที่โอโตฮะเรียกท่านโนอะว่า “คุณหนู (お嬢様 : ojousama) ก็เพราะเธอเขินเกินกว่าจะเรียกชื่อของคนที่ตัวเองรักได้นั่นเอง”
TN: จบลงแล้วนะครับกับ [บทที่ 3 : ภาค การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก] กลุ่มของโนอะก็ได้สมาชิกมา 2 คนเรียบร้อย เท่านี้ก็มีลูกน้อง 4 คนแล้ว
บทหน้า เราจะไทม์สคิปกันอีกรอบ (บ่อยจังนะ 555) เพื่อจะตามหาสมาชิกคนสุดท้ายมาร่วมปาร์ตี้กัน แถมยังมีตัวละครสำคัญนอกเหนือจากกลุ่มผู้ติดตามของท่านโนอะด้วยนะ ^^ เกาะติดเอาไว้ แล้วคว้าตัวลูกเรือคนสุดท้ายมาให้ได้ครับ
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r