[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 9 แฟนหนุ่มบังเอิญพบหนังสือโป๊ที่ซ่อนอยู่ในห้องชมรม
- Home
- [WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS
- ตอนที่ 9 แฟนหนุ่มบังเอิญพบหนังสือโป๊ที่ซ่อนอยู่ในห้องชมรม
“พอเห็นห้องชมรมโล่งๆ แล้วรู้สึกดีจังเลยแฮะ”
ผมพึมพำออกมาแบบนั้นท่ามกลางห้องชมรมอันเงียบสงบ
เนื่องจากวันนี้ยูซุถูกเพื่อนในห้องลากตัวไป ผมก็เลยเป็นคนที่มาถึงที่นี่ก่อนคนเดียว แต่…ปรากฏว่าผมดันไม่มีอะไรทำ
ปกติแล้วผมจะฆ่าเวลาด้วยเกม RPG แต่เกมที่ผมเล่นอยู่ตอนนี้เป็นเกมที่ผมเล่นค้างไว้กับยูซุ ผมรู้สึกไม่สบายใจที่จะเล่นก่อนคนเดียว
“อ๊ะ ลืมไปเลยว่านี่เป็นห้องชมรมวรรณกรรม หรือว่าเราจะลองหาหนังสืออ่านดูดี”
นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผมคิดหาวิธีใช้ห้องชมรมวรรณกรรมตรงตามจุดประสงค์
ผมตัดสินใจรื้อชั้นหนังสือที่อยู่หลังห้อง
“นิยายไซไฟกับนิยายสืบสวนเต็มไปหมดเลย แม้แต่โฮล์มก็ยัง…หือ?”
ท่ามกลางหนังสือที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบนั้น…ได้มีหนังสือเล่มหนึ่งที่มีกลิ่นอายที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
และเมื่อผมลองเปิดมันขึ้นมาอ่านดู ผมก็ค้นพบว่ามันคือ…เอ่อ หนังสือประเภทที่มีผู้หญิงเปลือยอยู่ที่หน้าปกน่ะ
“นี่มันหนังสือโป๊นี่หว่า…”
ยิ่งกว่านั้นห้องนี้มันก็ถูกใช้ผลัดเปลี่ยนกันมามากกว่า 10 ปีแล้ว นี่มันการค้นพบอาวุธโบราณชัดๆ
“เอ่อ… จะทำยังไงกับเจ้านี่ดีหว่า”
ก็อยากจะสอดมันคืนไปเงียบๆ อยู่หรอก แต่ถ้าเกิดยูซุมาพบเดี๋ยวก็เกิดความเข้าใจผิดแปลกๆ ขึ้นอีก
เพราะงั้นทางออกที่ดีที่สุดก็เอามันไปทิ้ง …แต่การที่จะเอามันออกไปก็มีความเสี่ยงด้วย
ไปเจออาวุธที่รอการระเบิดแสนน่ารำคาญเข้าแล้วสิ
ในขณะที่ผมกำลังกังวลว่าจะกำจัดมันทิ้งยังไงดี ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ มาจากทางเดินราวกับจะบอกว่าเวลาได้หมดลงแล้ว
เวรละไง! ในขณะที่ผมกำลังคิดอย่างนั้น ประตูได้ถูกเปิดออกอย่างแรง
“ยะโฮ~! ขอโทษที่มาช้านะ ยามาโตะคุง”
“อะ…โอ้ ก็ถูกเพื่อนลากนี่ ช่วยไม่ได้หรอก”
ผมตอบกลับไปด้วยเสียงสูง
ส่วนในเครื่องแบบของผมได้โชกไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ
—ฉิบหายแล้ว! ผมซ่อนหนังสือโป๊ไว้หลังเครื่องแบบโดยอัตโนมัติ
“มาเล่นเกมกันต่อเถอะ วันนี้เป็นอีเวนต์เสริมก่อนไปบอสตัวต่อไปใช่ไหมล่ะ”
ในขณะที่ยูซุกำลังเปิดเกมคอนโซลอย่างอารมณ์ดี ผมก็ได้หันหัวไปข้างหลังจนแทบสุดสายตา
เอาไงดีนะ หรือจะฉวยโอกาสนี้เอามันไปเก็บไว้ที่ชั้นหนังสือ?
แต่ถ้าเกิดหนังสือหล่นเสียงดังจะต้องโดนสงสัยแน่นอน
“ฮึบ ประกอบเสร็จหมดแล้ว~”
ในขณะที่ผมกำลังตัดสินใจ ยูซุก็ได้ประกอบเครื่องเกมเสร็จพอดี
หน็อย… ถ้าเกิดไม่เล่นตอนนี้มันก็ดูผิดสังเกตด้วยสิ ลืมเรื่องเอามันไปคืนที่ชั้นหนังสือดีกว่า
“อะ อีเวนต์เสริมสินะ เอ้า มาปราบมันกันเถอะ”
“อื้ม อีเวนต์นี้ได้เงินได้เยอะด้วยสิ มาฟาร์มเงินให้เยอะๆ กันเถอะ”
จู่ๆ วันนี้ยูซุก็กระตือรือร้น
ทั้งที่ตามปกติเธอไม่ชอบเรื่องยิบย่อยอย่างการอัพเวลหรือฟาร์มเงินแท้ๆ
“จริงด้วย ยามาโตะคุง เรามาหาหีบสมบัติที่ยังไม่เปิดตอนที่ฟาร์มเงินไปด้วยกันเถอะ”
“ไม่ล่ะ อย่าดีกว่า… ถ้าเกิดไปตามหาของในที่ที่ปกติไม่เคยหา เดี๋ยวของไม่จำเป็นก็โผล่ออกมาเอาหรอก อย่างเช่นอาวุธโบราณไร้สาระ”
“ไอ้คำพูดที่เหมือนมาจากใจจริงนั่นมันอะไรกันน่ะ แต่ถ้าเกิดไม่เปิดเว็บเฉลยมันก็ยากที่จะหาครบจริงๆ นั่นแหละ ภูมิปัญญาคนสมัยก่อนนี่ช่างสุดยอดจริงๆ”
“เธอก็คิดงั้นเหมือนกันสินะ? แต่รุ่นก่อนของฉันนี่ค่อนข้างจะโง่เลยล่ะ ดันทิ้งของที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกฉลาดเลยเอาไว้ซะได้”
“ก็แล้วมันคืออะไรกันเล่า นี่คำพูดของนายมันดูสมจริงแปลกๆ มากเลยนะ”
ถึงยูซุจะงุนงง แต่พวกเราก็ยังคงฟาร์มเงินกันต่อไป
และอีกหลายสิบนาทีต่อมา เมื่อถึงเวลาเหมาะๆ ยูซุก็ได้ปล่อยจอย
“ฟูว์…เหนื่อยแล้ว พักกันก่อนไหม อยู่ท่าเดิมซะจนไหล่แข็งไปหมดแล้วเนี่ย”
ยูซุเหยียดเพื่อคลายกล้ามเนื้อหลัง
ส่วนผมยังไม่ได้เปลี่ยนท่าเลยเพื่อป้องกันไม่ให้หนังสือโป๊หล่น กล้ามเนื้อของผมจึงแข็งสนิท
“อื้ม ยืดเส้นแล้วรู้สึกดีจังเลย ทำไมยามาโตะคุงไม่มายืดด้วยกันล่ะ”
คำแนะนำดังกล่าวได้ทำให้ผมเหงื่อแตกพลั่ก
ถ้าเกิดเคลื่อนไหวแบบนั้น หนังสือโป๊ที่ถูกหนีบไว้กับเข็มขัดจะต้องร่วงแน่
“ฉะ ฉันไม่เป็นไรหรอก”
“เอ๋~ แต่ยามาโตะคุงอยู่ท่าเดิมตลอดเลยนี่นา ไหล่ไม่แข็งบ้างเหรอ”
“มะ ไม่เป็นไรหรอก ก็นั่นไง งานอดิเรกของฉันก็คือการทำให้ไหล่แข็งน่ะ”
“งานอดิเรกบ้าอะไรยะ!?”
“อธิบายยังไงดี ก็แบบเล่นเกม RPG ทั้งที่ไหล่แข็งอยู่อะไรประมาณนั้นน่ะ”
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยเรอะ!? ฉันก็ไม่อยากไปวิจารณ์งานอดิเรกคนอื่นหรอกนะ แต่นี่มันเฉพาะกลุ่มเกินไปแล้ว!”
“เพราะงั้นก็ปล่อยๆ ฉันไปเถอะ”
“อะ อื้ม…เข้าใจแล้ว”
ไม่รู้ว่ายูซุเคารพความตั้งใจของผมหรือว่าลังเลที่จะพูดถึงหัวข้อนี้อีกต่อไป (น่าจะอย่างหลัง) และปล่อยผมเอาไว้ตามลำพัง
และในตอนนั้นเอง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อเบลเซอร์ของยูซุก็ได้ดังขึ้นมา
“อ๊ะ โทษที เดี๋ยวขอฉันรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
“อะ โอ้”
“ฮัลโหล”
ยูซุหยิบโทรศัพท์ และหันหลังให้ผมเพื่อคุยโทรศัพท์
…โอกาสครั้งเดียวในชีวิต!
ผมค่อยๆ กระเถิบออกจากยูซุแบบไม่ให้เกิดเสียงดัง และค่อยๆ สอดหนังสือโป๊เข้าไปในชั้นวางหนังสือเหมือนเดิม
ทันใดนั้นผมก็ได้ถูกห่อหุ้มไปด้วยความสดชื่นเพราะถูกปลดปล่อย
“เฮ้อ~…ปลดภาระออกจากบ่าได้แล้ว”
ผมงอหลังและยืดตัวเพื่อผ่อนคลายความเครียด
“เอ๊ะ ก็เห็นยืดเส้นยืดสายอยู่ไม่ใช่เหรอ ไหนว่าชอบไหล่แข็งๆ”
ยูซุมองดูผมยืดกล้ามเนื้อด้วยความงุนงง ดูเหมือนว่าการโทรมันจะจบลงไปในตอนที่ผมไม่รู้ตัว
“เฮ้ยๆ… คนแบบนั้นมันจะไปมีที่ไหนกันเล่า ไหล่แข็งนี่เป็นศัตรูของมนุษยชาติเลยนะ”
ตลกชะมัด แฟนของผมนี่พูดอะไรแปลกๆ จังเลยนะ
“ก็นายพูดเองไม่ใช่รึไง!? ว่างานอดิเรกของนายคือการทำให้ไหล่แข็งน่ะ!?”
“ยูซุ… คิดอย่างใจเย็นๆ หน่อยสิ เธอคิดว่าจะมีคนในโลกที่มีงานอดิเรกแบบนั้นด้วยเหรอ”
“ก็ต้องไม่มีอยู่แล้วสิยะ!”
“ใช้ม้า? ถ้าคิดตามปกติก็น่าจะเข้าใจได้อยู่แล้วนะ”
“ก็ถูก! ไอ้ความรู้สึกไม่น่าเชื่อถือนี่มันอะไรกันน่ะ!”
บางครั้งก็พูดอะไรเข้าใจยากจังเลยนะ แต่เพราะแบบนี้แหละแฟนของผมถึงได้น่ารัก
“งั้นเรามาเล่นเกมกันต่อเลยมั้ย”
เมื่อร่างกายเริ่มคลายตัวเสร็จแล้วผมก็กลับไปเล่นเกมต่อ จากนั้นยูซุก็ได้ทำมือหยุด
“อ๊ะ แป๊บนะ ฉันมีเรื่องอื่นที่ต้องทำก่อน”
“หืม มีอะไรน่ะ”
ยูซุเดินไปที่ชั้นหนังสือ โดยปล่อยให้ผมเอียงหัว
“เพื่อนที่เป็นบรรณารักษ์ของฉันเพิ่งโทรมาเมื่อกี้น่ะ เห็นเขาว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งที่ยืมมาหลายปีก่อนหายไป เขาเลยถามฉันว่าเห็นมันในโรงเรียนหรือเปล่า ดังนั้นฉันก็เลยว่าจะตรวจสอบชั้นหนังสือที่นี่ก่อน”
คำขอบ้าอะไรจะผิดกาลเทศะได้ขนาดนี้…!
“ขะ เข้าใจแล้ว ลำบากมากเลยสินะ งั้นเดี๋ยวฉันช่วยเธอหาเอง ฉันจะไปหาที่ชั้นหนังสือ ส่วนยูซุก็ลองหาที่อื่นดูละกัน”
ผมพยายามกันยูซุอย่างสุดความสามารถไม่ให้เข้ามาสู่เขตอันตรายนี้ แต่สายตาของเธอกลับจ้องมาที่ชั้นหนังสือซะอย่างนั้น
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเกิดจะอยู่ตรงไหนมันก็ต้องอยู่ที่ชั้นหนังสือนี่แหละ ถ้าเกิดหาตรงนี้ไม่เจอเดี๋ยวฉันค่อยไปถามคนอื่นเอง”
หนอยแน่…ไม่ง่ายสินะ
แบบนี้ยูซุจะรู้เรื่องอาวุธโบราณเมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“เข้าใจแล้ว งั้นเรามาค้นชั้นหนังสือแบบครึ่ง-ครึ่งกันแถอะ ฉันจะหาข้างบน ส่วนยูซุมาหาที่ข้างล่างแทน”
ถ้าเกิดเลี่ยงไม่ได้ มาตรการที่ดีที่สุดอย่างถัดไปนั่นก็คือ อย่างน้อยที่สุดผมต้องเป็นคนดูแลชั้นหนังสือที่ซ่อนไว้เอง จากนั้นความเสี่ยงที่ถูกค้นพบก็จะลดลง
“เข้าใจแล้ว งั้นฝากด้วยนะ”
ยูซุยอมรับคำขอของผมง่ายๆ แบบไม่ตั้งข้อสงสัย
เฮ้อ… อย่างน้อยก็ยังมีความหวังล่ะนะ
“อยู่ไหนกันน้า…”
หนังสือในห้องสมุดจะมีสติ๊กเกอร์การยืมแปะไว้อยู่แล้ว ดังนั้นแม้จะไม่รู้ชื่อเรื่องมันก็ยังค้นหาได้โดยง่าย
ผมมองผ่านๆ อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พบสติ๊กเกอร์การยืมอะไรเลย
“หาไม่เจอเลยแฮะ แล้วฝั่งเธอล่ะ?”
“ฉันเองก็หาไม่เจอเหมือนกัน”
เอาละ สิ้นสุดการค้นชั้นหนังสือแล้ว
…แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดอย่างไร้เดียงสาแบบนั้น
“งั้นต่อไปก็ผลัดกันเช็กนะ จะได้ชัวร์ๆ ไปเลยดีมั้ย”
สิ่งที่ยูซุพูดเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างยิ่ง
“จะ จำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ”
“อื้ม ก็เช็กคนเดียวมันอาจจะมีอะไรที่มองข้ามไปก็ได้นี่ แถมมันก็ใช้เวลาไม่มากด้วย”
ทันทีที่พูดอย่างนั้นเสร็จ ยูซุก็ได้หันตาไปมองที่ชั้นหนังสือ ฉะ ฉิบหาย!
“ยูซุ!”
ผมจับไหล่เธอ และบังคับให้เธอมองหน้าผมโดยตรง
“มะ มีอะไรน่ะ”
เมื่อได้เห็นการกระทำกะทันหันของผม ยูซุก็ได้เบิกตากว้างและแข็งทื่อ
ผมวางมือลงบนไหล่ของเธอและสบตา
“เชื่อฉันสิ ฉันพยายามเช็กดูเต็มที่แล้วเพื่อให้เป็นประโยชน์กับยูซุนะ เธอไม่เชื่อฉันเหรอ”
“ขะ เข้าใจแล้ว…นี่มันใกล้ไปแล้ว อีกอย่าง ท่านี้มันจะสุดยอดเกินไปแล้ว จะทำให้เข้าใจผิดได้นะ…”
ไม่รู้ทำไมใบหน้าของยูซุจึงได้เป็นสีแดงและหันหน้าหนีไป
เฮ้ย! มีหนังสือโป๊อยู่ข้างๆ จนละสายตาไปไหนไม่ได้เลยเว้ย!
“ยะ ยูซุ! มองเข้ามาในตาฉันสิ!”
ห้องชมรมที่มีเพียงเราสองคน ได้ถูกต้องไปด้วยอาทิตย์อัสดง
ภายในสถานการณ์ที่ยูซุถูกชั้นหนังสือขวางและไม่มีทางหนี ผมก็ได้คว้าไหล่ของเธอและสบตา
“ยะ ยามาโตะคุง… ทำไมวันนี้ถึงดูเร่งเร้าจังล่ะ… เอ่อ สถานการณ์ที่ถูกเข้ามาจูบกะทันหันฉันก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ… แต่ขอฉันเตรียมใจหน่อยได้มั้ย…”
ยูซุร้อนรนและพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ผมกลับไม่ได้ยินอะไรเลยเพราะมองเห็นหนังสือโป๊อยู่ตรงสายตาของเธอ
เอาเป็นว่าต้องพาเธอออกไปจากที่นี่ให้ได้
ทว่าร่างกายของยูซุกลับแข็งทื่อไปหมดเพราะความตื่นเต้น เห็นทีถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะขยับไม่ได้
“ยูซุ ผ่อนคลายเข้าไว้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเองนะ”
ฉันจะได้พาเธอไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้
“อะ อื้ม…”
ไม่รู้ทำไมยูซุถึงได้ผ่อนคลายใบหน้าอย่างแน่วแน่และหลับตาลง
เฮ้ย ถ้าเกิดหลับตามันก็พาออกไปยากไม่ใช่รึไงฟะ งั้นเดี๋ยวพาแบกออกไปด้วยกำลังนี่แหละ
ผมเอามือโอบหลังยูซุ และพยายามบังคับเธอให้อยู่ในท่าโอบกอด จากนั้น—
“ยะ ยังไงก็เตรียมใจไม่ไหว!”
—แผนการก็ได้ถูกยูซุที่จู่ๆ ก็กระโดดถอยเหมือนกุ้งพังทั้งหมด
เนื่องจากกระโดดถอยอย่างรวดเร็ว แผ่นหลังของเธอจึงได้เข้ากระแทกกับชั้นหนังสือที่อยุ่ด้านหลัง
“อ๊ะ…”
จู่ๆ ผมก็เกิดหน้าซีด แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
หนังสือโป๊ซึ่งเพิ่งถูกโยนไปแบบส่งๆ ไม่อาจทนต่อการพุ่งชนของยูซุได้ และหล่นกระแทกลงพื้น
“หวา ทำตกซะแล้ว…เอ๊ะ?”
ยูซุที่ตื่นตระหนกและพยายามหยิบหนังสือที่เธอทำตก แต่ทันทีที่เห็นหน้าปกเธอก็ได้หยุด
อะไรกัน…พระเจ้าไม่มีอยู่ในโลกนี้หรือไง
“…นี่คืออะไร”
ยูซุชูหนังสือโป๊ให้ผมดู พร้อมกับทำเสียงเย็นชาแบบศูนย์องศาสัมบูรณ์
ยังก่อนเฟ้ย อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปนะ ถึงสิ่งนี้จะถูกพบ แต่มันก็ใช่ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรา!
“หะ หืม? อันนั้นมันหนังสือเก่ามากแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าศิษย์เก่าทิ้งเอาไว้หรอกเหรอ”
ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ในขณะที่พยายามคุมเสียงไม่ให้กลายเป็นเสียงแหลม
“แต่ว่าเมื่อกี้ ยามาโตะคุงกำลังดูชั้นหนังสือนี้อยู่ไม่ใช่รึไง เพราะงั้นนายก็ควรจะเห็นใช่ไหมล่ะ”
อ๊ากเจ็บจี๊ด! นี่คือความรู้สึกตอนที่คนร้ายเผชิญหน้ากับโคนันหรือไม่ก็คินดะอิติสินะ
“ไม่เห็นหรอก ก็ฉันตรวจแค่ว่ามีสติ๊กเกอร์ยืมของห้องสมุดอยู่หรือเปล่าเท่านั้นน่ะ”
“หนังสือเล่มนี้ดูอุ่นแปลกๆ นะ มันคืออุณหภูมิของผิวหนังมนุษย์ใช่ไหม… ไม่งั้น นายคงไม่มีทางเกลียดการยืดเส้นยืดสายเอาดื้อๆ หรอกนะ”
นักสืบโว้ย! นักสืบคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นที่นี่แล้วโว้ย!
เมื่อยูซุรู้ถึงความจริงทั้งหมด เธอก็ได้ทำหน้าแดงแจ๋และจ้องมองมาที่ผม
“ยามาโตะคงลามก! นี่นายซ่อนอะไรเอาไว้ห๊ะ!”
“เข้าใจผิดแล้ว!”
“นี่มัน โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ [1] แห่งโลกหนังสือโป๊ชัดๆ! ต่อให้เอาของแบบนี้ไปอุ่นกับรองเท้าแตะ นายก็ไม่ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นหรอกนะ”
“ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเป็นคนน่ากลัวแบบนั้น!”
“จงบอกหน้าที่ชอบมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“จะแกล้งให้ฉันอายเรอะ!?”
—ผมใช้เวลาหลังเลิกเรียนทั้งหมดไปกับการแก้ไขการเข้าใจผิดของยูซุ
—————
[1] โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ เดิมทีแล้วเป็นคนอุ่นรองเท้าของโนบุนากะ จนกระทั่งภายหลังได้ขึ้นมาเป็นใหญ่และบุกเบิกญี่ปุ่นจนยิ่งใหญ่เป็นคนที่สองต่อจากโนบุนากะ