[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 36 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - 4 ปีต่อมา
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 36 บทที่ 3 การล้างแค้นของสีชมพูและสีโศก - 4 ปีต่อมา
“คุโระ”
“มีอะไรเหรอ?”
“หิวแล้ว”
“อ๊ะ ฉันเองก็หิวเหมือนกันนะ”
“งั้น เดี๋ยวฉันทำอะไรให้แล้วกันค่ะ ฮอทเค้กได้มั้ยคะ?”
“ฉันไม่ว่าอะไรหรอก”
“อยากได้ แยมบลูเบอรี่ ด้วย”
“จ้าๆ”
ฉันออกมาจากห้องของท่านโนอะ แล้วตรงไปที่ห้องครัว
ด้วยการเอาทักษะการทำฮอทเค้กตลอด 4 ปีมาใช้ ฉันรีบพลิกตะหลิว ก่อนจะโปะด้วยแยมบลูเบอรี่ตามที่ขอไว้ด้านบน เป็นอันเรียบร้อย
“ขอโทษที่ให้รอค่ะ”
“เย้~”
“ขอบใจนะ”
4 ปีต่อมา นับจากตั้งแต่ที่สแตเข้ามาร่วมกับกลุ่มของพวกเรา
ตอนนี้ท่านโนอะกับฉันก็อายุ 12 กันทั้งคู่ ส่วนสแตก็อายุ 8 ขวบ ย่าง 9 แล้ว
ทุกคนต่างก็เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก พลังเวทของสแตเองก็ก้าวข้ามไปไกลเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาได้ว่าเด็ก 8 ขวบจะมีได้เลยด้วย
“คุโระ วันนี้มีกำหนดการอะไรบ้าง?”
“อีกไม่นาน คาดว่าจะมีทูตเดินทางมาจากเขตข้างเคียงมาถึงนะคะ ในเมื่อพ่อท่านไม่อยู่ ท่านโนอะจึงต้องเป็นคนจัดการเอง แต่เรื่องที่นำมา เป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรึกษากันครั้งที่แล้วนะคะ”
“อ่า เรื่องที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยนั่นเองสินะ สแต มากับเราด้วยล่ะ”
“อืม”
“งั้น คุโระ เดี๋ยวฉันจะเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว จัดแจงเสื้อผ้าให้ฉันด้วย”
“ท่านไม่คิดว่าได้เวลาที่ท่านควรเรียนรู้ที่จะแต่งตัวเองแล้วเหรอคะ ท่านโนอะ?”
“ไม่”
ฉันจัดแจงเสื้อผ้าของท่านโนอะให้ดี จัดแจงผมเผ้าของท่านให้เรียบร้อย แต่งหน้าให้ท่านบางๆ แล้วก็หันไปหาสแต จัดการอะไรที่ไม่เรียบร้อยในตัวเธอให้กลับมาดูดีเหมือนเดิม
“เอาล่ะ เรียบร้อย ใกล้ถึงเวลาที่นัดเอาไว้แล้วนะคะ”
พอฉันเหลือบมองที่นาฬิกา ก็มีเสียงเคาะที่ประตู
คนที่เข้ามาก็คือสาวใช้ คุณนีน่านั่นเอง
“คุณหนูคะ แขกเดินทางมาถึงแล้วนะคะ ขณะนี้กำลังรออยู่ที่ห้องรับรอง”
“รู้แล้วล่ะ คุโระ สแต ไปกันเถอะ”
“ค่ะ… สแต เวลาแบบนี้ ไม่อยากวางโกราสึเกะเอาไว้ก่อนซักหน่อยเหรอ?”
“ไม่อะ”
“นั่นสิน้า”
ฉันกับสแตเดินตามหลังท่านโนอะ ตรงไปยังห้องรับรอง
“ขอเสียมารยาท”
“โอ้ นี่เองๆ ยินดีที่ได้พบนะครับ ผมเป็นทูตของท่านไวเคานต์แลดด์ ซอมบรูแห่งเขตปกครองซอมบรู ชื่อดอนนี่ครับ”
“โนอามารี เทียไลท์ ฉันมารับฟังคุณแทนพ่อของฉัน กอร์ดอน”
“ได้ครับ ว่าแต่ว่า ก่อนหน้านั้น… 2 คนข้างหลังท่านคือ?”
“ผู้ติดตามของฉัน ที่คอยดูแลความเป็นอยู่ของฉันเอง ไม่ต้องใส่ใจหรอก”
“อ้อ พอดีข่าวลือนั้นมันเล่าปากต่อปากนะครับ ว่ากันว่าท่านโนอามารีชื่นชอบในพวกเส้นผมชั้นต่ำ ท่านมีรสนิยมค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวนะครับเนี่ย”
ชายคนนั้นที่แนะนำตัวเองว่าดอนนี่มองมาที่พวกเรา ก่อนจะพูดออกมาแบบนั้น
ในสีหน้าของเขา แฝงด้วยการเหยียดหยามอยู่นิดๆ ด้วย
ไม่ต้องสงสัยเลย เขากำลังดูถูกดูแคลนเราอยู่แน่นอน
“ฉันจะยินดีกว่า หากคุณหยุดใช้คำว่า [เส้นผมชั้นต่ำ] นะ ทำได้หรือเปล่า? เด็กพวกนี้ไม่ใช่หัวข้อในการหารือครั้งนี้ ฉะนั้น ขอให้คุณอธิบายเรื่องของคุณต่อด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นแล้ว ขอเสียมารยาทครับ”
ชายคนนั้นเริ่มพูดเรื่องของตัวเองต่อ
เขาพยายามใช้ภาษาและคำที่ซับซ้อนเพื่อให้รู้สึกสับสนในเจตนาที่แท้จริงของเขา แต่ใจความโดยรวมแล้วก็คือประมาณว่า ‘มาร่วมมือกัน ขูดรีดเงินจากพวกสามัญชนกันเถอะ’
ดูเขาจะตั้งใจชดเชยรายได้ที่ของแต่ละเขตพร่องไปด้วยการขายสินค้าในราคาสูง โดยอ้างว่าเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และนำส่วนต่างนั้นเข้ากระเป๋านั่นแหละนะ
“อาระอาระ เป็นการใช้วิธีการที่เจ้าเล่ห์เพทุบายจริงๆ”
“มาทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้แล้วกันนะครับ อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้นะครับ ท่านโนอามารี ความคิดเห็นของท่านจะไม่ได้มีผลกับความเห็นของเรา ทั้งหมดที่พวกเราจะขอก็คือรบกวนให้ท่านส่งต่อเอกสารเหล่านี้ให้กับพ่อของท่าน และสื่อสารใจความหลักสำคัญในเรื่องนี้ด้วยนะครับ”
ชายคนนี้นี่ อยากพูดอะไรก็พูดตามใจปากเลยนะ
เอาเถอะ ต้องขอบใจด้วยนั่นแหละที่ซื้อเวลาให้ขนาดนี้
“เข้าใจแล้วๆ แต่ข้อเสนอนี้น่ะ ทางเราขอปฏิเสธ”
“ฮะ? ไม่ใช่นะครับ ผมหมายความว่าให้พ่อของท่านเป็นผู้ตัดสินจ-”
“สแต”
“อืม”
“แล้ว? อ่านเสร็จหรือยัง?”
“อืม หมดเลย”
ทันทีที่เข้ามาในห้องนี้ สแตก็ร่ายเวทออกไปแล้ว
เป็นเวทมนตร์แบบที่ควบคุมจิตใจของคนอื่น เวทมนตร์สายจิตใจ ถ้ามีผู้ใช้เวทมนตร์นี้อยู่ล่ะก็ สามัญสำนึกในการเจรจาก็สามารถพลิกกลับแบบพลิกฝ่ามือได้อย่างง่ายๆ เลย
“คนคนนี้ ยักยอกภาษี”
“อะ!?”
“แล้วก็ เอาเงินภาษีไปจ่ายที่สถานประกอบการที่ผู้หญิงเยอะๆ อยู่บ่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ แล้วก็ ถึงจะแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังชอบไปตอแยกับสาวใช้ในบ้าน”
“พูดอะไรบ้าๆ! แกกล้าดียังไง!? เป็นแค่ไอ้พวกเส้นผมชั้นต่ำ-…!”
“คุโระ”
“{ดาร์กไบนด์ (พันธนาการมืด)}”
ฉันใช้เวทมนตร์สายความมืดมัดหมอนั่นเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ออกมาได้ในทันที
“น- นี่มันหมายความว่ายังไง!? หลังจากที่พ่นเรื่องบ้าบออะไรไม่รู้ออกมา ยังจะทำเรื่องแบบนี้อีกเรอะ!? คอยดูเถอะ เรื่องนี้ถูกรายง-”
“มี หลักฐาน ที่โต๊ะของคนคนนี้ แฟ้มที่ 4 นับจากด้านบน ในลิ้นชักที่ 3 ที่ล็อกเอาไว้”
“พ- พูดเรื่องบ้าอะไรไร้สาระ!”
“แล้วก็ ในกระเป๋ากางเกงของคนคนนี้ มีนามบัตรของร้านที่มีแต่พนักงานผู้หญิงอยู่ด้วย ชื่อของผู้หญิงคนโปรดคือพีชจัง”
“ท-… ทำไม แกถึงได้…?”
“เมื่อ 3 วันก่อนก็ไป ตอนที่เขาเอาแหวนให้เธอ เธอบอกกลับมาว่า ‘เออ เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย…’ แล้วก็ปฏิเสธ”
“ย- หยุดนะ!”
“คำพูดก่อนจากมาอย่าง ‘ชื่อพีชแท้ๆ แต่ตูดไม่เห็นจะสดอย่างชื่อเลยซักนิด’ คนคนนี้ยังเสียใจอยู่เลยที่พูดออกไป”
“หยูดดดดด!!”
“เดี๋ยวนะ นี่แกเอาความทรงจำสกปรกอะไรให้เด็กของฉันดูกันน่ะ เจ้าสวะนี่”
“สแต ฟังนะ อย่าไปหลงคารมของผู้ชายพรรค์นี้เด็ดขาดเลย แล้วก็ คำพูดไม่สุภาพอย่าง ‘ตูด’ เนี่ย พยายามอย่าใช้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยนะ”
“? เข้าใจแล้ว”
ขนาดเป็นพวกเดียวกันที่ใช้เองยังหวาดๆ เลยนะเนี่ย ความแข็งแกร่งของเวทมนตร์สายจิตใจน่ะ
โกหกไปก็เปล่าประโยชน์ แถมความทรงจำก็ถูกเข้าถึงโดยตรง เลยไม่มีทางจะหลอกลวงได้อีกต่างหาก
นี่เป็นการลากออกมาประจานกลางธารกำนัลชัดๆ เลย
“ทีนี้ เข้าใจหรือยังล่ะ? สแตของฉันน่ะเป็นอัจฉริยะในการรวบรวมข้อมูล เธอรู้หมดเลยล่ะว่าคุณมีชู้อยู่กี่คน ทำผู้หญิงต้องร้องไห้มามากขนาดไหน ไปมีส่วนเกี่ยวกับการฉ้อราษฎร์แล้วกี่ครั้ง หรือแม้แต่พูดจาก่นด่าเจ้านายของตัวเองมาแล้วกี่รอบ”
“ชู้ 13 คน ผู้หญิงที่ถูกทำให้ร้องไห้ 21 คน แต่ คนคนนี้ไปใช้เงินหลอกล่อมามากกว่า ไม่คิดว่าจะมีใครเลยที่คบเพราะหน้าตาหรือนิสัย ฉ้อราษฎร์ 10 ครั้ง ส่วนที่พูดจาไม่ดี เออ… นับไม่ถ้วนเลย”
“หยุดทีเถ้ออออ!!”
“ทีนี้เข้าใจหรือยัง? ที่นี่ ใครกันแน่ที่เป็นคนคุม? จะว่าไป สแต เรื่องภรรยาของคนคนนี้ล่ะ?”
“อยากได้เงิน”
“แล้วเรื่องพวกสาวใช้ที่คนคนนี้ไปพัวพันล่ะ?”
“อยากเลื่อนตำแหน่ง”
“อ๊าาาาา!!”
ถึงจะเป็นแค่เศษสวะ แต่ก็น่าเวทนาอยู่เหมือนกันนะ
“พอใจหรือยัง? ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปล่ะก็ คุณมีเพียงทางเลือกเดียว คุโระ เขียนเสร็จแล้วหรือยัง?”
“ค่ะ แบบนี้ใช้ได้หรือเปล่าคะ?”
“…อื้ม ดีเลย นี่คือจุดอ่อนของไวเคานต์ซอมบรู เจ้านายของชายคนนี้ ได้จากความทรงจำที่สแตอ่านออกมา”
“อะ!?”
“งานของคุณ คือนำสิ่งนี้ส่งกลับไปให้นายของคุณ พร้อมกับส่งต่อข้อความนี้ไปด้วยว่า ‘หากไม่ต้องการให้เรื่องนี้ถูกเปิดโปงแล้วล่ะก็ จงเป็นหุ่นเชิดให้เราซะ ไม่ใช่ให้ตระกูลเทียไลท์ แต่ให้กับบุตรีคนเดียวของตระกูล ให้กับโนอามารีเทียไลท์’”
“พูดบ้าอะไร!? ไม่มีทางที่จ-”
“ทำไม่ได้เหรอ? ถ้าอย่างนั้น ฉันจะส่งวิธีการก่ออาชญากรรมสมบูรณ์แบบพร้อมที่อยู่ของคุณไปให้เหล่าบรรดาผู้มีความแค้นเคืองกับคุณก็แล้วกันนะ”
“ถ้าไม่ถูกจับได้ ก็ไม่มีความผิด”
“ถูกต้องแล้วล่ะ สแต”
“อึก!?”
สีหน้าของคนคนนี้เลยคำว่าซีดไปแล้วล่ะ ตอนนี้คือแทบจะขาวเลย
อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่มีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้น
ขุนนางในละแวกนี้แทบทั้งหมดที่มีจุดอ่อนอย่างการฉ้อราษฎรบังหลวงอยู่น่ะ ตอนนี้ตกเป็นหุ่นเชิดของท่านโนอะกันหมดแล้ว
ครั้งนึง เคยมีแม้กระทั่งความพยายามลอบสังหารมาด้วยนะ แต่เรื่องนั้นมันเปล่าประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
ก็เพราะว่า
“สแตอ่านใจคนได้ คุโระสัมผัสถึงสิ่งมีชีวิตได้ มองเห็นในความมืดก็ได้ ส่วนฉันก็ถือครองเวทมนตร์สายแสงสว่าง เวทมนตร์ที่รวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยพวกเราทุกคนแล้ว การที่ใครจะมาลอบโจมตีฉันน่ะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”
“ใครจะมาฆ่าคุณหนู จะฆ่าให้หมดทุกคน”
“สุดท้ายก็ฆ่าไป 3 คนสินะคะ รวมทั้งคนที่ส่งพวกนักลอบสังหารมาหาพวกเราด้วย”
“ก็แค่เจออุบัติเหตุที่โชคร้ายกันเท่านั้นเองนี่ จริงมั้ย? น่าสงสารจริงๆ”
ชายที่ชื่อดอนนี่เริ่มจะตัวสั่นอย่างคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
“น- นี่หรือว่า… พวกอุบัติเหตุที่เกิดกับครอบครัวขุนนางในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หรือว่าจะ…”
“อาระ บางครั้งการที่ไม่ได้รู้ไปเสียทุกสิ่งทุกอย่างในโลกก็เป็นการดีกว่า ไม่คิดแบบนั้นเหรอ คุณพี่ชาย?”
ท้ายที่สุด ดอนนี่ตกลงรับเงื่อนไขของเรา และยอมจะเอาเอกสารที่ฉันเขียนส่งถึงไวเคานต์ไปส่งให้
หน้าของเขาซีดเป็นศพเลย แต่ทั้งหมดนั่นมันก็เป็นผลกรรมของเขาเองนั่นแหละ
“คุโระ เผื่อไว้ก่อน คอยเฝ้าระวังเรื่องนักลอบสังหารเอาไว้ด้วย”
“รับทราบค่ะ”
“ฮุฮุ การเพิ่มจำนวนหุ่นเชิดในประเทศนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเลย ข่มขู่พวกขุนนางอ้วนฉุ ใช้งานพวกมันเยี่ยงทาส ก่อนที่สุดท้ายจะสลัดพวกมันทิ้งไปซะ! ช่างเป็นกลยุทธ์อันยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้เนี่ย!”
“ก็ มีขุนนางบางคนเหมือนกันนะคะที่ทำเรื่องอื้อฉาวเพื่อชาวเมืองของตัวเองอย่างไม่มีทางเลือกน่ะ…”
“แล้วไงเหรอ?”
“คุณหนู โหดมากเลย ดูเป็นวายร้ายมากเลย เท่มากเลย”
ระหว่างที่ยังไม่แน่ใจว่าสแตกำลังชมหรือล้อเลียนกันแน่ พวกเราก็มองส่งดอนนี่เดินโซซัดโซเซกลับขึ้นรถม้าของตัวเองไป
TN: นี่พวกเธอสอนอะไรเด็กเนี่ย!?