[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 54 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - การแก้แค้นของฝาแฝด ปัจฉิมบท
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 54 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - การแก้แค้นของฝาแฝด ปัจฉิมบท
เรา 3 คนมองดูโอโตฮะกับโอรันเดินกันจากข้างหลังไม่ห่างมาก
“แบบนี้แปลว่า 2 คนนี้อยู่ฝ่ายเราแล้วใช่มั้ยคะตอนนี้”
“ไม่รู้สิ? มันอาจจะเป็นแค่การตัดสินใจผิดพลาดแค่ชั่วขณะ หรือหลังจากที่ได้ลงมือฆ่าครอบครัวสายเลือดเดียวกันไปแล้ว ก็อาจมีอารมณ์ความคิดที่พลิกกลับไปเลยก็ได้”
“ตกอยู่ใต้เสน่ห์คุณหนูแล้ว คิดว่าไม่เป็นไร”
“ก็หวังว่าจะเป็นยังงั้นนะ”
ทั้งคู่มายืนอยู่ตรงหน้าโกดังที่ใช้ขังพ่อและพี่ของทั้งสองเอาไว้ ก่อนจะปลดกลอนประตูออกอย่างไม่ลังเล
“ถ้าอย่างนั้น พวกคุณหนู (お嬢様 Ojou-sama) โปรดรออยู่ตรงนี้ซักครู่ก่อนนะเจ้าคะ พวกเราจะรีบไปรีบมา”
“อ้า ไปดีมาดีล่ะ”
“ไปกันเถอะ โอรัน”
“อ้า”
“…คุณหนู?”
“พูดว่า คุณหนูด้วย”
“พูดแบบนั้นจริงๆ ด้วยนะ”
เรียกท่านโนอะว่าคุณหนู (お嬢様 Ojou-sama) ด้วยเหรอ?
ก็จริงอยู่ว่านอกจากฉันกับสแตแล้ว คนรับใช้คนอื่นๆ ก็เรียกท่านโนอะแบบนั้นกันหมดนั่นแหละนะ
เอาเถอะ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจตอนนี้นี่นา พวกเราแนบตัวติดกับกำแพงของโกดัง พยายามจะฟังเสียงที่ออกมาจากข้างในนั้น―――
“อา คุณคุโระเจ้าคะ”
“เอ๊ะ? อ่า ค่ะ มีอะไรหรือเปล่า?”
“ช่วยใช้เวทมนตร์สายความมืดของคุณมัด 2 คนนั้นใหม่อีกที แล้วลบเวทมนตร์ของทั้งคู่ออกไปได้มั้ยเจ้าคะ?”
“ด- ได้ค่ะ”
“ขอโทษด้วยค่ะที่ต้องรบกวน”
หลังจากที่โอโตฮะพูดแบบนั้น จู่ๆ ประตูก็เปิดออกผ่าง
เอาเถอะ ในเมื่อบอกเอาไว้แล้วว่าเราจะช่วยพวกเธออย่างเต็มที่ ฉันเลยจัดการให้ตามที่ได้ถูกขอมา
“แบบนี้ใช้ได้หรือยังคะ?”
“ได้แล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณมากเลยนะเจ้าคะ”
“อ- โอโตฮะ? เธอทำตัวแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“พูดอะไรของนายน่ะโอรัน ฉันก็ปกติเหมือนอย่างทุกทีไม่ใช่หรือไง?”
“ง- งั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ดีแล้ว”
ก็จริงนะ ถ้าเทียบกับก่อนหน้านี้ไม่นานเนี่ย กิริยาท่าทางของโอโตฮะดูจะแปลกๆ ไปจริงๆ
สีหน้าของโอรันเองก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดนะ แต่ท่าทีของโอโตฮะน่ะแปลกยิ่งกว่าซะอีก
มันดูเหมือนมีความสดชื่น เบาสบาย ถึงเธอจะยิ้มออกมาได้อย่างไม่ต้องฝืนเลยก็จริง แต่มันกลับรู้สึก ชวนให้ไม่สบายใจยังไงไม่รู้
“ถ้าอย่างนั้น ขอตัวซักครู่นะครับ”
“งั้น พวกเราจะคอยอยู่ข้างนอกนี่แหละ เสร็จเมื่อไหร่ก็เรียกได้เลยนะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
ฉันปิดประตู แล้วเสียงจากข้างในก็เบาจนฟังยากเลย
แต่เสียงพูดคุยก็ยังพอได้ยินอยู่นะ ถึงจะไม่ชัดมาก แต่ก็ยังได้ยินเสียงของพวกโอโตฮะพูดคุยกันข้างในนั้นอยู่
“เอาล่ะโอรัน มาแกะทุกอย่างนอกจากเชือกที่คุณคุโระมัดเอาไว้ออกไปซะกันเถอะ”
“อ้า เข้าใจแล้ว”
ถึงจะไม่ได้ยินเสียงแกะเชือก แต่พอได้ยินเสียงซวบซาบมาจากข้างในอยู่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตะโกนดังลั่นออกมาจากข้างในนั่น
“ฟุฮ่า… โอโตฮะ โอรัน พวกแกตั้งใจจะทำอะไรกันแน่น่ะฮะ! ทำกับคนเป็นพ่ออย่างพวกแกแบบนี้ รู้มั้ยว่าพวกแกจะต้องเจอกับบทลงโทษอะไรรอพวกแกอยู่”
“หนวกหูจริงๆ เลย”
“อุก!?”
หืม?
“เมื่อกี้ ได้ยินเสียงดังๆ อะไรหรือเปล่า?”
“มันเหมือนจะดัง *ปั๊ก!* เลยนะคะ”
“เกิดอะไรขึ้นข้างในนั้นกันล่ะเนี่ย?”
“ท- ทำอะไรของแกน่ะฮะ!?”
“ฮ- เฮ้ โอโตฮะ หนักแบบนั้นตั้งแต่ต้นเลยจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ”
“โอรัน รีบๆ แกะท่านพี่ให้เสร็จซักทีสิ”
“เอ๊ะ? อ- อ้า”
ฉันได้ยินเสียงอู้อี้นิดๆ ของเคานต์กิฟท์ เสียงของโอรันที่ดูจะมึนงงนิดหน่อย กับเสียงออกคำสั่งของโอโตฮะ
“แค่กๆ คิดจริงๆ เหรอว่าทำแบบนี้แล้วจะลอยนวลกลับไปได้น่ะ!? ผมน่ะไม่เหมือนกับพวกก- โอ๊ก!?”
คราวนี้ แทนที่จะมีเสียงของโอโตฮะ ฉันได้ยินเสียงออร์เกอร์ที่ลมถูกกระแทกออกจากปอดอย่างแรงจนพูดอะไรไม่ออกเลย
“คือ ท่านคิดว่าท่าทางของโอโตฮะดูแปลกๆ ไปหรือเปล่าคะ?”
“โอรันดู ร้อนรน”
“เฮ้ โอโตฮะ มันมีอะไรแปลกไปจริงๆ นั่นแหละ ตั้งแต่ตอนที่ได้ฟังท่านโนอามารีพูดมาเลย ไม่สิ ผมเองก็รู้สึกสบายใจเหมือนกันนั่นแหละ แต่โอโตฮะ นี่น่ะ-”
“ฮุฮุ ผิดแล้วล่ะโอรัน ฉันก็เหมือนกับนาย ได้ถูกทำให้ตาสว่างเพราะคำพูดของคุณหนูไงล่ะ”
จะจริงเหรอ
มันเหมือนกับไปทำให้อะไรซักอย่าง ‘ตื่นขี้น’ มากกว่าแค่ถูกทำให้ตาสว่างนะ
“โนอามารีเหรอ? พวกแก! ทำอะไรกับโนอามารีน่ะฮะเจ้าพวกขยะ!?”
เสียงที่เจ็บปวดทรมานของออร์เกอร์อีกรอบนึง
“แกใช้เสียงโสโครก หน้ากักขฬะ กับปากสกปรกพรรค์นั้นเรียกชื่อของท่านผู้นั้นอย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง―――แกสมควรจะตายเป็นหมื่นครั้งเพื่อชดใช้กับความผิดนั่นซะ”
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเบาๆ ของโอโตฮะที่ปะทุไปด้วยความโกรธราวกับผุดขึ้นมาจากส่วนลึกใต้พื้นโลกยังไงยังงั้นเลย
…หืม?
“คือ เมื่อกี้คุณโอโตฮะว่ายังไงนะคะ?”
“พูดว่า ‘แกใช้เสียงโสโครก หน้ากักขฬะ กับปากสกปรกพรรค์นั้นเรียกชื่อของท่านผู้นั้นอย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง แกสมควรจะตายเป็นหมื่นครั้งเพื่อชดใช้กับความผิดนั่นซะ’ น่ะ”
“เออคือ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะเนี่ย?”
“ท่านผู้นั้น? นี่หรือว่า นังเด็กนั่นเป็นคนทำให้เราต้องตกมาอยู่ในสภาพนี้งั้นเรอะ!? ตั้งใจจะทำอะไรก- อั๊ก!”
“โอโตฮะ!? จ- ใจเย็นก่อน!”
“นังเด็กนั่น? นังเด็กนั่นเหรอ…? ไอ้หมูตอนโสโครกที่สมองคิดได้แต่เรื่องฉ้อฉน เสแสร้ง กับดูถูกเหยียดหยามอย่างแก กล้าเอ่ยถึงผู้ที่น่าเคารพยกย่องที่สุดในโลก ว่านังเด็กนั่นอย่างนั้นเหรอ!?”
“คือว่า ท่านโนอะคะ! นี่มันชักจะอันตรายแล้วนะคะ!”
“อ- อาระ? นี่ฉันทำเกินไปนิดนึงหรือเปล่านะ?”
ฉันชั่งใจอยู่ว่าจะโดดเข้าไปแทรกดีมั้ย แต่ฉันลังเลกับการจะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องในครอบครัวคนอื่นน่ะสิ และที่สำคัญ ฉันไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตรายด้วย
“โอโตฮะ? โอโตฮะ!? ตั้งสติหน่อยสิ! เรื่องจัดการลงโทษ 2 คนนี้น่ะผมเห็นด้วยเลย แต่เธอน่ะใจเย็นๆ ก่อนนะ!”
“ฮุ ฮุฮุฮุ… นั่นสินะ เผลออารมณ์ขึ้นไปหน่อย ฉันทนฟังคำที่มาดูถูกท่านผู้นั้นไม่ได้จริงๆ น่ะ”
“ท่านผู้นั้นที่ว่า หมายถึงท่านโนอามารีงั้นเหรอ?”
“ใช่เลย! ถูกต้องแล้วค่า!”
ฉันได้ยินเสียงที่ฟังดูสับสนของโอรันดังคู่มากับเสียงของโอโตฮะที่ต่างไปจากเมื่อกี้นี้อย่างสิ้นเชิง มันฟังดูหวานหยดเยิ้มคล้ายๆ กับกำลังโหยหาการปลอบโยนอยู่ยังไงยังงั้นเลย
“โอรัน นายเองก็เห็นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ความยิ่งใหญ่ของท่านผู้นั้น ของคุณหนู ของท่านโนอามารีน่ะ! นี่ฉันตาบอดถึงขนาดไหนกันเนี่ย ถึงได้ไม่เคยสังเกตเห็นเสน่ห์อันเหลือล้นของท่านมาก่อนแบบนี้น่ะ!”
“อ้า ผมเองก็หลงใหลในสิ่งนั้นเหมือนกัน เมื่อได้รับใช้ท่านแล้ว ผมจะมีความสุขขนาดไหนกัน แต่ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ เธอก็ยังมีอะไรแปลกๆ อยู่ดีนั่นแหละ!”
“ฉันไม่มีอะไรแปลกซักหน่อย! ฉันน่ะ เชื่อมั่นต่างหาก! ท่านผู้นั้นมีสิทธิอย่างสมบูรณ์เลยที่จะปกครองโลกทั้งใบ! ท่านผู้นั้นคือราชินี… ไม่สิ คือเทพธิดาเลยต่างหาก!”
“คุณหนู เป็นเทพธิดาเหรอ?”
“ไม่ใช่หรอก…”
“เดี๋ยวสิคะ นี่มันชักจะหักเลี้ยวจากอันตรายไปเป็นอีกทิศอีกทางแล้วนะ”
“อ่า นี่ฉันโง่เง่าขนาดไหนกันนะ! ที่ได้สงสัยในตัวท่านผู้นั้น ที่ได้รู้สึกเคลือบแคลงหวาดระแวงแบบนั้น ฉันล่ะอยากย้อนกลับไปฆ่าตัวเองเมื่อ 10 นาทีก่อนซะจริงๆ เลย! เสน่ห์นั่น! ความงดงามนั่น! ดวงตาที่ราวกับผู้เป็นมารดาแสนอ่อนโยนนั่น! รอยยิ้มที่สวยเลิศเกินไปนั่น! อ้าาาา! คุณหนูช่างเลอค่ายิ่งนัก! หากเป็นท่านผู้นั้นแล้ว ต่อให้จะโดนหลอกหรือโดนฆ่า จะยังไงฉันก็ไม่สนแล้ว!”
“ไม่ใช่นะ โอโตฮะ นั่นน่ะ… ช่างมันเถอะ”
โอรัน ยอมแพ้ไปแล้ว
อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ หาทางกลับมาอีกฝั่งให้ได้นะ
“น- นี่พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ…?”
“ฉันไม่ความคิดที่จะให้ท่านพี่ต้องเข้าใจอยู่แล้วค่ะ มันก็แค่ ฉันได้เข้าใจแล้วว่าความรักนั้นมันคืออะไรกัน เพียงแค่คิดถึงคุณหนูก็ทำให้ในใจมันบีบรัดไปหมด มันทรมาน มันทำให้ฉันแทบบ้าได้เลย―――นี่ต้องเป็นสิ่งที่เรียกกันว่าความรักแน่นอน!”
“…”
“เดี๋ยวสิ คุโระ เธอทำอะไรกับเรื่องนั้นไม่ได้เลยเหรอ?”
“ไม่ไหวหรอกค่ะ”
“การถูกชอบมันก็ดี แต่การที่กลายเป็นสติหลุดคลุ้มคลั่งอย่างสมบูรณ์แบบนั้นมันคนละเรื่องกันเลยนะ”
ไม่คิดไม่ฝันเลยแฮะว่าเสน่ห์และความสวยของท่านโนอะจะทำให้โอโตฮะอาละวาดได้ขนาดนี้
เกินคาดอย่างสิ้นเชิงเลยนะ เด็กผู้หญิงคนนั้นที่เคยหวาดระแวง ไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น แถมยังสำนวนการพูดเหมือนกับคุณหนูผู้ดีคนนั้นหายไปแล้วล่ะเนี่ย?
“น- นังเด็กบ้านี่! รู้แบบนี้ฉันน่าจะจัดการพวกแกทิ้งไปตั้งแต่แรกซะ! ไม่น่ามามีอารมณ์ความเป็นพ่อคนกับพวกแกเลยให้ตายเถอะ! หลังจากที่เลี้ยงพวกแกมาขนาดนี้ นี่คือการตอบแทนของพวกแกเรอะ!”
“…เลี้ยงมา งั้นเหรอ?”
บรรยากาศในน้ำเสียงของโอรันเปลี่ยนไปแล้ว
“นั่นน่ะ… ต้องให้ผ่านทุกอย่างนั่นมา แล้วยังจะกล้ามาพูดว่าอารมณ์ความเป็นพ่อคนอีกเหรอ? เลี้ยงมางั้นเหรอ? อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย!”
“หุบปาก! ถ้าพวกแกเกิดมาแข็งแกร่งอย่างพวกเรา ถ้าพวกแกไม่ได้เกิดมาเป็นพวกเส้นผมชั้นต่ำ เราก็จะเลี้ยงดูพวกแกเป็นอย่างดีอยู่แล้ว! ดูอย่างออร์เกอร์สิ! ลูกชายแสนภูมิใจของฉัน ที่โตมามีพรสวรรค์ถึงขนาดหมั้นหมายกับโนอามารี เทียไลท์นั่นได้เลย เทียบกับพวกแก 2 คน-”
อ่า ไม่น่าพูดแบบนั้นออกมาเลยนะ―――
*ตึบ*
มีเสียงทึบๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกใจไม่ดีดังออกมาจากข้างในนั้น
“เอ๊ะ?”
“ฮะ?”
ทั้งเคานต์กิฟท์ทั้งโอรันอุทานออกมาอย่างงงๆ พร้อมกันเลย
“อาระอาระ ดูเหมือนคู่หมั้นที่ว่าคนนั้นเนี่ย หัวจะหลุดจากบ่าไปซะแล้วนะเจ้าคะ ♡”
เอ๋
“อ- อ๊าาาาาา!?”
“ฮ- เฮ้ โอโตฮะ! นั่นมันจะเร็วเกินไปแล้วนะ! ไม่ทรมานให้สาสมกว่านี้ก่อนค่อยฆ่าหรือไง!?”
“ไม่ไหวๆ โอรัน มีความแค้นส่วนตัวแบบนั้นมันไม่ดีหรอกนะ รีบๆ จัดการให้เรียบร้อยเถอะ ไม่งั้น อาจจะกลายเป็นว่าเราไปทำให้คุณหนูที่รออยู่ข้างนอกเป็นหวัดเอาได้นะ”
เอ๊ะ โกหกน่า
เสียงเมื่อกี้นี้ เป็นเสียงที่โอโตฮะสับคอของออร์เกอร์งั้นเหรอ?
“ท- ท่านโนอะ เราควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ?”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าเราควรจะทำยังไงดี…”
“ทั้งสองคน ทำสีหน้าลำบากใจกัน ทำไมล่ะ?”
ความสบายใจอย่างเดียวที่เรามีตอนนี้เลยคือข้อเท็จจริงที่ว่าสแตยังตามคำพูดทั้งหมดของโอโตฮะไม่ทันนี่แหละ
มันเป็นสถานการณ์ที่น่าสะพรึงแล้วนะ กับการที่เด็กสาวอายุ 11 ขวบสับคอของพี่ชายตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเริงร่าแบบนั้นน่ะ
“ว่าตามตรง ฉันไม่สนใจเรื่องล้างแค้นครอบครัวของตัวเองกับเรื่องที่พวกนั้นทำเอาไว้แล้วล่ะ… จะยังไงก็ช่าาาาาาาาาางมันเถอะ โอรัน”
“ง- งั้นเหรอ?”
“ใช่ เพราะวันนี้ โอโตฮะ กิฟท์และโอรัน กิฟท์ได้จากไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป จะมีก็แต่โอโตฮะและโอรัน ข้ารับใช้ผู้จงรักภักดีของท่านโนอามารี เทียไลท์ ผู้รับใช้และขจัดภัยอันตรายทั้งหลายทั้งเหล่ให้พ้นทาง เพราะฉะนั้นแล้ว”
ฉันได้ยินเสียงทึบๆ คล้ายกับขวานหรืออะไรซักอย่างกระแทกลงกับพื้นด้วย
“เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับชายคนนี้ที่ครั้งนึงเคยเป็นพ่อของเรา หรือศพหัวขาดคนนั้นที่เคยเป็นพี่ของเราอีกแล้ว นี่มันก็แค่งานเท่านั้น งานสุดท้ายที่จะตัดขาดสายสัมพันธ์ในชีวิตเก่าของพวกเรา แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กันนับจากนี้ ถ้าใช้เวลากับงานนี้นานเกินไป คุณหนูอาจจะคิดว่าพวกเราไม่มีความสามารถก็ได้นะ โอรัน”
“ไม่หรอก ไม่ต้องรีบกันก็ได้นะ…”
“แบบนี้เอง ไม่สิ จริงด้วยสินะ เป็นอย่างที่เธอว่าเลย โอโตฮะ”
“เข้าใจได้ก็ดีแล้ว ทีนี้ ก็รีบๆ ตัดหัวของชายคนนั้นซะสิ”
“ว- ว- ว- ว- ว่าไงนะ!?”
“ไม่ใช่แล้ว การแก้แค้นน่ะ จะยอดเยี่ยมที่สุดก็ต้องค่อยๆ ทำอย่างช้าๆ ต่างหากถึงจะดี แถมตอนนี้ก็ไม่ใช่ช่วงอากาศหนาวของปีนี้ด้วย”
“แต่ว่า ไม่ได้ยินนี่”
“ด- เดี๋ยวก่อน! บ้าเอ้ย! ทำไมใช้เวทมนตร์ไม่ได้… เฮ้! เดี๋ยวก่อนสิ! เข้าใจแล้ว! ฉันขอโทษด้วยกับวิธีการเลี้ยงดูที่ทำกับพวกแกตลอดมาจนถึงตอนนี้! อยากได้อะไรฉันก็จะซื้อให้! จะดูแลพวกแกแบบลูกที่ฉันภูมิใจสมควรได้รับ! เพราะฉะนั้น หยุดที-”
“สิ่งที่ฉันต้องการน่ะ ต่อให้ชั่วชีวิตของแก แกก็หามาให้ไม่ได้หรอก”
“จะคำขอโทษหรือการดูแลที่ดูขึ้นน่ะ ไม่มีอะไรเลยที่จำเป็น เพราะวันนี้ พวกเราได้เกิดใหม่แล้ว”
“ถ้างั้น โอรัน จัดการเลย”
“โอ้”
“หยุดน้าาาาาาาา-!!”
ไม่นาน เสียงกรีดร้องก็เงียบลงไป แทนที่ด้วยเสียง *ตุบ* หนักๆ
จบแล้วสินะ
“ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะที่ต้องรอกันเสียนานเลย คุณหนู คุณคุโระ คุณสแต ตอนนี้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”
“อ- อือ พวกฉันได้ยินทุกอย่างอยู่แล้วล่ะ…”
“คือ นี่ ผ้าขนหนูนะ พวกเธอเลือดเปรอะเต็มตัวไปหมดเลย”
“อาระ น่าอายจังเลย ถ้างั้น ขอรับไว้เลยนะเจ้าคะ”
“ขอบคุณครับ คุณคุโระ”
“ค- ค่ะ…”
ขนาดตอนใช้ผ้าขนหนูเช็ดเนื้อเช็ดตัว โอโตฮะก็ไม่ละสายตาจากท่านโนอะเลยซักวินาทีเดียว นี่ถ้าเป็นในมังงะล่ะก็ ในตาของเธอตอนนี้คงเป็นรูป ♡ ขึ้นมาแล้วล่ะ
ถึงโอรันจะดูหน้าซีดนิดหน่อย แต่สีหน้าของเขาก็มุ่งมั่นดี บอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปเลย
โอรันดูจะไม่เป็นไร แต่เหมือนโอโตฮะนี่จะสติไปหลุดไปแล้ว
ดูเหมือนจากนี้ไปจะต้องลำบากกับเธอต่อในอีกทางนึงสินะ
“เออ คุณคุโระครับ ที่ว่าได้ยินทุกอย่างนี่คือ”
“ใช่ เราได้ยินเสียงจากฝั่งครึ่งทางเธอดังชัดเจนเหมือนกันนะ”
“…ท่านโนอามารี คิดเห็นยังไงบ้างเหรอครับ?”
“ค่อนข้างตกใจไม่น้อยเลยล่ะ”
“จริงเหรอครับ?”
“คือ ในฐานะที่เป็นผู้ครอบครองเวทมนตร์หายาก พวกเธอจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้วค่ะ แต่เรื่องที่ว่าจะได้พัฒนาเป็นการคบกันได้มั้ยนี่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“…คือ ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันครับว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับเธออีกทีนะครับ ขอโทษด้วยจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของเธอซักหน่อย”
อะไรกันนะ ความรู้สึกนี้
ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันน่าจะเข้ากับโอรันได้ดีเลยแฮะ
ฉันคิดแบบนั้นในขณะที่มองโอรันรีบร้อนวิ่งไปเพื่อตำหนิโอโตฮะ (ยัยโรคจิต) ทั้งๆ ที่ไม่ถึงสิบนาทีก่อนยังไม่เชื่อใจพวกเราอยู่เลย ตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะพยายามปิดบังลมหายใจที่รุนแรงของเธอในตอนที่มองท่านโนอะเลยด้วยซ้ำ
TN: เป็นการพัฒนาของตัวละครที่มาไกลได้อย่างน่าสนใจมากๆ ครับ
ป.ล. ขอให้จดจำบุคลิกนิสัยที่เคยมีเมื่อสิบกว่าตอนที่ผ่านมาเอาไว้ให้ดี เพราะตัวละครที่ได้เปลี่ยนไปนี้ จะกลายเป็นนิสัยอย่างตอนท้ายไปตลอดอีกหลายร้อยตอนในอนาคตแล้วนะครับ 555